ตอนที่ 287: กับดัก! ตระกูลหวาง
เมื่อพวกเขาเดินทัวร์ถนนขายของเก่าเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเย็น ดังนั้นพวกเขาจึงพากันกลับไปที่โรงแรม
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงจอดรถที่ลานจอดรถ จากนั้นพากันไปร้านอาหารที่อยู่แถวนั้น
ระหว่างทานข้าว นายท่านถางโทรมาหากู้หนิง เขากล่าวขอบคุณเธอที่แนะนำให้เขาซื้อจานใบนั้นไว้ซึ่งปรากฏว่ามันเป็นของจริง นายท่านถางยังชวนกู้หนิงไปทานข้าวด้วยกันอีกครั้ง แต่กู้หนิงบอกปัดไปเพราะเธอกำลังทานข้าวอยู่
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงกลับไปที่ห้องพักของพวกเขาหลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตามในนาทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในห้อง กู้หนิงสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่ามีบางอย่างผิดปกติในห้อง เธอพบจุดแดงบนทีวี มันต้องเป็นกล้องแอบถ่าย!
ในสายตาคนปกติไม่มีใครสามารถหามันพบแม้แต่เลิ่งเชาถิงก็ยังไม่สังเกตเห็นว่ามีกล้อง แต่กู้หนิงมีตาทิพย์ที่ช่วยเธอให้เห็นว่ามีกล้องซ่อนอยู่
เธอหันไปหาเลิ่งเชาถิงและเอ่ยว่า “โอ้ ฉันอยากกินแก้วมังกรจังเลยค่ะ คุณช่วยไปซื้อให้หน่อยได้ไหมคะ?” จากนั้นเธอก็กระซิบพูดเบาๆว่า “ในนี้มีกล้องซ่อนอยู่”
ได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็ระแวดระวังขึ้นมาทันที
“คุณออกไปก่อน” กู้หนิงยังคงกระซิบพูดเบาๆ
“ได้ แก้วมังกรใช่ไหม?” เลิ่งเชาถิงตอบ
“กีวีด้วยนะคะ” กู้หนิงตอบเสียงสดใส ถัดมาก็กระซิบเสียงเบา “พวกเราจำเป็นต้องเปลี่ยนโรงแรม”
“ไม่มีปัญหา”
หลังจากนั้นเลิ่งเชาถิงก็หมุนตัวเดินออกไป
กู้หนิงปิดประตูและเปิดโคมไฟ เธอเดินไปรอบๆห้องตามปกติ แต่เธอกำลังตรวจสอบว่ามีกล้องซ่อนอยู่ที่อื่นอีกหรือไม่ นอกจากทีวีที่ติดอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วยังมีอีกอันที่ซ่อนอยู่ข้างเตียงในห้องนอนใหญ่
นอกจากกล้องที่ซ่อนอยู่แล้ว กู้หนิงยังค้นพบกล่องขนาดเล็กใต้เตียง มีถุงผงสีขาวอยู่ในนั้น กู้หนิงทำหน้าเครียด เห็นได้ชัดว่านี่เป็นกับดัก เธอพยายามวางกล่องลงในช่องเก็บของกระแสจิตของเธอโดยไม่ต้องเอื้อมมือไปข้างใต้เตียงเพราะมีกล้องบันทึกทุกอย่าง และเธอไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง
โชคดีที่กู้หนิงมีพลังเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น
เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น กู้หนิงตรวจสอบทั้งห้องอีกครั้งก่อนที่เธอจะไปเก็บข้าวของ
ทันใดนั้นเองก็มีคนเคาะประตูห้อง กู้หนิงหันควับใช้ตาทิพย์ส่องออกดู เธอเห็นตำรวจเจ็ดนายอยู่ด้านนอกห้อง
เธอโมโหนิดหน่อย ตำรวจพวกนี้ทนรอไม่ได้เลยสินะ กู้หนิงคิดกับตัวเอง
กล่องที่มีผงสีขาวถูกเก็บในห้องกระแสจิตของเธอเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กังวลใดๆ
“มีอะไรคะ?” กู้หนิงเปิดประตูและถามออกไปอย่างหน้าซื่อๆ
“พวกเราได้รับรายงานว่าคุณแอบซื้อยาและเอากลับมาที่โรงแรมนี้ พวกเราต้องทำการค้นหา!” ตำรวจที่น่าจะเป็นหัวหน้าแสดงหมายค้นและพูดราวกับว่าเขาแค่ทำงานของเขาตามปกติ
“อะไรนะคะ? มีคนรายงานฉัน? ใคร เมื่อไหร่และที่ไหน?” กู้หนิงถาม
“เพื่อความปลอดภัยของพยาน เรามีสิทธิ์ที่จะเก็บเป็นความลับ เรามีหมายค้น หากคุณกล้าขัดขืนเราสามารถจับกุมคุณได้โดยตรง” ตำรวจกล่าว
“ก็ได้ เชิญค่ะ” กู้หนิงไม่ได้ห้ามพวกเขา
นายตำรวจคนอื่นไม่รู้ แต่ตำรวจที่เป็นหัวหน้ารู้ว่ามีกล่องยาซ่อนอยู่ใต้เตียง เขาจึงมั่นใจมากที่จะค้นห้องของเธอ เมื่อพวกเขาพบกล่องยาแล้วกู้หนิงก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้
กู้หนิงปล่อยให้พวกเขาเดินเข้าไปข้างใน แต่ยังใช้ตาทิพย์ของเธอสแกนพวกเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อดูว่าพวกเขาถือถุงยาไปด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามพวกเขามั่นใจเกินไปหรือคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขามั่นใจเกินไปเตรียมถุงยาอื่นๆเพื่อดักกู้หนิงในกรณีที่พวกเขาไม่พบกล่องยาในห้องของเธอ
“ค้น!” ตำรวจที่เป็นหัวหน้าออกคำสั่ง ตำรวจอีกหกคนทำการค้นหารอบๆห้องทันที
พวกเขาไม่ได้ค้นหาที่เตียงในห้องนอนใหญ่โดยตรง แต่กลับค้นหาทุกที่ในห้อง กู้หนิงสามารถบอกได้ว่ามีเพียงหัวหน้าตำรวจชุดนี้เท่านั้นที่รู้ว่ายาเสพติดซ่อนอยู่ที่ไหน
หลังจากที่พวกเขาค้นหาทุกที่ในห้องชุดรวมถึงกระเป๋าเดินทางของกู้หนิง พวกเขาก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
“หัวหน้า พวกเราค้นหาทุกที่แล้วครับแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย”
“หัวหน้า ผมไม่พบยาเสพติดเลยครับ”
“จะเป็นไปได้ยังไง? หาใต้เตียงรึยัง?” หัวหน้าตำรวจเผลอถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
“พวกเราหาแล้วครับ”
หัวหน้าตำรวจแทบไม่เชื่อเพราะเจ้านายของเขาบอกเขาอย่างชัดเจนว่ากล่องยาอยู่ใต้เตียง เขาเดินไปตรวจสอบด้วยตัวเองแต่ก็ไม่พบ
“ไม่เจอใช่ไหมคะ? ทีนี้ออกไปได้รึยัง?” กู้หนิงเป็นฝ่ายพูดบ้าง
“ไม่ เพียงเพราะเราหาไม่พบไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มียาเสพติด บอกมาสิว่าคุณซ่อนยาเสพติดไว้ที่ไหน” เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าตำรวจไม่ยอมแพ้
“อืม” กู้หนิงยิ้มเยาะ “ฉันอยากรู้จังว่าทำไมคุณถึงมั่นใจว่ามียาเสพติดอยู่กับฉัน ฉันให้คุณค้นหาในห้องแล้ว หากคุณไม่มีหลักฐานคุณก็ไม่มีเหตุผลที่จะกล่าวหาฉัน มีใครอยู่ข้างหลังคุณที่ต้องการจับฉันหรือเปล่า?” ท่าทีของกู้หนิงเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่เขา
หัวหน้าตำรวจตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาอยากจะโต้กลับแต่มีคนสั่งให้เขาถอยออกมาจากหูฟัง กู้หนิงก็ได้ยินเช่นกันและเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา
หัวหน้าตำรวจก็พาลูกน้องกลับออกไป กู้หนิงไม่ได้หยุดพวกเขา ตอนนี้การจัดการพวกเขายังไม่ถึงเวลา รอให้ K ส่งหลักฐานการทำผิดกฎหมายของตระกูลหวางให้กู้หนิงก่อน วันนั้นเธอจะถอนรากถอนโคนตระกูลหวางเอง!
เมื่อตำรวจออกไปแล้ว กู้หนิงก็ออกจากโรงแรมเช่นเดียวกัน
หลินเจี้ยนกลายเป็นคนโง่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งแสดงวิดีโอที่ถ่ายโดยกล้องที่ซ่อนอยู่ เขาคิดไม่ออกว่าเหตุใดกับดักของเขาถึงล้มเหลว เขาดูกล่องยาที่วางไว้ใต้เตียงในห้องนอนใหญ่ด้วยตาของเขาเองจากกล้องที่ซ่อนอยู่ และเขารออยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้ที่กู้หนิงจะมีโอกาสนำกล่องยาออกไป
เกิดบ้าอะไรขึ้น!
หลินเจี้ยนรู้สึกกังวลและรีบรายงานให้หวางหงหมิงทราบ หวางหงหมิงตกใจเช่นกันและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาล้มเหลว แต่พวกเขาต้องยอมรับความจริงและหวังว่าคนของพวกเขาในโรงงานของผู้ให้บริการหยกหลากสีจะประสบความสำเร็จ
เลิ่งเชาถิงย้ายไปพักที่โรงแรมห้าดาวที่อยู่ใกล้เคียงกัน เขาค้นทั่วห้อง ตรวจสอบดูว่ามีกล้องหรือเครื่องดักฟังซ่อนอยู่หรือไม่
เขาโทรหากู้หนิง กู้หนิงไม่ได้เล่ารายละเอียดมากเพราะเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายกล่องยาที่อยู่ๆก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตอนที่ 288: ตระกูลหวางเกิดเรื่องแล้ว
ราวๆสี่ทุ่ม K ก็โทรมา เขาส่งหลักฐานของตระกูลหวางเข้าอีเมลของกู้หนิง
“บอส คุณเป็นสายลับที่ส่งมาจากประเทศของเราหรือเปล่า? เหตุใดศัตรูของคุณจึงเป็นอาชญากรทั้งหมด” K ถามและพูดติดตลก เพราะคนที่กู้หนิงขอให้เขาตรวจสอบทุกครั้งนั้นพิเศษมาก
“เปล่า ฉันแค่โดดเด่นเกินไปเลยมีคนอิจฉามากก็เท่านั้น” กู้หนิงพูดติดตลกเช่นกัน แต่ถึงแม้เธอจะพูดเล่นแต่ก็มันก็เป็นความจริง
“ดูเหมือนว่าทำงานให้คุณจะไม่ใช่เรื่องง่ายซะแล้ว แบบนี้ผมก็ไปเที่ยวไหนไม่ได้เลยสิ” K บ่น
“สายไปแล้วล่ะ เว้นแต่คุณต้องการให้ขาของคุณเหมือนเดิม” กู้หนิงกล่าว
K รู้ทันทีว่าเขาไม่ควรพูดแบบนั้น “ไม่ ไม่ ไม่แน่นอน บาย!" หลังจากนั้น K ก็วางสายทันที
กู้หนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จากนั้นเธอก็ส่งข้อความไปหา K และบอกให้เขาสืบหาลูกชายคนที่สองของตระกูลถางในเมือง B เธอต้องการทราบว่าเขากำลังทำอะไรเมื่อ 18 ปีที่แล้ว
เลิ่งเชาถิงกำลังอาบน้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่า K โทรมาและคุยอะไรกับเธอ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินออกจากห้องน้ำและกดกู้หนิงลงบนเตียงโดยไม่รอช้า พวกเขาเริ่มจูบและสัมผัสกันและกัน กู้หนิงลืมตรวจสอบอีเมลที่ K ส่งมาโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามในขณะที่ทั้งคู่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม โทรศัพท์ของกู้หนิงก็ดังขึ้นขัดจังหวะพวกเขา
เลิ่งเชาถิงหงุดหงิด แต่ปล่อยให้กู้หนิงรับโทรศัพท์ ต้องเป็นเรื่องสำคัญไม่อย่างนั้นคงไม่โทรมากลางดึกแบบนี้
คนที่โทรมาคือเฉียวหยา เธอบอกกู้หนิงว่ามีบางคนเพิ่งบุกเข้าไปในโรงงาน แต่พวกเขาสามารถควบคุมพวกมันได้ทันทีที่เข้าไปข้างใน ปรากฎว่าตระกูลหวางส่งพวกมันมา เฉียวหยาถามกู้หนิงว่าจะจัดการอย่างไร
เมื่อได้ยินเช่นนั้นกู้หนิงก็รู้สึกเดือด ดูเหมือนว่าตระกูลหวางจะไม่ยอมแพ้จนกว่าพวกเขาจะทำสำเร็จ!
“ถ่ายวิดีโอพวกมันแล้วโทรแจ้งตำรวจ” กู้หนิงกล่าว
ตำรวจคงไม่เอาโทษพวกมันถ้ารู้ว่าตระกูลหวางอยู่เบื้องหลัง กู้หนิงไม่คิดจะใช้พวกมันต่อกรกับตระกูลหวางอยู่แล้ว แค่อยากให้พวกมันรู้ว่าเธอจับไต๋พวกเขาได้แล้ว
“หากตำรวจเพิกเฉยต่อคดีนี้ก็โพสต์บนอินเทอร์เน็ตซะ” กู่หนิงกล่าวเสริม
เฉียวหยาทำตามคำสั่งขอกู้หนิง เธอโทรแจ้งตำรวจก่อน แต่ตำรวจกลับเพิกเฉย ดังนั้นเฉียวหยาและเกาอี้จึงโพสต์บนอินเทอร์เน็ตหลังจากนั้น ข่าวดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลทันทีเพราะตระกูลหวางมีชื่อเสียงในเรื่องพฤติกรรมที่หยาบคายและหยิ่งผยอง หลายคนไม่ชอบพวกเขาและคว้าทุกโอกาสที่จะวิพากษ์วิจารณ์พวกเขา
ตำรวจไม่คาดคิดว่าจะเป็นไวรัล เพื่อที่จะหยุดไม่ให้แพร่กระจายไปมากกว่านี้พวกเขาจึงส่งตำรวจมาจัดการทันที
ตำรวจเรียกหวางหงหมิงมาสอบปากคำเนื่องจากตระกูลหวางมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ หวางหงหมิงรู้สึกหงุดหงิดหลังจากที่เขาพบว่าแผน B ของเขาล้มเหลวเช่นกัน เขาแปลกใจที่มีคนมีฝีมือคุ้มกันโรงงานผู้ให้บริการหยกหลากสี แน่นอนว่าหวางหงหมิงปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าตระกูลหวางมีส่วนเกี่ยวข้อง
แม้ว่าผู้ต้องหาจะสารภาพว่าตระกูลหวางส่งพวกเขาไปสร้างความเสียหายให้กับโรงงาน แต่หวางหงหมิงปฏิเสธเสียงแข็ง ดังนั้นพวกเขาจึงถูกตัดสินให้เป็นขโมยในที่สุด
กู้หนิงไม่ได้แสดงความผิดหวังใดๆ เพราะเธอมีแผนของเธออยู่แล้ว
วันรุ่งขึ้นประมาณเก้าโมงเช้า หวางหงหมิงพูดกับหลินเจี้ยนว่า “กระจายข่าวว่าเจ้านายของผู้ให้บริการหยกหลากสีคือราชินีแห่งหยก และบอกผู้ให้บริการวัตถุดิบรายอื่นว่าอย่าขายหินให้พวกเขา”
การที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการตัดแหล่งวัตถุดิบของผู้ให้บริการหยกหลากสี
“ได้ครับ!” หลินเจี้ยนรับคำสั่ง
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันหวางหงหมิงก็ได้รับโทรศัพท์ หลังจากรับสายหวางหงหมิงก็ตะลึง
แล้วก็เมืองเถิง....
คอมพิวเตอร์ทั้งหมดในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ถูกแฮ็ก มีบรรทัดของคำที่แสดงบนหน้าจอ หวางหยวนเฟิงลูกชายของหวางป๋อกวงซึ่งเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเถิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข่มขืนเด็กผู้หญิงหลายครั้ง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมปีที่แล้ว หวางหยวนเฟิงได้ข่มขืนและฆ่าลูกสาววัย 16 ปีของครูของเขา เพราะเขาไม่พอใจกับการศึกษาของครู หวางป๋อกวงในฐานะรองนายกเทศมนตรีหาแพะมาแทนที่ลูกชายของเขาและชายคนนี้ต้องโทษประหารชีวิต
นอกจากนี้ยังมีวิดีโอที่แนบมาด้วย
ในวิดีโอ หวางหยวนเฟิงนั่งยองๆ ตัวสั่นอยู่ที่มุมห้อง เขาสารภาพทุกอย่างที่เขาทำอย่างผิดกฎหมาย
ในคำสารภาพของเขา เขาได้ทำการข่มขืนกระทำชำเราอย่างน้อย 10 ครั้งในช่วงสามปีที่ผ่านมาและเหยื่อทั้งหมดเป็นเด็กผู้หญิงที่มาจากครอบครัวยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมปีที่แล้ว หวางหยวนเฟิงเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนมัธยม อาจารย์ของเขาได้ดุด่าเขาเพราะเขามีส่วนร่วมในการทะเลาะวิวาท หวางหยวนเฟิงผูกใจเจ็บจึงได้ข่มขืนและฆ่าลูกสาววัย 16 ปีของครูคนนั้นพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของเขา หลังจากนั้นภายใต้การจัดการของหวางป๋อกวงซึ่งดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองเถิง เพื่อนร่วมชั้นของหวางหยวนเฟิงถูกตัดสินประหารชีวิต แต่หวางหยวนเฟิงหนีไปได้สำเร็จ
ในโทรศัพท์ของหวางหยวนเฟิงมีรูปภาพและวิดีโอเกี่ยวกับการข่มขืนของเขา เขาใช้ภาพและวิดีโอเพื่อข่มขู่เหยื่อเหล่านั้นให้อยู่อย่างเงียบๆ เหยื่อเหล่านั้นไม่สามารถต่อกรตระกูลหวางผู้มีอิทธิพลได้พวกเขาจึงต้องปิดปากเงียบ
วินาทีที่มีการเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองเถิง ผู้คนต่างพากันสาปแช่งตระกูลหวาง หลายคนเรียกสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะและเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีนี้ ชื่อเสียงของตระกูลหวางถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงในครั้งนี้ สิ่งที่พวกเขาทำลงไปนั้นไม่สามารถยอมรับได้โดยสิ้นเชิง!
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่แต่ละคนในเมืองเถิงก็ได้รับข้อความที่แนบวิดีโอมาด้วย ความโกรธของพวกเขาก็ถูกจุดขึ้น และทุกคนก็ไปที่สำนักงานของหวางป๋อกวงเพื่อเอาเรื่องเขา
จางหยวนเฉิงซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ไปจับกุมหวางป๋อกวง ด้วยตนเอง สำหรับหยางหยวนเฟิง เขาถูกส่งไปที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะก่อนหน้านี้แล้ว และตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของตำรวจ
เรื่องนี้ในตระกูลหวางมีเพียงหวางหงหมิงและหวางป๋อกวงเท่านั้นที่รู้เรื่องอื้อฉาวของหวางหยวนเฟิง แต่เรื่องอื้อฉาวนั้นเหนือจินตนาการของพวกเขาในตอนนี้