Your Wishlist

ข้าคือผู้สร้างยุคแห่งอัจฉริยะ!! (บทที่ 26 สายเลือดแห่งเทพตื่นแล้ว!)

Author: 宅猪

พิชิตศัตรูสิ้น สยบใต้หล้า เจียงฮ่าวเริ่มต้นจากศิลปะการต่อสู้สู่วิถีเซียนด้วยพรสวรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด!

จำนวนตอน : Ongoing

บทที่ 26 สายเลือดแห่งเทพตื่นแล้ว!

  • 16/07/2567

บทที่ 26 สายเลือดแห่งเทพตื่นแล้ว!

 

ทันทีที่หยดเลือดเบิกวิถีหยดที่สิบไหลลงสู่ท้อง เจียงฮ่าวจึงรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

ก่อนหน้านี้เมื่อเขากลืนหยดเลือดเบิกวิถี มันมีพลังบางอย่างในร่างกายที่เดือดพล่านแต่ไม่สามารถปะทุออกมาได้

แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป

เจียงฮ่าวรู้สึกว่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นได้ "ตื่นขึ้น" อย่างสมบูรณ์แล้ว

"บู้มมม!"

ภายในร่างกายของเจียงฮ่าวเกิดเสียงดังสนั่น

ทันใดนั้น ร่างกายของเขาเปล่งแสงสีทองจางๆออกมา

แม้กระทั่งเส้นลายสีทองก็ปรากฏขึ้นบนผิวหนังของเขา

เมื่อภูติแห่งหอคอยได้เห็นภาพนี้ มันก็ถึงกับเบิกตากว้าง

"แสงสีทองรึ?"

"พลังแห่งสายเลือดที่มาพร้อมกับแสงสีทองแบบนี้น มีเพียงสายเลือดแห่งเทพเท่านั้นที่มีแสงสีทอง!"

"หรือว่าเจียงฮ่าวจะปลุกสายเลือดแห่งเทพขึ้นมาได้?"

ภูติแห่งหอคอยตกตะลึงอย่างมาก

สายเลือดแห่งเทพ!

มีเพียงตระกูลโบราณที่ถูกขนานนามว่า "ทายาทแห่งเทพ" เท่านั้นที่จะมีสายเลือดแห่งเทพได้

ส่วนคนธรรมดาล่ะ?

เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสายเลือดแห่งเทพไหลเวียนอยู่ในร่างกายอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้สภาพของเจียงฮ่าวไม่ค่อยดีนัก

เขากำลังเจ็บปวด

มันเจ็บปวดจนเกินทน

เส้นลายสีทองบนร่างกายของเขาราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน

จากภายในสู่ภายนอก ราวกับว่ามันจะเผาเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

ความรู้สึกนี้ทำให้เจียงฮ่าวรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก

เหมือนกับ...การทำสมาธิภายในจิตสำนึก!

เจียงฮ่าวรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งเมื่อทำสมาธิภายในจิตสำนึกกับพระอาทิตย์

เขาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านในทุกครั้งที่ทำสมาธิภายในจิตสำนึกกับพระอาทิตย์

แต่นั่นคือตอนที่เขาอยู่ภายในจิตสำนึก ดังนั้นต่อให้ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านเขาก็ไม่ตาย

แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับร่างกายของเขาในสภาวะความเป็นจริง

เจียงฮ่าวรู้สึกว่าถ้าเขาต้านทานพลังนี้เอาไว้ไม่ได้ เขาอาจจะตายขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้!

ภูติแห่งหอคอยเองก็ตระหนักถึงความผิดปกติบางอย่าง

หลังจากนั้น ภูติแห่งหอคอยได้ผายมือเพื่อทำให้พลังของหอคอยหวงเทียนเข้าห่อหุ้มร่างเจียงฮ่าวเอาไว้

ทันใดนั้น ลมหายใจอันเย็นยะเยือกก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายของเจียงฮ่าว

"เจียงฮ่าว เจ้าต้องรักษาสติให้มั่น ตอนนี้เจ้าได้ปลุกสายเลือดแห่งเทพที่แข็งแกร่งและร้อนแรงที่สุด ดังนั้นเจ้าจะต้องทนเอาไว้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสายเลือดแห่งเทพนั้นเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน!"

คำพูดของภูติแห่งหอคอยดังก้องเข้าไปในหูของเจียงฮ่าว

เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินเช่นนั้น

หัวใจของเขาจึงเต้นแรงขึ้น

สายเลือดแห่งเทพที่แข็งแกร่งและร้อนแรงที่สุดงั้นหรือ?

ดูเหมือนว่าสายเลือดของเขาจะไม่ใช่สายเลือดธรรมดา

แต่ยิ่งไม่ธรรมดาเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายสำหรับเขาในตอนนี้มากเท่านั้น

โชคดีที่เจียงฮ่าวมีความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งมาก

นอกจากนี้เขายังมีภูติแห่งหอคอยคอยช่วยเหลือ

เมื่อเวลาผ่านไป เส้นลายสีทองบนร่างกายของเจียงฮ่าวก็ค่อยๆจางหายไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจียงฮ่าวก็ลืมตาขึ้น

"สายเลือดของข้าตื่นขึ้นแล้วงั้นรึ?"

เจียงฮ่าวเห็นภูติแห่งหอคอย

"ใช่แล้วล่ะ สายเลือดของเจ้าได้ตื่นขึ้นแล้ว นอกจากนี้ ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นสายเลือดแห่งเทพที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย!"

ภูติแห่งหอคอยตอบ

"สายเลือดแห่งเทพงั้นหรือ?"

เจียงฮ่าวไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสายเลือดเลย

"นายท่านเคยกล่าวไว้ว่า ในร่างกายมนุษย์มีสายเลือดที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่มากมาย คนปกติไม่สามารถกระตุ้นสายเลือดได้และมีเพียงวิธีพิเศษบางอย่างเช่นการดื่มหยดเลือดเบิกวิถีเท่านั้นถึงจะสามารถกระตุ้นสายเลือดได้"

"แต่การจะกระตุ้นสายเลือดแบบไหนออกมาได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคน"

"สายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานั้นคือสายเลือดแห่งเทพในตำนาน มีเพียงทายาทของตระกูลเทพที่เก่าแก่ที่สุดเท่านั้นที่มีโอกาสกระตุ้นสายเลือดแห่งเทพออกมาได้"

"นี่เจ้าไม่ใช่ทายาทของตระกูลเทพจริงๆงั้นรึ?"

เจียงฮ่าวส่ายหัว

เขาไม่ใช่ทายาทของตระกูลเทพอะไรทั้งนั้น

เขาเป็นแค่คนธรรมดา

ส่วนสาเหตุที่เขาสามารถกระตุ้นสายเลือดแห่งเทพออกมาได้, เจียงฮ่าวคาดเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับวิหารฝึกยุทธในจิตสำนึกของเขา

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงฮ่าวจึงรีบตรวจสอบพลังของตัวเองทันที

พลังยุทธ์ : พลังภายใน (ขั้นต้น)

สายเลือดแห่งเทพวิหคสุริยัน (ไม่สมบูรณ์) : ความคืบหน้า 10% (สามารถพัฒนาได้)

พรสวรรค์ :7

ความเข้าใจ : 5.8

จิตวิญญาณ : 2

ร่างฝึกฝนต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์พระอาทิตย์ : ยังไม่เริ่มต้น

วิชาหมัดพยัคฆ์ : สมบูรณ์แบบ (รูปลักษณ์ของปีศาจเสือเพิ่มพลังโจมตีได้ 40 %)

พลังภายใน : เพิ่มพลังในร่างกาย 310%

เจียงฮ่าวเห็นสายเลือดแห่งเทพวิหคสุริยัน

แต่มันเป็นสายเลือดแห่งเทพที่ยังไม่สมบูรณ์

ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติ

เพราะมีเพียงวิหคสุริยันเท่านั้นที่มีสายเลือดแห่งเทพนี้สมบูรณ์

ส่วนคนอื่นๆที่มีสายเลือดแห่งเทพนี้ล้วนไม่สมบูรณ์ทั้งสิ้น

ยิ่งไปกว่านั้น สายเลือดแห่งเทพของเจียงฮ่าวก็ยังไม่สมบูรณ์อีกด้วย

ความคืบหน้าของสายเลือดแห่งเทพของเขาอยู่ที่เพียง 10% เท่านั้นเนื่องจากพึ่งปลุกสายเลือดแห่งเทพขึ้นมาได้

"แล้วสายเลือดแห่งเทพนี้มีประโยชน์อะไรกับข้าบ้าง?"

เจียงฮ่าวคิดในใจ

เจียงฮ่าวจึงเรียกใช้พลังสายเลือดแห่งเทพวิหคสุริยันทันที

นี่เป็นเหมือนกับสัญชาตญาณ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องฝึกก็สามารถใช้ได้

มันเป็นเหมือนกับส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา

หลังจากนั้น ลายเส้นสีทองก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเจียงฮ่าวอีกครั้ง

แต่คราวนี้ลายเส้นสีทองนั้นกลับลุกเป็นไฟ

แม้จะเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนแต่เจียงฮ่าวกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

"นั่นมัน...เปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์งั้นรึ?!"

ภูติแห่งหอคอยที่ได้เห็นเปลวเพลิงที่น่ากลัวนั้นถึงกับสั่นกลัว

เปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์!

เปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์นั้นขึ้นชื่อว่าสามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่ง ทรงพลังและร้อนแรงจนสามารถทำลายล้างปีศาจร้ายได้

เจียงฮ่าวเองก็เริ่มเข้าใจถึงประโยชน์ของสายเลือดแห่งเทพวิหคสุริยันแล้วว่ามันสามารถเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของร่างกายได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดคือเปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์นี้

ยิ่งไปกว่านั้น เจียงฮ่าวยังรู้สึกได้อย่างลางๆว่านี่ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของเปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์อีกด้วย

บางทีพลังของมันอาจจะยังไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของพลังที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำ

เปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์นั้นมีพลังเหนือกว่าจินตนาการของเขามาก

"เปลวเพลิงแห่งดวงอาทิตย์รวมกับร่างฝึกฝนต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์พระอาทิตย์ แค่สองอย่างนี้แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลังของข้าจะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกกี่เท่า?"

เจียงฮ่าวพอใจมาก

"เอาล่ะเจียงฮ่าว คลายพลังสายเลือดแห่งเทพนี้ไปก่อนเถอะ"

ภูติแห่งหอคอยพูด

เจียงฮ่าวคลายพลังสายเลือดแห่งเทพออกและทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว

"เจียงฮ่าว ในเมื่อเจ้าก็ปลุกพลังสายเลือดได้แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องออกไปจากหอคอยแล้ว"

"จงจำเอาไว้ว่า เมื่อเจ้าฝึกฝนถึงขอบเขตพลังแปลงสภาพและเริ่มใช้พลังร่างฝึกฝนต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์พระอาทิตย์ได้ ค่อยกลับมาที่หอคอยหวงเทียนนี้อีกครั้ง"

เจียงฮ่าวพยักหน้า

ภูติแห่งหอคอยโบกมือพร้อมกับทางเดินที่ปรากฏขึ้น

เจียงฮ่าวก้าวเข้าสู่ทางเดินนั้นแล้วร่างของเขาก็หายวับไปในทันที

ณ ตอนนี้ ด้านนอกหอคอยหวงเทียน

หลายคนต่างจับจ้องไปที่ชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียน

แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ

ชั้นที่เก้าก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

นั่นทำให้ผู้คนเริ่มพูดคุยกันทันที

"นี่ก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เจียงฮ่าวยังอยู่ในชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนอีกงั้นรึ?"

"ชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนนั้นมีน้อยคนนักที่จะผ่านได้ แต่ละคนล้วนเป็นบุคคลที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์ของสำนักหวงเทียนและเกือบทุกคนจะเข้าสู่ขอบเขตวิถีได้สำเร็จ หรือทำได้แม้กระทั่งอยู่เหนือกว่าขอบเขตวิถีเลยด้วยซ้ำ การที่เจียงฮ่าวต้องการเทียบชั้นกับคนเหล่านั้นได้คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก บางทีเขาอาจจะจบลงในชั้นที่เก้าก็เป็นได้"

"นั่นสิ ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เจียงฮ่าวใช้เวลาผ่านแปดชั้นแรกยังไม่นานเท่านี้เลย นี่คงต้องมีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นแน่ๆ"

"ต่อให้มาถึงชั้นที่เก้าแล้วแต่ถ้าผ่านไปไม่ได้ก็คงน่าเสียดายไม่น้อย"

"แต่ถึงแม้จะเข้าเป็นศิษย์ชั้นในไม่ได้ แต่ก็มีคนพร้อมที่จะมอบสิทธิ์เข้าเป็นศิษย์ชั้นนอกกับเจียงฮ่าวเป็นแน่"

"นั่นสินะ..."

แท้จริงแล้วหลายคนต่างรู้ดีว่าไม่ว่าเจียงฮ่าวจะผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนไปได้หรือไม่ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาในฐานะอัจฉริยะ

ตอนนี้มีเพียงจ้าวเฮยถ่าเท่านั้นที่กังวลมากที่สุด

เพราะเจียงฮ่าวได้ใช้สิทธิ์แนะนำเข้าเป็นศิษย์ชั้นในของจ้าวเฮยถ่าไป

ถ้าหากเจียงฮ่าวทำได้ไม่สำเร็จ มันจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับจ้าวเฮยถ่า

"วู้มมม"

ทันใดนั้น หอคอยหวงเทียนก็สั่นเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน แสงสว่างที่ชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนก็ดับลง

หอคอยหวงเทียนกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

"ตุ้บ ตุ้บ"

ทันใดนั้น ร่างๆหนึ่งก็เดินออกมาจากหอคอยหวงเทียน

ซึ่งนั่นก็คือเจียงฮ่าว!

แต่ทุกคนกลับเต็มไปด้วยความสงสัย

การที่แสงสว่างในชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนดับลง

นั่นหมายความว่าเจียงฮ่าวผ่านชั้นที่เก้ามาได้หรือไม่?

สายตานับไม่ถ้วนต่างจับจ้องไปที่เจียงฮ่าว

ในตอนนี้ หยวนเวิ่นเทียนเจ้าสำนักหวงเทียนได้ปรากฏตัวขึ้น

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

"เจียงฮ่าวผ่านสามารถชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนได้ นับจากนี้ไปเขาจะถูกเลื่อนชั้นให้เป็นศิษย์ชั้นในโดยทันที!"

เสียงของหยวนเวิ่นเทียนดังก้องไปทั่ว

"โอ้วววว!"

สำนักหวงเทียนทั้งสำนักตกอยู่ในความตื่นเต้นทันที

"สำเร็จแล้วรึ?"

ในตอนนี้ จ้าวเฮยถ่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

แม้แต่ร่างกายของเขาก็สั่นเทา

สำเร็จแล้ว!

เขาทำได้สำเร็จแล้ว!

จ้าวเฮยถ่าใช้สิทธิ์แนะนำเข้าเป็นศิษย์ชั้นในล้ำค่าเพื่อทำให้เจียงฮ่าได้เป็นศิษย์ชั้นในของสำนักหวงเทียนได้จริงๆ

นอกจากนี้ยังไม่ใช่ศิษย์ชั้นในธรรมดา

แต่เป็นศิษย์ที่ผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนมาได้

ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเข้าสู่ขอบเขตวิถีได้ในอนาคต!

"เจียงฮ่าว!"

หยวนเวิ่นเทียนเดินเข้าไปหาเจียงฮ่าวทีละก้าว

"ศิษย์ขอคารวะท่านเจ้าสำนักขอรับ!"

เจียงฮ่าวรู้ว่าคนตรงหน้าคือเจ้าสำนักของสำนักหวงเทียน

"เจียงฮ่าว เจ้าสามารถผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนได้นั้นแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันสูงส่งของเจ้า เจ้าในตอนนี้เหนือกว่าศิษย์ชั้นในเกือบทั้งหมด!"

"แต่ตอนนี้การฝึกฝนของเจ้ายังขาดไปหน่อยและยังไม่คู่ควรกับตำแหน่ง 'เมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า'"

"ข้าสัญญาว่าหากเจ้าฝึกฝนไปจนถึงขอบเขตพลังแปลงสภาพได้ภายในสิบปี เจ้าจะได้เป็น 'เมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า' ของสำนักหวงเทียนของเรา"

"'เมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า' ในขอบเขตพลังแปลงสภาพนั้น สำนักหวงเทียนของข้ายังไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นข้าจึงหวังว่าเจ้าจะเป็นคนแรก..."

หลังจากพูดจบ หยวนเวิ่นเทียนก็หันหลังกลับและจากไป

แต่คำพูดของหยวนเวิ่นเทียนนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

"ท่านเจ้าสำนักสัญญาด้วยตัวเองว่าถ้าเจียงฮ่าวฝึกฝนถึงขอบเขตพลังแปลงสภาพภายในสิบปี เขาจะได้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าเชียวหรือ?!"

"พรสวรรค์ของเจียงฮ่าวนั้นทำให้ท่านเจ้าสำนักต้องประหลาดใจจริงๆ เมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าของสำนักหวงเทียนของเรามักจะเป็นศิษย์ที่มีความโดดเด่นในหมู่ศิษย์หลักที่มีโอกาสเข้าสู่ขอบเขตวิถีได้เท่านั้นถึงจะได้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า แต่สถานะเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าในขอบเขตพลังแปลงสภาพนั้นในประวัติศาสตร์ของสำนักไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ"

"เจียงฮ่าวที่สามารถผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนได้ ดังนั้นการจะได้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าก็สมควรแล้ว เพราะก่อนหน้านี้คนที่ผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยหวงเทียนได้ทุกคนล้วนเข้าสู่ขอบเขตวิถีได้สำเร็จ"

"น่าเสียดายที่เจียงฮ่าวในตอนนี้ยังไม่ได้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าเพราะการฝึกฝนที่ยังต่ำเกินไป"

"เจียงฮ่าวในตอนนี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เขาเป็นศิษย์ชั้นในและยังเป็นศิษย์ชั้นในคนแรกของสำนักหวงเทียนที่อยู่ในขอบเขตพลังภายในเท่านั้น!"

เจียงฮ่าวไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยรอบข้าง

เขาก้าวไปข้างหน้าจ้าวเฮยถ่า

ความสำเร็จของเขาในวันนี้ จ้าวเฮยถ่าคือคนที่ทุ่มเทมากที่สุด

"ท่านอาจารย์ ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านผิดหวังขอรับ!"

เจียงฮ่าวก้มหน้าลงคำนับจ้าวเฮยถ่าอย่างนอบน้อม

สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปที่จ้าวเฮยถ่า

ที่แท้นักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังแปลงสภาพเป็นอาจารย์ของเจียงฮ่าวเองรึ?

หลายคนต่างอิจฉาเจียงฮ่าวเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน จ้าวเฮยถ่ายืดอกและมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

นี่คือช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของจ้าวเฮยถ่าโดยแท้จริง!

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า