Your Wishlist

พลิกลิขิตฟ้าคว้าใจเธอ (ตอนที่ 95 พิษรักแรงหึง (3))

Author: อักษรเงิน

เมื่อถูกใส่ร้าย! อดีตนักแสดงสาวก็ตกหลุมพลางและถูกฆ่าตายในที่สุด ทว่าสวรรค์ยังมีตาให้เธอกลับมาเกิดใหม่ และคราวนี้เธอต้องการแก้แค้นและเพื่อค้นหาความจริง! คราวนี้เธอตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ตกหลุมพรางของความรักอีก แต่! ใครบอกเธอได้ว่าทำไมอดีตสามีที่น่ารำคาญถึงตามหลอกหลอนเธอทั้งวันทั้งคืนแบบนี้!

จำนวนตอน :

ตอนที่ 95 พิษรักแรงหึง (3)

  • 24/07/2565

เจ็บ... วินาทีที่รู้สึกตัว เธอก็รู้สึกเจ็บที่ศีรษะ คล้ายมันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอสะบัดหน้าเบาๆ ไล่ความมึนงง จากนั้นก็ค่อยๆ เรียบเรียงความคิด เธอกลับมานอนพักที่โรงแรม จากนั้นถูกลักพาตัว ใช่แล้ว เธอถูกเหยียนหนานเซิงลักพาตัว และใช่แล้ว เธอถูกเหยียนหนานเซิงกระหน่ำตีบนรถ เธอไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ทั้งแขนและขาถูกมัด ปากก็ถูกสก็อตเทปปิด เธอได้แต่หลบเลี่ยงทำเท่าที่จะทำได้เท่านั้น

 

เธอนอนตะแคงบนพื้นไม้ รู้สึกว่าร่างกายกำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ พิษไข้ทำให้เธอไร้เรี่ยวแรง ดวงตาสองข้างก็ร้อนไปด้วย ตอนนี้อุณหภูมิในร่างกายของเธอคงสูงมาก เธอพยายามกลืนน้ำลายที่เหนียวข้น แม้แต่จะกลืนลงคอก็ยังยากลำบาก คอของเธอก็เจ็บคล้ายมีเข็มนับร้อยทิ่มแทง

 

เธอกระพริบตา มองไปรอบๆ ห้องที่มืดสลัว มีเพียงแสงไฟสีส้มอมแดงดวงเล็กๆ ที่พอจะมองให้เห็นอะไรอยู่บ้าง มีโต๊ะตัวหนึ่ง และเก้าอี้หนึ่งตัวที่มีคนนั่งอยู่ เหยียนหนานเซิงนั่นเอง ตอนที่เจอกันบนรถ สภาพของเหยียนหนานเซิงก็ว่าดูไม่ได้แล้ว มาตอนนี้กลับยิ่งดูไม่ได้มากกว่าเดิม เธอเหมือนคนวิกลจริต สายตาหลุกหลิกไปมาตลอด และพึมพำอะไรไม่รู้

 

บนโต๊ะมีปืนอยู่หนึ่งกระบอก สวี่เฉียวหลียังคงนอนตะแคงมองเหยียนหนานเซิงและปืนกระบอกนั้นสลับไปมาเงียบๆ

 

“ตาย มันต้องตาย มันต้องตาย ต้องตายให้หมดทุกคน...คนสารเลวพวกนั้นต้องตายให้หมดทุกคน คิกๆๆ ฮ่าๆๆ” เหยียนหนานเซิงเดี๋ยวพึมพำ เดี๋ยวหัวเราะ สวี่เฉียวหลีที่คิดว่าตัวเองใจแข็งก็ยังอดหลอนไม่ได้

 

ตอนที่เธอยังเป็นสวี่ซินหราน ตอนที่กำลังจะถูกเหยียนหนานเซิงผลักตกตึก เหยียนหนานเซิงยังไม่ดูจิตหลุดเท่าตอนนี้

 

หลังจากที่พึมพำซ้ำๆ คำว่าตาย และต้องฆ่า ซ้ำไปซ้ำมา สายตาที่หลุกหลิก มองซ้ายทีขวาที ก็หยุดลงตรงหน้า จับจ้องที่ร่างของสวี่เฉียวหลี

 

“เอ๋ ฟื้นแล้วงั้นเหรอ” เหยียนหนานเซิงแสยะยิ้ม เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้ามาหาสวี่เฉียวหลีอย่างช้าๆ จากนั้นก็นั่งยองๆ ตรงหน้าสวี่เฉียวหลี เธอยื่นมือจับผมที่ปรกหน้าสวี่เฉียวหลี กำแน่น แล้วดึงยกขึ้น

 

“คนอย่างแกก็เหมือนกับสวี่ซินหราน...ร่านเหมือนกัน!” สิ้นเสียงของเหยียนหนานเซิง สวี่เฉียวหลีรู้สึกเจ็บที่โคนผม เธอถูกกระชากผมอีกแล้ว และครั้งนี้มันเจ็บกว่าตอนที่ถูกกัวอันอันกระชากผมตอนนั้นมากนัก

 

“แกมันก็ร่าน อยากได้ผู้ชายของคนอื่น แกมันก็ไม่ต่างจากอีนังร่านสวี่ซินหราน พ่อกับแม่ของแกก็คงอยากจับแกใส่พานถวายให้เจียงจื่อเฉิงสินะ!” พูดจบ เธอก็ถูกเหยียนหนานเซิงจับโขกกับพื้นไม้อย่างแรง

 

“ทำไม? จ้องฉันแบบนั้นทำไม? แกอยากจะตบฉันคืนเหรอ!? ฮ่าๆ แกมันโง่ โง่เหมือนพี่ของแกยังไงล่ะ อีนังสวี่สี่ชิง พี่สาวแก ทั้งโง่ ทั้งงี่เง่า! แกอยากรู้ไหมว่าพี่สาวแกถูกฉันทำยังไงบ้าง? คิกๆๆ ฉันวางยามัน แล้วให้ผู้ชายรุมโทรมมันยังไงล่ะ สะใจชะมัด” เหยียนหนานเซิงหัวเราะสะใจ

 

“ส่วนแก ตกตึกมาจนความจำเสื่อมเลยเหรอ ถึงจำไม่ได้ว่ารอยแผลเป็นบนตัวแกเกิดจากอะไร! ฮ่าๆๆๆ พวกแกมันก็โง่ทั้งพี่ทั้งน้อง! แต่แกโชคดีหน่อยตรงที่เพื่อนของแกรับเคราะห์แทนไป แล้วมีคนมาช่วยแกทัน ไม่งั้น! แกจะได้ลิ้มรสความสุขในนรกมันเป็นยังไง”

 

สวี่เฉียวหลีจ้องเหยียนหนานเซิงอย่างคับแค้นใจ เธอเจ็บใจที่ตัวเองอ่อนแอ เธอเจ็บใจที่ตกเป็นเหยื่อของเหยียนหนานเซิงอีกครั้ง

 

“อะไร? ดูเหมือนแกอยากจะพูดอะไรนะ” สก็อตเทปที่ปิดปากสวี่เฉียวหลีถูกดึงพรวดเดียว เธอเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด ทว่าไม่มีอะไรเจ็บเท่ากับความเจ็บปวดใจตอนนี้

 

“พูดสิ ฉันให้แกพูด!” เธอถูกเหยียนหนานเซิงกระชากผมอีกครั้ง แทนที่เธอจะพูดกลับถุยน้ำลายใส่หน้าหล่อน

 

เหยียนหนานเซิงที่ถูกถุยน้ำลายใส่ โมโหจนเลือดขึ้นหน้า เงื้อมือตบหน้าสวี่เฉียวหลีอย่างแรง ครั้งนี้สวี่เฉียวหลีรู้สึกเค็มในปาก เธอถูกตบจนเลือดกลบปาก

 

“ร่านงั้นเหรอ? คำนี้ฉันว่ามันควรเป็นแกนะ เหยียนหนานเซิง ตามตื้อผู้ชายมาตั้งนานแต่ผู้ชายก็ไม่เคยเหลียวมอง คนที่น่าสมเพชน่ะเป็นแก ไม่ใช่ฉันและสวี่ซินหราน”

 

เจอคำพูดนี้ของสวี่เฉียวหลี เหยียนหนานเซิงก็ตาเหลือก ตกใจ และกำลังจะเงื้อมือตบไปที่หน้าของสวี่เฉียวหลีอีกครั้ง ทว่า.. “ตบสิ ตบเลย! คนอย่างแกทำอะไรไม่ได้ก็ชอบใช้วิธีสกปรกอยู่แล้วนี่ แกมันฆาตรกร ฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อนตัวเอง คนอย่างแกก็ไม่ต่างจากสัตว์นรก!”

 

เหยียนหนานเซิงหน้าซีด “ฆาตรกร? แกรู้ได้ยังไงว่าฉันเคยฆ่าคน? เจียงจื่อเฉิงบอกแกงั้นเรอะ?”

 

“ไม่ต้องมีใครบอก ฉันก็รู้ เพราะแกเคยฆ่าฉันตายไปแล้วครั้งหนึ่งไงล่ะ”

 

เหยียนหนานเซิงทำหน้าไม่เข้าใจ “อีนังบ้า แกพูดบ้าอะไร! ฉันจะไปเคยฆ่าแกตายได้ยังไง คนที่ฉันฆ่าน่ะนังสวี่ซินหรานนู่น! มันนอนเน่าตายอยู่ในหลุมไปแล้ว!”

 

“ฮะ ฮ่าๆๆๆๆ” สวี่เฉียวหลีระเบิดเสียงหัวเราะ “ก็เพราะว่าฉัน...คือสวี่ซินหรานยังไงล่ะ”

 

เหยียนหนานเซิงผุดลุกขึ้น ถอยหลังไปสองก้าว ใบหน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม “พูด..พูดบ้าอะไร! แกจะเป็นอีนังสวี่ซินหรานได้ยังไง ก็มันน่ะตายไปแล้ว!” เหยียนหนานเซิงตะโกน มองหน้าสวี่เฉียวหลีด้วยความไม่เชื่อ ทันใดนั้นเธอก็เหมือนเห็นภาพของสวี่ซินหรานซ้อนทับหน้าของสวี่เฉียวหลี เธอเบิกตาโพรง จะเป็นไปได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ นี่เธอถูกผีนังร่านสวี่ซินหรานตามมาหลอกหลอนงั้นเหรอ?

 

เธอกระพริบตาแล้วมองคนที่นอนอยู่บนพื้นอีกครั้ง สวี่ซินหราน! ทำไมถึงเป็นสวี่ซินหราน! เธอลักพาตัวสวี่เฉียวหลีมาไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอจะเสียสติไปแล้ว

 

สวี่เฉียวหลีมองเหยียนหนานเซิงที่เดินถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ปากก็พึมพำไม่ได้ศัพท์ เธอพยายามดิ้น ขยับเชือกที่มัดมืออยู่ ดูเหมือนว่ามันจะหลวมแล้ว เธอพยายามขยับมือให้หลุด  ขณะที่ขยับมือไปมาอยู่นั้น มือของเธอก็เสียดสีกับเชือกจนปวดแสบไปหมด น่าจะได้เลือดแล้วด้วย เธอพยายามดิ้นๆ และในที่สุดมือของเธอก็เป็นอิสระ แต่เธอยังแกล้งนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น

 

เหยียนหนานเซิงเดินวนไปมาคล้ายหนูติดจั่น ปากก็พึมพำว่า ‘ไม่จริงๆ เป็นไม่ได้ ฉันตาฝาด’ อยู่อย่างนั้น ทันใดนั้น เธอก็หยุดเดิน แล้วสาวเท้าไปยังสวี่เฉียวหลี

 

“ต่อให้แกเป็นสวี่ซินหรานแล้วยังไง! ฉันเคยฆ่าแกตายมาแล้วหนหนึ่ง และครั้งนี้ฉันก็จะฆ่าแกอีก ตายซะ!!” เหยียนหนานเซิงกระชากผมของสวี่เฉียวหลีขึ้นอีกครั้ง กะจะกระแทกศีรษะของสวี่เฉียวหลีกับพื้นจนตาย ทว่ามือของเธอก็ถูกสวี่เฉียวหลีจับเอาไว้

 

“แก!” เหยียนหนานเซิงคำราม สะบัดมือของสวี่เฉียวหลีออกอย่างแรง จากนั้นขึ้นคร่อมบีบคอสวี่เฉียวหลี น้ำหนักที่กดลงมาเดี๋ยวแรงเดี๋ยวเบา ทว่าสวี่เฉียวหลีที่ไข้ขึ้นสูงก็ไม่อาจสู้แรงได้ มือสองข้างก็จับแขนสองข้างของเหยียนหนานเซิงไว้ ขณะที่สติกำลังจะหลุดลอย มือสองข้างของเธอก็เลื่อนจากแขนไปที่ลำคอของเหยียนหนานเซิงแทน จากนั้นก็ออกแรงบีบคอเหยียนหนานเซิง แรงที่เธอกดลงไป ไม่ใช่เดี๋ยวเบาเดี๋ยวแรงเหมือนของเหยียนหนานเซิง แต่มันเป็นแรงเฮือกสุดท้ายตามความเจ็บช้ำที่เธอเคยได้รับจากผู้หญิงสารเลวคนนี้

 

เธออยากให้เหยียนหนานเซิงตาย ตายด้วยมือคู่นี้ของเธอ! สวี่เฉียวหลีหน้าแดง ส่วนเหยียนหนานเซิงตาก็เริ่มเหลือก ทันใดนั้นเหยียนหนานเซิงก็ปล่อยมือ แล้วจับแขนของสวี่เฉียวหลีสะบัดออกอย่างแรง เมื่อลำคอของตนหลุดพ้นจากการเกาะกุม เหยียนหนานเซิงก็หายใจเอาลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ สวี่เฉียวหลีสบโอกาส ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ท้องของเหยียนหนานเซิงอย่างแรง

 

เหยียนหนานเซิงปลิวตามแรงถีบ ล้มกระแทกใส่เหลี่ยมโต๊ะ ศีรษะของเธอล้มกระแทกเข้ากับเหลี่ยมโต๊ะพอดี เธอยกมือกุมศีรษะ เจ็บปวด มึนหัวไปชั่วขณะ

 

สวี่เฉียวหลีรีบยันกายลุกขึ้น แก้เชือกที่มัดขาของตัวเองออกอย่างไว เธอรีบเร่งมือ ฉวยโอกาสตอนที่เหยียนหนานเซิงยังมึนจากการกระแทก เธอก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู

 

ขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือออกไปจับลูกบิด ประตูก็ถูกเปิดออกจากภายนอก หลังจากนั้นทุกอย่างก็รวดเร็วไปหมด เธอได้ยินเสียงผู้ชายร้องว่า ‘ไม่’ แล้วตัวเธอก็ถูกผู้ชายตัวสูงใหญ่กอดไว้แนบตัว พลิกตัวเธอให้หันหลังกับประตู จากนั้นก็มีเสียง ‘ปัง!’ ดังขึ้น มันคือเสียงปืน

 

เธอรู้สึกถึงแรงกระตุกจากผู้ชายที่กอดเธอไว้ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนของเหยียนหนานเซิง ผู้ชายคนนั้นหันกลับหลังไป จากนั้นก็ยกเก้าอี้ขึ้น ขว้างไปทางเหยียนหนานเซิง แล้วเธอก็ไม่รับรู้อะไรแล้ว รู้แต่ว่าเธอถูกผู้ชายตัวโตคนนี้จับมือวิ่งไป วิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งไปไหนก็ไม่รู้ รอบตัวเธอมีแต่ป่า ขณะที่วิ่งก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเหยียนหนานเซิงตามหลังมา และเสียงปืนดังเปรี้ยงปร้าง เป็นระยะๆ

 
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า