ฉันมันก็แค่เด็กขาดความอบอุ่นคนนึงที่พ่อแม่แยกทางกัน ฉันเคยสงสัยว่าแม่กับน้าคนนั้นกำลังทำอะไรกัน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความใคร่รู้ใคร่ลองของฉันจนถึงทุกวันนี้
ฉันมันก็แค่เด็กขาดความอบอุ่นคนนึงที่พ่อแม่แยกทางกัน ฉันเคยสงสัยว่าแม่กับน้าคนนั้นกำลังทำอะไรกัน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความใคร่รู้ใคร่ลองของฉันจนถึงทุกวันนี้
น้าเอกมันค่อยๆโน้มตัวลงมาแล้วจับเอาท่อนเอ็นของมันยัดเข้ามาในร่องเเคบที่ฉ่ำแฉะของเด็กหญิง มือนึงก็บีบขยำเต้านมอูมเล็กไป พลางกัดฟันสูดปากคำรามเสียงแหบพร่าในลำคอ
ขณะนั้นเวลาทุ่มนึงเห็นจะได้ กระเเสลมก็โหมพัดเอาข้าวของรวมไปถึงกะละมังซักผ้าที่ถูกวางคว่ำเอาไว้ตรงลานซักล้างก็ปลิวชนกันดังโครมครามอยู่ภายด้านนอกของตัวบ้าน หน้าจอทีวีที่กำลังฉายละครภาคค่ำอยู่จู่ๆก็ถูกดับพรึ่บลงพร้อมกับเเสงไฟโดยรอบ จึงทำให้ภายในซอยนั้นมันมืดดับลงและถูกแทนที่เข้ามาด้วยเเสงไฟจากเปลวเทียน หากแต่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ ที่ตอนนี้นั้นเด็กหญิงในวัยเพียง12ขวบกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของชายชู้รักของเเม่เธอเอง
เสียงเม็ดฝนก็เริ่มทะยอยตกกระทบสาดลงบนหลังคาสังกะสีดังเปาะแปะๆ ก่อนจะโหมกระหน่ำตกลงมาราวกับห่าฝน อรอนงค์หายใจถี่แรงขึ้นเรื่อยๆ หัวใจดวงน้อยก็ระรัวเต้นตึกตักๆ ดังปานกลองเพล เมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกกดแอ่นเอาท่อนเนื้อขนาดเท่าแขนของเด็กหญิงเสียบเเทงร่องน้อยเข้ามาเบาๆทีละนิดๆ
"อูยยย ฮีเด็กนี่มันยัดเข้ายากจริงๆสิวะ! อย่างนี้แหล่ะกูชอบ" เขายกยิ้มสูง
"นะ..น้า หนูเจ็บ"