ตอนที่ 273: ครอบครัวของเลิ่งเชาถิง
ซีหมิงออกมาจากห้องน้ำ เห็นซู่จินเฉินกำลังยืนทำหน้าอึ้งตกใจที่ข้างหน้าต่าง เขาเดินเข้าไปหา สะกิดเบาๆ เอ่ยถามว่า “เฮ้ เป็นไรวะ?”
“ฉันเพิ่งโทรหาบอส” ซู่จินเฉินตอบ
“แล้ว? เขาอยู่ที่ไหน? จะกลับมาเมื่อไหร่?” ซีหมิงถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน เขาบอกว่าถ้าไม่มีเรื่องสำคัญไม่ต้องโทรไปอีก” ซู่จินเฉินตอบ “แต่บอกได้เลยว่าวันนี้บอสของเราทำตัวแปลกมาก เขาหงุดหงิดง่าย”
ถึงแม้เลิ่งเชาถิงจะชอบทำหน้าตายและเป็นหัวหน้าที่เข้มงวด น้อยมากที่เขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเอง ดังนั้นซู่จินเฉินไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆเขาถึงกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดง่าย เลิ่งเชาถิงไม่เคยมีอารมณ์แบบนี้มาก่อน
“จริงเหรอ?” ซีหมิงประหลาดใจ ช่วงนี้เลิ่งเชาถิงทำตัวแปลกๆจริงๆนั่นแหละ “นายโทรหาเขาแล้วทำลายคืนโรแมนติกของเขากับสาวสวยรึเปล่า?” ซีหมิงถาม
ซู่จินเฉินไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาไม่เชื่อจะกลายเป็นเรื่องจริง
ในระหว่างที่เลิ่งเชาถิงคุยโทรศัพท์กับซู่จินเฉิน กู้หนิงก็เดินเข้าไปในห้องของเธอ เลิ่งเชาถิงวางสายและเดินตามเธอเข้าไป เขากอดกู้หนิงจากด้านหลัง ถูหน้าตัวเองลงบนบ่าและซอกคอของเธอ ลมหายใจอุ่นๆของเขาทำให้กู้หนิงจั๊กจี้
“เชาถิง คุณเล่าเรื่องครอบครัวของคุณให้ฉันฟังได้ไหมคะ?” กู้หนิงถาม อยู่ๆเธอก็สนใจครอบครัวเขาขึ้นมา ถึงแม้เธอจะเชื่อใจเลิ่งเชาถิงและไม่สนใจภูมิหลังของเขา เธอต้องการรู้เกี่ยวกับตัวเขาให้มากขึ้น ถ้าพวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของอีกฝ่ายเลย อาจทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เสียหายได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตัวของเลิ่งเชาถิงก็แข็งขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้
กู้หนิงรู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาที่ผิดปกติของเขาและอธิบายทันทีว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็ได้”
กู้หนิงรู้สึกว่าเลิ่งเชาถิงไม่ชอบครอบครัวของเขา ดังนั้นเธอจะไม่บังคับเขา
“ไม่เป็นไร” เลิ่งเชาถิงเอ่ยเสียงเบา เขาเข้าใจว่าเธออยากรู้เกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น แม้เขาไม่เต็มใจเอ่ยถึง แต่เพื่อกู้หนิงเขาเต็มใจ
คุณปู่ของเลิ่งเชาถิง ‘เลิ่งเว่ยหัว’ ผู้นำตระกูลเลิ่ง ลุงรองของเขา ‘เลิ่งหยวนเฉียน’ และป้ารองของเขา 'เจียงซูหยวน’ มีลูกชายและลูกสาว ลูกของพวกเขา ‘เลิ่งเชาหมิน’ อายุยี่สิบห้าปี อ่อนกว่าเลิ่งเชาถิงหกเดือน มีงานทำแล้ว ลูกสาวของพวกเขา ‘เลิ่งเชาเจี๋ย’ อายุยี่สิบสาม เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย
ลุงสามของเขา ‘เลิ่งหยวนเจิน’ และป้าสาม ‘หยูหยิน’ มีลูกชายลูกสาวเหมือนกัน ลูกสาวของพวกเขา ‘เลิ่งเชาซี’ อายุยี่สิบ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง ปีสอง ลูกชายของพวกเขา ‘เลิ่งเชาซุน’ อายุสิบแปด นักเรียน ม.6
ป้าเล็กของเขา ‘เลิ่งหยวนจิน’ และลุงเล็กของเขา ‘ซ่งเหวินซวน’ มีลูกสาวคนเดียว ‘ซ่งอี้หนัว’อายุสิบสาม เป็นนักเรียน ม.1
เมื่อกู้หนิงได้ยินชื่อของเลิ่งเว่ยหัว เธอก็ประหลาดใจ ในชาติที่แล้วเธอเติบโตในเมืองหลวงและคุ้นเคยกับชื่อที่มีอิทธิพลเหล่านั้นเป็นอย่างดี
กู้หนิงรู้ว่าเลิ่งเชาถิงมาจากครอบครัวที่มีอิทธิพล แต่ไม่รู้ว่าจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้ ตระกูลเลิ่งเป็นผู้นำสี่ตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองหลวง
บิดาของเลิ่งเว่ยหัวเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศนี้ และสมาชิกทุกคนในตระกูลเลิ่งต่างก็มีตำแหน่งสำคัญทางการเมือง
เลิ่งเชาถิงไม่ได้กล่าวถึงพ่อแม่ของเขา เพราะพวกเขาล่วงลับไปแล้วเมื่อเลิ่งเชาถิงยังเป็นเด็ก พ่อแม่ของเลิ่งเชาถิงเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานของพวกเขา ซึ่งกู้หนิงก็รับรู้เช่นกันในชาติที่แล้วของเธอ
เมื่อเห็นกู้หนิงทำหน้าตกใจ เลิ่งเชาถิงก็กังวลว่าเธอจะทิ้งเขาไปเพราะครอบครัวของเขา
“ครอบครัวของคุณมีอิทธิพลมาก แต่ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ครอบครัวของคุณจะเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเราเหรอคะ?”
ในความเป็นจริงเธอไม่สนใจว่าจะมีปัญหาอยู่ข้างหน้าหรือไม่ ความคิดของเลิ่งเชาถิงต่างหากที่มีความสำคัญกับเธอมากที่สุด ตราบใดที่เขาเต็มใจอยู่กับเธอ เธอก็ไม่สนใจว่าครอบครัวของเขาจะไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ยิ่งไปกว่านั้นกู้หนิงเชื่อว่าเธอจะมีอนาคตที่สดใส และสามารถยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขาได้
“ไม่ต้องกังวล ไม่มีใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมได้ ตราบใดที่ผมรักคุณ คุณไม่มีทางไม่เห็นด้วย ส่วนคนอื่นก็ไม่ต้องไปสนใจ ถ้าพวกเขาทำให้คุณรำคาญ ก็สู้กลับ ผมจะสนับสนุนคุณเอง” เลิ่งเชาถิงกล่าว
ความสัมพันธ์ของเลิ่งเชาถิงกับสมาชิกในครอบครัวคงไม่ค่อยดีนัก แต่เธอรู้สึกซาบซึ้งใจที่เขาอยู่ข้างเธอ
“ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต” กู้หนิงพึมพำ
ได้ยินเช่นนั้นเลิ่งเชาถิงก็ตระหนก เขากลัวว่ากู้หนิงจะจากเขาไปในสักวันหนึ่ง เขากอดเธอแน่นขึ้น มองเข้าไปในดวงตาคู่งาม “คุณไม่อยากอยู่กับผมแล้วเหรอ? ผมทำอะไรผิด? อย่าไปจากผมเลยนะ”
เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิงตื่นตระหนก กู้หนิงก็รู้สึกผิดเล็กน้อย “ฉันอยากอยู่กับคุณ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันแค่ล้อเล่นค่ะ"
กู้หนิงรู้สึกเสียใจที่แกล้งเขา หลังจากที่เธอรู้เกี่ยวกับครอบครัวของเขา ผู้ชายคนนี้ขาดความมั่นคงทางจิตใจ และเธอไม่ควรแกล้งเขาแบบนั้น เธอโทษตัวเอง เธอจูบเพื่อปลอบประโลม
แม้ว่ากู้หนิงจะอธิบายไปแล้วว่าเธอแค่พูดเล่น เลิ่งเชาถิงก็ยังกลัวอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงจูบเธอกลับเพื่อให้รู้สึกถึงการมีอยู่ของเธอ
จูบนั้นเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้พวกเขาต้องการกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งคู่ถอดเสื้อคลุมออก ตอนนี้มีเพียงเสื้อสเวตเตอร์รัดรูป แม้ว่ากู้หนิงอายุสิบแปด แต่ขนาดหน้าอกหน้าใจก็พอดีเต็มมือ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายสัมผัสร่างกาย ร่ายของเธอสั่นสะท้านเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น เธอไม่ได้ต่อต้านเพราะเธอเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว
ตอนที่ 274: ฉันต้องการคุณ
ขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม อยู่ๆเลิ่งเชาถิงก็หยุดการกระทำของตนเอง เขาพยายามอย่างหนักที่จะดึงเอาเหตุผลกลับคืนมา “หนิงหนิง ผม....”
เขากลัวว่าจะทำให้เธอเจ็บ แต่เขาต้องการเธอเดี๋ยวนี้เหลือเกิน
“เชาถิง ฉันต้องการคุณ...” เธอรู้ว่าเธอพูดอะไรและกำลังทำอะไร
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากกู้หนิง เลิ่งเชาถิงก็โยนทิ้งเหตุผลไปจนหมด เขาเคลื่อนไหวเข้าสู่ร่างกายของเธออย่างรวดเร็วและดุดัน ราวกับสัตว์ร้ายหิวโหยที่จับเหยื่อของมันได้ในที่สุด
กู้หนิงอยากจะกรีดเสียงด้วยความเจ็บปวด แต่ห้ามตัวเองได้ทัน นี่เป็นครั้งแรกของเธอ เธอรู้ว่ามันต้องเจ็บ เธอจึงเตรียมใจไว้แล้ว
เลิ่งเชาถิงรู้ว่ากู้หนิงเจ็บ เขาค่อยๆผ่อนความเร็วลง ขยับเข้าออกช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ็บก็แปรเปลี่ยนเป็นความวาบหวาม
กิจกรรมบนเตียงยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง กู้หนิงเริ่มเหนื่อย เธอต้องยอมรับว่าเลิ่งเชาถิงมีพลังล้นเหลือจริงๆ เขาไม่เหนื่อยเลยรึไง?
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เวลาก็ล่วงเข้าสู่ตีสามของเช้าวันใหม่ ทั้งคู่นอนกอดหลับไปด้วยกัน
เมื่อกู้หนิงตื่นขึ้นมา เลิ่งเชาถิงก็ไม่อยู่บนเตียงแล้ว ภายในห้องเงียบสงัด แต่เธอรู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่ เธอใช้ตาทิพย์มองหาเขา เห็นเขากำลังทำกับข้าว
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ลอยเข้ามาในหัวเธอทันที กู้หนิงหน้าแดง เมื่อคืนเธอมีความสุขและก็โกรธเขาหน่อยๆ เธอเพิ่งเข้าใจว่าหมาป่าในคราบลูกแกะเป็นอย่างไร เวลาปกติเขาก็ควบคุมตัวเองได้ดีมากอยู่หรอก แต่พออยู่บนเตียงกลับเป็นหมาป่าหิวกระหาย ถ้าเธอไม่มีพลังไว้ปกป้องตัวเอง เธออาจสลบเหมือดไปแล้วก็ได้!
ก้มดูรอยที่เขาทิ้งไว้ตามเนื้อตัวของตน กู้หนิงก็หน้าแดงอีกครั้ง เธอสามารถใช้พลังลบรอยเหล่านี้ได้ แต่เธอไม่อยากทำ เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ความรักของพวกเธอ ตอนนี้เป็นฤดูหนาว เธอก็แค่ใส่เสื้อปกปิดมันซะก็สิ้นเรื่อง
กู้หนิงลุกจากเตียงเดินไปอาบน้ำ เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก่อนออกจากห้องนอน
เลิ่งเชาถิงเตรียมอาหารเฃ้าเสร็จแล้วตอนที่กู้หนิงเดินออกมา เขามองเธอแล้วหน้าแดง เพราะเมื่อคืนพวกเขาเพิ่งผ่านกิจกรรมบนเตียงกันอย่างหนักหน่วง และยังเป็นครั้งแรกของเขาด้วย
“อรุณสวัสดิ์!” เลิ่งเชาถิงเอ่ยทัก เลื่อนเก้าอี้ให้กู้หนิงนั่ง
“อรุณสวัสดิ์!” กู้หนิงเขินจนหน้าแดง ตัวแดง เธอไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ ดังนั้นเธอจึงก้าวฉับๆไปนั่งที่โต๊ะ ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน ทานอาหารเช้าด้วยกัน
ไม่มีใครพูดอะไร แต่สายตาเลิ่งเชาถิงวนเวียนอยู่ที่หน้าของกู้หนิงตลอดเวลา เขากำลังค้นหาร่องรอยอะไรบางอย่าง กู้หนิงรู้สึกอึดอัด ถามออกไปว่า “คุณมองฉันทำไมคะ?”
“เอ่อ...” เลิ่งเชาถิงไม่กล้าพูดออกไป แต่ด้วยความห่วงเธอ เขาจึงถามออกไปว่า “คุณรู้สึกไม่สบายที่ตรงไหนรึเปล่า?”
เลิ่งเชาถิงไม่รู้ว่ากู้หนิงมีพลังไว้ปกป้องตัวเธอเอง เขารู้ว่าครั้งแรกของผู้หญิงเจ็บมาก
กู้หนิงหน้าแดงด้วยความอายอีกครั้ง ถึงจะนอนด้วยกันแล้ว แต่การพูดเรื่องนี้ออกมาโต้งๆเธอก็ยังรู้สึกกระดาก “เอ่อ เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ไม่ ไม่เจ็บเท่าไหร่”
ความเป็นจริงเธอใช้พลังของเธอเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมาก
เลิ่งเชาถิงรู้สึกผิด เขาเอ่ยขอโทษเธอ “ขอโทษนะ เมื่อคืน ผม ผมหยุดไม่ได้”
“งั้นคราวหน้าก็ช่วยยับยั้งชั่งใจด้วยนะคะ” กู้หนิงหัวเราะเบาๆ ถึงเธอจะพูดแบบนั้น แต่ฟังเหมือนเธอกำลังตั้งหน้ารอครั้งต่อไป
“ได้ครับ!” ต่อให้กู้หนิงไม่พูด ครั้งหน้าเขาก็ต้องระวังตัวเองมากกว่าเดิม
กู้หนิงไม่พูดอะไรต่อ เธอกินข้าวช้าวเงียบๆ
ระหว่างทานข้าว ซู่จินเฉินก็โทรหาเลิ่งเชาถิงอีกครั้ง หลังจากได้รับคำเตือนไปเมื่อคืน เขาก็ไม่กล้าโทรมาด้วยเรื่องไร้สาระอีก ครั้งนี้เขาโทรมาเพราะเรื่องงาน พวกเขาต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว ดังนั้นเลิ่งเชาถิงจึงออกไปหลังจากที่วางสาย
ก่อนที่เขาจะจากไป เขาบอกกู้หนิงให้ดูแลตัวเอง เพราะเขาไม่สามารถห้ามไม่ให้เธอไปนั่นมานี่ได้
เมื่อเลิ่งเชาถิงจากไปแล้ว กู้หนิงก็โทรหาเจ้าของโรงงาน วันนี้พวกเขามีนัดทำสัญญาวันนี้ ตอนนี้เก้าโมงเช้า พวกเขาควรจัดการให้เสร็จในตอนเช้า
กู้หนิงนัดพบเจ้าของโรงงานที่สำนักงานพาณิชย์ พวกเขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็จัดการเอกสารเสร็จเรียบร้อย กู้หนิงโทรหาเจิ้งเผิง พวกเขามีแผนจะเอาหินจากตระกูลหวาง
เจิ้งเผิงกำลังรอสายของกู้หนิงและพร้อมที่จะออกเดินทางได้ทุกเมื่อ ดังนั้นกู้หนิงจึงนั่งรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปยังถนนหินพนันโดยไม่รอช้า ระหว่างทางเลิ่งเชาถิงโทรมาหาเธอ บอกว่าการจดทะเบียนจะแล้วเสร็จในบ่ายวันนี้ กู้หนิงประหลาดใจกับประสิทธิภาพของเขา แต่เมื่อนึกถึงภูมิหลังของเขา กู้หนิงเชื่อว่าเขาสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้