เห็นเฉียวเหม่ยเดินตรงรี่เข้าหาพวกเธอพร้อมไม้ในมือ ป้าใหญ่เฉียวและป้ารองเฉียวก็จำได้ว่าหลานสาวคนนี้ไม่ใช่คนที่ควรรังแก
ทั้งสองคนไม่ได้ต่อสู้กับเฉียวเหม่ยมานานมากแล้ว เลยลืมเรื่องนี้ไป
“ให้ตายสิ นี่เธอคิดว่าเธอกำลังจะทำอะไร?” พวกเขาตะโกนเสียงดัง อุ้มหมูขึ้นพร้อมกับถอยหลังหนี
เฉียวเหม่ยฟาดไม้ในมือกับพื้นแล้วพูดด้วยสายตาดุว่า “ป้าสองคนไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องที่ดินของครอบครัวฉัน”
ออร่าของเธอแข็งแกร่ง แต่น้ำเสียงของเธออ่อนนุ่มและเหมือนยั่วยวนมากกว่า โชคดีที่ร่างกายของเธอคล้ำและอ้วน ทำให้เธอดูน่าเกรงขามทีเดียว
ไม่อย่างนั้น ไม่เพียงแค่สองคนนี้จะไม่หวาดกลัวเธอ พวกหล่อนจะหัวเราะเยาะด้วยซ้ำ
ป้าใหญ่เฉียวจำได้ว่าเธอถูกผู้หญิงคนนี้ชกเข้าที่หลังเมื่อสองสามปีก่อน และความจุกตอนนั้นก็ยังรู้สึกเจ็บปวดถึงตอนนี้
พวกเธอไม่สามารถใช้กำลังได้ พวกเธอใช้ได้แค่ไหวพริบเท่านั้น
“เธอมันเด็กดื้อ เราไม่ได้พูดซะหน่อยว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ แค่ที่ดินเธอทิ้งว่างโดยเปล่าประโยชน์ ป้าเลยมาช่วยพรวนดินก็แค่นั้น”
“ในฤดูใบไม้ผลิทุกปี ที่ดินของฉันก็ไม่มีอะไรเติบโตอยู่แล้ว แต่ตกมาปีนี้ป้ากลับมาไถที่นา ปีที่แล้วป้าไม่เห็นว่ามันไม่มีอะไรเหรอ ป้าตาบอดรึไง?”
“ยัยเด็กต่ำช้า ทำไมพูดจาแบบนี้กับป้า?” ป้าใหญ่เฉียวไม่ชอบใจเมื่อมีคนมาพูดกับเธอแบบนี้และโกรธ
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าป้าคิดอะไร ถ้าป้ามาไถนาตอนนี้ หลังจากนั้นป้าก็จะมาหว่านเมล็ดพืช พอถึงตอนนั้น มันไม่ง่ายเลยเหรอที่ป้าจะยึดเอาที่ดิน?”
ป้าใหญ่เฉียวรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมองออกถึงความตั้งใจของพวกเธอได้
มันไม่ใช่ว่าพวกเธอจะถูกว่าเอาได้จากเรื่องนี้ ถ้าจะโทษใคร คงเป็นเพราะสถานที่ของเฉียวเฉียงนั้นน่าดึงดูดใจเกินไป
เนื่องจากเฉียวเฉียงเป็นวีรบุรุษสงคราม ที่ดินที่หมู่บ้านมอบให้แก่ครอบครัวของเขาเป็นหนึ่งในที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน ที่ดินเป็นที่ราบและอุดมสมบูรณ์
ลานบ้านของเธอใหญ่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเฉียวเฉียงด้วยซ้ำ แต่ต้องรองรับคนเป็นสิบ มันไม่เพียงพอ!
เมื่อพวกเธอไถดินและหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จ เฉียวเฉียงน่าจะตาย การเก็บเกี่ยวผักและที่ดินรอบๆจะเป็นของพวกเธอทั้งหมด
แม้ที่ดินจะไม่ได้มอบให้พวกเธอก็ตาม ผักที่ปลูกในที่ดินบ้านคนอื่นไม่ควรเก็บเกี่ยวหรอกหรือ ถูกไหม?
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถพูดความคิดของเธอออกมาดังๆได้ ป้าใหญ่เฉียวพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “จะเป็นไปได้ยังไง? ที่ดินเป็นของเธอ โดยธรรมชาติแล้วเธอสามารถกินอะไรก็ได้ที่เธอต้องการที่นี่ เรามาที่นี่เพื่อช่วยพรวนดินแค่นั้น”
“ป้าไม่ต้องมาแสดง” เฉียวเหม่ยยื่นไม้ออกไปและยืนอยู่บนพื้นดินต่อหน้าพวกหล่อนและพูดว่า “พวกป้ามาทำเป็นปรับระดับพื้นดินตรงนี้ตอนนี้ อย่าคิดว่าจะมาเก็บผักในภายหลังโดยแสร้งทำเป็นพรวนดินแบบเมื่อกี้หน่อยเลย”
ครอบครัวของเฉียวซวงนั้นไร้เหตุผลและไร้ยางอายมาโดยตลอด เธอต้องการปิดกั้นโอกาสที่พวกเขาจะมาเก็บเกี่ยวผัก
ป้าเฉียวดูประหลาดใจ คุณพระช่วย เด็กสาวคนนี้คิดถึงประเด็นนี้ได้....เฉียวเฉียงไม่สามารถชี้นำเธอได้ ดูเหมือนว่าเธอค่อนข้างฉลาดจริงๆ
แม้แต่เฉียวเฉียง คนที่เฝ้ามองเตาไฟอยู่ในครัว ฟังคำพูดของเฉียวเหม่ยด้วยความประหลาดใจ หลานสาวของเขาโตขึ้นทันที
เมื่อเห็นว่าคนทั้งสองยังคงยืนอยู่ที่เดิม เฉียวเหม่ยรีบรุกหน้าขึ้นไปพร้อมไม้ในมือ “ทำไมป้ายังไม่ออกไปอีก? ป้าต้องการที่จะต่อสู้กับฉันใช่ไหม? ไม้ของฉันไม่มีตานะ!”
เธอแข็งแกร่งมากเมื่อเธอเหวี่ยงไม้ มันทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวนากลัว
ป้าใหญ่เฉียวและป้ารองเฉียวกลัวจนสติแทบหลุดและไม่กล้าพูดอะไรอีก พวกเธอรีบหยิบจอบและทำตามที่บอก
ในไม่ช้า พวกเธอก็ปรับระดับดินทั้งหมดที่พวกเธอขุดไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่เธอเดินออกจากประตู ป้าใหญ่เฉียวหันหน้าไปจ้องมองเฉียวเหม่ย เธอตวาดเสียงต่ำอย่างโกรธเกรี้ยว “นังเด็กต่ำช้า ฉันจะแสดงให้แกได้เห็น หลังจากนี้ไปแกจะได้รับสิ่งที่แกสมควรจะได้รับมัน”
เฉียวเหม่ยไม่ได้มองพวกเธออีกต่อไป เธอเดินเข้าไปในบ้านและพูดว่า “น้ำพร้อมหรือยังค่ะคุณปู่?”
“พร้อมแล้ว พร้อมแล้ว”
“โอเค โอเค หนูจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” เฉียวเหม่ยรีบย้ายอ่างขนาดใหญ่ในลานบ้านเข้าไปในห้องของเธออย่างรวดเร็วและหยิบผ้าเช็ดตัวสะอาดติดตัวไปด้วย
มันเป็นการทำง่ายๆและติดตั้งแบบหยาบๆที่บ้านทำเอง ไม่มีทั้งห้องน้ำและอ่างอาบน้ำ สิ่งที่เธอใช้คืออ่างขนาดใหญ่ที่เธอใช้ซักผ้า
หลังจากเติมน้ำในอ่างแล้ว เฉียวเหม่ยปิดประตูห้อง เธอยืนอยู่ในอ่างและใช้ผ้าขนหนูเช็ดถูสิ่งสกปรกบนร่างกายซ้ำๆ ตอนนี้มันต้องทำอย่างนี้ไปก่อน เมื่อเธอมีเงินในอนาคต เธอจะสร้างบ้านหลังใหญ่แล้วเธอจะทำห้องน้ำส่วนตัว
หลังอาบน้ำเช็ดถูคราบใครอย่างช้าๆเป็นเวลา 10-50 นาที ในที่สุดเธอก็ล้างสิ่งสกปรกบนร่างกายออกจนหมด เธอรู้สึกสบายตัวเมื่อตรวจไม่พบกลิ่นไม่พึงประสงค์บนตัวเธอ
เธอมองไปที่แขนของเธอและรู้สึกว่าเธอดูสวยขึ้นเล็กน้อย
มันเยี่ยมมาก