จากคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่กำลังสิ้นหวัง สู่องค์จักรพรรดิ์ที่แสนไร้ค่าแห่งแคว้นซู ต่อจากนี้ข้าจะเป็นจักรพรรดิ์ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง!!!
จากคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่กำลังสิ้นหวัง สู่องค์จักรพรรดิ์ที่แสนไร้ค่าแห่งแคว้นซู ต่อจากนี้ข้าจะเป็นจักรพรรดิ์ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง!!!
[ นายท่าน ท่านมีแผนการอย่างไรเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการสอบคัดเลือกเหล่าขุนนางรุ่นเยาว์ เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักโอสถสวรรค์ต้องการที่จะเข้าเฝ้าท่านให้ได้ ]
“ ข้ามีแผนสำรองเตรียมเอาไว้แล้ว ข้าจะสร้างร่างเงาไว้ที่นี่ ส่วนข้าตัวจริงก็จะกลับเข้าวังในคืนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานที่กำลังจะมาถึง ”
เฟยหงนั่งดื่มชาอยู่ภายในศาลาที่สร้างขึ้นข้างเรือนพักของตนพร้อมกับชมแสงจันทร์ยามค่ำคืน ขณะนั้นเองก็มีเสียงเด็กสาวดังมาจากนอกประตูเรือน
“ ท่านอาจารย์เจ้าคะ ฮุ่ยหรานขอเข้าพบท่านเจ้าค่ะ ”
เฟยหงเมื่อได้ยินดังนั้นจึงเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานภายในเรือน แสงสว่างจากภายนอกประกอบเข้ากับโคมไฟแสงสีเหลืองนวลที่เฟยหงใช้เวทย์มนต์สร้างขึ้นทำให้ภายในห้องดูอบอุ่น โต๊ะทำงานที่สร้างจากไม้หอมสลักลวดลายของกิเลณ เคลือบด้วยยางไม้สีดำ เข้าคู่กับเก้าอี้ไม้สีดำมันวาว ให้ความรู้สึกเคร่งขรึมไม่น้อย
“ เข้ามาได้ ”
ฮุ่ยหรานเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามา พลางแสดงท่าทางวิตกกังวัล แน่นอนว่าเฟยหงย่อมรู้ดีว่าเรื่องที่นางต้องการจะพูดคือเรื่องใด
“ ท่านอาจารย์เจ้าคะ ท่านอย่าโกรธ อย่าเกลียดพวกข้าเลยนะ ข้าสัญญาว่าจะไม่ดื้อ ไม่ซน เชื่อฟังคำสั่งสอนของอาจารย์อย่างเคร่งครัด เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ท่านอาจารย์โปรดลงโทษข้าด้วย!!! ”
ฮุ่ยหรานรีบคุกเข่า ใบหน้าเล็กกลั้นน้ำตาที่ตอนนี้จวนจะไหลออกมาจากดวงตากลมโตแต่กลับแสร้งปั้นหน้ายิ้มเอาไว้ จนเฟยหงอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ พูดกันตามตรงทั้งฮุ่ยหราน เหวินหลงและเหวินอวี้ ในตอนนี้ก็เปรียบเสมือนลูกของเฟยหงแล้วเช่นกัน
“ เจ้าเด็กดื้อ ใครบอกว่าข้าจะโกรธ จะเกลียดพวกเจ้ากัน ด้วยวัยของพวกเจ้าในตอนนี้จะซนไปบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพราะการกระทำของตน ส่วนเรื่องในครานี้ข้าไม่เห็นพวกเจ้าจะสร้างความเดือดร้อนให้ข้าตรงไหนเลย ไหนเจ้าลองบอกมาซิ ”
“ ก็ข้าทำลายม่านพลังของอาจารย์จนเกิดความเสียหาย เพราะแบบนั้นแล้ว ขะ..ข้า.. ”
ฮุ่ยหรานกล่าวยังไม่ทันจบประโยค น้ำตาเม็ดเล็กพลันไหลออกจากดวงตาคู่งามอย่างไม่อาจห้ามได้ มือเล็กรีบใช้ชายเสื้อซับน้ำตาอย่างเร่งรีบ
เฟยหงจึงลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปหาพลางพยุงให้นางลุกขึ้น
“ เงยหน้าขึ้นมาสิ เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเหตุใดต้องก้มหน้า ไม่ได้ทำความผิดก็ยืดอกเข้าไว้ ”
ฮุ่ยหรานก้มมองที่หน้าอกของตัวเองพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างคลำหาอะไรบางอย่าง
“ อาจารย์ ข้าไม่มีหน้าอกนะเจ้าคะ แล้วข้าจะใช้สิ่งใดยืดแทนเล่า ”
เด็กสาวพูดขึ้นด้วยท่าทางใสซื่อ แววตาแฝงไปด้วยความกังวลหนักหนาที่ตนไม่มีสิ่งที่อาจารย์พูดถึง
“ มันก็แค่คำเปรียบเปรยเท่านั้นแหละ ส่วนม่านพลัง เจ้าดูนี่นะ ”
เฟยหงเพียงยื่นมือออกมาข้างเดียวก็มีคลื่นพลังสีส้มเบาบางพุ่งตรงไปที่ม่านพลังที่เสียหาย ทันใดจุดที่เคยเสียหายกลับค่อยๆผสานเข้าหากัน จนในที่สุดร่องรอยต่างๆก็คืนสู่สภาพสมบูรณ์
ฮุ่ยหรานมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง
“ อาจารย์ของข้าเยี่ยมยอดที่สุดเลย ”
“ แน่นอน ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้านี่ อีกอย่างบ้านหลังนี้เป็นของพวกเจ้าโดยสมบูรณ์แล้ว เมื่ออยู่ในนี้จะไม่มีใครเข้ามาทำอันตรายพวกเจ้าได้ รับสิ่งนี้ไว้ ”
เฟยหงล้วงมือเขาไปในแขนเสื้อ แล้วยื่นแผ่นไม้เนื้อดีที่สลักอักษรสีทองเอาไว้ให้กับฮุ่ยหราน
“ นี่คือสิ่งใดเจ้าคะ ”
“ แผ่นไม้นี้เปรียบเสมือนใบอนุญาตผ่านทาง ข้ามอบหน้าที่ให้เจ้าเป็นผู้ดูแลบ้านหลังนี้ ตัวแผ่นไม้จะเป็นสื่อกลางในการสั่งงานของกลไกต่างๆของบ้าน รวมทั้งมันยังใช้ในการเปิดปิดม่านพลัง
แม้บ้านหลังนี้จะมีเรือนปลีกย่อยอีกหลายหลัง แต่ตรงส่วนกลางของบ้านจะมีลูกแก้วที่อาจารย์สร้างไว้เพื่อสอดส่องดูแลบ้านหลังนี้ หากมีบุคคลอื่นบุกรุกเข้ามามันจะปรากฎใบหน้าของคนผู้นั้น ถ้าเจ้าจะให้เขาเข้ามาเพียงเอ่ยปากบอกกับแผ่นไม้นี้ ค่ายกลจะเปิดออกให้เขาเข้ามา แน่นอนว่าข้าไว้ใจให้เจ้าคอยควบคุมดูแล เจ้าอย่าได้ทำหน้ากังวลเช่นนั้นเลย ”
ฮุ่ยหรานยื่นมือออกมารับแผ่นไม้ก่อนจะนำมันมาเก็บไว้ตรงอกเสื้อ แล้วรีบยืนขึ้นทำความเคารพเฟยหงอีกครั้ง
“ ศิษย์จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง แม้เหวินหลงและเหวินอวี้จะติดเล่นไปบ้าง แต่ข้าเชื่อว่าพวกเราจะช่วยการดูแลบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี ท่านอาจารย์วางใจได้ ”
เฟยหงคลี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนจะบิดกายไปมา ใกล้เวลาที่จะต้องกลับเข้าวังเพื่อไปดำเนินแผนการขั้นต่อไปแล้วสินะ แต่ทว่า..
“ อาจารย์ข้ามีคำถามบางอย่างอยากจะถามท่านจะได้หรือไม่เจ้าคะ ”
“ ว่าอย่างไร ไหนเจ้าลองว่ามาสิ ”
แม้เฟยหงจะอนุญาต แต่นางก็แสดงสีหน้าครุ่นคิดคล้ายกับกำลังชั่งใจว่าควรถามออกมาดีหรือไม่
“ มีอะไรก็ถามมาได้เลยมิต้องเกรงใจ อย่างไรเราก็เป็นศิษย์อาจารย์กัน ”
“ คือว่า ความจริงแล้วท่านเป็นจักรพรรดิ์ซูเฟยเหยียนท่านนั้นใช่ไหมเจ้าคะ ”
บรรยากาศในห้องพลันเงียบสงบ เฟยหงใบหน้าชะงักค้างไปชั่วขณะ
“ ซีโร่... ”
[ ท่านไม่ต้องถามข้า ท่านเป็นคนบอกนางเองว่าไม่ต้องเกรงใจ แล้วข้าก็ไม่สามารถลบความทรงจำใดๆของนางได้ทั้งสิ้น ข้าเป็นเพียงผู้ช่วยของท่านเท่านั้น เงื่อนที่ท่านผูกขึ้นมา ครานี้ท่านก็ต้องแก้ด้วยตัวเอง ข้าขออนุญาตไปพักก่อน ]
“ เจ้า!!! ”
เหยฟงก้มมองหน้าฮุ่ยหรานที่กำลังส่งสายตาราวกับคาดหวังในคำตอบ จนสุดท้ายเฟยหงก็ตัดสินใจว่าคงถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงออกมาแล้ว
“ ก็อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ ”
“ ไชโย!!! ข้าคิดถูกจริงๆด้วย ”
“ ชู่!!! เบาๆหน่อยเดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นกันหมดพอดี ”
เฟยหงเดินตรงเข้าไปหาฮุ่ยหรานก่อนจะขยี้หัวด้วยความหมั่นไส้
“ ศิษย์ทราบแล้วเจ้าค่ะท่านอาจารย์ ”
ฮุ่ยหรานรีบทำตาโตพร้อมกับนำมือทั้งสองข้างมาปิดปากของตนเอาไว้
“ แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าเป็นจักรพรรดิ์ซูเฟยเหยียน ไหนลองเล่ามาสิ ”
“ อย่างแรกเลยนั่นก็คือ ท่านอาจารย์หายไปไหนมาไหนบ่อยมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ข้าเริ่มสงสัย สิ่งสำคัญคือหนังสือเคล็ดวิชา ทั้งหมดล้วนต่างเป็นของสำหรับองค์จักรพรรดิ์ทั้งสิ้น
คราแรกที่ท่านอาจารย์บอกว่าเป็นสหายกับองค์จักรพรรดิ์ ข้าก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนกระทั่งก่อนหน้านี้ที่ห้องโถง ท่านแสดงท่าทางผิดปกติออกมา
ทันทีที่เจ้าสำนักเอ่ยว่าจะขอเข้าพบองค์จักรพรรดิ์ ลมหายใจของท่านก็ขาดช่วงเล็กน้อย น้ำเสียงหยุดชะงักไปชั่วคราวคล้ายกับมีบางอย่างขององค์จักรพรรดิ์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ข้าจึงสรุปออกมาเช่นนี้ ”
เฟยหงถึงกับตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าท่าทางเพียงเล็กน้อยจะทำให้เด็กสาวผู้นี้คาดเดาสิ่งต่างๆได้หมดจด
“เจ้าช่างสังเกตถึงเพียงนี้ ช่างเป็นเด็กที่มีความสามารถในการวิเคราะห์เสียจริง สิ่งที่เจ้ากล่าวมาแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ แต่เดี๋ยวนะ.. ”
ชายหนุ่มฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะกล่าวถามฮุ่นหรานผู้เป็นศิษย์
“ เจ้าแอบดูข้ามาตลอดเช่นนั้นหรือ? ”
“ เอ่อ อาจารย์นี่ก็ดึกแล้วฮุ่ยหรานคงต้องขอตัวก่อน แล้วข้าจะไม่บอกใครเด็ดขาดว่าท่านเป็นจักรพรรดิ์วางใจได้เลย ”
ขณะที่ฮุ่ยหรานกำลังเร่งฝีเท้าเพื่อจะออกจากห้อง เฟยหงก็ใช้พลังทำให้ฮุ่ยหรานตัวลอยขึ้นจากพื้น
“ แง ท่านอาจารย์ โปรดอภัยให้ข้าด้วย ”
“ ในเมื่อเจ้ารู้มันก็ช่วยไม่ได้ เจ้าต้องทำงานให้ข้าอย่างหนึ่งในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่ในฐานะอาจารย์ แต่เป็นคำขอของจักรพรรดิ์ เจ้ายินดีช่วยข้าหรือไม่ ”
เฟยหงค่อยๆปล่อยเด็กสาวลงมา ฮุ่ยหรานแม้จะเป็นเด็กสาวอายุยังน้อยถ้าเทียบกับโลกก่อนที่เฟยหงจากมา แต่ความคิดของนางนั้นกลับลึกซึ้งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียด้วยซ้ำ
เด็กสาวก้มหน้าพร้อมกับย่อตัวลง
“ ฮุ่ยหรานยินดีรับใช้องค์จักรพรรดิ์ซูเฟยเหยียนเพคะ ”
จบตอน