รักแรกพบตั้งแต่วัยเด็ก ไม่เคยจางหายไป เฝ้าติดตาม ค้นหา เพื่อให้ได้มาครอบครอง
รักแรกพบตั้งแต่วัยเด็ก ไม่เคยจางหายไป เฝ้าติดตาม ค้นหา เพื่อให้ได้มาครอบครอง
ตอนที่ 4 ผู้ปกครองคนใหม่
ในที่สุดการเดินทางครั้งใหม่ของเจ้าฟ้าก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ที่สนามบินเมืองไพรราช การเดินทางของเจ้าฟ้าจะถูกเก็บเป็นความลับ มีแต่องค์รักษ์สนิทและท่านพ่อ ท่านแม่ พี่สาว พี่ชาย เท่านั้นที่รู้ วันนี้เจ้าพี่รอง และเจ้าพี่ใหญ่พร้อมองครักษ์ของพระองค์ได้มาส่งเจ้าฟ้าแบบเงียบ ๆ
“เมื่อถึงเมืองไทยแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ”พี่สาวพูดขึ้น
“ครับ จ้าวพี่ทั้งสองไม่ห่วงน้องหรอกนะครับ มีพี่คีย์ตะไปด้วยแบบนี้”เขายิ้มให้พี่สาว
“ก็หวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรที่ลำบากใจต่อคีย์ตะ” พี่รองพูดขึ้น
“คีย์ตะ..เราฝากเจ้าตัวแสบด้วย หากทำอะไรที่ไม่เข้าตา เจ้าจัดการได้เลย”
“ครับ” คีย์ตะน้อมรับคำสั่ง
“พี่รองผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“แน่ใจหรือ ว่าการตามหาสิ่งที่เจ้าต้องการ มันไม่เหมือนเด็ก เจ้ากำลังวิ่งไล่ตามหาของที่หายอยู่นะ เช่นนี้แล้วไม่ใช่เด็กหรือ เมื่อถึงเมืองไทยแล้วพี่อยากให้เจ้าทำงานให้พี่เรื่องหนึ่ง”
“ซองสีน้ำตาลนั้นใช่มั้ยครับ” พี่รองพยักหน้า
การกล่าวลาก็สิ้นสุดลง เจ้าฟ้าและคีย์ตะได้ขึ้นเครื่องมุ่งหน้าไปประเทศไทย การเดินทางใช้เวลา ถึง 5 ชั่วโมง
เมื่อถึงประเทศไทย ก็เป็นเวลา 13.00 น. เครื่องลงจอด เสียงโทรศัพท์ของคีย์ตะ ก็ดังขึ้นทันที
“รอดจอดรอที่อยู่หน้าทางออกนะครับ”
“ครับ” คีย์ตะพูดตอบไป
ทั้งสองได้นำสัมภาระของตนเองออกจากสนามบินเดินไปยังที่รถจอดรออยู่ คีย์ตะได้นำของขึ้นรถอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดประตูให้เจ้าฟ้านั่งด้านหลัง ส่วนตัวเขาก็เดินขึ้นรถด้านหน้า
“คุณคือพระสหายของจ้าวธารฟ้า และเป็น ผอ.ผู้ปกครองของพวกผมใช่มั้ยครับ” คีย์ตะถาม
“ใช่ครับ ตั้งแต่นี้จ้าวฟ้าต้องใช้ชีวิตอย่างสามันชนนะครับ ผมชื่อรุจ จ้าวฟ้ากับคีย์ตะ คือลูกพี่ลูกน้องของผม เป็นญาติที่มาจากต่างประเทศ จะได้ไม่มีใครสงสัยครับ”
“ครับ ตั้งแต่นี้เรียกผมว่าฟ้าก็พอนะครับ ผมคุ้น ๆ หน้าคุณมากเลย”
รุจยิ้ม “จ้าวฟ้าจำผมไม่ได้เหรอครับ ครั้งหนึ่งผมเคยไปเที่ยวที่วัง และโดนจ้าวฟ้าแกล้งนำเสื้อผ้าของผมไปทิ้ง เพราะโกรธที่ผมทำให้จ้าวธารฟ้าผิดนัดจ้าวฟ้าน้อย”
เจ้าฟ้ายิ้ม เขาจำได้ขึ้นมาทันที “ผมขอโทษเรื่องนั้นด้วยครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ตั้งแต่นี้จ้าวฟ้าและคีย์ตะ ผมจะเป็นผู้ปกครองดูแลพวกคุณเอง หากมีอะไรไม่เข้าใจ หรือต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกผมได้นะครับ”
รุจขับรถมาถึงที่พักของพวกเขา ซึ่งคอนโดจะอยู่ข้างมหาลัย พวกเขาอยู่ชั้นที่ 20
“พออยู่ได้ไม่ครับ”
“ได้ครับ หรูกว่าที่ผมเคยอยู่อีก”
“คอนโดนี้มีสองห้องนอน เพื่อความสะดวกของทั้งสองคน”
“ขอบคุณครับ” เจ้าฟ้าพูด
“คีย์ตะ นี้กุญแจรถ รถอยู่ลาดจอดรถชั้น 5 นะ จ้าวธารฟ้าไม่อนุญาตให้จ้าวฟ้าขับรถ”
“ไม่ยุติธรรมเลย”
“ให้ผมขับนั้นแหละดีแล้ว” คีย์ตะพูดขึ้น
“พรุ่งนี้เจอที่มหาลัยอย่าสายนะครับ” รุจพูดเสร็จก็ขอตัวกลับ
“จ้าวพี่เราจัดแจงทุกอย่างไว้ราวกับเขาวางแผนอะไรอยู่” เจ้าฟ้ามองหน้าคีย์ตะ แต่เขาไม่ตอบอะไร แล้วหยิบกระเป๋าของเจ้าฟ้าเพื่อที่จะจัดข้าวของให้เขา
“ทำอะไรพี่คีย์ตะ วางเลย ผมทำเอง ตอนนี้ไม่มีองครักษ์นะ มี
แค่พี่ชายเท่านั้น ยิ้มหน่อยซิพี่คีย์ตะ....เย็นชาชะมัด ใครได้เป็นแฟนมีหวังเบื่อแย่”
“ผมไม่คิดจะมีแฟนครับ”
“ไม่เชื่อ”
“สุดแล้วแต่ครับ” แล้วเขาก็ยกกระเป๋าเข้าห้องนอนไป
“โอ๊ย พี่รอง ส่งหุ่นยนต์มาให้ผมหรือไง” เขามองพี่คีย์ตะเดินเข้าห้องก่อนจะสายศีรษะแล้วถอนหายใจ
รุ่งเช้าวันใหม่ ทั้งสองแต่งตัวนักศึกษาเพื่อออกไปรายงานตัว เป็นก้าวแรกของการศึกษาที่เมืองไทย เจ้าฟ้าตื่นเต้นมากเป็นพิเศษต่างกับคีย์ตะที่ดูนิ่ง ๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
เมื่อคีย์ตะขับรถมาถึงมหาลัย พวกเขาก็เข้าพบกับ ผอ.รุจที่เตรียมเอกสารให้พวกเขาทั้งหมดแล้ว ข้อมูลของทั้งสอง รุจจะเป็นผู้ดูแลและเก็บไว้เป็นความลับ ทุกอย่างเป็นไปได้เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไรนอกจากการใช้อ่านภาษาไทย ทั้งสองแม้จะอ่านภาษาไทยได้แต่ก็ไม่มากแต่นั้นสำหรับเจ้าฟ้าคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ รุจให้เลขาพาพวกเขาไปห้องเรียนวิชาแรกก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
“ขอบคุณครับ ผอ.” เจ้าฟ้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“หวังว่านายคงจะไม่ทำเรื่องให้พี่ชายต้องเป็นห่วงนะ...ฟ้า”
“ครับ ผมจะเป็นเด็กดี” แล้วทั้งสองก็เดินตามเลขาไปห้องเรียน สายตารุจที่มองเจ้าฟ้าด้วยความเอ็นดูเหมือนเป็นน้องชายเขาแท้ ๆ คนหนึ่งก็ว่าได้
“จ้าวฟ้าน้อยตอนนั้นกับตอนนี้ ก็ไม่ต่างกันเท่าไรเลย เจ้าจะรู้มั้ยว่าตอนนี้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมา
“จ้าวฟ้าเป็นไงบ้าง” เจ้าธารฟ้าพูด
“ในฐานะเพื่อนนะจ้าว แบบนี้จะดีหรือที่ปิดบังจ้าวฟ้า”
“ช่วยเราหน่อยนะ เราไม่อยากให้จ้าวฟ้าต้องมากังวลกับสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้”
“หม่อนช่วย ช่วยอยู่แล้ว แต่คิดว่ามันปลอดภัยจริง ๆ หรือ”
“อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าที่นี่”
“แล้วจ้าวละ หม่อนไม่ห่วงจ้าวไพรฟ้าเท่าไร แต่เป้าหมายก็คือผู้ครองราชคนต่อไป ยิ่งใกล้วันแต่งตั้งก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น ศัตรูอยู่ที่มืดจะทำอย่างไร”
“ปกป้องน้องเรา พวกมันคงต้องเอาจ้าวฟ้ามาต่อรองกับเรา ยิ่งพวกมันดิ้นรนตามหาจ้าวฟ้ามากเท่าไร พวกมันก็จะเผยตัวง่ายขึ้น”
“จ้าวห่วงน้องจริง ๆ หรือเปล่า อยากให้น้องปลอดภัย แต่กลับให้น้องเป็นเป้าล่อ”
“ เราไว้ใจคีย์ตะ และไว้ใจนายที่สุดเพื่อนรัก และที่สำคัญจ้าวฟ้าเขาก็มาตามหาของที่หายไปเมื่อหลายปีก่อนด้วย”
“เชื่อใจหม่อนได้เลย ...จ้าวดูแลตัวเองด้วย ออ.มีอีกเรื่องเจ้าสาวของจ้าวสวยมั้ย”
“ข่าวไวจัง ไม่เคยรอดหูรอดตาเจ้าเลย”
“หม่อมเป็นใครอย่าลืมสิจ้าว” (๖) ทั้งสองหัวเราะ
“ฝากน้องเราด้วย”
“ไม่ต้องห่วงครับ ชักอยากรู้แล้วซิ จ้าวฟ้าน้อยทำอะไรหายไป”
“หัวใจ” เจ้าธารฟ้าพูด
“ความรักวัยรุ่นซินะ”
ณ.ห้องเรียน ชั่วโมงแรก
“อาจารย์สักคะ ฝากเด็กใหม่ด้วยคะ”
“มาแล้วหรือ เข้ามาซิ แนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักหน่อย”
ทั้งสองมองหน้ากัน เจ้าฟ้ายิ้ม “ผมชื่อฟ้าครับ”
“คีย์ตะครับ”
“แค่นี้เหรอ” อาจารย์ถาม
“ครับ” คีย์ตะตอบด้วยสีหน้าเย็นชา
“อย่างนั้นก็ไปนั่ง ข้าง ๆ” เขามองที่ว่าง ที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวที่สุด ซึ่งเจ้าฟ้าก็เดินเข้าไปของนั่งตรงโต๊ะว่างข้างกลุ่มเพื่อนใหม่
“ดีเลย กันต์ดูแลเพื่อนใหม่ด้วย” อาจารย์พูด
“ได้ครับ --- เราชื่อกันต์ นี่ต้นสน และสาวทอมสุดหล่อ”
“เราแก้วนะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เจ้าฟ้าพูดขึ้น เขายิ้มรับให้ทุกคนอย่างมีความสุข ซึ่งต่างกับคีย์ตะที่นั่งเงียบมองทุกคนอย่างครุ่นคิด
“เพื่อนนายคนนี้ยิ้มไม่เป็นหรือไง” ต้นสนถาม
“ลูกพี่ลูกน้องเรานะ พี่เขาก็อย่างนี้แหละ”
ต้นสนยิ้มแล้วมองมาที่คีย์ตะที่ยังคงนั่งเงียบไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่วงเช้าการเรียนก็ผ่านไปอย่างราบรื่นดี ทั้งคีย์ตะและเจ้าฟ้าต่างก็มีเพื่อน ๆ ช่วย เรื่องการจดภาษาไทย แม้พวกเขาจะเขียนได้แต่ก็ไม่ถนัดหรือเขียนทัน เพราะส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้แต่ภาษาอังกฤษ เรียนเขียนอ่านภาษาอังกฤษมากกว่า
“พวกนายถ้าไม่บอก ใคร ๆ ก็คิดว่าคนไทย” กันต์พูด
“แม่เราเป็นคนไทย ส่วนพี่คีย์ตะเป็นคนพื้นเมืองแท้ ๆ” เจ้าฟ้าพูด
“แล้วนี่พวกนายหิวมั้ย” แก้วพูด
“หิวซิ”กันต์พูดขึ้น
“อย่างนั้นไปหาอะไรทานกันดีกว่า ช่วงบ่ายพวกเราไม่มีเรียน ไปดูบาสกัน”แก้วพูด
“ว่าแต่พวกนายทานอาหารไทยได้มั้ย” ต้นสนถาม
“ได้ เราทานได้ทุกอย่าง แล้วเราขอไปดูบาสด้วยนะ” เจ้าฟ้าพูด
“ไปกันหมดนี่แหละ” เมื่อกันต์พูดเสร็จ ทุกคนก็เดินออกจากห้องไปร้านอาหารหลัง มอ.
ที่ร้านส้มตำหลัง มอ.
กลุ่มของเจ้าฟ้าและเพื่อน ๆ เดินเข้าร้านไป ซึ้งในร้านก็มีเด็กมหาลัยนั่งอยูหลายโต๊ะ พวกเขาทักทายรุ่นพี่โต๊ะหนึ่ง ต่างยกมือไหว้รุ่นพี่อย่างสุภาพ
“เด็กใหม่เหรอ หน้าตาดีนี่” สายใหม่พูดขึ้นพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย
“ครับ”กันต์ตอบพร้อมแนะนำตัวให้รุ่นพี่รู้จักพวกเขาทั้งสองคน
“หน้าตาดีนี่” เทนพูดขึ้น
“นั่งด้วยกันมั้ย”อิฐถามพร้อมกับหยิบปีกไก่เข้าปาก
“ไม่เป็นไรครับ พวกผมจองโต๊ะไว้แล้วครับ” กันต์ตอบ
ไม่นานอาหารที่สั่งก็เริ่มทยอยมาจนเต็มโต๊ะ
“นายลองทานส้มตำซิ” ต้นสนพูดกับคีย์ตะ เขานั่งมองอาหารที่เขาไม่คุ้นเคยด้วยความลังเล “ไม่ต้องเกรงใจ ทานเลย” เขายิ้มให้คีย์ตะ
“ทานเถอะพี่คีย์ตะ” เจ้าฟ้ากระแทกไหล่เขาเบา ๆ เป็นครั้งแรกที่คีย์ตะรู้สึกหนักใจและอึดอัด เขาถอนหายใจและตักอาหารเข้าปาก ทุกคนมีสีหน้าไม่เว้นแม้เจ้าฟ้าที่จับจ้องสีหน้าของคีย์ตะ เขามองหน้าทุกคนกลับ ปากก็เคี้ยวส้มตำราวกับมันไม่มีรสชาติใด ๆ
“มีอะไรหรือเปล่า” คีย์ตะถาม ทุกคนอมยิ้มแล้วต่างคนก็ทานอาหารกัน กันต์เล่าเรื่องตลกของเพื่อนให้เพื่อนใหม่ฟัง ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข ไม่กี่นาทีอาหารบนโต๊ะก็หมด
คีย์ตะมองเจ้าฟ้าและเพื่อนใหม่ ที่ทานอาหารจนหมดโต๊ะ เขาคิด+++องค์จ้าวธารฟ้าคงอยากให้พระองค์อยู่ห่างความวุ่นวายและปลอดภัยที่นี่ แต่ดูท่าที่นี้คงจะวุ่นวายไม่ต่างกันอย่างแน่นอน คีย์ตะเอ่ยคงปวดหัวอีกนาน+++
ไม่นานหนักเสียงรุ่นพี่คนหนึ่งก็ตะโกนขึ้น “ตะวันทางนี้”
“นายจะตะโกนทำไม่วะ ไอ้อิฐ” เทนพูดขึ้น
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หุ่นดี ผิวขาว หน้าคม ดวงตาโตสีดำ เดินเข้ามาในร้านอาหาร ทุกคนในร้านต่างมองเขาเป็นตาเดียวกัน เขาสวมชุดนักศึกษาแขนยาว ปลดกระดุมคอเสื้อสองเม็ด ชายเสื้อหลุดออกจากกางเกง พ่ายกระเป๋าเป้สีดำ สีหน้านิ่งเดินมาหาเพื่อน เจ้าฟ้าหันมองเขาเมื่อได้ยินชื่อว่าตะวัน
เจ้าฟ้าจ้องมองเขา+++แววตาคู่นั้น+++ ความรู้สึกแรกที่เห็นตะวัน เจ้าฟ้าสะดุดตาเขาทันที +++ใช่เขาหรือเปล่า แต่แววตานั้นช่างอบอุ่นจัง+++
“ตะลึงอะไรขนาดนั้นฟ้า” กันต์พูด คีย์ตะหันมองตะวัน
“เขาเป็นใครเหรอ” เจ้าฟ้าถาม
“คนนั้นเหรอ”กันต์ย้ำอีกครั้งก่อนจะตอบไป “พี่ตะวัน คนท๊อปของคณะเราเลย ที่จริงทั้งพี่อิฐและพี่เทนเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาลัย เป็นรุ่นพี่ปี 3 มีแต่คนจ้องจะกินพวกพี่เขาทั้งนั้น แต่พี่ตะวันท๊อปสุด”
“แต่แปลกนะ คนจีบเขาเยอะไม่ว่าชายหรือหญิง พี่เขาก็ไม่สนใจใครเลย” แก้วเสริมขึ้นมา
“อย่างนั้นเหรอ”เจ้าฟ้ายังคงมองเขา
“ออ..ว่าแต่พวกนายมีแฟนหรือยัง” ต้นสนถาม ทั้งสองมองหน้าเพื่อน ๆ ที่จ้องมองพวกเขาเพื่อรอคำตอบ
“ฉันยังไม่มี ว่าจะหาที่เมืองไทยนี่แหละ” เจ้าฟ้าตอบ
“แล้วนายละ”ต้นสนถามคีย์ตะ
“ไม่มี ไม่คิดจะมีด้วย” ต้นสนยิ้มชอบใจในคำตอบของคีย์ตะ
“นายหัวเราะอะไร”เขาถาม
“ก็นายตอบแบบมั่นใจมาก รู้เหรอว่าชะตาข้างหน้าจะเป็นอย่างไร” ต้นสนพูด
“ชะตาฉัน ฉันกำหนด”
“นายผิดแล้ว” ต้นสนมองตาคีย์ตะ แต่เขาก็ไม่พูดต่อ ทิ้งคำพูดนั้นไว้ให้คีย์ตะคิด แต่ดูเหมือนคีย์ตะจะไม่ได้สนใจในคำพูดนั้นสักเท่าไร
“ไม่เถอะ---เก็บเงินด้วยครับ---” กันต์เรียกพนักงาน
“มือนี้ฉันเลี้ยงเอง สำหรับมิตรภาพของพวกเรา” เจ้าฟ้าพูด
“จะดีเหรอ” แก้วพูด
“เอาเถอะน่า ไว้วันหลังพวกนายค่อยเลี้ยงฉันแล้วกัน พี่คีย์ตะจ่ายให้น้องด้วยนะ”
คีย์ตะหยิบเงินจ่ายอาหารบนโต๊ะ แล้วทุกคนก็ออกจากร้านอาหารไป เมื่อพวกเขาเดินผ่านโต๊ะของรุ่นพี่ เจ้าฟ้าได้มองตะวันอีกครั้ง ซึ้งระหว่างนั้น ตะวันก็ได้มาเห็นเจ้าฟ้าที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน เจ้าฟ้าไม่ได้หลบสายตาของตะวันแม้แต่น้อย เขายิ้มให้ตะวัน แต่ตะวันกลับไม่ได้สนใจก้มหน้าทานอาหารต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าฟ้าคิด +++เขาจำเราไม่ได้++
“ไปเถอะฟ้า” แก้วพูด
............................................................................................................
พี่ตะวัน พี่อิฐ พี่เทนคะ วันนี้สู้ ๆ นะคะ พวกเราจะไปเชียร์ พวกพี่แข่งวันนี้นะคะ คำพูดเหล่านี้ตะวันได้ยินมันบ่อยมาก พวกเขาได้แต่ยิ้มและขอบคุณแฟนคลับ บางก็ขอถ่ายรูป บางทีตะวันก็เบื่อที่ไม่ได้มีเวลาที่เป็นองตัวเองเท่าไร ต่างจากอิฐและเทนดูเหมือนจะชอบ เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็เป็นที่จับตามองของทุกคน เพราะด้วยหน้าตาและความสามารถของพวกเขา แต่เขาก็ชินกับมันแล้ว สามปีที่เขามาเรียนที่นี้ เขามีเพื่อน ๆ อิฐ และ เทน คือเพื่อนสนิทที่สุดที่ย้ายมาเรียนที่นี้พร้อมกัน ในฐานะนักกีฬาบาส ที่จริงแล้ว อิฐและเทนก็หน้าตาดีมาก มีรุ่นน้องมากมายชื่นชอบไม่แพ้ตะวันเช่นกัน ส่วนสายใหม่ เป็นเพื่อนกับอิฐมาก่อนและมาเรียนที่นี้ คณะเดียวกันเลยกลายมาเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่สุดของตะวัน
Hanna hb.