บทที่ 72 ผูกมัดการแต่งงาน

ฉีฮานแกว่งขาของเธออย่างสบายๆ และพูดว่า “ใช่ เขาส่งของขวัญมาสองวันติดต่อกันแล้ว และพ่อก็ตัดสินใจให้ฉีหยินแต่งงานกับตระกูลของพวกเขาด้วย ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากคุณไม่กลับบ้าน ฉันจึงอยากจะบอกคุณล่วงหน้า คุณมีความคิดเห็นอะไรไหม?”

ฉีซวนไม่แน่ใจว่าฉีฮานกำลังพูดเหน็บแนมหรือไม่ เขาถามอย่างลังเลว่า “...เดิมทีนี่คือข้อตกลงการแต่งงานของคุณ และคุณขอให้ฉันช่วยเอามันกลับมาใช่หรือเปล่า?”

“......” ขาที่แกว่งไปมาของฉีฮานหยุดชะงัก เธอค่อยๆ บีบแต่ละคำออกจากลำคอของเธอ “ฉันขออวยพรด้วยใจจริงให้กับฉีหยินและโจวจินหยาง มั่นใจได้เลยว่าฉันไม่ได้สนใจโจวจินหยางแม้แต่น้อย ฉันโทรมาเพียงเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าฉีหยินและโจวจินหยางเป็นคู่รักกันแล้ว และพวกเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันในอนาคต”

“ฉันจะพูดเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อฉันกลับไปบ้านแล้ว” ทันทีที่ฉีซวนพูดจบ ก็มีการสนทนาที่เร่งรีบในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ฉีฮานได้ยินเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ลุกลี้ลุกลน “เราจะพูดถึงเรื่องนี้เมื่อฉันมีเวลาว่าง”

“ไปทำธุระของคุณต่อเถอะ” เธอจินตนาการถึงอะไรแปลกๆ

ฉีฮานวางสายก่อน เธอรู้สึกโกรธมากจนยัดโทรศัพท์ไว้ใต้หมอนแล้วกดหัวเล็กๆ ของเธอลงบนนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน เธอไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้ เธอเปิดคอมพิวเตอร์ของเธอและจัดการกับมันอย่างชำนาญ ทำให้หัวข้อการค้นหายอดนิยมของคุณนายจ้าว กลับสู่อันดับต้นๆ อีกครั้ง

#ผู้หญิงที่ร่ำรวยใช้เงินเพื่อกดขี่คนอื่น หนุ่มน้อยหน้าตาดีป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย#

มีคำวิจารณ์และประเด็นที่น่าดึงดูดมากมาย และมีการแชร์โพสต์มากกว่าล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงห้านาที

ฉีฮานติดต่อจ้าวหยวนหยวนอีกครั้ง โดยขอให้เธอกระจายข่าวลือเกี่ยวกับฉีหยินและโจวจินหยางรักกันอยู่ และกำลังจะแต่งงานกัน

เธอต้องการผูกโจวจินหยางและฉีหยินเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา

จ้าวหยวนหยวนแพร่กระจายความลับเล็กๆ น้อยๆ ในแวดวงสังคมอย่างรวดเร็ว

คัดลอกและวางข้อความต้นฉบับ

【คุณรู้หรือเปล่า? โจวจินหยางตกหลุมรักฉีหยิน เขาให้ของขวัญเธอมาสองวันแล้ว ในวันแรก เขาให้สร้อยคอเพชรสีน้ำเงินแก่เธอ และในวันที่สอง เขาให้นาฬิกา Agnes กับเธอ】

เรื่องซุบซิบมักจะดึงดูดผู้คน

ความนิยมของฉีหยิน ในแวดวงสังคมพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากความสัมพันธ์ของเธอกับอาจารย์เคอหลี่ และตอนนี้การแต่งงานของเธอกับโจวจินหยาง ทำให้ชื่อเสียงของเธอเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

แต่มีเพียงครอบครัวชนชั้นกลางและชั้นล่างเท่านั้นที่พูดคุยกันเรื่องนี้ ในขณะที่สังคมชั้นสูงเหล่านั้นไม่ได้ใส่ใจกับข่าวลือที่ไม่สำคัญเหล่านี้แม้แต่น้อย

ในอีกด้านหนึ่ง ระบบของบริษัทของฉีซวนได้เกิดปัญหาเล็กน้อย ซึ่งถูกแฮ็กโดยแฮ็กเกอร์ ทำให้คอมพิวเตอร์บางเครื่องไม่สามารถใช้งานได้

เขาสั่งให้พนักงานของเขารีบแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และใช้โอกาสนี้ติดต่อโจวจินหยาง

โจวจินหยางมองไปที่สายเรียกเข้าของฉีซวน และได้คาดเดาความคิดของอีกฝ่ายได้บ้างแล้ว

เขาเตรียมเหตุผลและเรียบเรียงคำพูดของเขาไว้แล้ว

ฉีซวนยุ่งมาก เขาไม่มีเวลาเล่นคำถามกับโจวจินหยาง เขาจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณต้องการแต่งงานกับน้องสาวของฉันจริงๆ หรือ?”

โจวจินหยางผงะไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ใช่ การแต่งงานระหว่างสองตระกูลของเราจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน”

ฉีซวนกำลังจะถามคำถามอีกสองสามข้อ แต่ช่างเทคนิคของบริษัทรีบเข้ามา และปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา “คุณฉี ระบบทำงานผิดพลาดอีกแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อระบบที่เพิ่งพัฒนาของเรา”

ฉีซวนได้ทุ่มเทความพยายามให้กับระบบใหม่เป็นอย่างมาก และตอนนี้มันมาถึงจุดวิกฤตที่สุดแล้ว จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด

เขากระวนกระวายอย่างมาก “ตราบใดที่คุณจริงใจก็เพียงพอแล้ว ฉันจะไม่พูดมากกว่านี้ ฉันจะวางสายก่อน”

สำหรับฉีหยิน การได้แต่งงานกับโจวจินหยาง ถือเป็นการแต่งงานที่ดีอย่างแน่นอน และเขาไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้าน

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือระบบของบริษัท

ตอนบ่าย

ฉีฮานเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ และไปที่สำนักงานขาย และเธอก็ได้รับใบรับรองอสังหาริมทรัพย์อย่างรวดเร็ว

เธอติดต่อมัณฑนากรที่เธอได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้ และส่งภาพวาดการออกแบบของเธอให้กับพวกเขา

*มัณฑนากร คือนักออกแบบตกแต่งภายใน มีหน้าที่ออกแบบ วางแผนและควบคุมงานสถาปัตยกรรมภายในอาคาร*

ฉีฮานมองไปที่วิลล่าเล็กๆ สองชั้นที่เชิงเขา จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นบ้านของเธอ และเธอจะอยู่ห้องไหนก็ได้ตามที่เธอต้องการ

จะไม่มีใครมาแย่งห้องนอนของเธอ และจะไม่มีใครมาขโมยเสื้อผ้าของเธอด้วย

ถ้า...ลู่หยานย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ คงจะดียิ่งขึ้นไปอีก

ฉีฮานกำกำปั้นเล็กๆ ของเธอ เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะแต่งงานกับลู่หยาน

ในวินาทีต่อมา ฉีฮานคิดถึงเรื่องทรัพย์สินของตัวเองอีกครั้ง

การสนับสนุนผู้ชายคนหนึ่งก็ต้องใช้เงินเช่นกัน เธอต้องกลับไปคำนวณว่าทรัพย์สินของเธอเพียงพอต่อการใช้จ่ายหรือไม่

ฉีฮานกลับไปที่บ้านของตระกูลฉีอย่างเร่งรีบ และขณะที่เธอเดินผ่านห้องนั่งเล่น เธอก็ถูกหยุดโดยฉีหยิน

ตอนนี้ฉีเจิ้งไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เธอแล้ว เธอก็ไม่แสร้งทำเป็นอ่อนแออีกต่อไป เธอถามว่า “ฉีฮาน คุณจะไม่แข่งขันกับฉันเพื่อชิงโจวจินหยางจริงๆ เหรอ”

“ใครทำให้คุณกล้าพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้” ฉีฮานพิจารณาฉีหยินตั้งแต่หัวจรดเท้า ใช้นิ้วแตะคางของเธอเบาๆ

ฉีหยินสวมชุดเดรสสีฟ้าอ่อน มีสร้อยคอเพชรรอบคอและนาฬิกาที่ข้อมือของเธอ

เธอมักจะชอบวาดภาพตัวเองเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีมงกุฎสีเงินอยู่บนหัว มันทำให้เธอดูบอบบางและน่ารักมากกว่าปกติ

อันที่จริง เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแต่งตัว

ฉีหยินรู้สึกภูมิใจและพูดว่า “ฉีฮาน คุณคิดว่าตอนนี้ฉันยังกลัวคุณอยู่ไหม? ความแข็งแกร่งของตระกูลโจวไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตระกูลฉี เมื่อฉันแต่งงานกับตระกูลของพวกเขา ฉันจะเป็นนายหญิงของตระกูลโจว”