ตอนที่ 207: ซื้อที่ดิน III
เจ้าหน้าที่จากการเคหะที่ดินและทรัพยากรเป็นคนตรวจสอบเอกสารที่พวกเขานำมาที่นี่ด้วย
ในตอนแรกหลายคนคิดว่าควรจ่ายเป็นเงินสด แต่ตอนนี้ทุกคนตกลงที่จะจ่ายโดยการโอนเงินเข้าบัญชี มันไม่ปลอดภัยที่จะพกเงินสดหลายล้านหยวน และบางคนต้องการบ้านเป็นค่าตอบแทน
คนในชุมชมรับสัญญามาอ่าน หากมีข้อสงสัยสามารถถามได้เลย หากไม่มีข้อสงสัยก็สามารถเซ็นสัญญาได้ทันทีและรับเงินกลับบ้าน
สัญญาแต่ละชุดมีสองก็อปปี้ อ้ายกวงเหยาและทีมงานช่วยกันจัดเตรียมสัญญาเป็นพันฉบับ พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ในขณะที่พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการเซ็นสัญญา หงหยุนเรียลเอสเตทได้ยินข่าวว่าเจิ้งหัวเรียลเอสเตทจากเมือง F ได้รับสิทธิ์ในการซื้อที่ดินในเจิ้งหยาง ฟางซางเจิ้งประธานบริษัทหงหยุนตกใจและถามรายละเอียดทันที
หัวหน้าแผนกพัฒนาที่ดินของการเคหะที่ดินและทรัพยากรเป็นคนแจ้งข่าวให้ฟางซางเจิ้งทราบ ทั้งสองมีความสนิทสนมกัน อย่างไรก็ตามหัวหน้าแผนกพัฒนาที่ดินไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อวานพวกเขาไม่ได้ยินข่าวอะไรทั้งนั้น แต่เจิ้งหัวเรียลเอสเตทได้รับอนุญาตภายในหนึ่งวันเหมือนฟ้าผ่า
ฟางซางเจิ้งไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เขาโทรหาหลิ่วจื่อคุนที่เป็นรองผู้อำนวยการทันที
หลิ่วจื่อคุนไม่รู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน เขาไม่รู้จนกระทั่งฟางซางเจิ้งโทรมาหาเขา หลังจากนั้นเขาก็โทรหารองผู้อำนวยการสำนักการเคหะที่ดินและทรัพยากรโดยไม่รอช้า
รองผู้อำนวยการสำนักการเคหะที่ดินและทรัพยากรบอกกับเขาว่ารัฐบาลอนุญาตแล้ว และขณะนี้การซื้อขายที่ดินกำลังดำเนินการอยู่
หลิ่วจื่อคุนไม่รู้จะอธิบายอารมณ์ของตนเองตอนนี้อย่างไร เขาล้มเหลวในการเชื่อมโยงระหว่างเจิ้งหัวเรียลเอสเตทจากเมือง F และรัฐบาลในเมือง G หลิ่วจื่อคุนโทรกลับหาฟางซางเจิ้ง ถามเขาด้วยความโมโห “คุณได้สิทธิ์ในการซื้อที่ดินในมือหลายวันแล้ว ทำไมยังทำไม่สำเร็จอีก?”
ฟางซางเจิ้งตอบกลับ “ก็คนพวกนั้นคิดว่าข้อเสนอของเรายังไม่ดีพอ พวกเขาเลยไม่เต็มใจขายให้พวกเรา”
“คุณก็เพิ่มเงินให้พวกเขาสิ! ตอนนี้เจิ้งหัวอยู่ที่เจิ้งหยางแล้ว ถ้าคุณยังต้องการที่ดินผืนนี้อยู่ก็ไปคว้ามันมาจากพวกเขาซะ!” หลิ่วจื่อคุนตะคอกเสียงดัง
เขาอุตส่าห์จัดการให้หงหยุนได้สิทธิ์ในการซื้อที่ดินและเขาก็จะสามารถทำเงินจากมันได้มากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้หงหยุนเสียที่ดินผืนนี้ไป การที่พวกเขาเสนอราคาต่ำก็เพื่อที่จะได้ผลประโยชน์สูงสุด แต่ถ้าต้องจ่ายราคาตามท้องตลาดพวกเขาก็ยังได้กำไร ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสทองนี้ไป ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีที่จะเพิ่มค่าตอบแทนหากจำเป็น
ด้วยความประหลาดใจของพวกเขา เจิ้งหัวเรียลเอสเตทได้ทำข้อตกลงกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในถนนเจิ้งหยางแล้ว และพวกเขากำลังลงนามในสัญญาวันนี้ ฟางซางเจิ้งยังตกใจที่รัฐบาลของเมือง G ให้การสนับสนุนเจิ้งหัวเรียลเอสเตท
อย่างไรก็ตามเจิ้งหัวมีทรัพย์สินเพียงเจ็ดร้อยล้านหยวนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ ดังนั้นเงินทุนจึงเทียบไม่ได้กับหงหยุน
“ผมจะส่งคนไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” ฟางซางเจิ้งก็ไม่อยากเสียมันไป
มื้อกลางวัน กู้หนิงซื้อข้าวกล่องจากร้านอาหารชื่อดังมาให้ทุกคน คนในชุมชนที่ยังต่อแถวอยู่ด้านหลังจะกลับไปกินข้าวที่บ้าน ถึงอย่างไรก็ใช้เวลาในการเซ็นสัญญาอยู่ดี
ในขณะนั้นเองมีรถยนต์สามคันขับเข้ามา และดึงดูดความสนใจทุกคนในบริเวณนี้
คนในชุมชนหน้าเปลี่ยน พวกเขาจำคนที่ออกมาจากรถคันแรกได้ ผู้ชายคนนั้นคือเลขาของฟางซางเจิ้ง ชื่อของเขาคือ ซุนข่าย
ตามมาด้วยจางกวงตี้ผู้นำชุมชนในย่านนี้
เมื่อเห็นจางกวงตี้ กู้หนิงก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่มาใหม่เป็นคนของหงหยุน พวกเขามาที่นี่เพื่อมาขัดขวางเธอ
ไม่มีนักธุรกิจคนไหนยอมให้คนอื่นคว้าเนื้อชิ้นงามไปจากตัวเองในวินาทีสุดท้าย แต่ไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะปรากฏตัวตอนนี้เพราะที่ดินในเจิ้งหยางถูกเจิ้งหัวเรียลเอสเตทซื้อแล้ว
หงหยุนเรียลเอสเตทเกือบซื้อที่ดินแห่งนี้ได้แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นทางฝั่งเจิ้งหัวเรียลเอสเตทจึงยังมีสิทธิ์
หากหงหยุนได้ข้อยุติกับคนในชุมชน กู้หนิงจะไม่แย่งที่ดินจากพวกเขาและมันก็ไม่ถูกกฏหมายด้วย
“พวกเขามาจากหงหยุน! พวกเขามาทำไมที่นี่?”
“หรือว่าพวกเขาจะมาแย่งซื้อที่ดิน?”
“กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้น....”
ทุกคนเริ่มซุบซิบหงหยุนด้วยความรังเกียจ หงหยุนมีแผนซื้อที่ดินพวกเขาในราคาต่ำ ดังนั้นพวกเขาจึงมีทัศนคติไม่ดีต่อหงหยุน
คนจากหงหยุนต่างตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าเจิ้งหัวจะให้คนในชุมชมเซ็นสัญญาแล้ว
“พวกคุณทำอะไร? เซ็นสัญญาแบบนี้ได้ยังไง?” จางกวงตี้ไม่สบอารมณ์ ถ้าเจิ้งหัวชนะการแข่งนี้ เขาก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์จากหงหยุน
จางกวงตี้แอบตำหนิหงหยุนในใจเพราะพวกเขาเสนอราคาต่ำเกินไป ถ้าพวกเขาเสนอราคาสมเหตุสมผล คนในชุมชนคงไม่ต่อต้านพวกเขา และตัวเขาเองก็จะได้ส่วนแบ่งด้วย ตอนนี้ทุกอย่างหลุดลอยไปแล้ว
“ทำไมจะไม่ได้ ก็ในเมื่อหงหยุนให้ราคาที่สมเหตุสมผลกับพวกเราไม่ได้แต่บริษัทอื่นทำได้!” ติงเป่ยเว่ยแค่นเสียงเยาะ เขามีความสุขมากที่เห็นจางกวงตี้โมโห
“ใช่ เจิ้งหัวซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าพวกเขา มีแค่คนโง่เท่านั้นที่ขายให้หงหยุน!” คนอื่นๆก็ส่งเสียงขึ้นมาบ้าง
ตอนที่ 208: ไม่ยอมแพ้
“พวกเราเจรจากันได้!” ซุนข่ายพูดขึ้น ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสายไปแล้วก็ตาม
“เจรจาบ้านแกสิ! พวกเราประท้วงเรื่องนี้มาหลายวันแต่พวกคุณก็ไม่เต็มใจจะปรับข้อเสนอให้สูงขึ้น คุณคิดว่าจะได้ที่ตรงนี้จากพวกเราไปง่ายๆเพราะไม่คิดว่าจะมีบริษัทไหนกล้าแข่งขันกับคุณ ตอนนี้เจิ้งหัวเต็มใจจ่ายราคาที่พวกเราพอใจ ส่วนคุณมาที่นี่เพื่อเจรจางั้นหรือ? ไม่มีวันสักหรอก!”
“พวกเขาก็ต้องการแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง!”
“เห็นด้วย!”
ซุนข่ายรู้ดีว่าเจิ้งหัวเรียลเอสเตทต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องเสียเวลาเถียง จึงกลับไปในที่สุด
ถ้าเจิ้งหัวยังไม่ได้เซ๋ญสัญญากับคนในพื้นที่ พวกเขาก็อาจจะเอาชนะได้ แต่ตอนนี้สายเกินไปแล้ว
แม้ว่าคนจากหงหยุนจะกลับไปแล้ว กู้หนิงรู้ว่าพวกเขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ ที่พวกเขายอมกลับไปวันนี้เพราะไม่อยากก่อเรื่องในที่สาธารณะ แต่ลับหลังใครจะรู้?
กู้หนิงมั่นใจว่าพวกเขาต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่กลัว เธอไม่ใช่เด็กสาวไม่รู้เดียงสาที่จะหวั่นกลัวใครง่ายๆ
ไม่มีใครคาดคิดว่าคนจากหงหยุนจะยอมกลับไปง่ายๆ ทุกคนคิดว่าพวกเขาต้องก่อเรื่องวุ่นก่อนกลับ
ซุนข่ายโทรหาฟางซางเจิ้งเมื่อเข้าก้าวเข้าไปนั่งในรถ
“ท่านประธานครับ เจิ้งหัวได้เซ็นสัญญากับคนในชุมชนแล้วครับ” ซุนข่ายรายงาน
“อะไรนะ? รวดเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” ฟางซางเจิ้งกระโดดผึงจากเก้าอี้ เขาไม่อยากเชื่อ เจิ้งหัวจัดการทุกอย่างได้รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ! ไม่เพียงแต่สิทธิ์ซื้อที่ดินแต่ยังโน้มน้าวชาวบ้านได้อีก
“ผมเองก็ไม่รู้รายละเอียด แต่พวกเขาเซ็นสัญญากันแล้วจริงๆครับ ผมจึงต้องกลับออกมา” ซุนข่ายถอนหายใจ ครั้งนี้หงหยุนเรียลเอสเตทสูญเสียครั้งใหญ่
“บ้าเอ๊ย เจิ้งหัว! กล้าดียังไงมาขวางทางฉัน! ฉันจะทำให้พวกแกชดใช้คืนแน่!” ฟางซางเจิ้งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตอนนี้เขาเกลียดเจิ้งหัวจนแทบอยากทำลายบริษัทพวกมันให้ราบคาบ เขาแพ้ไม่ได้ เขาต้องไม่ให้พวกมันได้ที่ดินไป
ลี่เจินเจินและซูจิงกว่าจะตื่นอีกทีก็บ่ายสอง หยวนเสิ่นและหลินเหวินจงเตรียมอาหารกลางวันไว้แล้ว พวกเขาแค่อยากนอนกับพวกเธอไม่ได้คิดจะเอาเปรียบอย่างอื่นนอกจากเรื่องบนเตียง
“กินข้าวกันก่อนเถอะ! แล้วค่อยไปอาบน้ำ” หยวนเสิ่นพูดกับพวกเธอ
ลี่เจินเจินและซูจิงมองพวกเขา พวกเธอไม่กล้าต่อต้านจึงได้แต่ทำตามคำสั่ง หลังจากกินข้าวและอาบน้ำ พวกเขาก็ส่งพวกเธอกลับบ้าน
ระหว่างทางหลินเหวินจงได้เตือนพวกเธอ “ทางที่ดีพวกเธอควรจะเงียบปากเอาไว้ ตราบใดที่พวกเธอเล่นกับพวกเราเหมือนวันนี้ ไว้พอพวกเราเบื่อแล้วจะปล่อยพวกเธอไป”
ตอนนั้นครอบครัวของลี่เจินเจินไม่อยู่บ้าน มีเพียงแม่บ้านอยู่ในบ้าน
“คุณหนู เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” แม่บ้านถามลี่เจินเจินเหมื่อเห็นท่าทางของเธอดูเหน้ดเหนื่อยมาก
“ไม่เป็นไร ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อย อยากนอนพัก เย็นนี้ไม่กินข้าวนะ” ลี่เจินเจินพูดกับแม่บ้านด้วยน้ำเสียงไม่มีแรงในขณะที่เธอพยายามควบคุมจิตใจของเธอ
โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว เธอจึงสวมเสื้อผ้าหลายชั้นไม่อย่างนั้นแม่บ้านคงเห็นรอยฟกช้ำทั่วตัวเธอ
“ค่ะ” แม่บ้านตอบ
ลี่เจินเจินขึ้นไปชั้นบนและซ่อนตัวเองอยู่ในห้อง เธอล็อกประตูและนอนลงบนเตียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เธออยากตายตั้งแต่ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากมีเซ็กส์อย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว เธอจะไม่ปล่อยให้พวกชั่วสองคนนั่นหนีไปได้ง่ายๆ เธอจะแก้แค้นด้วยตัวเธอเอง ในเมื่อเธอแจ้งความพวกมันไม่ได้ เธอจะส่งคนไปฆ่าพวกมันแทน
ที่ถนนเจิ้งหยาง พวกกู้หนิงกว่าจะเซ็นสัญญากันครบทุกคนก็ห้าโมงเย็น เจิ้งหัวจะยังไม่สร้างอาคารบนที่ดินแห่งนี้เร็วๆนี้ ดังนั้นคนในชุมชนจึงยังมีเวลาหาบ้านใหม่
หลังจากวันอาทิตย์นี้ การสอบปลายภาคเหลือเพียงหนึ่งเดือน กู้หนิงวางแผนที่จะเดินทางไปเมือง Y เพื่อหาเงินในช่วงวันหยุดฤดูหนาว
“คุณอยากให้ผมช่วยเรื่องเงินไหม?” เลิ่งเชาถิงถามกู้หนิง
“ต้องใช้เงินหลายร้อยล้านหยวน! คุณไม่กลัวฉันจะจ่ายเงินคืนให้คุณไม่ได้เหรอ ถ้าคุณให้ฉันยืมเงิน” กู้หนิงถาม
“ผมไม่ต้องการให้คุณจ่ายคืนอะไรทั้งนั้น” เลิ่งเชาถิงพูดพลางทำสีหน้าจริงจัง
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าฉันจะได้แต่งงานกับคนอภิมหาเศรษฐีแล้วล่ะมั้งเนี่ย” กู้หนิงพูดติดตลก “เอาเถอะ ฉันจัดการเองได้ ขอบคุณมาก”
“อืม ถ้าคุณเดือดร้อนอะไรก็บอกผมได้” เขาเคารพในการตัดสินใจของเธอ
“ค่ะ” กู้หนิงตอบ
กู้หนิงบอกให้โจวเจิ้งหงจองห้องส่วนตัวขนาดใหญ่สองห้องที่โรงแรมฮวงเติ้งvอ้ายกวงเหยาเชิญเลขานุการทั้งสองและเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆมารับประทานอาหารร่วมกันแต่ถูกพวกเขาปฏิเสธ อ้ายกวงเหยาเข้าได้ว่าพวกเขามีความกังวลของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ทู่ซี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนก็กลับไปที่บริษัท ของพวกเขาหลังจากเสร็จงานในวันนี้ มีเพียงพนักงานของเจิ้งหัวเรียลเอสเตท เท่านั้นที่ไปที่โรงแรมฮวงเติ้ง
กู้หนิงยังไม่บินกลับวันนี้ เธอโทรหากู้ม่านและอาจารย์จางฉิวฮวาเพื่อขอลาอีกหนึ่งวัน
จางฉิวฮวาไม่พอใจที่กู้หนิงจะขาดเรียนอีกครั้ง เธอคาดโทษกู้หนิงแต่กู้หนิงสัญญากับเธอว่าจะไม่ให้เกิดผลกระทบกับคะแนนของเธอ ดังนั้นจางฉิวฮวาจึงยอมให้เธอลา
พวกเขามาถึงโรงแรมฮวงเติ้งราวๆหกโมงเย็น โจวเจิ้งหงรอพวกเขาอยู่ที่ห้องอาหารเรียบร้อยแล้ว
กู้หนิงจัดห้องให้พนักงานเจิ้งหัวเรียลเอสเตทอีกห้องหนึ่ง ส่วนเธอ อ้ายกวงเหยา หลี่เซ่อเหวิน เลิ่งเชาถิง เดินไปอีกห้องที่มีโจวเจิ้งหงรออยู่แล้ว
กู้หนิงตั้งใจให้อ้ายกวงเหยารู้จักกบโจวเจิ้งหง แต่เธอยังไม่อยากให้คนนอกรู้ว่าเธอเป็นเจ้านายตัวจริง ดังนั้นเธอจึงจองห้องอาหารสองห้อง
โจวเจิ้งหงทราบเพียงแค่ว่ากู้หนิงกำลังจะชวนเพื่อนๆของเธอกินข้าวด้วยกัน แต่เขาไม่รู้ว่ากู้หนิงได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์เขาแบะเธอหรือไม่ เขาจึงเพียงทักทายคนที่มาใหม่ว่า “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ”
“ลุงโจว หนูขอแนะนำคนๆหนึ่งค่ะ คนนี้คือประธานบริษัทเจิ้งหัวเรียลเอสเตท อ้ายกวงเหยา และนี่คือทนายของบริษัท หลี่เซ่อเหวิน” จากนั้นเธอก็แนะนำอ้ายกวงเหยาและหลี่เซ่อเหวินแก่โจวเจิ้งหง