Your Wishlist

เมียคนธรรมดา (ออกไปซะ)

Author: หยูเสี่ยวถง

เกิดใหม่ เป็นแม่ของตัวร้าย ในช่วงวัยเด็กในนิยาย แถมสามียังเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ แต่พวกเขากลับอยากฆ่านาง นางจะอยู่สอนเด็กๆให้เป็นคนดีไม่กลายเป็นตัวร้ายในอนาคต หรือจะจากไปดี แต่เด็กพวกนี้ก็น่ารักจริงๆ...

จำนวนตอน :

ออกไปซะ

  • 13/05/2565

“ทำไมนางไม่ขยับแล้วล่ะ”

 

“ไม่ใช่ตายแล้วเหรอ?”

 

“นางสมควรแล้ว จะได้ไม่มีใครมารังแกพวกเราได้อีกในอนาคต”

 

ก่อนที่ หลู่เจียว จะลืมตาขึ้น เธอได้ยินเสียงแว่วๆ เจื้อยแจ้วของเด็กน้อย

 

เธอลืมตาขึ้นทันใด และเห็นคนตัวเล็กๆ สามสี่คนกำลังพูดคุยอยู่ข้างๆ เธอ พวกตัวเล็กมีใบหน้าเหลืองและผอมแห้ง และแทบไม่มีเนื้อเลย พวกเขาดูเหมือนไก่ตัวน้อย

 

หลู่เจียว ยังไม่ได้พูดอะไร เมื่อเธอเห็นเด็กน้อยสี่คน ที่เห็นเธอตื่นแล้ว พวกเขาทั้งสี่ก็หันหลังกรีดร้อง ด้วยความสยดสยองขณะที่พวกเขารีบวิ่งหนีไป

 

"นางตื่นแล้ว"

 

“ถูกนางตีอีกแน่ๆ”

 

"ป๊า ช่วยด้วย"

 

“เราไม่ได้ขโมยไข่ของนาง!”

 

หลู่เจียว มองไปที่เด็กชายตัวเล็กๆ ที่วิ่งหนีไปด้วยท่าทางแปลกๆ แล้วมองไปรอบๆ เธอต้องอุทานออกมาในใจเป็นภาษาอิสานว่า อีหยังว่ะ

 

รอบด้าน เป็นลานกำแพงดินที่ทรุดโทรมและเป็นรอยด่าง ตรงกลางลานมีบ้านดิน ที่แตกร้าวสามหลัง หลังคามุงจาก และมีบ้านดินสองหลังทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตกของบ้านหลังใหญ่ นอกนั้น, ไม่มีอะไรอีกในลานบ้าน และดูรกร้างอย่างยิ่ง

 

ที่นี่ที่ไหน? เธอตายแล้วเหรอ?

 

ทันทีที่ความคิดของหลู่เจียว ประติดประต่อ ความทรงจำจำนวนมากก็ท่วมท้นจิตใจของเธอ และเธอก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของเธอได้อย่างรวดเร็ว…

 

ก่อนหน้านี้เธอกำลังอ่านนิยายออนไลน์ในเว็บแห่งหนึ่ง ชื่อเรื่อง ‘ชาวบ้านไม่ธรรมดา’ ในนิยายเรื่องนั้นบอกว่าตัวเอกในนิยาย ซื้อตอนในนิยายเรื่อง ‘โปรแกรมเมอร์ธรรมดา’ แบบรัวๆแทบทุกตอน หลายร้อยหลายพันตอน แล้วตัวเอกหญิงคนนั้นก็หลุดเข้าไปในนิยายเรื่อง ‘ชาวบ้านไม่ธรรมดา’ กลายเป็นตัวเอก นางเอกไปเฉยเลย เธอก็เลยเข้าไปอ่านนิยายเรื่องนั้นและซื้อตอนรัวๆบ้าง เฝื่อจะเข้าไปอยู่ในนิยายและทะลุมิติเข้าไปในนิยาย อะไรประมาณนั้นบ้าง ใครจะคิดเล่าว่าเธอจะข้ามมิติมาจริงๆ แค่หลับฝันไปตื่นหนึ่ง พอตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ที่นี่เลย… ไม่รู้มันเป็นไปได้ยังไง แต่ก็เป็นไปแล้ว...

 

นี่สมควรเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่...

 

ตอนนี้ เธอเดินทางข้ามผ่านมิติ มาอยู่ในหมู่บ้านเซี่ยเจีย, เมืองฉีหลี่, มณฑลชิงเหอ, ราชวงศ์ต้าโจว และ อยู่ในร่างของสตรีนางหนึ่ง ชื่อ หลู่เจียว ที่เป็นภรรยาของ เซี่ยหยุนจิน

 

หลู่เจียวผู้นี้ อธิบายเป็นคำพูดค่อนข้างยาก ไม่เพียงเป็นคนหยาบคายปากร้ายเท่านั้น แต่เธอยังชอบกดขี่ข่มเหง ทุบตีและด่าทอคนอื่นๆ แม้แต่ลูกของเธอเองก็ยังถูกเธอทุบตีอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเด็กน้อยทั้งสี่จึงกลัวเธอมาก…

 

….

 

เช้านี้ หลู่เจียว เมื่อตื่นนอนขึ้นมา และต้มไข่ 2 ฟอง เพราะมันร้อนเกินไป เธอจึงยังไม่กินมัน แต่เมื่อเธอกลับมา ไข่ก็หายไป

 

เธอจึงคิดว่าลูกชายของเธอแอบกินไข่ทั้ง 2 ฟองไป แล้วเธอก็หยิบไม้ขึ้นมาไล่ทุบตีพวกเขา ผลก็คือ เธอใช้กำลังมากเกินไป ลื่นล้ม ศีรษะกระแทกหินดับอนาถ แล้วเธอก็เข้ามาสิงร่าง ยืมศพนี้คืนชีพ ถือเป็นการข้ามมิติที่อึนๆงงๆ

 

หลู่เจียว พยายามลุกขึ้นอย่างยากเย็น และเมื่อลุกขึ้น เธอก็พบว่า ร่างกายนี้ เต็มไปด้วยไขมัน เลยคำว่าอวบมาหน่อยหนึ่ง น่าจะเรียกว่าหญิงอ้วนก็ได้ และการลุกขึ้นอย่างง่ายๆ กลับทำให้เธอถึงกลับมีเหงื่อออก

 

หลู่เจียว จ้องที่ตัวเองด้วยใบหน้าที่มืดมน แล้วคิดถึงเด็กน้อยสี่คนที่ผอมแห้ง ไม่ค่อยมีเนื้อ เธออดไม่ได้ที่จะเห็นใจคนตัวเล็กพวกนั้น

เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอเวียนศีรษะ เพราะเสียเลือดเล็กน้อย จึงไปพักผ่อนที่บ้าน

 

ทันทีที่ หลู่เจียว เดินเข้าไปในห้องหลักของบ้านดินที่ทรุดโทรม เธอได้ยินเสียงหายใจไม่ออกเล็กๆ จากห้องนอนทางทิศตะวันออก

 

“พ่อครับ ข้าไม่ได้ขโมยไข่ของนาง”

 

“ข้าก็ไม่ได้ขโมยเหมือนกัน พ่อสอนให้พวกเราไม่ขโมย และพวกเราก็จะไม่เป็นขโมย”

 

“แต่นางไม่เชื่อเรา นางโทษเราที่ขโมยอาหารแล้วทุบตีเราด้วยไม้เรียว”

 

มีการร้องไห้มากมายในห้องนอนทางทิศตะวันออก การร้องไห้นี้ไม่เหมือนกับการร้องไห้ของเด็กธรรมดาๆ มันแทบเป็นการสะอื้นไห้แบบคับข้องใจ แค่ฟังก็ทำให้คนรู้สึกทนไม่ได้

 

หลู่เจียว ไปที่ห้องทางทิศตะวันออกโดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เธอเข้าไป เด็กสี่คนที่ร้องไห้อยู่ในห้องก็เงียบทันทีราวกับไก่ถูกเชือด ใบหน้าสีเหลืองซีดทั้งสี่เปลี่ยนเป็นสีซีดขาวพร้อมกัน และทั้งสี่ก็รีบหันไปทาง หัวเตียง ท่าทางอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปชิดผนัง

 

หลู่เจียวกำลังจะพูดเมื่อจู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้นบนเตียงว่า "หลู่เจียว เจ้าห็นไหมว่า ข้าเป็นอัมพาต และดูแลเจ้าไม่ได้ ดังนั้นเจ้าจึงก่อปัญหาอีกแล้ว"

 

หลู่เจียว มองไปที่เตียงโดยไม่รู้ตัว และเธอก็รู้สึกทึ่งกับรูปลักษณ์นี้

 

มีชายร่างผอมนอนอยู่บนเตียงเก่าที่ทรุดโทรม แม้ว่าชายคนนั้นจะผอม แต่ใบหน้าของเขาเป็นสามมิติอย่างสุดจะพรรณนา ผมสีดำของเขาดำเหมือนหมึก ผิวของเขาเนียนราวกับหยก คิ้วและตาของเขาก็ดูดี น่าสนใจยิ่งขึ้น

 

เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังคงความหล่อเอาไว้อยู่

 

ในเวลานี้ รูม่านตาที่มืดมิดของเขา เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด และเขาจ้องมองไปที่หลู่เจียวอย่างเย็นชา

 

ถ้าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ในตอนนี้

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนๆนี้สามารถหักคอของเธอได้

 

บนเตียง เซี่ยหยุนจิน เห็นว่า หลู่เจียว ไม่ได้เคลื่อนไหวและพูดอีกครั้งด้วยความรังเกียจอย่างสุดๆ

 

"ข้าบอกว่า เจ้าไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำมันอีก เจ้าไม่ได้ยินหรือไง?"

 

หลังจากฟังคำพูดของ เซี่ยหยุนจิน แล้ว หลู่เจียว ก็อยากจะอธิบายโดยไม่รู้ตัว "ฉันเหรอ?"

 

เพียงแต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นนอกประตู ก่อนที่ใครจะเข้ามา เสียงของความกังวลก็เข้ามาก่อน

 

“น้องสาม วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นแล้วหรือยัง”

 

คนในห้องมองไปที่คนที่เดินเข้ามาจากประตู เขาดำและผอม หลังค่อม แม้ว่าเขาจะอายุไม่ถึงสามสิบ แต่พวกเขาก็ดูแก่ยังกับคนวัยสี่สิบ

คนนี้เป็นพี่ชายคนที่สองของ เซี่ยหยุนจิน เซี่ยเอ้อจู

 

เมื่อสามวันก่อน เซี่ยหยุนจิน ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากรถม้าชนกันในเมือง เขาและพ่อของเขา เซี่ยหยวนเซิน เป็นคนแรกๆที่ขอให้ใครสักคนพาเขาไปที่ เป่าเหอถัง ร้านยาในเมือง เพื่อขอให้หมอรักษา อาการบาดเจ็บของเซี่ยหยุนจิน

 

หลังจากการตรวจอาการของเซี่ยหยุนจิน หมอก็บอกว่า เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการรักษา และไม่แน่ว่าจะหาย

 

เมื่อ เซี่ยหยวนเซิน และคนอื่นๆ ได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที แล้วพวกเขาก็คุยกันว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บต่อดีหรือไม่? และหลังจากที่เซี่ยหยุนจินเป็นอัมพาต ใครจะคอยทำงานแทนเขา

 

เซี่ยหยวนเซิน และภรรยา ให้กำเนิดลูกชายสี่คนและลูกสาวหนึ่งคน และเซี่ยหยุนจิน อยู่ในอันดับที่สาม

 

เซี่ยหยวนเซิน ชอบลูกชายคนโต และภรรยาของเขา ชอบคู่แฝดที่อายุน้อยที่สุดที่เธอให้กำเนิด

 

เซี่ยหยุนจิน และพี่ชายคนที่สองของเขาไม่ได้รับการต้อนรับจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อ เซี่ยหยุนจิน อายุแปดขวบ อาจารย์ผู้สอนโรงเรียนในเมือง พบว่าเขาฉลาดมาก อาจารย์มาที่ประตูและเกลี้ยกล่อม เซี่ยหยวนเซิน และนางเซี่ย ให้ปล่อยให้เขาไปโรงเรียน

 

ต่อมาเขาก็แสดงผลงาน ได้อย่างน่าอัศจรรย์ สอบตงเฉิงก่อน และต่อมาก็สอบซิ่วไฉ

 

นี่คือนักปราชญ์บัณฑิตน้อย ที่ไม่ได้ปรากฏตัวในหมู่บ้านเซี่ยเจีย มาหลายสิบปี ทุกคนในหมู่บ้านเซี่ยเจีย รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขา รวมทั้ง เซี่ยหยวนเซิน และนางเซี่ย ก็เป็นที่เคารพนับถือ และทุกคนก็ปฏิบัติต่อพวกเขาเป็นอย่างดี

 

ผลสรุปสุดท้ายของการประชุมของครอบครัวเซี่ย ในวันนั้น

 

คือการให้เขาแยกบ้าน และมอบเงิน 5 ตำลึง ให้เซี่ยหยุนจิน เพื่อให้เขารักษาบาดแผล

 

เจ้าของร่างเดิม ไม่เห็นด้วยกับการแยกบ้านครั้งนั้น จึงร้องด่าโวยวาย และครอบครัวเซี่ย ก็เพิกเฉยต่อเธอ และส่งพวกเขา มาที่บ้านหลังเก่าโดยตรง

 

เซี่ยหยวนเซินโกรธมาก ที่โดนหลู่เจียวด่าว่า ดังนั้นเขาไม่ได้ให้เงินเซี่ยหยุนจิน เพื่อรักษาเพิ่มอีก

 

ในท้ายที่สุด เซี่ยเอ้อจู พี่ชายของเขา ก็เอาเงินเก็บที่เซี่ยหยุนจิน เคยให้เขาในอดีต ไปที่เป่าเหอถัง เพื่อซื้อยาแล้วแอบต้มยาบนเขา แล้วค่อยนำลงมาให้เขา ด้วยวิธีนี้ ชีวิตของเซี่ยหยุนจิน จึงจะได้รับการช่วยเหลือชั่วคราว

 

บนเตียง เซี่ยหยุนจิน เมื่อได้ฟังคำพูดของ เซี่ยเอ้อจู และใบหน้าของเขาอ่อนลง

 

“พี่รอง ข้าดีขึ้นมากแล้ว”

 

เซี่ยเอ้อจู ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเดินไปข้างเตียงอย่างรวดเร็ว "น้องสาม ดื่มยา ข้าจะเปลี่ยนยาในร่างกายของเจ้าในภายหลัง"

 

หลู่เจียวกำลังจะถาม ว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอหรือเปล่า?

 

ใครจะไปรู้ว่าก่อนที่เธอจะพูด ทันใดนั้น เซี่ยหยุนจิน ก็หันกลับมามอง คิ้วและตาของเขาก็เย็นเยียบ ราวกับเธอกำลังยืนอยู่บนก้อนน้ำแข็งในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ เขาตะคอกเสียงเอ่ยออกมา “ออกไปซะ”

กลับหน้าหลัก ตอนถัดไป