Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 65 - 66: ฮก ลก ซิ่ว, อุบัติเหตุ)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 65 - 66: ฮก ลก ซิ่ว, อุบัติเหตุ

  • 04/04/2564

ตอนที่ 65: ฮก ลก ซิ่ว

 

สักพักหยกหงอนไก่สีแดงก็ถูกเอาออกมาเรียบร้อย

 

ในสายตากู้หนิงมันมีขนาดใหญ่มากพอ เธอมีแผนจะทำสร้อยคอสี่เส้น ตุ้มหูสี่คู่และจี้สร้อยค้อสี่อันสำหรับกู้ม่าน กู้ชิง เจียงซินหยูและตัวเธอเอง เธออาจจะทำแหวนอีกวงให้เจียงซู่ด้วย และถ้ามีหยกเหลืออาจจะทำจี้สร้อยคอและตุ้มหูอีกหลายคู่เอาให้กู้ชิงเผื่อขายอาจจะได้เงินหลายล้านหยวน

 

กู้หนิงเห็นเครื่องประดับที่ร้านตระกูลฉิน เธอชอบแบบและการเจียระไนของพวกเขา และอาจจะให้ตระกูลฉินทำงานให้เธอ

 

“นี่ นี่…”

 

โจวเจิ้งหงถือหยกในมือที่เผยออกมาให้เห็นแค่ครึ่งเดียว เขาหายใจเร็วราวกับหัวใจจะกระโดดออกมาข้างนอก

 

“เกิดอะไรขึ้น?” กู้หนิงถามด้วยความงุนงง

 

 

“นี่คือหยกฮกลกซิ่ว หยกแก้ว!” โจวเจิ้งหงเค้นคำพูดออกมาอย่างอย่างลำบาก เขายังอยู่ในอาการช็อค

 

เมื่อรู้ว่ามันเป็น ฮกลกซิ่ว กู้หนิงก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน

 

ฮกลกซิ่วเป็นหยกที่มีสี่สี เขียว แดง ม่วงหรือขาว หยกฮกลกซิ่วเป็นตัวแทนของความสุข โชคลาภ และสุขภาพ

 

มันค่อนข้างหายากและเป็นที่นิยมมาก มูลค่าของมันอย่างน้อยหนึ่งร้อยล้านหยวนและอาจจะมากกว่าหยกแก้วสีม่วง

 

กู้หนิงเปลี่ยนใจทันที เธอตัดสินใจใช้ ฮกลกซิ่ว ทำเครื่องประดับให้ครอบครัวของเธอ แล้วเธอจะขายหยกหงอนไก่สีแดง

 

กู้หนิงดูดซับพลังจากหยกหงอนไก่ แต่ไม่ได้ดูดซับพลังจากหยกฮกลกซิ่ว เธอตั้งใจจะทำเครื่องประดับจากฮกลกซิ่วที่ยังมีพลังสำหรับครอบครัวของเธอ ด้วยพลังทำให้หยกสามารถอยู่ได้ในสภาพที่ดีเป็นเวลานาน

 

“ขัดมันต่อ!” เมื่อเห็นว่าโจวเจิ้งหงกำลังช็อค กู้หนิงรู้สึกอยากจะหัวเราะแต่เธอเข้าใจความรู้สึกของเขา

 

หยกฮกลกซิ่วค่อนข้างหายาก มันถูกจัดอันดับรองจากหยกจักรพรรดิเท่านั้น(หยกราชันย์)

 

เมื่อได้ยินเสียงกู้หนิง โจวเจิ้งหงก็ตั้งสติได้ เขาสูดลมหายใจลึกและพยายามใจเย็น มือของเขายังสั่นอยู่เพราะมันมีค่ามาก เขาประหม่ากลัวที่จะทำลายมันโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ผ่านไปสิบนาที โจวเจิ้งหงก็ตัดเอาหยกออกมาได้สำเร็จ เขาส่งมันไปให้กู้หนิงด้วยมือที่ยังสั่นเทา

 

กู้หนิงรับหยกฮกลกซิ่วมา เธอถูกมันดึงดูดด้วยเช่นกัน

 

หินดิบสามก้อนถูกตัดออกเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมง กู้หนิงมีแผนจะโทรหาจ้าวหยูเฟิงก่อน

 

“ดีมาก ไปกันเถอะค่ะ” กู้หนิงลุกขึ้นและปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเธอ

 

เมื่อพวกเธอออกมาจากร้านขายหิน กู้หนิงก็ส่งโจวเจิ้งหงไปร่างสัญญา พวกเธอจำเป็นต้องเซ็นมันพรุ่งนี้

 

ถึงเธอจะเชื่อใจและไว้ใจโจวเจิ้งหง พวกเธอก็ยังจำเป็นต้องเซ็นสัญญาซึ่งเอาไว้ปกป้องผลประโยชน์ของโจวเจิ้งหงเอง

 

หลังจากที่โจวเจิ้งหงจากไปแล้ว กู้หนิงก็ไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็โทรหาจ้าวหยูเฟิง

 

ภายในเวลาสามนาที จ้าวหยูเฟิงก็ปรากฏตัว ถนนพนันหินไม่ใหญ่มาก พวกเขาอยู่ห่างกันแค่หนึ่งร้อยเมตร

 

“คุณกู้” จ้าวหยูเฟิงตื่นเต้นที่เห็นกู้หนิง

 

“นั่งก่อนสิคะ” กู้หนิงเอ่ย จ้าวหยูเฟิงนั่งลงทันที

 

“คุณอยากจะดื่มอะไรคะ คุณจ้าว?” กู้หนิงถาม

 

“ไม่ล่ะ ผมขอดูหยกเลยล่ะกัน!” จ้าวหยูเฟิงปฏิเสธ เขาอยากจะเห็นหยกให้ไวที่สุด

 

กู้หนิงรู้สึกขำ เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้น

 

ก็ได้ ในเมื่อเขาอยากเห็นหยกไวไว เธอก็จะสนองความต้องการของเขา

 

“ฉันมีหยกระดับสูงอยู่สองก้อน แต่ฉันสามารถขายให้คุณได้เพียงก้อนเดียว อีกอันจะเป็นของอาจารย์ฝู ในเมื่อคุณอยู่ไม่ไกล ฉันเลยให้คุณเลือกก่อน โปรดอย่าบอกอาจารย์ฝูนะคะ”

 

กู้หนิงเอ่ยจากนั้นก็ล้วงเอาหยกสองก้อนออกมาจากกระเป๋าเป้

 

จ้าวหยูเฟิงรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจเมื่อได้ยินว่ากู้หนิงมีหยกระดับสูงสองก้อน แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกผิดหวังที่เขาสามารถซื้อได้เพียงก้อนเดียว

 

ในเมื่ออีกก้อนเป็นของอาจารย์ฝู จ้าวหยูเฟิงก็ไม่อาจทัดทานได้ เขาซาบซึ้งใจที่กู้หนิงเลือกเขาเป็นผู้ซื้อคนแรก

 

จ้าวหยูเฟิงเบิกตากว้างเมื่อเห็นหยกสองก้อนวางบนโต๊ะ เขารู้แล้วว่ามันเป็นหยกระดับสูง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นหยกหงอนไก่สีแดง

 

จ้าวหยูเฟิงต้องการหยกสีแดงทันทีที่เขาเห็นมัน

 

“คุณกู้ บอกตามตรงผมไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาพูด! คุณตัดหินที่มีหยกข้างในสี่ก้อนภายในวันเดียวได้ยังไง ไม่สิ แค่ตอนเช้า! ไม่น่าเชื่อ!”

 

จ้าวหยูเฟิงพยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพล่าน เขาประหลาดใจกับความโชคดีของกู้หนิงมาก

 

ถ้าหากจ้าวหยูเฟิงรู้ว่าหู้หนิงตัดหยกออกมากได้มากกว่าสี่ก้อน เขาคงนั่งนิ่งเป็นใบ้เหมือนถูกสาปไว้แน่

 

แน่นอนว่ากู้หนิงมีหินดิบสิบก้อนที่มีหยกอยู่ข้างใน

 

“คุณจ้าว คุณเลือกก้อนไหนคะ?” กู้หนิงถาม

 

“สีแดงครับ” จ้าวหยูเฟิงรีบตอบ

 

“เยี่ยม คุณหยิบมันมาดูได้ค่ะ แล้วค่อยบอกราคามันให้ฉัน” กู้หนิงหยิบหยกสีแดงส่งให้จ้าวหยูเฟิง

 

จ้าวหยูเฟิงรับมันมาด้วยมืออันสั่นเทา

 

 “คุณกู้ ผมจ่ายสามสิบห้าล้านหยวนสำหรับมัน” หยกหงอนไก่สีแดงนี้หายากพอๆกับหยกน้ำแข็งที่เขาเพิ่งซื้อไป แต่สีแดงของมันทำให้มีราคาสูงกว่า

 

สามสิบห้าล้านหยวนถือว่าเป็นราคาสมเหตุสมผล

 

“ตกลง!” กู้หนิงตอบไม่ลังเล

 

จากนั้นทั้งคู่ก็ทำข้อตกลงที่ยอดเยี่ยม

 

หลังจากจ้าวหยูเฟิงจากไป อาจารย์ฝูก็โทรเข้ามา

 

 

ไม่กี่นาทีต่อมาอาจารย์ฝูก็มาถึง

 

“คุณกู้ หยกอยู่ไหน หยกอยู่ที่ไหน?” อาจารย์ฝูเปล่งเสียงของเขาด้วยความตื่นเต้น เขาเดินเข้ามาหากู้หนิงอย่างไว ถ้าคนรับใช้เขาไม่เข้ามาพยุงไว้เขาคงล้มทับกู้หนิงไปแล้ว

 

ทันใดนั้นกู้หนิงก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับอาจารย์ฝู “เดินช้าๆค่ะ หยกไม่หนีไปไหน”

 

 “หยกระดับสูง ฉันต้องรีบ! ฉันกลัวว่ามันจะวิ่งหนีไป!” อาจารย์ฝูพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจังอย่างกับว่าหยกมันสามารถวิ่งหนีเขาไปได้

 

กู้หนิงยังไม่ทันพูดอะไร อาจารย์ฝูก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน “มาๆ เอาหยกมาให้ดูหน่อย!”

 

 “เชิญนั่งก่อนสิคะ ฉันจะเอาให้ดูเดี๋ยวนี้ค่ะ” กู้หนิงหยิบหยกแก้วออกมาจากกระเป๋า

 

ถึงแม้อาจารย์ฝูจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นหยกระดับสูงตามที่กู้หนิงบอก แต่เขาก็ยังสั่นด้วยความอัศจรรย์ที่เห็นมันด้วยตาตัวเอง

 

 “หยกน้ำงาม น้ำงามจริงๆ!” อาจารย์ฝูรับหยกมาพิจารณาดู เขาจ้องมองด้วยความชื่นชอบ แต่ในใจของเขายังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ถ้ามันเป็นประเภทแก้วหลุมเก่าระดับท็อป คงจะดีกว่านี้มาก

 

 

 

ตอนที่ 66: อุบัติเหตุ

 

 “สาวน้อย ฉันจ่ายให้ได้สามสิบล้านหยวน เธอจะว่ายังไง?” อาจารย์ฝูกล่าว

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ” กู้หนิงตอบ มันเป็นราคาที่ยุติธรรมดี

 

สำหรับกู้หนิงตอนนี้มีเงินอยู่ราวๆสองร้อยเจ็ดสิบล้านหยวน

 

 “ฮ่า ฮ่า ฉันชอบวิธีของเธอตอนทำข้อตกลงนะ เยี่ยม ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้ล่ะ” ความยอดเยี่ยมของกู้หนิงทำให้อาจารย์ฝูประทับใจอีกครั้ง เขาโทรให้คนของเขาโอนเงินให้เธอทันที

 

 “สาวน้อย ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เรียกฉันว่าคุณปู่ฝูเถอะ ถ้าเธอต้องการการสนับสนุนของฉันในอนาคต บอกให้ฉันรู้ได้ ฉันจะช่วยเธอเอง” อาจารย์ฝูกล่าว เขาอย่างเป็นมิตรที่ดีกับสาวน้อยคนนี้

 

อาจารย์ฝูเป็นคนที่เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาเห็นแววของกู้หนิงและเชื่อว่าเธอจะมีอนาคตที่ดี

 

“คุณปู่ฝู หนูต้องการความช่วยเหลือจากปู่ตอนนี้ค่ะ” กู้หนิงไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ฝู

 

 “โอ้ อะไรงั้นเหรอ? ไหนลองบอกปู่มาสิ” อาจารย์ฝูประหลาดใจเล็กน้อย

 

 “คือ หนูมีแผนจะจัดตั้งบริษัทค้าขายอัญมณี แต่หนูรู้ว่าขั้นตอนของมันค่อนข้างยุ่งยาก ปู่พอจะรู้จักใครในสำนักงานพาณิชย์ไหมคะ? พอจะช่วยหนูทำขั้นตอนให้ง่ายและไวขึ้น? แน่นอนค่ะว่าหนูจะเตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด” ในเมื่ออาจารย์ฝูยินดีจะช่วยกู้หนิง กู้หนิงก็ไม่อยากเสียเวลาอีก เธอตัดสินใจจะใช้คอนเนคชั่นของเธออยู่แล้ว มันไม่มีอะไรผิดนี่นา

 

 “อะไรนะ? เธออยากจะเปิดบริษัทอัญมณี?” อาจารย์ฝูอัศจรรย์ใจ เด็กสาวคนนี้ช่างมีความทะเยอทะยาน

 

เธอมีความกล้าที่จะเปิดบริษัทค้าอัญมณี!

 

 “ค่ะ” กู้หนิงตอบเสียงหนักแน่น

 

 “มีเงินทุนจดทะเบียนเท่าไหร่?” อาจารย์ฝูถาม

 

“จดทะเบียนครั้งแรกหนึ่งร้อยล้านหยวน ซึ่งจะเพิ่มอีกในอนาคต” กู้หนิงเอ่ย

 

อาจารย์ฝูสูดหายใจลึก ถึงแม้เงินหนึ่งร้อยล้านหยวนสำหรับธุรกิจประเภทนี้จะไม่มากมาย แต่ก็เป็นเงินจำนวนมหึมาสำหรับเด็กวัยรุ่น

 

เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา

 

แต่ถึงแม้กู้หนิงจะเป็นเด็กสาวฉลาด มันก็ยังเสี่ยงที่จะเริ่มเปิดบริษัท

 

อาจารย์ฝูเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “เธอมั่นใจว่าจะเปิดบริษัทอัญมนีแล้วใช่ไหม? การเริ่มต้นทำธุรกิจต้องอาศัยหลายอย่างมากกว่าเงิน เธอต้องมีความสามารถในการบริหารธุรกิจด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ นอกจากเธอจะเป็นนักเรียนแล้ว เธอมีเวลามาจัดการมันอย่างนั้นหรือ?”

 

อาจารย์ฝูไม่ได้จะห้ามกู้หนิงซะทีเดียว เขาเป็นห่างเธอว่าเธออาจะไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ว่าอาจจะเสียเงินจากการทำธุรกิจได้

 

กู้หนิงรู้ว่าอาจารย์ฝูเป็นห่วงเธอ เธอตอบด้วยความจริงใจ “คุณปู่ฝู หนูเตรียมพร้อมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหนูมีพนักงานที่มีความชำนาญคอยช่วยเหลือหนูในการบริหารบริษัท ไม่มีอะไรต้องกังวลเรื่องนั้นค่ะ”

 

กู้หนิงมีความมั่นใจ อาจารย์ฝูจึงไม่อยากทำให้เธอเสียใจ “เอาล่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ปู่จะช่วยเธอจดทะเบียนบริษัท โอ้ แล้วตอนนี้เธออายุเท่าไหร่?”

 

 “ขอบคุณค่ะคุณปู่ ตอนนี้หนูอายุครอบสิบแปดปีเต็มแล้ว หนูเป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ” กู้หนิงตอบ “แต่หนูยังต้องหาหน้าร้านด้วย หนูจะติดต่อคุณปู่ไปอีกครั้งเมื่อหนูหาหน้าร้านได้แล้วค่ะ”

 

 “ได้สิ ไม่มีปัญหา ปู่จะจัดการเอง” อาจารย์ฝูเอ่ยอย่างยินดี

 

 “ขอบคุณมากค่ะคุณปู่ฝู”

 

อาจารย์ฝูไม่ได้รั้งรออยู่นาน หลังจากอาจารย์ฝูกลับไป กู้หนิงก็ออกจากร้านด้วย

 

เธอเดินไปที่ถนนขายของเก่า

 

กู้หนิงยังไม่อยากสะสมของเก่าตอนนี้ เธอเพียงแต่ต้องการเดินดู ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เดินเข้าร้านแต่มองไปรอบๆร้านค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านนอกแทน

 

แม้ว่าทุกชิ้นในร้านค้าจะไม่ใช่ของแท้ แต่ของแท้จะมีป้ายกำกับบอกราคาและมันก็แพงมาก

 

หลังจากนั้นไม่นานกู้หนิงก็รู้สึกผิดหวัง เธอยังไม่เห็นของจริงสักชิ้นเดียวเลย

 

เธอเดินหาต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายเธอก็เจอของชิ้นหนึ่งที่มีพลังที่แผงลอยเล็กๆ มันเป็นแก้วไวน์ พลังของมันหนามากซึ่งหมายความว่ามันต้องมีประวัติอันยาวนาน

 

“โทษนะคะ ชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่?” กู้หนิงชี้ไปที่แก้วไวน์

 

เมื่อเห็นว่ากู้หนิงเป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่น เจ้าของแผงลอยจึงคิดเอาว่าเธอคงไม่มีเงินซื้อ เขาจึงตอบไปส่งๆตามหน้าที่ “มันมาจากยุคเฉียนหลง หนึ่งหมื่นหยวน”

 

ของชิ้นนี้มาจากยุคเฉียนหลง เป็นได้อย่างไรว่าจะมีราคาแค่หนึ่งหมื่นหยวน? ราคาของมันอย่างน้อยก็ต้องห้าหมื่นหยวน

 

ดังนั้นมันคงเป็นของปลอมในสายตาของเจ้าของร้าน

 

แต่ครั้งนี้เจ้าของแผงลอยคิดผิดอย่างจัง แก้วไวน์ใบนี้เป็นเก่าของแท้แน่นอน กู้หนิงเพียงแต่ไม่มั่นใจว่ามันมาจากยุคไหน

 

เมื่อมันเป็นของจริง กู้หนิงก็ไม่สนว่ามันจะราคาหนึ่งหมื่นหยวน เธอหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอแล้วยื่นให้เข้าของร้าน

 

เจ้าของแผงลอยไม่คิดว่ากู้หนิงจะซื้อมันจริงๆโดยไม่ต่อรองราคาใดๆ เขาแปลกใจมาก

 

เขาเชื่อจริงๆว่าเด็กสาววัยรุ่นคนนี้คงไม่มีเงินซื้อ ดังนั้นเขาจึงตั้งราคาสูงไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะขายในราคาไม่กี่นร้อยหยวนเท่านั้น

 

หรือมันจะเป็นของแท้?

 

เจ้าของร้านแผงลอยไม่คิดว่าจะมีของแท้ในร้านเล็กๆของเขา มันไม่ง่ายที่ของแท้จะตกถึงมาเขา

 

เด็กสาวคนนี้ต้องไม่รู้อะไรแน่ เธอแค่ชอบมันเท่านั้น

 

เห็นได้ชัดว่าเจ้าของแผงลอยดีใจที่ขายได้ในราคาสูง เขารับเงินมาอย่างดีอกดีใจถึงแม้คนที่ซื้อไปอาจจะต้องเสียใจก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าคนที่ต้องเสียใจคือเขานั่นเอง

 

เจ้าของแผงลอยรับเงินมาและกู้หนิงก็เอาแก้วไวน์ไป การซื้อขายจบสิ้น ไม่มีใครเสียใจ

 

กู้หนิงเอาแก้วไว้เก็บไว้ในกระเป๋าเป้และยืนขึ้น

 

ในขณะนั้น มีบางอย่างร่วงลงมาใกล้เท้าของเธอ มีชิ้นส่วนแตกหักอยู่มากมาย ชายคนหนึ่งตะโกนด้วยความเจ็บปวด “โอ้! แจกันเคลือบถั่วเขียวของฉัน!”

 

จากนั้นชายคนนั้นก็มองมาที่กู้หนิง เขาตะโกนด้วยความโกรธ “เป็นเธอ! เธอชนแจกันของฉันจนหล่นลงพื้น ตอนนี้มันแตกแล้ว เธอต้องจ่ายเงินให้ฉัน!”

 

กู้หนิงรู้ได้ทันทีว่าเธอเจอกับคนที่ตั้งใจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘อุบัติเหตุ’ เกิดขึ้น

 

มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในวงการนี้ที่จะมีใครบางคนใช้ของปลอมเพื่อก่อให้เกิด "อุบัติเหตุ" โดยจงใจและเรียกร้องค่าชดเชยในราคาเดียวกับของแท้

 

บางคนก็อาจทำได้สำเร็จเพราะพวกเขามักเลือกเหยื่อที่ดูอ่อนแอ

 

และกู้หนิงก็เป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่นดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ดังนั้นเธอจึงตกเป็นเป้าหมาย

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเต็มใจช่วย พวกเขาไม่อยากข้องแวะกับปัญหา

 

แต่ชายผู้นี้ตัดสินใจผิดซะแล้ว ถึงกู้หนิงจะเป็นเพียงวัยรุ่น เธอก็ไม่อนุญาตให้ใครมารังแกเธอได้

 

 “ฉันยังไม่ได้แตะแจกันของคุณ” กู้หนิงทำเสียงเรียบเฉย

 

ชายคนนั้นพยายามวางกับดักให้เธอติดกับง่ายๆ แต่เธอไม่ได้แตะต้องแจกันเขาจริงๆ

 

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป