หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลิวชุน ผู้มีหนึ่งร่างสองดวงวิญญาณ ชุน 1 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักปราชญ์ ชุน 2 ผู้มีดวงวิญญาณแห่งความเป็นนักบู๊ พวกเขาทั้ง 2 ต่างร่วมกันสร้างตระกูลหลิวให้ยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็น เทพเซียน
หลังจากชุน 2 บอกกล่าวเรื่องที่เขาจะเดินทางไปตรวจการก่อสร้างเขื่อนที่เขตปกครองของเมืองจิวไห่กับศิษย์พี่เตีย ให้บิดา ท่านพี่กวน และท่านเจ้าเมืองสือแล้ว
ชุน 2 ก็ขึ้นเรือรบจากจวนเป่ยอ๋องของศิษย์พี่เตีย เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ก่อสร้างเขื่อนกับศิษย์พี่เตียในทันที
"ศิษย์พี่เตีย ท่านมายังแม่น้ำอันซุย เพียงเพื่อภารกิจตรวจงานก่อสร้างเขื่อนเพียงอย่างเดียว เช่นนั้นหรือขอรับ"
ชุน 2 เอ่ยถามศิษย์พี่ของเขาด้วยความสงสัย เพราะถ้าแค่ตรวจการก่อสร้างเขื่อน ท่านอ๋องน้อยคงมิต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง และยังเดินทางมากับเรือรบของจวนเป่ยอ๋องอีกด้วย
"ย่อมมิใช่.. การตววจการก่อสร้างเขื่อน นั่นเป็นเพียงแค่ภารกิจบังหน้า ที่ข้ามาครานี้ก็ยังมีภารกิจที่สำคัญมาก จากท่านเป่ยอ๋อง บิดาของข้าอีก 1 ภารกิจนั่นก๋คือ"
"การสืบหาสถานที่ ที่กลุ่มลัทธิมารโลหิต หลบซ่อนตัวอยู่"
"กลุ่มลัทธิมารโลหิตนี้ เป็นกลุ่มลัทธินอกรีต ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาในมณฑลภาคเหนือแห่งนี้มินานนัก"
"ลัทธินี้จะจับผู้มีวรยุทธ์ขั้นปราณวารี ที่สามารถเปิดจุดตันเถียนได้แล้ว ไปทำการดูดซับพลังปราณจากจุดตันเถียนโดยตรง"
"ด้วยวิธีการที่ยังคงเป็นความลับ มิมีใครรู้ว่าพวกมันทำได้อย่างไร"
"การเดินทางมาครั้งนี้ ภารกิจของข้าคือต้องการเพียงแค่สืบหาที่หลบซ่อนตัวของพวกมันเท่านั้น เมื่อรู้ที่หลบซ่อนของพวกมันแล้ว"
"ข้าจะส่งข่าวไปให้ท่านบิดา ส่งกองกำลังทหารมาทำลายล้างพวกมันต่อไป"
"อืม.. ข้าเข้าใจแล้วขอรับ ศิษย์พี่เตีย ถึงอย่างไรข้าก็เป็นผู้ตรวจราชการแห่งมณฑลภาคเหนือนี้"
"ดังนั้นการสืบหาที่หลบซ่อนของลัทธิมารโลหิต ก็เป็นหน้าที่ของข้าด้วยเช่นกันขอรับ" ชุน 2 กล่าวบอกกับศิษย์พี่เตียของเขา
"เอาละ.. เจ้าอย่าเพิ่งวิตกอะไรมาก มาครานี้ข้าได้เตรียมนายทหารขั้นปราณวารี จากกองทัพของมณฑลภาคเหนือติดตามมาด้วย 3 นาย"
"รวมถึงนายกอง และทหารเเกะรอยที่มีความชำนาญอีกหลายนาย ติดตามมาด้วย" ศิษย์พี่เตียกล่าวบอกชุน 2
บนดาวจื่อหมิงสีแดงดวงนี้ ขั้นปราณวารีขั้นต้น ระดับที่ 1 ถึง 3 ก็ถือได้ว่าเป็นนักยุทธ์ผู้มีความสามารถในระดับสูงแล้ว
เพราะเมื่อถึงขั้นปราณวารี การจะเลื่อนระดับขึ้นไปเพียง 1 ระดับได้นั้น ถือได้ว่ายากลำบากเป็นอย่างยิ่งยิ่ง
แม้ดาวจื่อหมิงนี้จะมีพลังปราณแทรกอยู่ในทุกอณูของดวงดาว จนกระทั่งมนุษย์ธรรมดาสามารถมีอายุเฉลี่ยยืนยาวได้ถึง 150 ปีก็ตาม
แต่การจะเลื่อนระดับพลังปราณในร่างก็ยังคงต้องใช้เวลา ความมุ่งมั่น ทรัพยากร เงินทอง รวมถึงเคล็ดดูดซับพลังปราณที่ทรงประสิทธิภาพ
ตลอดจนถึงพรสวรรค์ และโชควาสนาของนักยุทธ์แต่ละคนด้วย
อนึ่งการจับตัวนักขั้นปราณวารี เพื่อนำไปดูดซับพลังปราณจากจุดตันเถียนโดยตรง นอกจากจะเป็นวิธีที่โหดร้ายทารุณ
จนนักยุทธ์ขั้นปราณวารีผู้นั้นต้องตกตายลงไปแล้ว ยังเป็นภัยต่อความมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง
กล่าวคือเมื่อมีศึกระหว่างอาณาจักรเกิดขึ้น บรรดานักยุทธ์ก็จะรวมตัวกันเพื่อเป็นกองกำลังอาสา ในการต้านศึกจากกองทัพของต่างอาณาจักร
อาจจะมีนักยุทธ์ที่มิได้สนใจจะปกป้องอาณาจักรที่ตนอาศัยอยู่บ้าง แต่ก็มิได้มากมายนัก
นักยุทธ์ส่วนใหญ่ย่อมมีสิ่งที่พวกเขาต้องการปกป้องเช่น คนรัก ครอบครัว ตระกูล สำนัก ทรัพย์สินเงินทอง หรือที่ดินของพวกเขา
ในส่วนของหลิวชุนนั้น ตระกูลหลิวคือสิ่งที่เขาต้องปกป้องเอาไว้ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
การจับนักยุทธ์ขั้นปราณวารี ซึ่งถือว่าเป็นนักยุทธ์ที่มีความสามารถในระดับสูง และเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันอาณาจักร ไปดูดซับพลังปราณออกจากตันเถียนโดยตรงจนต้องตกตายไป
ย่อมทำให้กำลังรบของอาณาจักรลดประสิทธิภาพลงเป็นอย่างมาก
จึงเป็นเหตุให้ท่านเป่ยอ๋องต้องการกำจัดลัทธิมารโลหิตนี้ให้สิ้นซาก เพื่อความมั่นคงของอาณาจักรต้าเหมิงแห่งนี้
"นี่ชุน 1 เจ้าว่าไอ้ลัทธิบ้านี่ มันใช้วิธีไหนในการดูดซับพลังปราณจากจุดตันเถียนได้โดยตรง เหมือนดูดซับจากหินพลังปราณ" ชุน 2 ถามชุน 1
"เรื่องนี้ข้าก็มิรู้ได้เลยจริงๆ คงต้องค้นหาพวกลักธิมารโลหิตนี้ให้เจอเสียก่อน" ชุน 1 ตอบกลับ
"ข้าก็คิดว่าเจ้ารู้ไปเสียทุกเรื่องเสียอีก เจ้าอ่อนชุน 1 " ชุน 2 บ่น
ชุน 1 เงียบไป เขาขี้เกียจเถียงกับชุน 2 ต่อ