Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 51 -52 : มุ่งสู่เมืองG)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 51 -52 : มุ่งสู่เมืองG

  • 04/04/2564

ตอนที่ 51: มุ่งสู่เมืองG

 

กู้หนิงคิดว่าชายคนนั้นคงทิ้งกู้ม่าน แต่ความจริงกลับต่างออกไป

 

‘หนิง’ นั่นคงเป็นเหตุผลที่กู้ม่านถึงตั้งชื่อเธอว่า กู้หนิง!

 

“ตอนที่แม่อยู่กับพ่อ แม่มีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นแม่จึงคิดจะฆ่าตัวตายหลังจากอุบัติเหตุนั้น แม่รู้ว่ามันเป็นการเห็นแก่ตัว มันไม่ยุติธรรมสำหรับตากับยายของลูกและป้ากู้ชิง อารมณ์ของแม่ปรวนแปรไปมา แม่พบว่าแม่ตั้งท้องได้สามเดือน แม่เลยตัดสินใจจะใช้ชีวิตต่อไปและหยุดเรียนกลางคัน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ไม่ใช่ความลับต่อกู้หนิง

 

มารดาของกู้ม่านคิดว่าการที่กู้ม่านท้องก่อนแต่งสร้างความอับอาย เธอเลยขอให้กู้ม่านเอาเด็กออก ถ้าไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ยอมรับว่ากู้ม่านเป็นลูกของเธอ

 

กู้ม่านเลือกชีวิตของเด็กในท้อง ดังนั้นเธอจึงออกจากบ้าน เธอใช้เงินที่ได้จากพ่อในการเช่าบ้านอยู่ข้างนอกและพยายามหางานทำ

 

แต่เธอก็ถูกปฏิเสธเพราะว่าเธอท้อง

 

ไม่กี่เดือนต่อมา เงินของเธอก็หมด กู้ม่านจึงหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากกู้ชิง

 

หลังจากที่กู้ม่านออกจากบ้านไป พ่อของเธอและกู้ชิงก็ออกตามหาเธออย่างไร้ความหวัง กู้ม่านเป็นคนติดต่อกลับมาหากู้ชิง

 

พ่อของกู้ม่านจึงไปรับเธอกลับมาอยู่ที่บ้านภายใต้ความคุ้มครองจากพ่อ กู้ม่านจึงให้กำเนิดกู้หนิงได้สำเร็จ

 

สิบแปดปีต่อมา ความเศร้าทั้งหมดก็หายไปตามกาลเวลา แต่กู้ม่านก็ยังรู้สึกไม่มีความสุขทุกครั้งที่เธอนึกถึงความทรงจำเก่าๆ

 

วันต่อมา กู้หนิงตื่นเช้าเหมือนอย่างเคย เธอวิ่งไปโรงเรียนจากนั้นก็ซ้อมวิ่งกับเพื่อนๆ เธอไม่ได้กลับเข้าห้องจนกระทั่งห้านาทีก่อนคาบเรียนแรกจะเริ่มขึ้น

 

ไม่มีห้องอาบน้ำในโรงเรียน ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ได้อาบน้ำทั้งๆที่ตัวเปียกเหงื่อ

 

โชคดีที่พวกเธอกลับไปอาบน้ำที่บ้าน ตัวของพวกเธอก็เลยไม่เหม็น

 

“บอส วันนี้วันศุกร์ ไปหาอะไรทำสนุกที่ผับคืนนี้กันเถอะ!” ฮ่าวหรันเอ่ยขณะเดินไปยังห้องเรียน

 

“ฉันชอบนะ กู้หนิง ไปกับพวกเราเถอะ!” กู้เพ่ยหานเอ่ยอย่างตื่นเต้น

 

“ใช่ เป็นผับของพวกเราเอง ปลอดภัย!” ฉินซีหุนเอ่ย

 

“พวกเรามีน้ำผลไม้รสใหม่ด้วย สาวๆน่าจะชอบ! บอส ทำไมไม่ลองซักหน่อยล่ะ?” จางเทียงปิงเอ่ยสำทับ

 

“ฉันต้องไปเมือง G บ่ายนี้ โทษที” กู้หนิงตอบ

 

ทันใดทุกคนก็รู้สึกผิดหวัง

 

“เธอไปเมือง G ทำไมเหรอ?” ฉู่เพ่ยหานถาม

 

“ไปจัดการอะไรบางอย่าง” กู้หนิงเอ่ย

 

“บางอย่างที่ว่าคืออะไรเหรอ?” ฮ่าวหรันสงสัย

 

“ความลับ” กู้หนิงตอบฮ่าวหรัน

 

ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ได้แต่เซ็ง แต่ในเมื่อกู้หนิงไม่เต็มใจบอก พวกขาก็หยุดถาม

 

“แต่ฉันจะซื้อของฝากมาฝากพวกนายล่ะกัน” กู้หนิงเอ่ยเสริม

 

รู้อย่างนั้น ทุกคนก็ใจชื้นขึ้นมาอีกครั้ง

 

“เยี่ยมไปเลย!”

 

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่ากู้หนิงมากจากครอบครัวยากจน พวกเขาก็ไม่ได้บอกปัดน้ำใจจากเธอ เพราะพวกเขาเชื่อว่ากู้หนิงคงไม่อาจซื้อของฝากแพงๆได้

 

ของฝากแสดงถึงความมีน้ำใจและเอาใจใส่ และไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง

 “ถ้าเธอไม่อยู่ที่โรงพยาบาลสองวันนี้ ให้พวกเราไปเยี่ยมแม่เธอไหม?” มู่เค่อถามอย่างห่วงใย

 

“ไม่ต้องหรอก อันเฉียนยังอยู่ที่นั่น” กู้หนิงตอบ

 

แน่นอนว่ากู้หนิงไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาไปเยี่ยมแม่เธอได้ เพราะเธอโกหกกู้ม่านว่าจะไปเมือง G กับมู่เค่อ ถ้าพวกเขาไปเยี่ยมกู้ม่าน กู้ม่านต้องรู้ความจริงแน่

 

ตอนบ่าย กู้หนิงก็ได้รับข้อความจากฉินเจิ้ง เขามีเรื่องจะคุยกับเธอ

 

กู้หนิงคิดว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เธอต้องพูดคุยกับฉินเจิ้งอีก เธอให้อภัยฉินเจิ้งเรื่องอุบัติเหตุรถยนต์แล้ว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้

 

หากฉินเจิ้งอยู่ให้ห่างจากเธอ ทุกอย่างคงออกมาดี แต่หากเขายังรบกวนเธอไม่หยุดหย่อน เธอก็จะไม่ใจดีกับเขาอีกต่อไป

 

กู้หนิงบล็อกเบอร์ฉินเจิ้งทันที

 

ฉินเจิ้งไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากกู้หนิง เขารู้สึกไม่พอใจจึงหยุดส่งข้องความหากู้หนิงเพราะเขาหงุดหงิด

 

ไม่นานมานี้ฉินเจิ้งมักมีกู้หนิงวนเวียนอยู่ในความคิดเขาตลอดเวลา เขาไม่อาจบอกได้ว่าความรู้สึกที่มีต่อกู้หนิงตอนนี้คืออะไร

 

เมื่อเขาได้ข่าวว่ากู้หนิงกับแม่ถูกไล่ออกจากบ้านเพราะกู้เซียวเซียว เขาก็อยากจะช่วยเหลือเธอ

 

แต่กู้หนิงไม่สนใจข้อความของเขา

 

วันนี้กู้เซียวเซียวอยู่ห่างจากกู้หนิง เธออยากจะหัวเราะเยาะกู้หนิง แต่ก็เกรงว่ากู้หนิงจะทำร้ายเธออีก จ้าวเฟยเฟยจำต้องรักษาระยะห่างจากกู้หนิง ยกเว้นสายตาที่มุ่งร้าย

 

วันนี้ถือว่าเป็นวันสงบสุขของกู้หนิง เธอได้เตรียมทุกอย่างที่เธอต้องการแล้วจึงนั่งแท็กซี่มุ่งหน้าไปสนามบินทันทีหลังจากคาบบ่ายจบ

 

เธอถือกระเป๋าเป้ และเอาเอกสารออกมาเก็บไว้ในพื้นที่กระแสจิต  จึงมีเพียงเสื้อผ้าเอาไว้เปลี่ยนในกระเป๋าเป้ของเธอ เธอต้องการเปลี่ยนชุดทันทีที่ถึงสนามบิน เพราะเธอไม่อยากจะใส่ชุดนักเรียนไปเมือง G

 

ตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนและถนนก็หนาแน่นไปด้วยรถ เมื่อแท็กซี่หลุดออกมากจากตัวเมืองได้ ก็ขยับตัวได้คล่องขึ้น

กู้หนิงออกจากโรงเรียนห้าโมงห้าสิบ และเครื่องบินออกเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ใช้เวลาประมาณสี่สิบนาทีในการไปถึงสนามบิน เมื่อกู้หนิงมาถึงก็เป็นเวลาหกโมงสี่สิบนาที

 

เหลือเวลาอีกห้าสิบนาที ดังนั้นกู้หนิงจึงยังไม่รีบร้อนมากนัก เธอเดินเข้าห้องน้ำไปล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

กางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อยืดสีขาวและรองเท้าผ้าใบสีขาวหนึ่งคู่ กู้หนิงมัดผมทำให้เธอดูกระฉับกระเฉงและดึงดูดใจ

 

บวกกับผิวที่ไร้ที่ติของเธอและใบหน้าที่งดงาม เธอมีเสน่ห์และเปล่งประกายอย่างแท้จริง ผู้คนรอบตัวเธอต่างหันมองเธอเป็นครั้งคราว

 

กู้หนิงไม่มีเวลาพอจะซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ดังนั้นเธอจึงสวมเสื้อผ้าชุดเก่าของเธอ

 

โชคดีที่กู้ม่านดูแลกู้หนิงอย่างดี บางครั้งกู้ม่านก็ซื้อเสื้อผ้าคุณภาพดีให้กู้หนิง อย่างเช่นชุดที่กู้หนิงสวมใส่วันนี้ มันไม่ได้มีราคาแพง แต่ก็มีราคาเกือบหนึ่งร้อยหยวน

 

กู้หนิงยืนเข้าแถวเพื่อรับรับตั๋วเครื่องบิน จากนั้นเธอก็เข้าไปนั่งรอในห้องรับรองผู้โดยสาร

 

ภายในห้องรับรอง กู้หนิงยังมีเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่มากพอจะนั่งกินข้าว กู้หนิงจึงดื่มกาแฟแทน

 

ด้วยความบังเอิญ นาทีที่กู้หนิงเดินไปยังคาเฟ่ เธอก็เห็นฉินอี้ฟานอยู่กับหญิงสาวสวยคนหนึ่ง

 

 “กู้หนิง บังเอิญจัง! คุณกำลังจะไปไหนเหรอ?” ฉินอี้ฟานร้องทักเมื่อกู้หนิงปรากฏตัวอยู่ในสายตาของเขา เขายืนขึ้นอย่างตื่นเต้นทักทายกู้หนิง

 

หญิงสาวที่นั่งข้างๆฉินอี้ฟานไม่พอใจนิดหน่อย เธอมองกู้หนิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เธออิจฉาโดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นว่ากู้หนิงดูสวยมีเสน่ห์

 

กู้หนิงมีความคิดเฉียบแหลม เธอรับรู้ได้ทันทีถึงความไม่เป็นมิตรจากหญิงสาว แต่เธอไม่ใส่ใจมัน

 

“สวัสดีค่ะ บังเอิญจัง! ฉันกำลังจะไปเมือง G แล้วคุณล่ะคะ?” กู้หนิงมีแผนจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับฉินอี้ฟาน ดังนั้นเธอจึงทำตัวเป็นมิตรต่อหน้าเขา

 

แน่นอน กู้หนิงไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง

 

“ว้าว ผมกำลังจะบินไปเมือง G เหมือนกัน! ไฟลท์หนึ่งทุ่มครึ่ง แวคุณล่ะ?” เมื่อรู้ว่ากู้หนิงจะไปเมือง G ฉินอี้ฟานก็ตื่นเต้นมากกว่าเดิมคนอื่นอาจจะคิดว่าเขาแอบชอบกู้หนิง

 

ตอนที่ 52: ลี่เจินเจิน

 

แต่สำหรับตอนนี้ ฉินอี้ฟานเพียงแค่ชื่นชมกู้หนิงเท่านั้น มีคนไม่มากนักที่ฉินอี้ฟานมองในระดับสูง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพบกับกู้หนิงอีกครั้ง

 

“ฉันด้วยค่ะ” กู้หนิงยิ้ม

 

“ช่างบังเอิญจริงๆ! มานั่งด้วยกันสิ แล้วค่อยไปขึ้นเครื่องบินด้วยกันทีหลัง” ฉินอี้ฟานเชื้อเชิญเธอ

 

กู้หนิงไม่ปฏิเสธ เธอเดินตามฉินอี้ฟานไปนั่ง

 

ฉินอี้ฟานเลื่อนเก้าอี้ออกมาให้เธอนั่งอย่างสุภาพบุรุษ หญิงสาวอีกคนดูจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาอีกรอบ

 

“จะดื่มอะไรไหมครับ?” ฉินอี้ฟานถาม

 

“กาแฟค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

ฉินอี้ฟานเรียกบริกร และสั่งกาแฟหนึ่งแก้วให้กู้หนิง

 

“อี้ฟาน คุณยังไม่ได้แนะนำเด็กสาวคนนี้ให้ฉันรู้จักเลยนะคะ” หญิงสาวที่นั่งอีกด้านเปิดปากพูดขึ้น เธอเรียกฉินอี้ฟานอย่างสนิทสนม

 

จากนั้นฉินอี้ฟานจึงหันหน้ามาทางหญิงสาว “นี่คือเพื่อนของผม กู้หนิง”

 

“กู้หนิง นี่คือลูกสาวของคุณลุงผม ‘ลี่เจินเจิน’”

 

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณลี่” ถึงแม้กู้หนิงจะรู้ว่าลี่เจินเจินไม่ชอบเธอ เธอก็ยังเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ เพราะลี่เจินเจินยังไม่ได้ทำอะไรให้เธอ

 

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ คุณกู้” ลี่เจินเจินตอบ เธอยังไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างกู้หนิงกับฉินอี้ฟาน ดังนั้นเธอจึงไม่อยากจะทำตัวหยาบคาย

 

หลังจากนั้น ลี่เจินเจินก็มองฉินอี้ฟาน “ฉันคิดว่าคุณกู้คงอายุราวๆสิบแปดใช่ไหมคะ อี้ฟาน? ฉันอยากรู้จังเลยว่าคุณเจอคุณกู้ได้ยังไง?”

 

“ผมบอกคุณไปแล้วนี่เมื่อตอนบ่าย ผมซื้อหยกจักพรรดิขนาดเท่าไข่นกกระทาจากนักเรียนหญิงคนหนึ่ง นักเรียนคนนั้นก็คือกู้หนิง” ฉินอี้ฟานบอก

 

“โอ้ อย่างนั้นเหรอคะ” ลี่เจินเจินแปลกใจ ในขณะเดียวกันเธอก็เสียใจ เพราะเธอเห็นว่าฉินอี้ฟานชื่นชอบเด็กนักเรียนหญิงคนนี้มาก

 

เธอชอบฉินอี้ฟานและสารภาพรักเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่ฉินอี้ฟานบอกเพียงว่าเขาคิดกับเธอแค่พี่น้อง

 

เมื่อฉินอี้ฟานอยู่กับเธอเขามักจะทำท่าทางเคร่งขรึม แต่เมื่อเขาอยู่กับเด็กนักเรียนคนนี้ ‘กู้หนิง’ เขาแสดงออกถึงความชื่นชอบจนเห็นได้ชัด ดังนั้นลี่เจินเจินจึงรู้สึกอิจฉา

 

“โอ๊ะ กู้หนิง คุณจะไปทำอะไรที่เมือง G เหรอ?” ฉินอี้ฟานเอ่ยถาม

 

“แค่ไปเที่ยวค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

“แล้วจะไปพักที่ไหน?” ฉินอี้ฟานถามอย่างห่วงใย

 

“ฉันพักอยู่ที่โรงแรมฮังเดงในเมืองค่ะ” กู้หนิงตอบ

 

โรงแรมฮังเดงเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเมือง G พักหนึ่งคืนต้องใช้เงินหลายร้อยหยวน แต่กู้หนิงเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

โรงแรมจะจัดรถฟรีตามความต้องการของลูกค้าทุกวัน ในเมืองที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ กู้หนิงไม่อยากจะเช่ารถหรือเรียกแท็กซี่ มันสะดวกกว่ามากถ้ามีคนขับรถของตัวเอง

 

นอกจากนี้ เธอก็ไม่ได้ขาดเงินเหมือนแต่ก่อน

 

“ดี ผมจะผ่านโรงเรียมฮังเดงพอดี คุณอยากให้พวกเราไปส่งไหม?” ฉินอี้ฟานเอ่ยถาม

 

“อี้ฟาน……” ได้ยินแบนั้น ลี่เจินเจินก็ไม่พอใจ พวกเขาไม่ได้จะผ่านทางโรงแรมฮังเดงซะหน่อย จริงๆแล้วโรงแรมฮังเดงอยู่ไกลจากจุดหมายปลายทางของพวกเธอต่างหาก

 

อาจเป็นเวลาดึกแล้วเมื่อไปถึงเมือง G ถ้าพวกเธอไปที่โรงแรมฮังเดงก่อนกลับบ้านพวกเธอต้องเสียเวลาบนท้องถนนอีกนาน

 

ลี่เจินเจินไม่ได้สนใจเรื่องเวลา เธอแค่ไม่ชอบกู้หนิง ถ้ากู้หนิงเป็นเพื่อนผู้ชายของฉินอี้ฟาน เธอจะไม่กังวลแบบนี้

 

แต่ก่อนที่ลี่เจินเจินจะพูดอะไรออกมา ฉินอี้ฟานก็หยุดเธอเอาไว้ด้วยสายตา ลี่เจินเจินหงุดหงิดและปิดปากเอาไว้ เพราะเธอไม่อยากทำลายภาพลักษณ์ของเธอ

 

กู้หนิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงมันจะสะดวกสำหรับเธอที่ฉินอี้ฟานจะไปส่ง กู้หนิงก็ไม่ตั้งจะให้เขาไปส่งเธออยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงบอกปฏิเสธ

 

“ขอบคุณมากๆค่ะ แต่ทางโรงแรมจะส่งรถมารับฉันค่ะ”

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”

 

ถ้าหากกู้หนิงบอกว่าเธอจะเรียกแท็กซี่ ฉินอี้ฟานจะยืนกรานเสียงแข็งเพื่อไปส่งเธอที่โรงแรมให้ได้ แต่ในเมื่อทางโรงแรมมารับเธอ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

“แล้วคุณจะกลับเมื่อไหร่? ถ้าพอมีเวลา เรียกให้ผมออกไปหาได้นะ ผมสามารถพาคุณเที่ยวได้ทั้งวัน” ฉินอี้ฟานพูดอย่างมีความสุข เขาลืมไปเลยว่าเขากำลังจะไปที่เมือง G เพื่อทำธุรกิจ

 

ลี่เจินเจินขัดขึ้น แต่กู้หนิงชิงพูดขึ้นก่อน “ฉันมีอะไรต้องจัดการและจะกลับวันมะรืนค่ะ”

 

ซึ่งหมายความว่าเธอไม่มีเวลา

 

ไม่นานเครื่องบินก็เทคออฟ กู้หนิงและฉิรอี้ฟานนั่งเฟิร์สคลาส ลี่เจินเจินรู้สึกไม่พอใจมาก

 

ฉินอี้ฟานเอาแต่พูดคุยกับกู้หนิงและไม่สนใจลี่เจินเจิน

 

ความจริงแล้วกู้หนิงจะซื้อตัวชั้นประหยัด แต่มันเต็ม กู้หนิงจึงซื้อชั้นเฟิร์สคลาสแทน

 

ฉินอี้เฟิน ลี่เจินเจินและกู้หนิงนั่งอยู่แถวที่สอง กู้หนิงนั่งข้างทางเดิน ฉินอี้ฟานนั่งติดหน้าต่าง แต่เขาแลกที่นั่งกับลี่เจินเจินเพื่อนั่งข้างกู้หนิง

 

ลี่เจินเจินหงุดหงิด ถ้าเธอไม่ห่วงหน้าตาตัวเอง เธอคงต้องเถียงกับฉินอี้ฟานเป็นแน่

 

กู้หนิงไม่อยากคุยกับฉินอี้ฟานมากนัก โดยเฉพาะต่อหน้าลี่เจินเจิน เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดหรือมีปัญหา

 

ดังนั้นเมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นท้องฟ้า กู้หนิงก็ปิดเปลือกตานอนหลับ

 

ฉินอี้ฟานไม่รบกวนกู้หนิงอีก

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็เทียบจอดที่สนามบินเมือง G กู้หนิงและฉินอี้ฟานเดินออกจากสนามบินด้วยกันและแยกจากกันตรงนั้น

 

กู้หนิงหารถโรงแรมเจอแล้ว เธอก็เข้าไปนั่งข้างในและมุ่งตรงไปยังโรงแรม

 

เมื่อเธอมาถึงโรงแรม ก็เป็นเวลาสามทุ่มสี่สิบนาที เธอเช็คอินแล้วเดินไปยังลิฟต์

 

เมื่อกู้หนิงก้าวเข้าไปในลิฟต์ทางขวา ลิฟต์ทางซ้ายก็เปิดออก และมีผู้ชายจำหนึ่งเดินออกมา

 

ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าคือเลิ่งเชาถิง

 

กู้หนิงคลาดกับเลิ่งเชาถิงเพียงเสี้ยววินาที

 

มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเขาสองคนแทบจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันที่บังเอิญเจอกันครั้งสองครั้งเท่านั้น

 

แต่คงเป็นโชคชะตาของกู้หนิงที่ต้องทำให้พบเขาอีกครั้ง

 

กู้หนิงเดินไปห้องพักของเธอและโทรหากู้ม่านเพื่อบอกแม่ว่าเธอปลอดภัยดี

 

ในกรณีทีกู้ม่านขอคุยกับมู่เค่อหรือหยูหมิงซี กู้หนิงจะหาข้ออ้างรีบวางสายโดยไวว่าเธอต้องมีเอกสารที่ต้องดู

 

กู้หนิงกำลังจะอ่านหนังสือ เธอยังไม่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับมรกตและหยก เธอต้องการใช้เวลาของเธอให้เต็มที่และอ่านหนังสือพวกนั้นตอนนี้

 

แต่ก่อนจะอ่าน กู้หนิงก็ส่งข้อความวีแชทในกลุ่ม ครอบครัวนักสู้ เพื่อบอกเพื่อนๆว่าเธอมาถึงอย่างปลอดภัย

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป