Your Wishlist

อวี้จื่อลู่ ณ หมู่บ้านม่านหมอก (เกี้ยวสตรียังไงให้เข้าใจผิด)

Author: Ning Feng

เพียงแค่เงินสามสี่ร้อยบาท ทำให้เธอต้องถึงแก่ความตาย แต่ทำไม๊ ทำไม ต้องมาอยู่ในร่างของเด็กไม่มีหัวคิดแบบนี้ “มีอย่างที่ไหนหนีหมีขึ้นต้นไม้ ใครสั่งใครสอนกัน”

จำนวนตอน : 55

เกี้ยวสตรียังไงให้เข้าใจผิด

  • 21/11/2566

เจ็ดวันต่อมา

      ห้องรับรองพิเศษ ณ โรงประมูลมายา ตอนนี้บรรยากาศมีแต่ความตึงเครียด แต่ละคนต่างนิ่งเงียบไม่ไหวติงจนได้ยินเสียงลมหายใจ จนนางทนไม่ไหวต้องพูดโพล่งออกมาทำลายบรรยากาศอันแสนอึดอัด

      "เฮ้อ...พวกท่านช่วยเก็บแรงกดดันกลับไปได้หรือไม่" ลู่เยวี่ยนถอนหายใจออกมา นางไม่เข้าใจเลยการที่ได้เงินมามากมายเช่นนี้มีอะไรให้น่ากังวลใจกัน ทั้งยังทำให้คนของนางทนแรงกดดันไม่ไหวล้มลงและกระอักเลือดออกมาหลายคน

      "ขออภัย ข้าเพียงแค่ตกใจนานไปนิดหน่อยเองขอรับ"

      "อืม ก็เหมือนที่อาเยว่บอกนั่นแหละ" พลางยกมือขึ้นลูบหนวดเคราไปมา แม้ว่ามันจะไม่มีก็ตาม

      "ท่านช่วยจริงจังสักนิดได้ไหมพี่กู้" ลู่เยวี่ยนพร่างพรูพ่นลมหายใจออกมายามที่โดนอีกฝ่ายกลั่นแกล้งไม่หยุด ตั้งแต่เหยียบย่างเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องรับรอง 'ท่านเนี่ยนะพี่กู้ จะตกใจกับเงินทองแค่นี้ ข้าทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆ' พลางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของกู้หลงซาน

      เกิดอะไรขึ้นกับท่านกัน ทำไมชายที่นางรู้จักคนนี้ถึงได้ดูเปลี่ยนไป ดูมีความสุขขึ้น ยิ้มบ่อยขึ้น ไม่ใช่ยิ้มฝืนๆ ดั่งเช่นแต่ก่อน แต่กลับยิ้มไปถึงดวงตา

      "แล้วข้าไม่จริงจังตรงไหน ไหนเจ้าบอกมาสิ" กู้หลงซานพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์แพรวพราว แต่มุมปากกลับยกยิ้ม ที่สามารถทำให้สตรีตรงหน้าเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะนี่เป็นครั้งแรก ที่โดนคนที่นางแอบรักอย่างกู้หลงซานหยอกเหย้า

      "กะ...ก็...นี่ไงเจ้าค่ะ เนี่ย...เนี่ย" เจอการกระทำแปลก ๆ ของเขาไป ลู่เยวี่ยนถึงกับงุนงงไปไม่ถูก

      "เป็นอะไรไป เยวี่ยนเอ๋อร์ ดูท่าว่าเจ้าจะไม่สบายนะ คงทำงานมากเกินไป" พูดจบกู้หลงซาน ก็ยื่นมืออกไปแตะหน้าผากของนาง ทำทีว่าตรวจไข้แท้จริงแล้วเขาแอบใช้จังหวะที่นางกำลังงุนงงไม่ได้สติ ลูบไล้ทั่วใบหน้าเรียวสวย จนอีกฝ่ายถึงกับก้มต่ำมองพื้น ใบหน้าสวยแดงเถือกลามไปจนถึงใบหู

      'ยัง ยังอีก ยังไม่หยุดยอกเย้าข้าเสียที ข้าเขินจะแย่อยู่แล้ว'

      "เอ๊ะ! หรือว่าต้องทำแบบนี้กัน" จากนั้นก็ดึงสตรีด้านหน้าเข้ามากอด ทำเอานางนิ่งแข็งค้างกับการกระทำของบุรุษตรงหน้า

โดยที่อวี้เหิงเยว่ในตอนนี้ทำได้แค่หันหน้าหนีเข้าไปทักทายกับกำแพงห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยามที่ท่านลุงกำลังเกี้ยวสตรี 'ทำไมข้าต้องมาอยู่ในสถาณการณ์แบบนี้ด้วยนะ ท่านลุงนะท่านลุง ให้ข้าออกไปรอข้างนอกก่อนก็ยังดี'

      "อะ...เอ่อ พี่กู้ท่านปล่อยข้าก่อนดีหรือไม่?" ให้ตายเถอะใจของนางมันเต้นแรงเสียแทบกระเด็นออกมาด้านนอก ใบหน้ามนขึ้นสีแดงระเรื่อยามเขินอาย หมดกันความน่ายำเกรงของนางที่เคยมีก่อนหน้า ได้พังทลายลงมาเพียงเพราะเขาผู้เดียว หากอยู่ต่อหน้าคนของนางมีหวังคงได้อับอายเป็นแน่ ที่เจ้าของหอโรงประมูลมายาอย่างนางขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด แต่กลับต้องพ่ายเพราะบุรุษตรงหน้า

      นางเขินอายได้ไม่นาน ก็ต้องหน้าชาอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากปากของอีกฝ่าย แม้ว่าจะทำใจมาสักพักแล้ว แต่มันยังคงห้ามความรู้สึกนี้ไม่ได้สักที ทำได้เพียงแค่กล้ำกลืนฝืนทนราวกับคนไร้ความรู้สึก

      "ของที่เอาไปประมุูลคราวนี้ได้มาตั้งสามแสนสองหมื่นตำลึงทองหากนางรู้จำนวนเงินที่ได้มา คงจะมีความสุขไม่น้อย ใช่ไหมอาเยว่ ฮ่าฮ่าฮ่า"

      "ข้าว่าหากนางรู้เข้าคงได้ตกใจกรีดร้องลั่นบ้านแน่ท่านลุง" ยามที่นึกถึงใบหน้าของน้องสาวตนเอง ก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

      "นั่นสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า"

      "ท่านคงรักนางมากสินะพี่กู้" เมื่อแววตามีความสุขทุกครั้งที่เขาพูดถึงสตรีคนนั้น ก็อดมิได้ที่จะเอ่ยถามขึ้น

      "แน่นอน ข้าต้องรักและเอ็นดูนางอยู่แล้ว เพราะนางเป็นคนสำคัญสำหรับข้าที่สุด ไว้นางกลับมาแล้วข้าจะพามาแนะนำให้เจ้ารู้จัก"

      "ได้สิพี่กู้" ลู่เยวี่ยนยิ้มตอบรับอย่างนอบน้อม ทว่าภายในนั้นกลับหลั่งน้ำตาร่ำไห้กับความรักที่ไม่มีทางสมหวังมาตลอดหลายปี

      "แล้วข้ากับน้องรองไม่สำคัญหรือท่านลุง" ด้วยความหมั่นไส้คนตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะที่เล่นทีจริง

      "พวกเจ้าก็สำคัญสิ ใครว่าไม่สำคัญกัน แต่ก็น้อยกว่านางนิดเดียว" สองบุรุษพูดแกล้งกันไปมา โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดหยอกล้อของพวกเขาทั้งสองได้สร้างความเข้าใจผิดให้สตรีตรงหน้าไปไกล

      ยิ่งได้ฟังลู่เยวี่ยนก็ยิ่งเจ็บปวด หัวใจดวงน้อยคล้ายถูกบีบและกรีดเป็นแผลเหวอะหวะด้วยมือที่มองไม่เห็น

      'แล้วข้าล่ะ พอมีความสำคัญกับท่านบ้างไหม หรือข้าควรจะหยุดและพอสักที' เมื่อคิดว่าตนเองคงฝืนอยู่ฟังต่อไม่ได้แล้ว จึงได้เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนจะปรับสีหน้าให้จริงจังขึ้น

      "เรามาเข้าเรื่องกันเถอะพี่กู้" พูดกับคนตรงหน้าเสร็จก็หันไปเรียกเด็กหนุ่มอีกคน ที่ตอนนี้กำลังหันหน้าเข้าฝาผนังห้อง "เจ้าก็ด้วยคุณชายอวี้"

      "ของที่นำไปประมูลได้มาครั้งนี้ไม่น้อยเลย ตามที่ข้าเคยแจ้งไปก่อนหน้า ทางเราได้หักส่วนต่างไปจำนวนสิบส่วน เหลือสามแสนสองหมื่นตำลึงทอง อ่ะ...เงินทั้งหมดอยู่ในแหวนนี่ เชิญท่านตรวจสอบจำนวนเงินได้เลย"

      พูดจบก็ยื่นแหวนที่มีเงินอยู่สามแสนสองหมื่นตำลึงทองให้ชายคนที่นางแอบรัก "นี่เป็นเงินค่าของประมูล ข้าต้องขอตัวก่อน โปรดรักษาตัวด้วยคุณชายอวี้เหิงเยว่ คุณชายกู้หลงซาน" น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือเล็กน้อยทำเอาคนฟังอย่างกู้หลงซานถึงกับใจกระตุกวูบโหวงแปลกๆ ไหนจะคำเรียกขานที่เปลี่ยนไป

      ลู่เยวี่ยนพูดจบก็หันหลัง ทว่ายังไม่ทันได้เดินออกไป ก็ต้องหยุดชะงักลง พร้อมกับหยาดน้ำตารินไหลจากนัยน์ตาดอกท้อคู่สวยที่บัดนี้แดงก่ำฉ่ำคลอไปด้วยหยาดน้ำใส 'ข้าคงเป็นได้เพียงแค่น้องสาวท่านสินะ ถึงคราวควรจะพอสักที กับความรักที่ไม่มีทางเป็นจริง'

      'หรือว่าข้าแกล้งนางหนักเกินไป' กู้หลงซานมองท่าทีที่แปลกไปของสตรีตรงหน้าที่ยืนหันหลังให้ตนเอง ทว่าเขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้

      "เยวี่ยนเอ๋อร์ ทำไมถึงเรียกข้าแบบนั้นล่ะ เหตุใดถึงไม่เรียกเหมือนเดิม เจ้าก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวของข้าอีกคนหนึ่ง ดั่งเช่นน้องสาม น้องสี่ ไม่เห็นต้องเรียกให้ห่างเหินเช่นนั้นก็ได้"

      ยามได้ฟังบุรุษที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น หยาดน้ำใสก็ไหลลงมาจากนัยน์ตาคู่สวยอีกครั้ง "ข้าคงเป็นได้แค่นั้นสินะ" น้ำเสียงสั่นๆ เอ่ยออกมาอย่างช้าๆ แล้วหันกลับมามองชายตรงหน้า "ท่านเคยรักข้าบ้างไหมพี่กู้ หรือว่าสิ่งที่ข้าแสดงออกมาตลอดหลายปีว่าข้ารักท่าน ท่านไม่เคยมองเห็นมันเลย ไหนท่านช่วยบอกข้ามาทีว่าท่านไม่เคยรับรู้ ไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของข้า หรือว่าในใจของท่านมีแต่มีนางไป๋ถิง จนไม่สามารถเปิดใจรักผู้ใดได้อีก" นัยน์ตาดอกท้อฉายแววเจ็บปวด ตัดพ้อคนตรงหน้ายามที่พร่างพรูทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจนหมดสิ้น

      "ทำไมข้าจะไม่รู้ล่ะ ข้าเองก็รักเจ้าไม่ต่างจากคนในครอบครัวของข้า ส่วนถิงเอ๋อร์นั้นนาง..." เมื่อชื่อของอดีตคนรักตนถูกเอ่ยขึ้นมา เขาถึงกับเหม่อลอยจมอยู่กับความคิดในอดีต เมื่อหวนรำลึกนึกถึงความรักอันแสนขื่นขม สมองถึงกับขาวโพลนไปทั้งหัว ใบ้กินไปชั่วขณะ

      ลู่เยวี่ยนที่เห็นว่าเขานิ่งเงียบไปไม่พูดไม่จา ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายยังคงปฏิเสธนางดั่งเช่นเมื่อก่อน "ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว ท่านไม่ต้องกังวลไป นับจากนี้ข้าจะไม่มาให้ท่านได้พบเจอหน้าอีก ท่านสบายใจได้ ส่วนความรักที่ข้ามีให้ท่าน มันคือความรักของสตรีผู้หนึ่งที่พึงมีใจให้บุรุษที่รัก หาใช่ดั่งครอบครัวเช่นญาติมิตร" พูดจบนางก็เร้นกายหายออกไปจากห้องรับรองพิเศษ ทิ้งให้

ยามที่หลุดออกจากภวังค์ พลางกวาดสายตาไปทั่วห้อง แต่กลับไม่เจอคนที่ต้องการเจอ "นางหายไปไหนแล้ว"

      "นางไปแล้วล่ะท่านลุง"

      "นางไปไหน" น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรน

      "ไม่รู้สิขอรับ ข้าได้ยินนางบอกท่านว่า ข้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว ท่านไม่ต้องกังวลไป นับจากนี้ข้าจะไม่มาให้ท่านได้พบเจอหน้าอีก ท่านสบายใจได้ ส่วนความรักที่ข้ามีให้ท่าน มันคือความรักของสตรีผู้หนึ่งที่พึงมีใจให้บุรุษที่รัก หาใช่ดั่งครอบครัวเช่นญาติมิตร จากนั้นนางก็หายไปเลย"

      กู้หลงซานถึงกับกุมขมับ เมื่อได้ยินสิ่งที่อวี้เหิงเยว่บอกเล่า "บิดามันเถอะ นี่ข้าทำอะไรลงไป"

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า