ตอนที่ 213: โฆษณาร้าน
ฮ่าวหรันอ่านข้อความจากแม่ของเขาแต่เขาไม่อยากไป อย่างไรก็ตามแม่ของเขาสั่งให้ไปทันที มิฉะนั้นเธอจะลงโทษเขาเมื่อกลับมาถึงบ้าน
ด้วยความสัตย์จริงฮ่าวหรันค่อนข้างกลัวแม่ตัวเอง เพราะแม่ของเขาเอาแต่พูดข้างหูไม่หยุดซึ่งมันน่ารำคาญมากและเขาไม่สามารถทนได้ ท้ายที่สุดเขาจึงตอบตกลงไป
ราวๆสิบเอ็ดโมงสี่สิบ กู้หนิงก็มาถึงร้านกาเม่ยบิวตี้ คุณนายฮ่าวและคุณนายลูก็เพิ่งบำรุงหน้าเสร็จ พวกเธอนั่งรออยู่ในห้องรับรอง
“หนิงหนิง มานี่สิลูก” กู้ม่านเป็นคนเห็นกู้หนิงก่อน กู้หนิงเดินเข้าไปหากู้ม่าน
นาทีที่กู้หนิงเดินเข้าไปข้างใน คุณนายฮ่าวก็ลุกขึ้นยืนพรวดพราด “เป็นหนูนั่นเอง!”
ทุกคนมองคุณนายฮ่าวเป็นตาเดียว เธอรู้จักกู้หนิงหรือ?
เห็นคุณนายฮ่าว กู้หนิงก็ประหลาดใจ ทักทายเธอด้วยความสุภาพนอบน้อม “ยินดีที่ได้พบค่ะ คุณนายฮ่าว”
“อย่าเรียกป้าว่าคุณนายฮ่าวเลยจ๊ะ เรียกป้าว่าป้ากู้เถอะจ๊ะ” คุณนายฮ่าวรู้สึกประทับใจกู้หนิงตั้งแต่ที่เห็นครั้งแรกที่งานวันเกิดนายท่านฉิน และยิ่งประทับใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของกู้ม่าน
“ค่ะ ป้ากู้”
“กู้หลาน เธอรู้จักลูกสาวกู้ม่านด้วยเหรอ?” คุณนายลูถามด้วยความสับสน กู้ม่านและกู้ชิงก็สับสนเช่นกัน
“กู้หนิงเป็นเด็กสาวที่ไปงานวันเกิดคุณฉินกับฮ่าวหรันน่ะจ๊ะ ยังมอบของขวัญอะไรนะ อ้อ แก้วที่มีหัวกวาง! เธอยังบอกฉันเลยว่าเด็กคนนี้ดูดีมาก!” คุณนายฮ่าวอธิบายด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“โอ้ เป็นหนูเองหรอจ๊ะ?” คุณนายลูประหลาดใจ วันนั้นกู้หนิงทำให้เธอประทับใจจริงๆ
“ค่ะ หนูเองค่ะ ยินดีที่ได้พบนะคะ คุณนาย” กู้หนิงทักทายคุณนายลู
“อย่าเรียกป้าว่าคุณนายเลยจ๊ะ เรียกง่ายๆว่าป้าไป๋ดีกว่า” คุณนายลูกล่าว
“ค่ะ ป้าไป๋”
ได้ยินเช่นนั้นกู้ม่านและกู้ชิงก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเธอรู้ว่ากู้หนิงเคยไปงานวันเกิด
“กู้ม่านบอกว่าลูกสาวของเธอเรียนอยู่ ม.6 ที่โรงเรียนอันดับสาม ฉันเลยเรียกฮ่าวหรันมาให้รู้จักกันแต่ไม่คิดว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว!” คุณนายฮ่าวกล่าวราวกับว่าพวกเธอสนิทกันมาก
“โอ้ ฮ่าวหรันกำลังออกจากโรงเรียนแล้วมั้งตอนนี้ ป้าสงสัยจังว่าเขาจะทำหน้ายังไงเมื่อเจอหนู” คุณนายลูเป็นฝ่ายพูด
กู้หนิงก็คิดแบบเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงไม่บอกฮ่าวหรันให้รู้ตัว
หลังจากนั้นพวกเธอก็พากันไปโรงแรม คุณนายฮ่าวโทรหาฮ่าวหรันบอกสถานที่แก่เขา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป อาหารก็ถูกเสิร์ฟวางบนโต๊ะ ขณะเดียวกันฮ่าวหรันก็มาถึง เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องทานอาหารส่วนตัวเขาก็สังเกตเห็นกู้หนิงทันที
เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “บอส เธอมาที่นี่ได้ยังไง?”
“บอส?”
ทุกคนประหลาดใจ มองฮ่าวหรันและกู้หนิงสลับกันไปมา ทำไมฮ่าวหรันถึงเรียกกู้หนิงว่าบอส?
กู้ม่านจำฮ่าวหรันได้ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง เด็กหนุ่มเคยไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลมาก่อน แต่จำชื่อเขาไม่ได้ ตอนนี้กู้ม่านเชื่อแล้วว่ามันคือโชคชะตา!
“เอ่อ คือ ไม่มีอะไรครับ ผมเคยพนันกับกู้หนิงว่าถ้าผมแพ้จะเรียกเธอว่าบอส” ฮ่าวหรันเพิ่งนึกได้ว่าพูดผิดไป เขาจึงแก้ไขคำพูดตัวเองใหม่
ฮ่าวหรันหันไปหากู้ม่าน “ยินดีที่ได้พบครับคุณป้า จำผมได้ไหมครับ?”
คุณนายฮ่าวทราบว่าลูกชายของเธอมักมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนนักเรียนชายเป็นประจำ หากคุณนายฮ่าวรู้ว่าเขามีเรื่องชกต่อยกับเด็กผู้หญิงและยังสามรุมหนึ่ง เธอคงลงโทษเขาแน่นอน น่าอายจริงๆ
คุณนายฮ่าวไม่ชอบคนที่ไม่รู้จักความ
“จำได้สิจ๊ะ เธอเคยไปเยี่ยมป้าที่โรงพยาบาล” กู้ม่านตอบด้วยรอยยิ้ม
สำเร็จ! เขาเบนความสนใจแม่ได้พอดี
หลังจากทักทายคุณนายลูและกู้ชิง ฮ่าวหรันก็นั่งลงบนเก้าอี้
อันที่จริงฮ่าวหรันก็ถือว่าเป็นเด็กดีคนหนึ่ง ยกเว้นเรื่องทะเลาะวิวาทและขาดเรียนบ่อย เขาก็เป็นเด็กที่ถูกอบรมมารยาทมาอย่างดี ส่วนใหญ่เด็กวัยรุ่นมักดื้อรั้นและไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่
“ฉันอยากจะซื้อเครื่องประดับไฮเอนด์แต่ในเมือง F มีแต่ร้านธรรมดาๆ ร้านอี้ซุยก็ไม่เลวแต่ฉันไม่ชอบแบบมันเลย และขี้เกียจบินไปเมืองอื่น” คุณนายฮ่าวกล่าวพลางถอนหายใจ
ได้ยินคุณนายฮ่าวบ่น กู้หนิงก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา นี่เป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้ประชาสัมพันธ์ร้านหยกของเธอ
“ป้าฮ่าวคะ มีร้านขายหยกเปิดใหม่ที่เมือง G ชื่อร้านหยกบิวตี้จิวเวอรี่ซึ่งเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ ขายเฉพาะหยกระดับกลางขึ้นไปเท่านั้น หยกจักรพรรดิเปิดจองในวันเปิดร้านและภายในไม่กี่นาทีก็ถูกจองจนหมด ถึงแม้หยกจักรพรรดิจะขายไปหมดแล้วแต่ยังเหลือหยกระดับสูงอยู่ มีบริการออกแบบให้ตามต้องการ ลูกค้ายังได้รับส่วนลดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของขวัญวันเปิดร้านอีกด้วยค่ะ” กู้หนิงกล่าว ค่อนข้างดึงดูดใจเลยทีเดียว
“จริงหรือจ๊ะ?” ดวงตาคุณนายฮ่าวและคุณนายลูเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ หนูเพิ่งไปที่นั่นมา คุณป้าสามารถค้นดูในอินเทอร์เน็ตได้เลยค่ะ มีข่าวมากมาย คนสำคัญๆของเมืองGก็ไปงานเปิดร้านด้วยค่ะ” กู้หนิงตอบ
คุณนายฮ่าวและคุณนายลูใช้โทรศัพท์ค้นหาร้านหยกบิวตี้ พวกเธอเห็นข่าวเต็มไปหมด เมื่อเห็นโพสโฆษณาของร้าน คุณนายฮ่าวและคุณนายลูก็ตัวสั่น ดูเหมือนว่าหยกจักรพรรดิจะดึงดูดพวกเธอได้เป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่พวกเธอพลาดโอกาสอันดีที่จะได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง
และมีรูปของเครื่องประดับหยกชื้นอื่นๆอีกมากมาย เครื่องประดับที่ทำจากหยกระดับสูงนั้นแตกต่างจากของที่มีราคาถูกกว่า พวกเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความหรูหราของมันผ่านหน้าจอโทรศัพท์
กู้ม่านและกู้ชิงก็อยากรู้อยากเห็นเช่นเดียวกัน แต่พวกเธอรู้เกี่ยวกับหยกน้อยมาก ดังนั้นจึงเสิชดูเล่นๆ
“ดีไซน์นั้นเรียบง่ายแต่หยกที่ใช้ทำนั้นวิเศษมาก!” คุณนายฮ่าวชื่นชม
ตอนที่ 214: ยายกู้หนิงสร้างปัญหาอีกครั้ง I
“ใช่ มีแต่หยกหายากทั้งนั้น เจ้าของร้านหยกบิวตี้ต้องรวยมากถึงมีหยกระดับสูงเก็บไว้มากมาย” คุณนายลูกล่าวเสริม
คนรักหยกย่อมรู้ว่าหยกมาจากที่ไหน ส่วนใหญ่มาจากการพนันหิน 99%ของคนล้วนล้มเหลว
มีเพียง 1% เท่านั้นที่ชนะ ทักษะและความรู้ระดับมืออาชีพเท่านั้นที่ทำได้ แต่ก็ยากที่จะชนะ
“ทำไมพวกเราไม่ไปเมือง G ด้วยกันล่ะ?” คุณนายฮ่าวเสนอ
“ความคิดดี! ฉันจะจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้ บ่ายนี้เราไปกันเลย!” คุณนายลูกล่าว
คุณนายฮ่าวและคุณนายลูรวดเร็วมาก กู้หนิงดีใจที่เธอโฆษณาร้านตัวเองได้สำเร็จ
เมื่อง G ไม่ไกลจากเมือง F ใช้เวลาบินหนึ่งชั่วโมงก็ถึง
ฮ่าวหรันที่คุ้นชินกับนิสัยของมารดาได้แต่นั่งเงียบ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ คุณนายฮ่าวและคุณนายลูก็ไปเมือง G ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปตามทาง
ฮ่าวหรันถามกู้หนิงว่าจะไปโรงเรียนกับเขาไหม กู้หนิงบอกปัดเพราะเธอลาอาจารย์ไว้แล้ว พรุ่งนี้ถึงจะไปโรงเรียน
เมื่อหลินหลี่หยวนกลับมาถึงบ้าน เธอก็บอกแม่สามีถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หญิงชราตกตะลึงที่อยู่ๆกู้ชิงและกู้ม่ายก็กลายเป็นคนรวยและยังเป็นเจ้าของร้านเสริมความงาม
“พวกเธอทำได้ยังไง! ตอนนี้รวยแล้วก็หายหน้าหายตาไปเลย พวกเธอต้องคิดถึงฉันสิ!” หญิงชรากล่าวราวกับว่าเธอเป็นคนที่ได้รับความอยุติธรรม
เธอคิดว่าเงินของกู้ชิงและกู้ม่านเป็นของเธอ
หญิงชราไม่สนใจความเป็นอยู่ของลูกสาว แต่อยากให้พวกเธอตอบแทนเพราะเธอเป็นคนเลี้ยงดูมา ทั้งหมดทั้งมวลหญิงชราเกลียดชังกู้ชิงและกู้ม่านและไม่อยากเห็นพวกเธอได้ดีกว่าตัวเองผู้เป็นแม่
ทันใดนั้นหลินหลี่หยวนก็คิดแผนชั่วออก “แม่คะ กู้ม่านยังไม่แต่งงาน ตามกฎหมายแล้วเธอยังเป็นลูกสาวของแม่ เงินของเธอก็ควรเป็นของแม่ด้วย”
ถึงแม้เงินของกู้ม่านจะเทียบไม่ได้กับเงินของกู้ฉินเซียง แต่หลินหลี่ไม่อยากเห็นเธอได้ดี เธอเกลียดกู้ม่านเข้ากระดูกดำเพราะสิ่งที่กู้หนิงทำกับกู้เซียวเซียว
หญิงชราโทรหากู้ม่านและเธอไม่รับสาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงชราโทรมาไม่ใช่เรื่องดี
กู้ม่านไม่รับสายมารดา ยิ่งทำให้หญิงชราโกรธจัด เธอจึงโทรหากู้ชิงแทน แต่ผลก็เหมือนกัน
ตอนนี้หญิงชราโกรธจนควันออกหู “พวกมันทั้งคู่ไม่รับสาย! ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าฉันเป็นแม่พวกมัน! ร้านเสริมสวยนั่นอยู่ไหน แม่จะไปหาพวกมันด้วยตัวเอง!”
หลินหลี่หยวนไม่ได้ห้ามปราม ทั้งยังบอกที่อยู่เสร็จสรรพ หญิงชราออกจากบ้านไปทันที
วันนี้กู้หนิงว่าง ดังนั้นเธอจึงกลับไปที่ร้านเสริมสวยพร้อมกับแม่และป้า
ความจริงกู้หนิงค่อนข้างกังวลว่ายายของเธอจะมาสร้างปัญหาเพราะหญิงชราเพิ่งโทรหาแม่และป้าของเธอ ถ้าหากหญิงชรามาที่ร้านตอนนี้ เธอเกรงว่าแม่และป้าจะไม่สามารถรับสถานการณ์นี้ได้
กู้หนิงคิดถูก ครึ่งชั่วโมงหลังจากที่พวกเธอกลับมาที่ร้าน หญิงชราก็เดินเข้ามาในร้านพลางตะโกนเสียงดังลั่น “กู้ชิง กู้ม่าน ออกมาเดี๋ยวนี้!”
เสียงตะโกนของเธอดึงดูดความสนใจคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี คนแถวนั้นเหลียวมองหญิงชราก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคือตัวสร้างปัญหา
“ขอทราบชื่อคุณได้ไหมคะ? ไม่ทราบว่าต้องการพบเจ้านายของเราทำไมคะ?” พนักงานต้อนรับเดินเข้ามารับหน้า
หญิงชราหน้าหนาและไม่อาย เธอไม่สนใจหน้าตาตัวเองเลยแม้แต่น้อย เธอยืนอยู่ประตูทางเข้าสบถด่าเสียงดัง “กู้ชิง กู้ม่าน พวกแกมันอกตัญญู! พวกแกรวยแล้วแต่ลืมแม่ตัวเอง! พวกแกมันเลวระยำ!”
เพียงแค่เสี้ยววินาทีผู้คนที่อยู่แถวนั้นที่ไม่รู้ความจริงก็ตำหนิลูกสาวอกตัญญู อย่างไรก็ตามพนักงานร้านเชื่อมั่นในตัวกู้ชิงและกู้ม่าน เจ้านายของพวกเธอไม่ใช่คนแบบนั้น
กู้หนิง กู้ชิง และกู้ม่านกำลังนั่งในห้องทำงาน พวกเธอได้ยินเสียงหญิงชราเต็มสองหู และเดินออกไปทันใด
เมื่อเห็นยาย กู้หนิงก็หงุดหงิด กู้ชิงและกู้ม่านทำหน้ามุ่ย ตอนนี้แม่ไม่มีความหมายสำหรับพวกเธอแล้ว
ก่อนออกจากห้อง กู้หนิงบอกแม่กับป้าให้อยู่เงียบๆ ปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการเอง
“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะคะ?” กู้หนิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลายส่วน ไม่มีความเคารพแม้แต่เศษเสี้ยวต่อยายตัวเองเพราะยายของเธอไม่สมควรได้รับมัน
“ไม่จริงรึ? พวกแกรวยแล้วนี่และอยู่ๆก็หายหัวไปเลย ลาออกจากงาน ย้ายไปอยู่ที่อื่น และยังไม่รับโทรศัพท์ของฉัน! ถ้าภรรยาลูกชายคนโตของฉันไม่เจอพวกแกที่นี่ ฉันก็คงไม่รู้ว่าพวกแกกลายเป็นคนรวยและยังมีร้านเป็นของตัวเอง”
“จริงหรือ? พวกเขาหายไปเลยทันทีที่มีเงิน?”
“พวกเธอทิ้งแม่ของตัวเอง!”
มีคนวิพากษ์วิจารณ์กู้ชิงและกู้ม่าน
“หุบปาก!” กู้หนิงตวาด สายตาของเธอกวาดมองฝูงชน ทำเอาผู้คนเสียวสันหลังวาบ หุบปากทันที
“พวกคุณรู้เรื่องจริงกันแล้วเหรอ? ถึงได้กล้าวิจารณ์เสียๆหายๆ ถ้าไม่รู้ก็หุบปากไปซะ อย่าคิดว่าตัวเองยืนอยู่ข้างคนถูกเพียงเพราะคำกล่าวหาพล่อยๆ ถ้าพวกคุณเป็นพวกเรา ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกคุณจะยังตำหนิพวกเราอยู่”
ทันใดนั้นผู้คนก็ตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดตามที่หญิงชราคนนี้พูด บางคนรู้สึกละอายและไม่มีใครกล้าวิจารณ์สงเดชอีก
“ฉันคิดคุณคงจำได้ว่าทำไมพวกเราถึงย้ายออก เป็นคุณที่บังคับให้ออกไป! หลานสาวที่น่ารักของคุณทำให้แม่ของฉันตกใจกลัวด้วยรูปถ่ายของฉันและเพื่อนโรงเรียนที่เล่นด้วยกัน แม่ของฉันคิดว่าฉันถูกพวกเขาทำร้ายจนตกบันได แม่ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ คุณเคยมาเยี่ยมเธอไหม? และคุณได้สาบานกับแม่และฉันในที่สาธารณะว่าไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ทำไมเรายังต้องรับสายของคุณด้วย?” กู้หนิงยิ้มเยาะ ในสายตาของเธอหญิงชราเป็นเพียงคนขี้แพ้ที่ไร้ยางอาย