Your Wishlist

จักรพรรดิจำเป็น (เส้นลมปราณ)

Author: torki

จากคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่กำลังสิ้นหวัง สู่องค์จักรพรรดิ์ที่แสนไร้ค่าแห่งแคว้นซู ต่อจากนี้ข้าจะเป็นจักรพรรดิ์ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง!!!

จำนวนตอน : ตอนที่ 1 บทนำ

เส้นลมปราณ

  • 15/01/2565

 

“ เอ๋!!!! ”

 

“ พวกเจ้าจะตกใจอะไรกัน ในเมื่ออยากให้ข้ารับพวกเจ้าเป็นศิษย์ก็ย่อมได้ ดูจากท่าทางของพวกเจ้าก็ดูมีพรสวรรค์ที่ควรจะส่งเสริม แต่พวกเจ้าไม่รู้ก็แค่นั้นแหละ ว่าไงสนใจมาเป็นศิษย์ของข้าไหม? ”

 

เด็กน้อยทั้งสามหันมองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งสามคนจะคุกเข่าลงกับพื้น

 

“ คาราวะอาจารย์!! พวกข้าทั้งสามจะไม่มีทางลืมบุญคุณครั้งนี้เลย ”

 

“ ลุกขึ้นๆ ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ไปคุยที่อื่นกันเถอะ ที่นี่ไม่เหมาะจะคุยกันสักเท่าไร..ถ้าจะเดินไปก็คงเสียเวลา..เดินมาเกาะข้าเอาไว้แน่นๆอย่ามือมือจากข้าเป็นอันขาดเข้าใจนะ ”

 

เด็กน้อยทั้งสามรีบเข้ามาจับมือเฟยหงเอาไว้แน่น

 

[ นายท่าน ทักษะกระโดดเหินเวหาของท่านยังไม่ได้ลองใช้กระบวนท่าการเคลื่อนไหวของมันเลยนะ แม้ว่าท่านจะสามารถจดจำได้เพียงครั้งเดียวแต่มันก็ยังต้องผ่านการฝึกฝน ]

 

“ นี่แหละคือการเริ่มฝึกของข้า ”

 

ตึง!!

 

เฟยหงกระโดดจากพื้นดินสูงกว่า10เมตรพร้อมกับหอบร่างของเด็กน้อยทั้งสามไปด้วย..

 

“ สะ..สุดยอดเลยย!! ”

 

เด็กน้อยทั้งสามต่างอุทานพร้อมกันด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น

 

“ นี่สินะ ความรู้สึกของลมปราณ การเกื้อหนุนจากพลังภายในทำให้การกระโดดของข้าเหมือนกับฐานปล่อยจรวดเพียงอัดแรงระเบิดเข้าไปที่กำลังขาและกระโดดขึ้นมา แต่ดูเหมือนจะสูงเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา ”

 

เฟยหงกระโดดเหยียบย่างบนหลังคาและกระโดดข้ามกำแพงออกนอกเมืองด้วยฝีเท้าอันเงียบเชียบ

 

 

...............................................................

 

ณ พระราชวัง

 

“ ทำไมห้องบรรทมถึงปิดประตูเงียบเช่นนี้? ”

 

หนึ่งในขันทีกล่าวถามขึ้นด้วยความสงสัย

 

“ องค์จักรพรรดิ์ทรงรับสั่ง ห้ามผู้ใดเจ้าพบเป็นอันขาด หากไม่อนุณาติก็ห้ามเปิดประตูเข้าไป ”

 

“ อย่างงั้นหรือ? เออนี่เจ้า ข้าได้ข่าวมาว่าตั้งแต่องค์จักรพรรดิ์ทรงฟื้น ท่านก็ทำตัวแปลกประหลาดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างนั้นหรือ? ”

 

สาวใช้รีบพุ่งเข้าไปปิดปากของขันทีผู้นั้นในทันที

 

“ นี่เจ้าอยากโดนตัดหัวรึยังไง นี่มันใช่เรื่องที่สมควรพูดออกมาหรือ ”

 

“ แสดงว่าเป็นความจริงสินะ ทั้งหาญหักหน้าท่านผู้แทน..ขุนนางในวังก็ต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้กันให้ทั่ว จากปกตินิสัยเงียบขรึมไม่พูดไม่จา หน้าที่แทบจะทั้งหมดก็ยกให้ผู้แทนเป็นผู้จัดการ..แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าท่านจะมีนิสัยที่แตกต่างออกไป แล้วไหนจะเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่อยู่กับองค์จักรพรรดิ์อรกเล่าิ.... ”

 

 ชู่ว!!! องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งห้ามพูดถึงเรื่องนี้เป็นอันขาด ใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนัก!! ”

 

...............................................................

 

ณ ใจกลางป่าใหญ่

 

“ เอาล่ะ ที่นี่แหละที่ข้าจะใช้ฝึกฝนพวกเจ้าและปลุกเส้นลมปราณของพวกเจ้า..อ้อจริงสิ ข้ายังไม่ได้ถามชื่อพวกเจ้าเลย พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง? แล้วครอบครัวของพวกเจ้าเล่า ”

 

เด็กทั้งสามคนหันมองหน้าพร้อมกัน

 

“ ท่านอาจารย์พวกข้าทั้งสามคนไม่มีพ่อไม่มีแม่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกข้าทำงานอยู่ในสลัมจนมาเจอกับท่านอาจารย์นี่แหละ อีกอย่างพวกข้านั้นก็ไม่มีชื่อแซ่เช่นกัน ”

 

เฟยหงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยสามคน

 

“ งั้นข้าจะเป็นคนตั้งชื่อให้กับพวกเจ้าทั้งสามคนเองว่าไง? หากพวกเจ้าไม่ต้องการข้าก็ไม่บังคับ ”

 

“ อาจารย์ อย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลย นี่นับเป็นบุญวาสนาของพวกเราทั้งสามคนที่ได้เจอท่าน โปรดตั้งชื่อให้กับพวกเราทั้งสามคนด้วย อาจารย์ ”

 

[ นายท่าน การตั้งชื่อให้กับเด็กพวกนี้ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ภายในตัว ]

 

ซีโร่กล่าวบอกเฟยหงที่กำลังจะตั้งชื่อให้กับเด็กน้อยทั้งสามคน

 

“ หืม? ยังไงกัน การตั้งชื่อให้กับเด็กพวกนี้มีทั้งผลดีแบะผลเสียด้วยอย่างงั้นหรือ? ”

 

[ ใช่แล้วนายท่าน การที่นายท่านตั้งชื่อใหม่ให้กับเด็กทั้งสามคนนี้ จะทำให้เด็กพวกนี้ต้องติดตามท่านไปตลอดชีวต อีกทั้งไม่สามารถคิดหักหลังหรือกระทำการใดๆที่เป็นอันตรายต่อตัวท่านได้ และเด็กทั้งสามคนนี้จะเชื่อฟังคำสั่งของท่านในทันทีเมื่อท่านต้องการ แม้ท่านจะสั่งให้พวกเขาฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ท่านออกคำสั่งเท่านั้น รูปแบบคล้ายกับสัญญาทาส ]

 

เฟยหงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็อดที่จะคิดไม่ได้

 

“ เอาเป็นว่าเรื่องการตั้งชื่อ ข้าจะตั้งให้คราวหลังก็แล้วกัน ตอนนี้ข้ายังคิดชื่อให้กับพวกเจ้ายังไม่ออก..เอาละพวกเจ้าทั้งสามคนไปนั่งห่างกันคนละ สองก้าว ทำจิตใจให้สงบ ข้าจะปลุกเส้นลมปราณให้กับพวกเจ้าเอง ”

 

“ ศิษย์รับทราบแล้วอาจารย์!!! ”

 

เด็กน้อยทั้งสามคนต่างนั่งห่างกันพร้อมกับหลับตาลงตั้งสมาธิ สายลมพัดผ่านผืนป่าเงียบสงบ แสงแดดอ่อนๆค่อยๆสาดส่องลงมาทั้งสามคน

 

[ นายท่าน การปลุกเส้นลมปราณท่านต้องส่งพลังลมปราณของท่านเข้าไปกระตุ้นเส้นลมปราณของทั้งสามคน และส่วนชีพจรมังกรนั้นเป็นเส้นชีพจรที่ละเอียดอ่อน ท่านต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้พลังทั้งสองนั้นเกิดการแทรกซ้อนระหว่างพลัง 

ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ถ้าพลาดขึ้นมาอาจทำให้คลื่นลมปราณของเด็กทั้งสามคนนี้เกิดความไม่เสถียร อาจจะส่งผลร้ายต่อทั้งสามคน ]

 

“ อืม ข้าเข้าใจแล้วตำราในห้องข้าพออ่านผ่านจดจำวิธีการและขั้นตอนได้ทั้งหมดแล้ว ย่อมไม่มีปัญหา ”

 

เฟยหงเดินไปข้างหลังของเด็กทั้งสามคน ก่อนที่เฟยหงจะปลดปล่อยลมปราณบริสุทธิ์ออกมาส่งผ่านไปยังร่างให้กับเด็กน้อยทั้งสามคน เพื่อเป็นการกระตุ้นเส้นลมปราณ

 

[ เริ่มกระบวนการปลุกเส้นลมปราณ 

10%..

 

20%..

ระดับลมปราณเสถียรไม่มีสิ่งใดผิดปกติ 

 

เส้นลมปราณของทั้งสามค่อยๆตอบสนองต่อพลังลมปราณของท่านแล้ว ]

 

“ ความรู้สึกแบบนี้เองสินะ ที่เรียกว่าลมปราณหากเป็นในโลกเก่าข้าคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้เป็นแน่...

แต่หน้าแปลกนัก เส้นลมปราณของสามคนนี้มีขนาดที่หนาและใหญ่มาก เมื่อเทียบกับคนทั่วๆไปแล้วถือว่า มีขนาดใหญ่กว่า2-3เท่า ”

 

[ นี่คืออีกหนึ่งความพิเศษของชีพจรมังกร นายท่านอาจจะยังไม่รู้ ความสามารถของชีพจรมังกรนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่มากมาย แม้แต่ข้าเองก็ไม่มีข้อมูลที่แน่นอนชัดในด้านนี้ ชีพจรมังกรจะขยายเส้นลมปราณพลัง แบบนี้จึงทำให้ทั้งสามคนมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ]

 

“ เป็นแบบนี้เองสินะ ดูเหมือนว่าบางอย่างแม้แต่ซีโร่เองก็มิอาจรับรู้ได้ เอาเถอะอย่างไรก็ไปสืบดูภายหลังได้อยู่ดี

ขั้นตอนสุดท้ายทะลวงจุดลมปราณ!! ”

 

เฟยหงพลันรีบดันพลังทั้งสามสายส่งให้กับศิษย์น้อยสามคน จุดลมปราณของทั้งสามจึงถูกเปิดออกในที่สุด!!

 

ตึง!!!!

 

บังเกิดคลื่นลมระเบิดออกมา เพียงชั่วครู่พลังลมปราณไหลเวียนทั่วร่างของพวกเขา..ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเช่นนี้ ความรู้สึกถึงพลัง

 

“ ความรู้สึกนี่มัน.. ”

 

เด็กน้อยทั้งสามคนต่างหันหลังกลับไปคุกเข่าหน้าผากจรดพื้น..พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างมิอาจหักห้าม...

 

“ พวกข้าทั้งสามคาราวะท่านอาจารย์ ขอบคุณท่านอาจารย์ พวกข้าขอบคุณท่านจริงๆ ”

 

[ ปลุกเส้นลมปราณ เสร็จสิ้น 100% ]

 

“ ลุกขึ้นๆพวกเจ้าทำอะไร เห็นไหมเสื้อผ้าสกปรกหมดแล้วทั้งใบหน้ายีงเปื้อนดินอีก พวกเจ้านี่จริงๆเลย ”

 

เฟยหงประคองศิษย์ให้ยืนขึ้นพร้อมกับปัดเศษดินที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าและใบหน้า คล้ายบิดากำลังดูแลบุตรก็มิปาน

 

“ อาจารย์ ชั่วชีวิตนี้พวกข้าทั้งสามจะติดตามท่านไปจนชีวิตหาไม่!!! ”

 

“ ข้าก็ด้วย ”

“ ข้าด้วย พวกข้าทั้งสามคนขอสาบาน หากพวกข้าผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงทัณฑ์!! ”

 

[ นายท่าน ศิษย์น้อยสามคนของท่านเหล่านี้ดูเหมือนจะมีไหวพริบไม่เบา รู้จักการใช้คำพูดคำจาช่างเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์โดยแท้ โชคดีของเด็กน้อยทั้งสามคนที่มาเจอท่าน ทางที่ดีท่านควรตั้งชื่อให้กับทั้งสามคนเลย อย่างน้อยท่านก็สามารถรับรู้ได้ว่าเด็กน้อยทั้งสามคนอยู่ไหน ในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ]

 

ซีโร่กล่าวเสริม เฟยหงได้ยินเช่นนั้นก็ลูบหัวเด็กน้อยทั้งสามคนด้วยแววตาที่อบอุ่น

 

“ ข้าจะตั้งชื่อให้พวกเจ้า.. ”

 

 

 

 

จบตอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป