Your Wishlist

สัมผัสรัก ค่ำคืนเหมันต์ nc++ (จวนสกุลเสิ่น 5 การมาเยื่อนของโหวน้อย nc)

Author: หนิงเซียน

ไม่มีหรอกคำว่า ‘ลอง’ มีแต่ทำ หรือ ไม่ทำ..ดื้อก็ดุเเหละเเต่ก็โอ๋ตลอด..เพราะนางเป็นเพียงน้องน้อย

จำนวนตอน :

จวนสกุลเสิ่น 5 การมาเยื่อนของโหวน้อย nc

  • 19/04/2564

ฝ่ายอาลักษ์ พระราชวัง

จินอิงขอลาหยุดไว้สี่ ห้าวัน วันนี้เขามาทำงานใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขามาทำงานในขณะที่รู้ดีว่า พี่ใหญ่ต้องเล้าโลมไม่ปล่อยให้น้องหญิงได้พักดีๆ เป็นแน่ เขาเป็นห่วงในจุดนี้ ครั้งแรกของสตรีเล่าลือกันว่าเจ็บมาก แต่น้องหญิงกลับใช้ท่าพิสดารกับพวกเขา สองคนพี่น้องนางคงเจ็บไปไม่น้อยเลยจริงๆ คงระบมไปทั้วตัวแต่ไม่กล้าเอ่ย ขากลับจวน เขาน่าจะแวะร้านยาซื้อหายาบำรุงชั้นดีของสตรี และแก้ช้ำไปให้นางด้วยดีกว่า

ระหว่างทางขากลับจินอิงพบสหายสนิดที่ไม่ได้เจอมานานอย่าง หวังลู่ หรือ โหวน้อย บุตรชายคนเดียวของป่อโหว ที่มีสีหน้าบึงตึงเดินผ่านมา คิดจะหันหลังหนี ก็หลบไม่พ้นสายตาจิ้งจอกคู่นี้ไปได้คุยกันไปกันมา ไม่นานนักเขาก็ต้องพาสองนายบ่าวคู่นี้กลับจวนไปด้วยความจำใจ ภายในรถม้าหวังลู่ เล่าเรื่องของเขากับท่านโหวผู้เป็นบิดา จินอิงรับฟังเรื่องราวของการไม่ลงรอยของสองพ่อลูกที่มีต่อกันเป็นเรื่องปกติ แม้จะเอ่ยห้ามปรามไปบ้างแต่ด้วยอารมณ์ลูกผู้ชายเลือดร้อนของหวังลู่ แม้สงบเพียงนิดก็ปะทุขึ้นได้ทุกเมือ

จวนสกุลเสิ่น

บรรยากาศแตกต่างจากข้างนอกอย่างสิ้นเชิง ที่ห้องครัวคุณชายใหญ่จินอู่และคุณหนูเล็กจินหลาน สองหนุ่มสาวเหมื่อนคู่รัก ข้าวใหม่ปลามัน อยู่ตัวติดกันไม่ห่าง ภายในจวนไม่มีใครกล้านินทาเรื่องเจ้านาย ต่างรู้ดีว่านอกจากนายหญิงใหญ่แล้วรองลงมาในอนาคตก็คือ คุณหนูจินหลานที่นายหญิงเลี้ยงดู หมายมาดมาตั้งแต่เล็กๆ ให้นางมาเป็นนายหญิงของบ้าน ความสนิดชิดเชื้อ ของคุณชายใหญ่และคุณหนูเล็กเป็นไปตามความต้องการของนายหญิงใหญ่ ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ความหวานชื่นนี้ เหมื่อนนายหญิงเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้ใกล้ชิดกันให้มากขึ้น

จินหลานทำกับข้าวของโปรดของพี่ใหญ่ไว้หลายอย่าง เห็นพี่ใหญ่ช่วยหันผัก ก็อมยิ้มเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะก้มตัวเข้าไปหอมแก้มเขา อย่างออดอ้อนเอาใจ ช่วงบ่ายนี้เรียวแรงเพิ่งกลับมา หลังจากกินยาไปหนึ่งเทียบและนอนหลับเพิ่มไปงีบหนึ่ง ความเสียวซ่านหน่วงๆ ที่ช่วงล่าง หน้าและหลังค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ พอขาหายสั่น หายเสียว ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เห็นพี่ใหญ่ตามเข้ามาในครัวด้วยก็ไม่เอ่ยห้ามปราม ในโลกยุคโบราณจะมีคำพูดประมาณว่า "ลูกผู้ชายไม่เข้าครัว" ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ลองคิดเล่นๆ ถ้าครอบครัวหนึ่งที่เขายากจนมากๆ มีแค่หลานชาย กับย่าอยู่กันแค่สองคน ถ้าหลานชายไม่เข้าครัวไปทำอาหารเอง จะไม่ต้องอดตายหรือ? ชีวิตจริงมันก็ต้องยืดหยุ่นถูกไหม? แค่เข้าครัวไม่ได้ไปสนามรบเสียหน่อย??

ฉันเห็นท่าทางเกงก้าง ก็ไม่ขัดขวาง หรือช่วยเหลือพี่ใหญ่ รอให้เขาถามออกมาเองให้เขาได้เรียนรู้ แล้วค่อยเข้าไปช่วย ตอนนี้ยังไม่อยากขัดขวางจินตนาการของเด็กชายจินอู่อายุสามขวบ ที่เพิ่งเข้าครัวเป็นครั้งแรก ฉันได้แต่อมยิ้มแล้วคว้าหยิบตะกร้าผักไปล้างน้ำอีกรอบก่อนจะลงกระทะ ระหว่างผัดจู่ๆพี่ใหญ่ก็เอามือมาลูบศรีษะอย่างเอ็นดูไม่ได้เอ่ยคำใด รู้สึกว่าเขาพรมจูบไปทั่วที่หัวไหล่ ก่อนจะสวมกอดพลางโยกตัวไปมาในระหว่างทำกับข้าว ฉันได้แต่หันหน้าไปมองพี่ใหญ่แล้วก็ยกยิ้มอย่างจนใจแต่ก็เอ็นดู จะมีใครรู้บ้างหรือไม่? ในตอนนี้รองเจ้ากรมอากรที่เลืองชื่อในความเจ้าระเบียบ และเข้มงวดในกฏของราชสำนัก จะทำตัวออดอ้อนโอ้เอ๋เป็นเด็กน้อยตัวติดกันอยู่แบบนี้ บริเวณโดยรอบไม่มีบ่าวรับใช้ พี่ใหญ่กับฉันช่วยกันถือคนละจานสองจาน และเรียกให้บ่าวคนสนิดช่วยถือโถข้าวและน้ำชาตามหลังมา

ศาลาริมน้ำ

เราสองคนมานั่งทานอาหารเย็นกันที่นี้ เปลียบรรยากาศมีร่มไม้ มีสายสม และฝูงปลาแหวกว่าย บรรยากาศร่มรื่นมาก ในระหว่างที่กินข้าวมือแรกของวัน ก็เห็นพี่รองเดินตรงมาทางนี้พร้อมกับชายอีกคนที่แต่งกายดูเคร่งครึม

เมื่อเดินเข้ามาใกล้หวังลู่ก็ต้องตกตะลึงในความงามของสตรีเบื้องหน้า เรียกได้ว่างามล้ำเหนื่อกว่า แม่นางซินเอ๋อร์ หญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงเสียอีก ยิ่งเห็นรอยยิ้มก็แทบให้เขาหายใจสะดุดไปหนึ่งจังหวะ นางเป็นแม่นางที่งามอย่างยิ่ง เห็นจินอิงก้าวเข้าไปในศาลา เขาก็คลี่พัดโปกไปมาเล็กน้อย เหยีดหลังตรงเดินตามเข้าไปด้านใน เห็นนางมองเขาคราหนึ่งแล้วก็ไม่มองอีก รับของจากมือจินอิง และช่วยบ่าวตักข้าวในโถใส่ถ้วยให้จินอิง ก่อนจะส่งโถข้าวคืนให้บ่าวมาตักข้าวให้เขาอย่างสุภาพ โดยปกติเวลาเขามาที่จวนสกุลเสิ่นก็ไม่เคยเห็นแม่นางน้อยมาก่อนเลย แต่ก็เพราะส่วนใหญ่เวลาที่เขามาก็มักจะไปที่ห้องหนังสือโดยตรง หรือโถงรับแขกของจวน

จินอิงให้เทียบยากับจินหลานก่อนจะส่งสายตาห่วงใย และเอ่ยกำชับนางเสียงดุเสียงหวาน ว่าต้องกินให้หมด ห้ามเหลือเด็ดขาด ร่างกายต้องรู้จักถนอม เห็นนางพยัคหน้ารับรู้เขาเอ่ยเล่าเรื่องหวังลู่ให้พี่ใหญ่ฟังคราวๆว่าหวังลู่จะมาขอพักอยู่ที่จวนเป็นการชั่วคราว สาม สี่วัน ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรแต่พอได้ยินสาเหตุแล้วก็ขมวดคิ้ว นี้..นี้คือการหนีออกจากบ้าน(ชั่วคราว) จริงๆปัญหามันไม่ได้ใหญ่โตนะ แค่คุยกันดีๆก็น่าจะจบ แต่คุยด้วยอารมณ์เลยเป็นเรื่องใหญ่โตแบบนี้ ฉันอาจจะมองด้วยสายตาคนนอก แต่คนอย่างหวังลู่ ที่เป็นคนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ก็ได้ คนที่ได้รับการสืบทอดตำแหน่งเป็นท่านโหวมาตั้งแต่ยังเด็ก ก็คงมีศักดิ์ศรีที่คำคออยู่..แต่โหวน้อยคนนี้ก็น่าจะต่างจากชาวบ้านชาวช่องอยู่บ้าง ได้ยินว่าเขาชื่นชอบสายบู้ จึงหนี้แอบไปสมัคทหารในตำแหน่งเล็กๆที่ไม่สะดุดตามากนัก และตอนนี้ก็ฝ่าฟันได้เป็นนางกอง ของท่านแม่ทัพหงส์เฉิน ประจำการที่เมื่องหลวง แต่พอตอนนี้ที่กำลังจะโยกย้ายเลือนขึ้นตำหน่งอีกขั่น เพราะไม่มีที่ลงจึงต้องไปประจำที่เมืองลั่วหยางซักประมาณสองปีแล้วค่อยมองหาตำแหน่งว่างๆในเมืองหลวงกลับเข้ามาประจำการที่นี้เหมื่อนเดิม แค่เรื่องเท่านี้ก็เกิดการถกเถียงในครอบครัวเสียแล้ว จะว่าท่านโหวมากไปก็ไม่ได้ ตอนนี้อายุก็มากแล้วแต่จวนโหวกลับมีลูกชายสายตรงแค่คนเดียวคือ หวังลู่ แถมหวังลู่คนนี้ก็มีแค่สาวใช้อุ่นเตียงคอยปฏิบัติสองคน ยังไม่ได้แต่งพระชายาเอกหรือพระชายารองเลยด้วยซ้ำ ทำให้ตอนนี้จวนโหวไร้ทายาทสายตรงในรุ่นเหลน เรื่องนี้รู้กันไปทั่วในหมู่ของสตรีในห้องหอ บุรุษมีชื่อเสียงและบรรดาศักดิ์ มักเป็นที่หมายปองของสตรี รูปร่างรึก็หล่อเหลา สูงใหญ่กำยำ สง่างามอย่างยิ่งเวลาขี่ม้า แต่ข้อเสียคือพูดจาไม่ไว้หน้า หากโดนมารยาร้องแปดของสตรี เขาจะพูดออกมาทันทีอย่างไม่ไว้หน้า!!ไม่สนใจว่าเป็นลูกสาวบ้านไหน!?!ก็เอ่ยอย่างไม่เกรงใจ กิตติศักดิ์นี้ทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี จุดประสงค์การทะเลาะกันในครั้งนี้ คงหนี้ไม่พ้นที่จะให้ลูกชายออกจากราชการ แล้วกลับมาสืบทอดตำแหน่งโหวอย่างเต็มตัว

เห็นพี่ใหญ่เอ่ยปรามหวังลู่ ประโยค สองประโยค ก่อนจะรับรังนกมาจากบ่าวที่ด้านข้าง วางไว้ที่ด้านหน้าของฉัน แล้วพูดสอนต่อเหมื่อนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ได้เห็นการกระทำที่ลืนไหล ก็ต้องอมยิ้มกับการใส่ใจเล็กๆน้อยๆก่อนจะยกถ้วยขึ้นมาดื่มปกปิดรอยยิ้ม และความรู้สึกที่ถูกลูบๆวนๆบริเวณขาอ่อนอยู่ใต้โต๊ะนี้ ก็อดหันข้างมองไปที่พี่รองไม่ได้ เห็นเขามองมาด้วยสายตาห่วงใย ฉันก็ยิ้มบางแล้วสายหน้าน้อยๆราวกับ กำลังบอกว่า "น้องไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ไม่เป็นไร มันดีขึ้นแล้ว" ก่อนจะกินรังนกต่อ จินอิงเห็นว่าน้องหญิงไม่เป็นอะไรมากแล้วก็หันไปเอ่ยพูดคุยกับพี่ใหญ่ชักชวนเรื่องที่คิดไว้ในใจทันที "พี่ใหญ่ข้าลางานมาสอง สามวัน เห็นว่าจินหลานอยากไปบ้านพักที่เฮอสุ่ย นอกตัวเมืองที่ใกล้น้ำตก งั้นพวกเราก็ไปกันดีหรือไม่?" จินอิงกล่าวอย่างยิ้มแย้ม แล้วหันไปเอ่ยต่อกับหวังลู่ "หวังลู่พวกเรายกจวนให้เจ้าเลย ฝากดูแลด้วย" หวังลู่ได้ยินดังนั้นก็รีบเอ่ยขัดทันทีอย่างตัดความหวัง "นี้..เจ้าคิดจะทิ้งข้า เอาไว้ในจวนคนเดียวรึ!ไม่ได้นะ ข้าขอปฏิเสธ!ยังไงข้าก็ไม่ใช่คนอื่น คนไกล พี่ใหญ่หากพวกท่านไปก็พาข้าไปอีกคน ข้าก็อยากหาที่สงบใจ อยู่เงียบๆบ้าง ข้ายังไม่เคยไปบ้านพักที่เฮอสุ่ย สกุลเสิ่นของพวกท่านเลย พวกเราก็คบหากันมานานแล้วนะ พาข้าไปบ้างสิ!" หวังลูเอ่ยชักแม่น้ำทั้งสาย กล่าวออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ เรื่องอะไรจะทิ้งเขาไว้เฝ้าจวน แล้วตัวเองก็พากันออกไปเทียวอย่างสนุกสนาน ส่วนเขาต้องอยู่ที่จวนฝ่ายเดียว แบบนั้นเขาก็อดได้ทำความรู้จักกับแม่นางน้อยตรงหน้ากันพอดีสิ! หวังลู่หันหน้าจะเอ่ยต่อ ก็เห็นจินหลานยิ้มแย้ม พยัคหน้าอย่าดีใจ เหมือนลูกเจี้ยบจิกข้าวสาร

ตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ชีวิตของฉันก็ถูกจำกัดอิสระ แม้จะปรับตัวได้แล้ว ก็มีบ้างที่เบื่อ รู้สึกอุดอู้กันบ้าง..วัดเอ่ย ตลาดเอ่ย ร้านค้าเอ่ย ของเหลานี้ในเมืองหลวงเห็นจนปกติแล้ว หายตื่นตาตื่นใจไผนานแล้ว ฉันเองก็ยังไม่เคยที่จะไปไหนไกลๆนอกเมืองหลวงในยุคโบราณเลย คนไปเยอะๆก็ดีจะได้เหมือนทริปเทียวหน่อย ว่าแล้วก็รีบคว้าโอกาสอันหาได้ยากทันที่ เอ่ยเสียงหวานใส ออดอ้อน "พี่ใหญ่ พี่ พวกเราไปเทียวกันเถอะนะเจ้าคะ มากคนก็ยิ่งครึกครืน ไปกันหมดเลย" ยิ่งคิดว่าจะได้ไปเทียวดวงตาก็เปล่งประกาย ก่อนจะคิดได้อีกเรื่อง "อ่ะ! แต่ว่าห้องนอนจะพอรับรองพวกเราและท่านโหวไหม?? " เพิ่งคิดได้ก็รีบเอ่ยดักไว้ก่อน หันหน้าไปหาหวังลู่เอ่ยทันทีว่า "ท่านโหวน้อยเจ้าคะ คือว่า พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา ยิ่งบ้านที่เฮอสุ่ยหลังนั้นก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายมากๆ หากท่านโหวน้อยไปอาจจะไม่สมฐานนะ ไม่สะดวกสะบายนัก แต่ถ้าหากท่านอยากพักผ่อนหาความสบายใจ และไม่ยึดติดเรื่อนหลังน้อยไม่ถือสามากนัก บ้านที่เฮอสุ่ยก็พอจะรับรองให้ได้เจ้าคะ อ้อ! ที่นั้นในตัวเมืองมีโรงเตี๊ยมด้วยนะเจ้าคะ" กล่าวจบก็ยิ้มแย้มทีทันที หวังลู่เห็นนางกล่าวมาเช่นนี้ก็ยิ้มเล็กน้อย "แม่นางคือ?" 

.

จวนสกุลเสิ่น ที่ เฮอสุ่ย

หลังจากที่ตัดสินใจว่าจะมาแล้วก็ให้บ่าวในจวนเก็บของให้เรียบร้อย หลังมืออาหารก็ออกเดินทาง เมือมาถึงก็เป็นเวลาค่ำแล้วค่อนคืนแล้ว

ภายในห้องพักชั้นใน ห่างไกลทางเดิน มีเสียงครวญคราง แว่วหวานลอดออกมาเป็นระยะ ทั้วทั้งบริเวณไม่มีบ่าวรับใช้ ภายในห้อง หลังฉากกัน น้ำกระเฉาะออกมาจากถังอาบน้ำ สองร่างกำลังแอบอิ่งคลอเคลียจินหลานได้แต่จับขอบอาง เกยคางกับถังพยามกันเสียงคราง ลมหายใจที่กระชั้นถี่  มืออีกข้างไขว้ไปที่ด้านกลังช่วยเสียดสีขึ้นลงเป็นจังหวะให้พี่รอง ถูกเล้าโลมมานานจนผลอิงเถาที่หน้าอกชูชั่น ทั้งด้านล่างก็ถูกมือเรียวยาวสอดเข้ามาซักพักแล้ว เสียดสีไปจนกระสัน เสียงลมหายใจของพี่รองดังอยู่ข้างหู และลิ้นซุกซนเล็มใบหูอย่างหยอกเย้า และด้านบนก็ถูกเค้นคลึง โลมเลียหยอกเย้าอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะหันหน้าเข้าหากันอย่าร้อนรุ่มปราณนา สบตาอย่างรู้ใจจูบดูดดื่มรักใคร่ บดเบียดรุนแรงตามแรงปราณนา

ไฟในใจแผดเผาฉันดันตัวพี่รองออก แล้วขึ้นไปนั่งตักเขาก่อนจะขมวดคิ้วแน่น แม้ว่าจะมีน้ำคอยช่วย แต่ก็ยังคับแน่น พอพี่รองขยับสะโพกช่วย เร่งจังหวะหนักขึ้น ก็ทนกลั้นเสียงไม่ไหวอีกแล้ว ได้แต่เกร็งท้องน้อย สั้นคอนไปมาพอถูกจับเปลียนท่าไปเรือยๆ น้ำในอ่างกระเฉาะไปทั้วเสียงคราญครางด้วยความรันจวน จู่ๆพี่รองก็เปลียนท่ายกตัวฉันขึ้น อุ้มไปที่เตียงจูบกันเล็กน้อย แล้วถูกจับให้หันหลัง กดหลังลงมาฉันเอียงหน้าแนบกับหมอน ยกสะโพกขึ้นสูงตามมือพี่รอง พอนิ้วชำแรกเข้าไป แล้วค่อยๆเร็งจังหวะให้หนักขึ้น ฉันเจอนิ้วเรียวยาว ที่ไม่ปราณีปราศัยเร่งเร้าจังหวะ ก็ร้องเสียงดังออกมาอย่างลืมตัว ไม่นานแก่นกายพี่รองก็สอดเข้ามาขยับสะโพกต่อเนื้ออย่างดุดัน ฉันนั้นตัวกระตุ๊กเกรง น้ำหวานนั้นชโลมจินอิงน้อย เขานั่นรั้งสะโพกนางขึ้นอีก แรงเพิ่ม คว้าจับแขนของนางก่อนจะผ่อนแรงลง ลูบคลึ่งก้นขาวผ่อง เปลียนให้นางนอนลง แก่นกายก็ไม่ได้หลุดออก เขาอยากจะรุนแรงกว่านี้อีกซักหน่อย แต่ช่องรักที่คับแคบทำให้เขากลั้นไว้แทบไม่อยู่ เขาพยามยื้อให้นานที่สุด นางก็ยังรัดเขาแน่น ทั้งหน่วงทั้งเสียว กลิ่นอารมณ์ใคร่อบอวลอยู่ภายในห้อง เขาเปลียนมาที่ด้านหลัง คว้าน้ำผึ้งที่เตรียมไว้ชะโลม แล้วชำแรกช้าๆ เห็นนางคราง กระเส้า กำผ้าปูเตียงแน่น เขาเองก็เจ็บเพราะความแน่นเช่นกัน  "น้องหญิงอย่ารัดพี่แน่นนัก แน่นนัก" ปากพูดเสียงต่ำสั้นๆ  แต่สะโพกกลับเร็งจังหวะอย่างดุดัน ลึกมากอย่างยิ่ง พี่รองรั้งกดเอวไว้ ไม่ไห้ตัวเขยื่อนไปไกล ฉันได้แต่ร้องคราง เสียวซ่านอยู่พักหนึ่งพี่รองล้มลงมานอนทับ สอดมือกุ้มไว้ แล้วเร็งจังหวะให้หนักขึ้น ไม่นานรอบๆปากล่างก็มีฟองขาวขุ่น เขาหันหน้าไปจูบนาง เร็งสะโพกก่อนจะปล่อยน้ำรัก ออกมา ความอุ่นร้อนทำให้ลำตัวนางกระตุกเกร็ง เขากระแทกอีกสาม สีที่ก็ถอนออก ความขาวขุ่นไหลตามหยดออกมาเป็นทาง เขามองผลงานตัวเองอักนิดก่อนจะไปนอนข้างๆนาง ฉันนอนครู่เดียวพอให้หายเหนื่อยแล้ว ก็เริ่มยื่นหน้าเข้าไปไกล้ หอมแก้มและเล็มริมฝีปาก ก่อนจะพรมจูบกันค่อยๆลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ พอถูกพี่รองดันหลัง ให้เข้ามาใกล้มาก็ขึ้นจนต้องแหงนคอรับแรงบดจูบพี่รอง ที่ตอนนี้กำลังอยู่เหนือร่างฉัน "อยู่ด้วยกันนะ"จู่ๆพี่รองก็พูดออกมาไม่มีปีไม่มีขลุ่ย สมองฉันทำงานไม่ทัน กำลังเคลิ้มรสจูบ และมืออุ่นร้อนที่เข้ามาหยอกเย้ากลีบกุหลาบจนชื้นแฉะ เสียงประตูห้องถูกเปิดออกมา

คนที่เข้ามาหาใช่ใครอื่น พี่ใหญ่ก้าวเข้ามาภายในห้อง ฉันมองผู้มาใหม่จู่ๆพี่รองก็สอดนิ้วอุ่นร้อนเข้ามาลึกยิ่งขึ้น"ฮึก! ซื้ด!"จนฉันต้องซูดปาก หันไปมองเขา จินอิงรู้สึกหมั่นใส่ที่น้องหญิงสนใจพี่ใหญ่มากกว่า ก็ไม่สนใจพี่ใหญ่จับมือนางรวบเข้าหากัน ตรึงไว้เหนื่องศรีษะ ด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างก็สาวถี่เล้าโลมเร่งจังหวะกุหลาบงามที่ชื่นแฉะ จนตอนนี้สะโพกไม่ติดพื้น ปลายเท้าจิกเกร็ง หลับตา ขมวดคิ้ว กัดปาก พลางส่งเสียงครางกระเสา อย่างทรมาณเสียวซ่าน พอพี่ใหญ่มาน้องหญิงก็ปล่อยเสียงครางดังเต็มเสียง ออกมาดังทันที เห็นพี่ใหญ่ยื่นอยู่ที่เดิมมาซักพักก็จะเรียก แต่หางตากลับเห็นร่างเงาอีกร่างอยู่ข้างบานประตู เขาได้แต่ขมวดคิ้วแน่น ระหว่างที่คิดกระแสความอุ่นร้อนก็ปะทะเข้าที่ปลายนิ้ว ก่อนจะชะโลม เต็มมือ เรียกสติ ออกจากภวังของตัวเอง เห็นนางเสร็จแล้ว กำลังขาสั้น พอก้นถึงพื้นก็รีบหนีบขาเข้าหากันทันที ลมหายใจไม่คงที่ ลำตัวกระตุ๊กเกร็ง

เห็นว่าห้องเงียบๆ พี่ใหญ่ไม่เข้ามาด้วยก็เงยหน้าขึ้นไปดูก็ต้องตกใจ!! นี้มัน..นี้มันไอ้คุณชายหวังลู่นิน่า!!!! ฉันนั้นตาเบิกโตทันที่อย่างตกใจ รับคว้าผ้าใกล้มือมาคลุมร่างกายทันควัน นี้มีนอะไรกัน!!!

 ----- หมายเหตุ/อ้างอิง -----

บรรดาศักดิ์ชั้น ‘โหว’ 侯

เป็นบรรดาศักดิ์รองจากชั้น กง ได้รับยศจากการสืบสกุล หรือได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิ เนื่องจากมีความดีความชอบ ส่วนบรรดาศักดิ์ชั้นรองจากโหว คือ ‘ป๋อ’ 伯 ‘จื่อ’ 子 และ ‘หนาน’ 男

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป