Your Wishlist

กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ (ตอนที่ 255 - 256: ความสนุกสนานในการจับจ่าย, การแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ)

Author: BuaElla แปล

เธอเปรียบดั่งหุ่นเชิดของตระกูล เป็นสายลับและนักฆ่า เธอถูกหักหลังและตกลงไปในทะเล เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอกลายเป็นเด็กสาวมัธยมธรรมดาๆ เนื่องจากเกิดมาไม่มีพ่อ เธอจึงถูกญาติของเธอถากถางมาตั้งแต่เด็กจนโต และถูกรังแกจากเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวอีกแล้ว ใครกล้าทำร้ายเธอ เธอจะหักกระดูกพวกมัน !

จำนวนตอน : ยังไม่จบ

ตอนที่ 255 - 256: ความสนุกสนานในการจับจ่าย, การแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ

  • 07/04/2564

ตอนที่ 255: ความสนุกสนานในการจับจ่าย

 

ในระหว่างรับประทานอาหาร กู้หนิงพูดคุยอย่างสนุกสนานกับนายท่านถาง นายท่านถางถังชวนเธอไปเที่ยวที่เมือง B กู้หนิงก็เห็นด้วย เมือง B เป็นเมืองที่พัฒนาแล้วเช่นเดียวกับเมืองหลวง

 

หลังจากทานข้าวเสร็จ กู้หนิงและนายท่านถางก็กล่าวลาและแยกย้าย

 

เมื่อเธอกลับมาที่ห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุดใหม่ พร้อมด้วยแต่งหน้าเข้มและม้วนผม จากนั้นเธอก็ออกจากโรงแรมขึ้นแท็กซี่ไปยังถนนพนันหิน

 

เธอโทรหาเฉียวหยาทันทีที่ถึง เฉียวหยาและเกาอี้ได้เตรียมร้านและเครื่องตัดหินไว้รอเธอเรียบร้อยแล้ว

 

มีร้านค้าและเครื่องจักรว่างเปล่ามากมายสำหรับผู้ที่ซื้อวัตถุดิบจำนวนมาก แต่ไม่สามารถขนย้ายออกไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นจึงไม่ทำให้เกาอี้และเฉียวหยามีปัญหามากนักในการจัดการ

 

ภายใต้การบอกทางของเฉียวหยา ไม่นานกู้หนิงก็หาที่ตั้งของร้านพบ

 

ขณะที่กู้หนิงกำลังเดินเข้าไปในร้าน เฉียวหยาก็ขวางทางเธอไว้และพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ขอโทษด้วยค่ะ นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัว คนนอกห้ามคน”

 

“เอ่อ..ถ้าหากว่าฉันจะเข้าล่ะ?” กู้หนิงถาม เธอจงใจพูดเสียงต่ำ

 

เกาอี้และเฉียวหยาที่เป็นนักฆ่ามืออาชีพจำเสียงกู้หนิงได้ทันที กู้หนิงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากเปลี่ยนการแต่งตัวและแต่งหน้า พวกเขาแทบจำเธอไม่ได้ “บอส?”

 

กู้หนิงพอใจที่พวกเขายังจำเสียงเธอได้ ถ้าจำไม่ได้ เธอคงสงสัยความสามารถของพวกเขา

 

“เฉียวหยา เฝ้าโกดังไว้ เกาอี้ ไปเอารถเข็นและนายไปซื้อหินกับฉัน” กู้หนิงกล่าว

 

“ครับ/ค่ะ” ทั้งคู่ตอบ

 

หลังจากนั้นเกาอี้ก็เข็นรถเข็นตามหลังกู้หนิงออกไป

 

กู้หนิงใช้ตาทิพย์สำรวจหินที่ปรากฏเข้าสู่สายตาของเธอ ถ้าเธอพบว่ามีหยกอยู่ข้างใน เธอจะซื้อทันที

 

แน่นอนว่ากู้หนิงไม่ซื้อหินทุกก้อนที่มีหยกอยู่ข้างใน เธอต้องการหยกระดับสูงและระดับกลางเท่านั้น ส่วนหยกที่มีระดับต่ำกว่าระดับปานกลาง กู้หนิงไม่สนใจ

 

ร้านที่มีหยกระดับกลางและระดับสูงมีอยู่ไม่เกินสิบร้าน และกู้หนิงไม่ได้ตัดหินที่ร้าน แต่นำพวกมันกลับไปที่โกดังของเธอ

 

ร้านแรกกู้หนิงได้หินมาสามก้อมพร้อมหยกระดับกลางและระดับสูงข้างใน

 

เกาอี้ไม่สะดวกที่จะเข็นรถเข็นรอบร้านไปมา ดังนั้นเขาจึงรออยู่ด้านนอก 10 นาทีกู้หนิงก็ออกมาพร้อมกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่ซึ่งทำให้เกาอี้ตกใจ

 

เร็วมาก!

 

เกาอี้เดินมารับกล่องจากกู้หนิง น้ำหนักของมันราวๆหกสิบปอนด์

 

ร้านที่สอง กู้หนิงก็ยังทำความเร็วอยู่ที่สิบนาที และจำนวนหินที่เธอซื้อก็เท่ากับร้านแรก

 

กู้หนิงเลือกซื้อหินต่อ เธอซื้อก้อนหินทั้งหมดสี่สิบห้าก้อนจากร้านทั้งหมดเจ็ดร้าน

 

รถเข็นเต็มไปด้วยก้อนหิน เกาอี้จึงกลับไปที่โกดังก่อนกลับมาหากู้หนิงอีกครั้ง

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่จะซื้อก้อนหินจำนวนมาก จึงไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก

 

สิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจคือเมื่อตัดหินออกมาแล้วมีหยกอยู่ข้างในรึเปล่า

 

เฉียวหยาประหลาดใจเมื่อเห็นเกาอี้กลับมาพร้อมหินเต็มรถเข็น

 

รอบที่สองกู้หนิงก็กวาดซื้อหินห้าสิบก้อนจากร้านที่เก้า มีหยกระดับบนสุดสองก้อน กู้หนิงจึงแอบเก็บมันในห้องเก็บของกระแสจิต

 

เกาอี้ขนหินกลับไปไว้ที่โกดังอีกครั้ง รอบที่สามพวกเขาไปยังร้านขนาดใหญ่ที่เป็นของตระกูลหวางซึ่งเป็นหนึ่งในสามผู้จัดหาหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเถิง

 

ร้านของตระกูลหวางเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม โครงสร้างของร้านคล้ายกับร้านของตระกูลจาง หินที่ถูกที่สุดอยู่ที่โถงด้านหน้า ราคาเริ่มต้นหลักร้อยหยวน ส่วนหินระดับสูงถัดมาอยู่ในห้องด้านหลัง

 

หินแต่ละแบบมีหลายราคา หินระดับ D มีราคาหลายร้อยหรือหลายพันหยวนต่อปอนด์ หินระดับ C ราคาอยู่ระหว่างหลายพันถึงหลายหมื่นหยวนต่อปอนด์  หินระดับ B ราคาอยู่ที่หลายหมื่นหยวนต่อปอนด์ แต่หินระดับ A คือหินที่มีแนวโน้มว่ามีหยกอยู่ข้างในแล้วแน่ๆ ในกรณีนั้นราคาอาจพุ่งสูงขึ้นถึงก้อนละหลายล้านหรือหลายสิบล้านหยวน

 

อย่างไรก็ตามขนาดและมูลค่าของหยกภายในหินระดับ A ยังคงเป็นที่ถกเถียง มีความเป็นไปได้ว่ามันมีเพียงชั้นหยกบางๆ ดังนั้นผู้ซื้อจึงต้องกล้าเสี่ยงโชคระดับหนึ่ง

 

กู้หนิงเดินทัวร์รอบๆห้องโถงก่อน และพบหินสามก้อนที่มีหยกระดับกลางค่อนสูงอยู่ข้างใน จากนั้นเธอก็ไปที่ห้อง D และห้อง C และได้หินที่มีหยกระดับกลางค่อนสูงสิบห้าก้อน และหยกระดับสูงอีกห้าก้อน และหยกระดับสูงสุดอีกสองก้อน

 

เมื่อกู้หนิงเดินมายังห้อง B เธอสังเกตเห็นหินสูงขนาดเท่าตัวเธอ น้ำหนักของมันน่าจะประมาณ 400 ปอนด์

 

มีพลังที่หนาแน่นและแข็งแกร่งอยู่ในหินขนาดใหญ่ก้อนนี้ มันเป็นพลังของหยกระดับกลางค่อนสูง แต่เธอจะต้องตัดมันออกเพื่อดูประเภทของมัน

 

ผิวชั้นนอกไม่หนามาก มันควรมีน้ำหนักประมาณ 300 ปอนด์หลังจากตัดผิวชั้นนอกออก หยกข้างในนั้นอาจมีมูลค่ามากกว่าพันล้านหยวนเป็นอย่างน้อย

 

กู้หนิงตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น เธอยกก้อนหินใส่รถเข็นอย่างไม่รอช้า ด้วยพลังของเธอ กู้หนิงจึงยกก้อนหินขึ้นอย่างสบายๆ อย่างไรก็ตามการกระทำของเธอทำเอาคนรอบข้างอ้าปากค้าง

 

เธอสามารถยกหินที่หนักกว่าตัวเธอมากได้อย่างไร?

 

กู้หนิงเห็นปฏิกิริยาของคนรอบข้าง แต่เธอไม่สนใจ เธอผลักรถเข็นไปจ่ายเงินทันที

 

เมื่อผู้คนเห็นว่ากู้หนิงผลักรถเข็นของเธอออกไปพร้อมกับหินขนาดใหญ่ พวกเขาต่างก็ประหลาดใจ หินขนาดใหญ่เช่นนี้จากห้อง B ต้องมีราคาอย่างน้อยหนึ่งหมื่นห้าพันหยวนต่อปอนด์ และต้องใช้เงินทั้งหมดอย่างน้อยเจ็ดล้านหยวน!

 

ว้าว!

 

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้ายาวๆ เพราะไม่มีใครเชื่อว่าหินขนาดใหญ่นั้นคุ้มที่จะเสี่ยง

 

แม้แต่ผู้จัดการร้านก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเลือกหินขนาดใหญ่นี้ เจ้านายของเขาก็ยังไม่เห็นด้วย

 

เจ้านายของเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหยก ถ้าเขาไม่เห็นด้วย คนที่เป็นลูกค้าขาประจำของร้านนี้ก็จะไม่สนใจหินก้อนนั้น ดังนั้นหินที่กู้หนิงเลือกจึงตั้งขายอยู่ตรงนี้มาสองปีแล้ว ไม่มีใครอยากซื้อมัน

 

วันนี้กู้หนิงเป็นคนซื้อมัน ผู้จัดการร้านไม่ทักท้วงเธอ ดีเสียอีกที่เขาขายหินก้อนนั้นได้

 

กู้หนิงทราบดีว่ามีหยกล้ำค่าอยู่ในนั้น ดังนั้นเธอจึงยินดีจ่ายไม่ว่าราคาของมันจะอยู่ที่เจ็ดล้านหรือเจ็ดสิบล้านหยวนก็ตาม

 

ตอนที่ 256: การแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ

 

หินขนาดใหญ่นี้มีน้ำหนัก 450 ปอนด์ ราคาสองหมื่นหยวนต่อปอนด์ แต่ผู้จัดการให้ส่วนลดกู้หนิง เธอจึงจ่ายไปทั้งหมด 7.8 ล้านหยวน

 

หลังจากนั้นกู้หนิงก็บรรจุหินก้อนเล็กลงในกล่องกระดาษแข็ง และให้คนงานในร้านช่วยขนย้ายหินก้อนใหญ่ออกไป

 

เกาอี้ที่รออยู่ด้านนอกเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

 

นี่มีหยกอยู่ข้างในจริงๆเหรอ? ถ้าไม่มี เจ้านายของเขาคงเสียเงินก้อนใหญ่ทิ้งไปเปล่าๆ

 

จากนั้นเกาอี้ก็ย้ายหินทั้งหมดกลับไปที่โกดังของพวกเขา และกู้หนิงบอกให้เขาไปพักผ่อน ส่วนเธอจะโทรหาเขาหากเธอต้องการความช่วยเหลือในภายหลัง

 

ครั้งนี้เธอจะตัดหินบางส่วนที่นี่ ตระกูลหวางเป็นหนึ่งในสามของผู้จัดหาหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเถิง นักค้าอัญมณีหลายคนมาที่นี่เพื่อมองหาหยกคุณภาพดี

 

ภายในห้อง B มีหินที่มีหยกระดับสูงมากมายอยู่ข้างใน ถ้าไม่ใช่เพราะเธออยากได้หินขนาดใหญ่ที่เพิ่งซื้อ เธอคงไม่รีบออกไปจ่ายเงิน กู้หนิงรีบกลับไปยังห้อง B เพื่อเลือกซื้อหินต่อ เธอได้หินสองก้อนที่มีหยกระดับสูง และอีกสองก้อนที่มีหยกระดับกลางค่อนสูง

 

ขณะที่กู้หนิงกำลังจะหยิบหินก้อนสุดท้ายที่มีหยกระดับกลางค่อนสูง ก็มีเสียงหนึ่งร้องทักเธอ

 

“นี่ ฉันเห็นหินก้อนนั้นก่อน! ส่งมันมาให้ฉัน” เด็กสาวอายุราวๆสิบเจ็ดปีตะโกนใส่กู้หนิงอย่างหยาบคาย จากนั้นเธอก็วิ่งข้ามาหมายจะคว้าเอาหินจากมือกู้หนิงไป

 

กู้หนิงเบี่ยงตัวไม่ให้เธอคว้าหินไปได้ “เธอไม่รู้กฏการพนันหินเหรอ? คนไหนหยิบก่อนก็เป็นของคนนั้น ไม่ใช่คนที่เห็นก่อนเป็นเจ้าของก่อน” กู้หนิงไม่ได้โมโห แต่มองดูเด็กสาวด้วยสายตาเย็นชา

 

“ใช่! การพนันหินนั้นมีกฎของมันอยู่ เด็กคนนี้หยาบคายจริง!” มีคนตำหนิเธอ

 

“แล้วไง? พวกคุณรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นลูกสาวของตระกูลหวาง หวางซินหยวน นี่คือร้านของครอบครัวฉัน ดังนั้นถ้าฉันบอกว่าหินก้อนนี้เป็นของฉัน มันก็เป็นของฉัน” เด็กสาวพูดเอาแต่ใจ

 

เมื่อได้ยินว่าเธอเป็นลูกสาวของตระกูลหวาง ลูกค้าที่อยู่แถวนั้นก็ทำหน้าตื่นตกใจ โดยเฉพาะคนที่รู้ว่าเธอคือหวางซินหยวน

 

ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะเธอมีชื่อเสียงในเรื่องพฤติกรรมที่หยาบคายและไร้ความปรานี

 

“เธอเป็นลูกสาวตระกูลหวาง? ตัวปัญหาของแท้!”

 

“ใช่ๆ ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับตระกูลหวาง!”

 

“ฉันได้ยินมาว่าครั้งก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่งหยิบหินที่คุณหนูหวางหมายตา เธอไม่ยอมยกหินให้คุณหนูหวางคนนี้ ถึงขนาดสู้กันเลยนะ ต่อมาพ่อของผู้หญิงคนนั้นก็ถูกตะกูลหวางล้มเลิกดีลงาน”

 

“ฉันได้ยินมาเหมือนกัน! คุณหนูหวางมีรอยข่วนที่แขนที่เดียว แต่ผู้หญิงคนนั้นมีรอยข่วนเต็มไปหมด” ผู้ชายอีกคนพูดเสริม จากนั้นก็พูดกับกู้หนิงด้วยความเห็นใจว่า “คุณหนู ฉันคิดว่าเธอยกหินก้อนนี้ให้คุณหนูหวางไปเถอะ จะได้ไม่เจ็บตัว”

 

ตระกูลหวางยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความหยาบคายและความอวดดีในเมืองเถิง ไม่ใช่แค่เป็นผู้จัดหาหินรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในเมืองเถิง แต่ลูกชายคนที่สองของตระกูลเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองเถิง ตระกูลหวางมีอิทธิพลทั้งในด้านการเมืองและธุรกิจ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับพวกเขา

 

ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับกู้หนิง แต่ตอนนี้ความประทับใจต่อตระกูลหวางของเธอนั้นติดลบเรียบร้อยแล้ว

 

“ถ้าหากฉันไม่ให้ล่ะ? เธอจะทำอะไรฉัน?” กู้นิงถามหวางซินหยวน

 

ทำไมหวางซินหยวนถึงอยากได้หินก้อนนี้? หรือเธอจะรู้ว่ามีหยกอยู่ข้างในหิน

 

“ถ้าเธอไม่ให้ ฉันจะให้คนมาโยนเธอออกไปนอกร้าน!” หวางซินหยวนขู่

 

“งั้นเหรอ? ฉันไม่คิดว่าเธอตัดสินใจเรื่องนี้ได้นะ ถ้าเจ้าของที่นี่เห็นด้วยกับเธอ ฉันจะออกไปทันที”

 

“เธอ!” หวางซินหยวนโมโห กู้หนิงไม่เกรงกลัวเธอเลยสักนิด “ไม่ออกไปงั้นเหรอ! ได้ ฉันจะไปตามคุณปู่มาไล่เธอออกไป!”

 

พูดจบ หวางซินหยวนก็หมุนตัววิ่งออกไป

 

เห็นแบบนั้นแล้ว ทุกคนก็มองมาที่กู้หนิงก้วยความห่วงใยและกังวลแทน

 

คุณปู่ของหวางซินหยวนวันนี้อยู่ที่ร้านด้วย ไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับปู่ของเธอ

 

ปู่ของหวางซินหยวนคือหวางหงหมิง หนึ่งในผู้นำตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองเถิง

 

เมืองเถิงมีสี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคือ ตระกูลจื่อ ตระกูลจาง ตะกูลเจิน และตระกูลหวาง ท่ามกลางสี่ตระกูล ตระกูลจางและตระกูลหวางทำธุรกิจเป็นผู้จัดหาหิน

 

ดูเหมือนว่าหวางหงหมิงจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ไม่มีใครรู้สาเหตุ

 

“คุณปู่ เป็นผู้หญิงคนนั้นค่ะ! เธอฉกเอาหินไปจากหนู!” หวางซินหยวนชี้ไปที่กู้หนิงแล้วฟ้องปู่ของเธอ

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หวางหงหมิงถาม น้ำเสียงทรงอำนาจฟังดูข่มขู่อยู่ในที

 

เขารู้ชัดถึงนิสัยของหลานสาว มีความเป็นไปได้สูงว่าหลานสาวของเขาพูดเกินจริง  อย่างไรก็ตามหลานสาวของเขามีสัญชาตญาณที่โดดเด่น หินก้อนนั้นต้องมีหยกอยู่ข้างในแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียมันไปให้ใครเช่นกัน เขาจึงตั้งใจใช้น้ำเสียงข่มกู้หนิงเพื่อให้เธอยอมปล่อยหินก้อนนี้ไป

 

ตัวกู้หนิงเองนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เธอสบตาหวางหงหมิงตรงๆและพูดว่า “ฉันเป็นคนหยิบหินก้อนนี้ก่อน แต่คุณหนูหวางคนนี้อ้างว่าเธอเห็นมันก่อน ฉันไม่คิดว่านี่เป็นกฏของวงการพนันหิน”

 

หวางหงหมิงอึ้ง เขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าพูดแบบนี้

 

“คุณปู่ หนูแค่เดินไปเอารถเข็นเท่านั้น แต่เธอหยิบมันไปจากหนู!” หวางซินหยวนยังยืนกรานว่าหินเป็นของเธอ

 

“คุณหนู ในเมื่อหลานสาวของฉันเห็นมันก่อน และเธออยากได้มันมาก เธอจะกรุณาคืนหินก้อนนี้ให้หลานสาวของฉันได้ไหม? ที่ร้านของเรามีหินมากมาย เธอสามารถเลือกชิ้นอื่นได้ หลานสาวของฉันเป็นคนใจร้อน เธอเป็นเด็กไม่ค่อยเชื่อฟังใครเท่าไหร่  ฉันไม่อยากให้เธอกับหลานสาวของฉันมีเรื่องกัน” ดูเหมือนว่าหวางหงหมิงพยายามเป็นมิตรกับกู้หนิง แต่อันที่จริงเขากำลังข่มขู่เธออยู่

 

“ก็ได้ค่ะ ฉันจะยกหินก้อนนี้ให้หลานสาวของท่าน แต่ถ้าหากเธออ้างว่าเห็นหินก้อนอื่นก่อนฉันอีกล่ะคะ?” กู้หนิงถาม

 

หวางหงหมิงยิ้มอย่างใจดี ทุกคนแถวนั้นคิดว่ากู้หนิงคงยอมประนีประนอมแล้ว พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากู้หนิงกำลังเตรียมแก้แค้นเล็กๆของเธออยู่

 

“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันจะพาหลานสาวของฉันออกไปทันทีที่เธอได้หินก้อนนี้” หวางหงหมิงให้คำมั่นสัญญา

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป