Your Wishlist

เทพเซียนไร้ลักษณ์ (ตระกูลหลิว รุ่นที่ 3) (บทที่ 87 ดาวเคราะห์หงหมิง)

Author: geesan

หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน

จำนวนตอน :

บทที่ 87 ดาวเคราะห์หงหมิง

  • 19/02/2567

    ขั้นการใช้พลังปราณ เพื่อฝึกวรยุทธ์และปราณฤทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์บนดาวเคราะห์สีแดงหงหมิง มีดังนี้

 

 

 

    1.นักยุทธ์ขั้นผสานกายา เป็นการดูดซับพลังปราณเพื่อนำพลังปราณผสานเข้ากับร่างกาย ให้ร่างกายเเข็งแกร่งเหนือคนธรรมดาทั่วไปและสามารถเริ่มฝึกวรยุทธ์ได้ แบ่งเป็นระดับ 1 ถึง 9

 

 

 

 

 

 

 

    2.นักยุทธ์ขั้นผสานลมปราณ เป็นการดูดซับพลังปราณเข้าไปรวบรวมเอาไว้ที่ร่างกาย ขั้นนี้จะสามารถเริ่มใช้พลังปราณโจมตีออกจากร่างกายได้ แบ่งเป็นระดับ 1 ถึง 9

 

 

 

 

 

 

 

    3.นักยุทธ์ขั้นปราณวารี ขั้นนี้จะสามารถเปิดจุดตันเถียนได้ และเริ่มกลั่นพลังปราณในจุดตันเถียนให้กลายเป็นหยดของเหลว แบ่งเป็นระดับ 1 ถึง 9

 

 

 

 

 

 

 

    4.นักยุทธ์ขั้นปราณปฐพี เป็นการควบแน่นหยดน้ำพลังปราณในจุดตันเถียน ให้กลายเป็นผลึกแข็ง แบ่งเป็นระดับ 1 ถึง 9

 

 

 

 

 

 

 

    5.นักยุทธ์ขั้นปราณนภา เป็นการส่งพลังปราณจากผลึกปราณในจุดตันเถียน ไปทะลวงจุดลมปราณต่างๆ ในร่างกายทั้ง 108 จุด แบ่งเป็นระดับ 1 ถึง 9

 

 

 

 

 

 

 

    ระดับที่ 1 ถึง 3 คือขั้นต้น

 

 

 

 

 

 

 

    ระดับที่ 4 ถึง 6 คือขั้นกลาง

 

 

 

 

 

 

 

    ระดับที่ 7 ถึง 9 คือขั้นสูง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

    ส่วนระดับขั้นที่สูงกว่านักยุทธ์ขั้นปราณนภาก็คือขั้นเซียน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   อนึ่ง ยศตำแหน่งทางทหารของกองทัพแห่งอาณาจักรต้าเหมิง นั้นมีดังนี้

 

 

 

 

 

 

 

   1.พลทหาร : นักสู้ทั่วไปและนักยุทธ์ขั้นผสานกายา ระดับที่ 1 ถึง 9 สวมชุดเกราะรบสีดำ

 

 

 

   2.หัวหมู่ : นักยุทธ์ขั้นผสานลมปราณขั้นต้น ระดับที่ 1 ถึง 3 สวมชุดเกราะรบสีดำขลิบเขียว

 

 

 

   4.นายกอง : นักยุทธ์ขั้นผสานลมปราณขั้นกลาง ระดับที่ 4 ถึง 6 สวมชุดเกราะรบสีเขียวเข้ม

 

 

 

   5.ขุนศึก : นักยุทธ์ขั้นผสานลมปราณขั้นสูง ระดับที่ 7 ถึง 9 สวมชุดเกราะรบสีน้ำตาลเข้ม

 

 

 

   6.ขุนพล : นักยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นต้น ระดับที่ 1 ถึง 3 สวมชุดเกราะรบสีน้ำเงินเข้ม

 

 

 

   7.แม่ทัพ : นักยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นกลาง ระดับที่ 4 ถึง 6. สวมชุดเกราะรบสีแดงเข้ม

 

 

 

   8.แม่ทัพใหญ่ : นักยุทธ์ขั้นปราณวารีขั้นสูง ระดับที่ 7 ถึง 9 สวมชุดเกราะรบสีม่วงเข้ม

 

 

 

   9.จอมพล : นักยุทธ์ขั้นปราณปฐพี ขึ้นไป สวมชุดเกราะรบสีเงินขลิบทอง

 

 

 

 

 

 

 

   และยังมีตำแหน่งสนับสนุนอีกหลายตำแหน่งเช่น เสนาธิการทหาร นักกลยุทธ์การทหาร พลาธิการทหาร หมอทหาร ทหารหน่วยพยาบาล ทหารหน่วยขนส่ง ทหารสื่อสาร ทหารเกะรอย ฯลฯ

 

 

 

 

 

 

 

   สำหรับนักยุทธ์ขั้นปราณนภา ทุกอาณาจักรได้ทำข้อตกลงกันเอาไว้ว่า จะมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสู้รบของกองทัพ

 

 

 

 

 

 

 

   เพราะนักยุทธ์ขั้นปราณนภานั้น สามารถทำลายกองทัพทหารนับหมื่นนาย ลงได้อย่างง่ายดาย

 

 

 

   จึงมิให้ขั้นปราณนภา เข้าร่วมในการรบของกองทัพ แต่สามารถเป็นผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิของอาณาจักรได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   ในตอนนี้ หลิวชุน ยังมีเวลาเหลืออีก 2 เดือน ก่อนที่กองพลทหารแห่งเมืองอันซุย จะเปิดรับสมัครนักเรียนฝึกทหาร ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

 

 

 

   ท่านอาจารย์จ้าวฟูหยาง ได้ทำการชำระประวัติให้กับหลิวชุน ทำให้ในเอกสารใบเกิดของหลิวชุน ในตอนนี้ หลิวชุนมีอายุ 18 ปีเต็มแล้ว ทั้งๆที่ความจริงแล้ว หลิวชุนมีอายุ 17 ปี กับอีก 1 เดือนเพียงเท่านั้น

 

   ที่ท่านอาจารย์จ้าวฟูหยางต้องทำเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ท่านอาจารย์จ้าว ต้องการให้หลิวชุนรีบเข้าไปเป็นนักเรียนฝึกทหาร ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึก ถึง 2 ปี

 

 

 

   หลังจากนั้น หลิวชุน จะสามารถบรรจุเข้าเป็นพลทหาร และขยับขยายเป็นนักกลยุทธ์ทางการทหาร ที่หลิวชุนผ่านการสอบกับทางราชสำนักต้าเหมิงมาแล้ว ได้อย่างรวดเร็ว

 

 

 

   เพื่อเตรียมการรับมือกับการก่อกบฏลวงตาขององค์ชายรัชทายาทต่อไป

 

 

 

   หลังจากแยกกับท่านอาจารย์จ้าว และศิษย์พี่เตียแล้ว หลิวชุนก็กลับไปยังอำเภออันจง

 

   ช่วงเวลา 2 เดือนนี้เขาอยากใช้ชีวิตกับครอบครัวของเขาให้เต็มที่

 

 

 

   หลิวชุนบอกกับทางตระกูลว่า ท่านอาจารย์จ้าว ได้ช่วยชำระเอกสารใบเกิดให้กับเขา จนเขาสามารถเป็นนักเรียนฝึกทหารได้เร็วขึ้น 1 ปี

 

 

 

   แต่หลิวชุน ก็มิได้บอกถึงเรื่องการก่อกบฏ อันเป็นความลับสุดยอดในระดับอาณาจักร

 

 

 

   ใน 2 เดือนนี้ หลิวชุนเน้นการฝึกฝนทางด้านร่างกาย เพราะในการเป็นนักเรียนฝึกทหาร ทางครูฝึกจะเน้นในการเสริมสร้างร่างกายให้เเข็งแกร่ง

 

   เพราะนักเรียนฝึกทหารเเม้จะมิได้เป็นผู้ฝึกวรยุทธ์ ขั้นผสานกายาก็สามารถมาสมัครได้ เพราะผู้ฝึกวรยุทธ์นั้นก็หายากพอสมควร มิใช่ว่าชาวบ้านธรรมดาทั่วไป จะสามารถฝึกวรยุทธ์ได้กันทุกคน

 

 

 

   ดังนั้นการมาสมัครเป็นนักเรียนฝึกทหาร ก็คือการเริ่มต้นฝึกวรยุทธ์ของคนธรรมดาทั่วไปหลายๆคน

 

 

 

   เช้านี้หลิวชุน จึงไปขอใช้เครื่องวัดกำลังกายที่สำนักฝึกยุทธ์หมัดทลายฟ้า สำนักเดิมของเขา โดยมิได้ใช้พลังปราณเข้าช่วย

 

 

 

   ผลปรากฏว่า หลิวชุน มีพลังหมัดอยู่ที่ 100 กีลา

 

   พลังเตะอยู่ที่ 200 กีลา

 

   และยกน้ำหนักได้ 250 กีลา

 

 

 

   ซึ่งถือว่าสูงมากแล้ว เมื่อเทียบกับคนทั่วไป

 

 

 

   ( 1 กีลา = 1 กิโลกรัม )

 

 

 

   ต้องมิลืมว่าดาวเคราะห์หงหมิงสีแดงดวงนี้ มีพลังปราณที่หนาแน่น เเทรกอยู่ในทุกอณูของดวงดาว

 

   ผู้คนและสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ บนดาวดวงนี้ จึงมีร่างกายที่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิด แม้จะมิได้ฝึกวรยุทธ์ก็ตาม

 

 

 

 

 

   

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป