การที่รักใครสักคนมันช่างเป็นสิ่งที่งดงาม ไม่ขออะไรมากไปกว่า ขอแค่ได้มอง ขอแค่ได้กอด ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้ม แม้ต้องแลกด้วยชีวิตหลาย ๆ คนยอมที่จะแลกกับมัน เพื่อให้ได้มีความสุขสักครั้งในชีวิต
การที่รักใครสักคนมันช่างเป็นสิ่งที่งดงาม ไม่ขออะไรมากไปกว่า ขอแค่ได้มอง ขอแค่ได้กอด ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้ม แม้ต้องแลกด้วยชีวิตหลาย ๆ คนยอมที่จะแลกกับมัน เพื่อให้ได้มีความสุขสักครั้งในชีวิต
บทที่ 2
ตอน ทำถูกหรือมั้ย
1 อาทิตย์ แล้วที่ทศจากไป ทุกคนถูกท่านประธานสั่งให้เก็บตัวเงียบ ห้ามบอกใครเรื่องที่ไม่ติดเชื้อ เพราะมันจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในความยากลำบาก ตามที่พ่อเขาสั่งไว้
ลู่เฟยและทุกคนได้เก็บตัวเงียบ คิวงานของลู่เฟย ตอนนี้ถูกระงับไว้จากทางบริษัท เพราะตอนนี้ทุกคนต่างพากันกลัวเก็บตัวเงียบ ผู้ติดเชื้อถูกนำตัวไปกักไว้เพื่อรักษาแม้น้อยคนที่จะรอด คนที่รอดนั้นเพราะติดเชื่อระยะแรกเท่านั้น หากเชื้อเข้าสู้ระยะ 2 ยากมากที่จะสร้างภูมิได้ แต่ถึงอย่างไรเมื่อผู้ที่รักษาหายก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก หากไม่มีวัคซีนหรือยาฆ่าเชื้อตัวนี้ แม้หายก็ต้องป้องกันตัวเองสุดชีวิต เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นได้อีก
ตอนนี้ผู้คนต่างไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเชื้อเป็นจำนวนมาก หวังว่าตนเองจะไม่ป่วย
ที่บ้านของลู่เฟย ในห้องนอน
ลู่เฟย เก็บตัวเองเงียบอยู่ในห้องอย่างนั้น เขาได้แต่จ้องสมุดบันทึกของทศ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น น้องสาวเดินเข้าห้องพร้อมกับขนมที่แม่ทำ
เธอพูด “พี่กินขนมคะ”
ลู่เฟยที่นั่งอยู่บนเตียงนอน มองมาทางน้องสาว “พี่ไม่หิว”
เธอพูด “แม่อุส่าทำให้พี่กินเลยนะ ทานหน่อยเถอะ หลายวันนี้พี่ไม่ทานอะไรเลย”
ลู่เฟยพูด “พี่กำลังสงสัย ว่าพี่คิดผิดหรือเปล่าที่บังคับให้เขาไปอาอิง น้องว่าพี่ทำถูกมั้ย”
อาอิงพูด “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าการที่เราขอให้ใครคนหนึ่งเสียสละเพื่อคนอื่นมันเหมาะสมหรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ก็คือการทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่เพื่อตนเองแต่เพื่อคนอื่นมันไม่ผิด”
ลู่เฟยเงียบ เขามองมาที่สมุดบันทึก อาอิงเห็นพี่ชายจมอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ เธอจึงหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา
อาอิงพูด “พี่รักเขาหรือเปล่า”
ลู่เฟยมองหน้าอาอิง เขาตอบ “เอาจริง ๆ นะพี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกลียดหรือรัก ในสิ่งที่เขาทำ...พี่สับสน”
เธอพูดต่อ “ถ้าพี่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรแล้วมานั่งจมอยู่กับความรู้สึกผิดแบบนี้ ฉันว่าพี่อ่านสมุดบันทึกนี้ซะ บางทีพี่อาจจะเข้าใจเขาและตัวเองมากขึ้น ในเมื่อพี่ยังตอบฉันไม่ได้ ว่ารู้สึกอย่างไรกับเขากันแน่”
ลู่เฟยยิ้มแล้วก็จับศีรษะน้องสาวเขย่าในขณะที่เธอยื่นหน้ามาหาเขา “เธอนี่นะ...แก่แดดจริง ๆ”
อาอิงพูด “ไปละ ทานขนมด้วยแม่ตั้งใจทำเพื่อพี่เลยรู้มั้ย”
ลู่เฟยยิ้ม “จ้าน้องสาวตัวแสบ”
อาอิงยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป