ตอนที่ 293: หวางซินหยวนคนโง่
อย่างไรก็ตามขณะที่กู้หนิงกำลังเดินไปที่ทางเข้าของถนน คนๆหนึ่งก็เงื้อมีดในมือขึ้นตะโกนว่า "นังสารเลว! ฉันจะฆ่าแก!"
ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจ แต่กู้หนิงยังคงสงบนิ่ง หวางซินหยวนนี่โง่จริงๆเลย
กู้หนิงไม่หลบ เธอรอให้หวางซินหยวนพุ่งเข้ามาหา ขณะที่มีดในมือของหวางซินหยวนกำลังจะแทงร่างกู้หนิง กู้หนิงจับข้อมือของหวานและบิด หวางซินหยวนกรีดร้อง มีดในมือหล่นลงพื้น
ทุกคนตะลึงกับการเคลื่อนไหวกระทันหันของกู้หนิง
กู้หนิงจับหวางซินหยวนโยนลงพื้นโดยไม่ลังเล
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหวางซินหยวนคงร้องไห้ไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่ทำอย่างนั้น เธอจ้องกู้หนิงตาไม่กระพริบ “นังสารเลว เป็นแกใช่ไหม? เป็นแกที่เปิดโปงตระกูลหวางของฉัน?”
ผู้คนฉงน มองไปที่กู้หนิง กู้หนิงเป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่นในสายตาของพวกเขา เธอจะไปทำอะไรตระกูลหวางได้?
กู้หนิงไม่สนใจว่าใครจะมอง เธอมองหวางซินหยวนด้วยสายตาเย็นชา “เธอมีหลักฐานรึเปล่าล่ะ?”
กู้หนิงเข้าใจความรู้สึกของหวางซินหยวนเพราะเธอเป็นสาเหตุให้ตระกูลหวางเสื่อมอำนาจ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมการโจมตีโง่ๆของหวางซินหยวน ถึงอย่างไรหวางซินหยวนก็สมควรได้รับกรรมของเธอแล้ว
“ฉันได้ยินจากคุณปู่ว่าเป็นแก! แกแค้นตระกูลหวาง!” หวางซินหยวนไม่ได้รู้อะไรมากนัก เธอได้ยินแค่ว่ากู้หนิงอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวายของตระกูลหวาง ดังนั้นเธอจึงสรุปเอาว่าเป็นกู้หนิง
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่ก็เป็นไปได้ถ้าหวางซินหยวนได้ยินเรื่องนี้จากหวางหงหมิง อย่างไรก็ตามเธอซึ่งเป็นเด็กสาววัยรุ่นทำได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้คำตอบ
“อ้อ ทำไมเธอไม่บอกทุกคนว่าตระกูลหวางทำอะไรกับฉัน ฉันถึงต้องแก้แค้น?” กู้หนิงถามยั่วยุ
น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของเธอทำให้ฝูงชนสับสนในทันที
กู้หนิงไม่กลัวคนอื่นรู้ว่าเธอเป็นคนเปิดโปงความลับสกปรกของตระกูลหวาง เพราะมันมีแต่จะทำให้พวกเขากลัวเธอ แต่มันก็ไม่เหมาะหากเธอยอมรับในทันที
“เพราะว่าฉันบอกตำรวจให้ไปจับแกไงล่ะ” หวางซินหยวนเอ่ย นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอนึกออก
“นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่ทำให้ฉันถึงกับโกรธแค้นตระกูลหวาง”
“ปู่บอกว่าแกมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นมันต้องเป็นแก!!” หวางซินหยวนโกรธจัด
“ดูเหมือนว่าปู่ของเธอจะประเมินตัวฉันไว้สูง ในเมื่อปู่ของเธอไม่อยากมีเรื่องกับฉัน เธอไม่กลัวว่าฉันจะจับเธอโยนเข้าคุกเหรอ? เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ น่าจะรู้นะว่าการพยายามฆ่าคนนั้นผิดกฎหมาย”
“แก...” หวางซินหยวนหน้าถอดสี การเข้าคุกคือสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการ
ในขณะนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจ มีคนโทรแจ้งตำรวจตอนที่หวางซินหยวนกำลังเอามีดแทงกู้หนิง ตำรวจมาทันทีที่ได้รับรายงานว่าฆาตกรเป็นคนตระกูลหวาง ทุกคนในเมืองเถิงแทบรอไม่ไหวที่จะลงโทษคนตระกูลนี้
หวางซินหยวนลุกขึ้นจากพื้นทันทีด้วยความกลัว พยายามหนี แต่ถูกฝูงชนหยุดไว้
“หลีกไปนะ หลีกไปให้พ้นทางฉัน!” หวางซินหยวนตะโกนอย่างตื่นตระหนก
“พยายามฆ่าคนแล้วอย่าได้คิดหนีเชียว!”
“ตระกูลหวางนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ!”
“พวกเขาควรถูกจับเข้าคุกให้หมดทั้งตระกูล!”
หญิงวัยกลางคนวิ่งไปที่หวางซินหยวนแล้วด่าเธออย่างแรง “หวางซินหยวน นังเด็กสารเลว แกสมควรโดนแล้ว! แกรังแกลูกสาวของฉันมานานแล้วและตอนนี้ถึงตาแกแล้วที่จะได้ลิ้มรสความรู้สึกอับอาย!”
“ใช่ๆ”
พฤติกรรมหยาบคายของหวางซินหยวนเป็นที่โจษขานกันทั่วถนนพนันหิน ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงเกลียดเธอมาก
หวางซินหยวนตัวคนเดียวและทำอะไรไม่ถูกในตอนนี้ เธอกลัวผู้คนที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อเธอ
ไม่นานตำรวจก็มาถึงและพาหวางซินหยวนออกไปโดยไม่รอช้า กู้หนิงตามพวกเขาไปที่สถานีตำรวจด้วยเพราะเธอเป็นเหยื่อ
“ปล่อยฉันนะ! ไม่งั้นตระกูลหวางลงโทษพวกแกแน่!” หวางซินหยวนที่เคยชินกับการข่มขู่คนอื่นตะคอกใส่ตำรวจอย่างเกรี้ยวกราด
“ชิ ตระกูลหวาง? เธอคิดว่าตระกูลหวางยังมีอำนาจอยู่อีกเรอะ?” นายตำรวจหนุ่มกล่าวอย่างไม่ชอบใจ
“แก...” หวางซินหยวนพึ่งรู้ตัวว่าตอนนี้สถานะของเธอไม่เหมือนเดิมแล้ว
“ฮ่า ฮ่า” กู้หนิงหัวเราะเบาๆ ความโง่ของหวางวินหยวนนั้นตลกดีจริงๆ
หวางซินหยวนได้ยินกู้หนิงหัวเราะเธอ และหันมาตะคอกใส่กู้หนิงทันที “อีบ้า! ทั้งหมดเป็นเพราแก! เป็นเพราะแก!!”
ในขณะเดียวกันเธอยังพยายามโจมตีกู้หนิงอีกครั้ง แต่ถูกควบคุมโดยตำรวจที่อยู่ข้างๆเธอ “อยู่เฉยๆ!”
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของหวางซินหยวนจะถูกจำกัด เธอก็ยังสบถด่ากู้หนิงอย่างไม่ยอมแพ้
กู้หนิงมองเธออย่างเย็นชาและเตือนว่า “ถ้าเธอกล้าด่าฉันอีกครั้ง ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเธอจะเงียบตลอดไป”
ตอนที่ 294: สารภาพ
หวางซินหยวนรู้สึกหวาดกลัวแลหุบปากของเธอทันที แม้แต่ตำรวจก็ยังกลัวน้ำเสียงเย็นชาของกู้หนิง
ในห้องพิจารณาคดี ตำรวจคนหนึ่งกำลังสอบถามข้อมูลของกู้หนิงตามกฎหมาย
“ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ มาจากไหน?”
“กู้หนิง อายุ 18 มาจากเมือง F” กู้หนิงตอบ
“รู้จักเด็กสาวคนนั้นไหม? เป็นอะไรกัน? ทำไมเด็กคนนั้นถึงต้องการฆ่าเธอ?”
“ฉันมีเรื่องทะเลาะกับหวางซินหยวนสองครั้ง ครั้งหนึ่งตอนอยู่ร้านอาหาร เธอพยายามแย่งห้องอาหารส่วนตัวที่แฟนฉันและฉันเป็นคนจองก่อน แต่พวกเราทะเลาะกันแปบเดียว หลังจากนั้นฉันบังเอิญเป็นพยานเห็นหวางซินหยวนกำลังทำร้ายเด็กสาวคนหนึ่ง วันต่อมาตะกูลหวางก็ส่งตำรวจมาจับพวกเราโดยไม่สอบสวน หัวหน้าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ยินดังนั้นจึงขอให้ปล่อยตัวเราไป หลังจากนั้นความลับสกปรกของตระกูลหวางก็ถูกเปิดเผย แฟนของฉันช่วยฉันให้ได้มาซึ่งสิทธิในการแสวงหาประโยชน์จากวัตถุดิบของตระกูลหวาง ดังนั้นตระกูลหวางจึงอ้างว่าฉันแก้แค้นพวกเขา หวางซินหยวนจึงมาฆ่าฉัน” กู้หนิงเอ่ยเสียงเรียบ สิ่งที่เธอเพิ่งพูดนั้นสามารถค้นพบได้อย่างง่ายดายดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบัง แต่บางอย่างเธอก็มาได้พูดออกไป
นายตำรวจทั้งสองคนเปลี่ยนท่าทีทันทีและยิ้มอย่างใจดี พวกเขาปล่อยกู้หนิงออกไปทันทีโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม
ไม่สำคัญว่ากู้หนิงจะพูดความจริงหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหวางซินหยวนพยายามฆ่าเธอ พวกเขารวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว ดังนั้นหวางซินหยวนจึงถูกจับกุม เธอต้องโทษจำคุกหลายปี
ข่าวร้ายนี้ส่งผลกระทบต่อตระกูลหวางอย่างหนักอีกครั้ง สมาชิกทุกคนตระกูลหวางเกลียดกู้หนิงจนแทบตายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้มีเพียงหวางหงหมิงที่นอนป่วยอยู่บนเตียงพร้อมกับผู้หญิงไร้ประโยชน์ในตระกูลหวาง
เจิ้งเฟิง ถางไห่เฟิง จางเต๋อเฉิง และหยวนซูหยาโทรหากู้หนิงหลังจากที่พวกเขาทราบข่าว เมื่อทราบว่ากู้หนิงปลอดภัยดีพวกเขาก็สบายใจ
ประมาณหกโมงเย็น หวางจินเหมาก็ขับรถบรรทุกมาส่งหินที่โรงงานของกู้หนิง เมื่อพวกเขากำลังเคลื่อนย้ายหิน กู้หนิงก็ได้นำหินทั้งหมดที่มีหยกระดับสูงไปไว้ในโกดังขนาดเล็ก เธอวางแผนที่จะตัดหยกนั้นออกด้วยตัวเองและนำมาทำเป็นเครื่องประดับ และเธอจะส่งให้นักธุรกิจเครื่องประดับคนอื่น ๆที่เหลือ
ตอนนี้เธอทำธุรกิจหลายประเภทเกี่ยวกับหยกและเธอจำเป็นต้องเตรียมการให้ดี
แม้ว่าเจ้าของผู้ให้บริการวัตถุดิบของตระกูลหวางจะเปลี่ยนไป แต่ลูกค้าของตระกูลหวางก็ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตามพวกเขาบางคนกังวลว่าผู้ให้บริการวัตถุดิบหลากสีจะจัดหาวัตถุดิบทั้งหมดที่มีหยกอยู่ข้างในให้กับลูกค้าของผู้ให้บริการหยกหลากสีและเหลือเพียงวัตถุดิบที่เหลือทิ้งไว้ให้พวกเขา อย่างไรก็ตามเจิ้งเผิงสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างยุติธรรม
เลิ่งเชาถิงหายไปสองวันแล้ว เขาไม่ได้กลับมาหรือโทรมาหากู้หนิง แม้แต่ข้อความก็ไม่มี กู้หนิงเข้าใจว่าเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เธอจึงไม่ได้โทรหาเขาเช่นกัน
ในตอนเช้ากู้หนิงได้รับโทรศัพท์จากนายท่านถาง เขากำลังจะกลับไปที่เมือง B เร็วๆนี้และเขาชวนเธอไปทานอาหารด้วยกันก่อนที่เขาจะจากไป
กู้หนิงมีอารมณ์ที่หลากหลายหลังจากที่เธอพบว่านายท่านถางเป็นคุณปู่ของเธอ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นถังอันหนังในร่างของกู้หนิง แต่พวกเธอมีร่างกายและความรู้สึกเดียวกัน
“หนูกู้ๆ มาๆ มานั่งตรงนี้” ถางไห่เฟิงตื่นเต้นดีใจที่เห็นกู้หนิง เขาลุกขึ้นยืนต้อนรับเธอ
“คุณปู่ถาง นั่งลงเถอะค่ะ” กู้หนิงเดินเข้าไปหาและประคองถางไห่เฟิงนั่งลง
“เรียกว่าปู่ก็พอ” ถางไห่เฟิงบ่นนิดหน่อย
“ค่ะคุณปู่” กู้หนิงพูดอีกครั้ง
“ฮ่าๆ ดีมาก! หลานอยากได้อะไรไหม? ปู่จะกลับเมือง B บ่ายวันนี้แล้วและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบหลานอีก” ถางไห่เฟิงเศร้าเล็กน้อย
กู้หนิงไม่อยากเห็นถางไห่เฟิงเศร้า ดังนั้นเธอจึงสัญญาว่า “คุณปู่ ไว้หนูสอบเข้ามหาลัยได้แล้ว หนูจะไปเยี่ยมคุณปู่นะคะ หนูสัญญา”
“ได้สิ ได้ๆ” ถางไห่เฟิงรู้สึกมีกำลังใจ
จากนั้นทั้งสองก็มีรับประทานอาหารอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่ถ่างไห่เฟิงเห็นกู้หนิง เขานึกถึงถังหยุนฟ่านและบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
กู้หนิงเข้าใจว่าทำไมถางไห่เฟิงถึงถอนหายใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรเพราะไม่อยากให้เขาเศร้ากว่านี้
อย่างไรก็ตามกู้หนิงไม่สามารถไม่สนใจได้ เธอจึงถามว่า “คุณปู่ ถอนหายใจทำไมคะ? มีเรื่องไม่สบายใจหรอคะ พอจะบอกหลานได้ไหม?”
ถางไห่เฟิงยินดีบอกกู้หนิงอยู่แล้ว “เฮ้อ ปู่นึกถึงลูกชายคนที่สองน่ะ เขาเอาแต่ทำงานทั้งวันทั้งคืน ปู่ห่วงสุขภาพของเขา อีกอย่างตอนนี้เขาก็อายุ 42 แล้วแต่ไม่ยอมแต่งงานสักที ในฐานะพ่อ ปู่รู้ว่าเขาเหงาลึกๆแม้ว่าจะทำแต่งานและดูสบายดี
ถางหยุ่นฟานใช้ชีวิตมานานกว่าทศวรรษแล้ว และถางไห่เฟิงน่าจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ แต่ถางไห่เฟิงเป็นชายชรา เขาคิดว่าชีวิตของเขากำลังจะจบลงในไม่ช้าและเขาก็กังวลเกี่ยวกับลูกชายคนที่สองของเขา ถางหยุนฟ่าน