ตอนที่ 187: โกรธเหรอ?
เลิ่งเชาถิงไม่ได้พิถีพิถันเกี่ยวกับร้านอาหาร แต่เขาเลือกร้านอาหารที่หรูหราและมีบรรยากาศโรแมนติกเมื่ออยู่กับกู้หนิง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก แต่พวกเขาก็สนุกกับการอยู่ด้วยกัน
เลิ่งเชาถิงสั่งสเต๊ก ในขณะที่กู้หนิงสั่งเพียงกาแฟหนึ่งแก้วเพราะเธอกินมาเรียบร้อยแล้ว
เลิ่งเชาถิงขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ไม่กลัวว่าจะมีผลต่อการนอนหลับเหรอ?”
“ไม่หรอก มันไม่มีผลต่อฉันหรอกค่ะ” กู้หนิงอธิบาย เธอมีพลังที่ช่วยให้เธอสามารถหลับหรือตื่นได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ในเมื่อเธอพูดแบบนั้น เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก
ทันใดนั้นกู้หนิงก็ตระหนักว่าเธอลืมแผนการของเธอเกี่ยวกับภูเขาหยุนไท่ไปเสียสนิท แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาและทำได้แค่รอจนกว่าจะกลับจากเมือง G
เกือบสี่ทุ่ม ทั้งสองจึงพากันกลับบ้าน เลิ่งเชาถิงมาส่งกู้หนิงที่โซน G และเช่นเคยเขายืนมองเธอจนลับหายไปจากสายตา
เมื่อกู้หนิงกลับมาที่บ้าน เธอสังเกตว่าคนในครอบครัวกำลังจ้องของขวัญและซองแดงที่พวกเขาได้รับมาวันนี้
ทั้งอ้ายเฉียนและเล่อเจิ้งหยูมอบซองแดงจำนวนเงินหกหมื่นหกพันหยวนซึ่งหมายความว่าโชคดี เจิ้งหัวเรียลเอสเตจมอบเงินแปดหมื่นแปดพันหยวนซึ่งหมายความว่าธุรกิจเจริญรุ่งเรือง
กาเม่ยบิวตี้มอบแค่กระเช้าดอกไม้เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัว
และบรรดาผู้ที่มาเพราะเลิ่งเชาถิงล้วนมอบเงินหกหมื่นหกพันหยวนหรือแปดหมื่นแปดพันหยวนในนามของบริษัทของตน แม้แต่คนที่มาในนามตัวเองก็มอบเงินอย่างน้อยสองสามหมื่นหยวนต่อคน ในทำนองเดียวกันเพื่อนของเจียงซู่ก็มอบเงินหลายพันหยวนเช่นกัน ของขวัญที่แพงที่สุดคือรูปปั้นทองคำของฉินอี้ฟานซึ่งมีมูลค่าหนึ่งล้านหยวน
พวกเขาได้รับเงินสดกว่าล้านหยวนในวันเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงซู่และคนอื่นๆ ได้เห็นเงินสดจำนวนมากขนาดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง
“หนิงหนิง ทั้งหมดนี่มาจากเพื่อนๆของหลาน ลุงคิดว่าหลานควรเก็บเอาไว้” เจียงซู่แยกของขวัญที่มาจากคนรู้จักของกู้หนิง เขาคิดว่ามันสมควรเป็นของเธอ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ลุงเก็บไว้เถอะ เก็บไว้เป็นทุนของร้าน” กู้หนิงปฏิเสธ
“แต่...” เจียงซู่คิดว่าไม่ใช่ความคิดที่ดี
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ยังไงลุงก็ต้องซื้อของขวัญตอบแทนให้พวกเขาในภายหลัง” กู้หนิงอธิบาย
อีกอย่างเลิ่งเชาถิงตั้งใจช่วยลุงของเธอสร้างคอนเนคชั่น เขาจะได้มีโอกาสพบปะคู่ค้าทางธุรกิจมากขึ้น
“เอ่อ....” เจียงซู่ครุ่นคิดอยู่สักพักและยินยอมในที่สุด “เอาล่ะ งั้นลุงเก็บไว้เอง”
“อ้อ แม่คะ พรุ่งนี้หนูจะไปเมือง G นะคะ” กู้หนิงพูดกับกู้ม่าน
“ลูกจะไปทำอะไรที่นั่น?” กู้ม่านถาม เธอรู้สึกว่าช่วงนี้กู้หนิงยุ่งมาก ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างกังวล
“หนูต้องไปดูร้านใหม่ค่ะ จะเปิดอาทิตย์หน้าแล้ว” กู้หนิงไม่ปิดบัง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าร้านอะไร กู้ม่านคิดว่าเป็ร้านที่ทำร่วมกับมู่เค่อ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ
วันต่อมากู้หนิงออกจากบ้านเจ็ดโมงเช้า เลิ่งเชาถิงกำลังรอเธอที่ทางออกโซน G
“คุณจะพักที่โรงแรมในเมือง G รึเปล่า?” เขาถาม
ถึงจะเคยได้ยินว่าเฉินเมิ่งเคยเจอกู้หนิงที่วอเตอร์บลูสกาย แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอจะไปพักที่บ้านของคนรู้จักหรือมีบ้านที่ซื้อไว้แล้ว
“ก็ไม่เชิง ฉันมีอพาร์ทเม้นต์ที่วอเตอร์บลูสกายในเมือง G ก็เลยจะพักที่นั่นเวลาไปเมือง G” กู้หนิงตอบ
ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ “คุณจัดคนให้ไปงานเปิดร้านของฉันเหมือนกับที่ทำเมื่อวานหรือเปล่า?”
เลิ่งเชาถิงประหม่า แต่พยักหน้ารับ
กู้หนิงไม่พูดอะไร เธอไม่ต้องการให้เขาทำแบบนั้น แต่ไม่อยากทำลายน้ำใจของเขา
“โกรธรึเปล่า?” เขาถามด้วยสีหน้ากังวล
“ไม่หรอก แค่คิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ที่คุณต้องติดหนี้บุญคุณคนอื่นเพราะฉัน”
“ไม่เป็นไร ครั้งนี้เป็นเพื่อนของผมทั้งหมด” เขาไม่ได้บอกซู่จินเฉินถึงธุรกิจของกู้หนิงในเมือง G เขาอนุญาตให้ซู่จินเฉินออกจากฐานทัพได้ และรู้ว่าซู่จินเฉินจะไปที่เมือง G อย่างแน่นอนหากเขารู้ว่ากู้หนิงกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่น แน่นอนว่าเลิ่งเชาไม่ต้องการให้เขาปรากฏตัว
กู้หนิงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมากับคำอธิบายของเขา
สามสิบนาทีต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงสนามบิน เลิ่งเชาถิงเดินไปส่งกู้หนิงที่เลาจ์ก่อนจะกลับไป
โจวเจิ้งหงโทรหากู้หนิงหลังจากนั้นไม่นาน “บอสครับ มีสำนักข่าวอยากจะสัมภาษณ์ผม ผมควรตอบตกลงไปดีไหมครับ?”
“ตกลงไปเลยค่ะ เป็นโอกาสที่เราจะได้โฆษณาสินค้าของเราด้วย” กู้หนิงตอบ แม้ว่าการโฆษณาก่อนหน้าจะได้รับความนิยมไม่น้อย เธอก็ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆไป
กู้หนิงอนุญาตแล้ว โจวเจิ้งหงจึงจัดการติดต่อนักข่าวและตอบตกลงรับสัมภาษณ์
นักข่าวที่โทรหาโจวเจิ้งหงชื่อว่าหลิงซู่ รายการข่าวของเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
แม้ว่าโฆษณาร้านหยกของกู้หนิงจะออกอากาศไปแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่พวกเขาไม่ใช่คนรักหยกดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่าจะต้องมีการสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
กระนั้นไดเรคเตอร์ของรายการก็มอบหมายให้พวกเขาไปสัมภาษณ์เจ้าของร้านหยกของกู้หนิงเพื่อถ่ายทำหยกจักรพรรดิ
วิดีโอของหยกน่าดึงดูดมากกว่าภาพถ่าย
หลิงซู่เห็นเบอร์โทรร้านจากโปสเตอร์โฆษณาและกดโทรออกตามหมายเลขนั้น
ร้านยังไม่เปิดทำการแต่มีพนักงานรับสาย
พนักงานแจ้งให้โจวเจิ้งหงทราบว่ามีนักข่าวชื่อหลิงซู่โทรมา โจวเจิ้งหงอนุญาติให้พนักงานบอกหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาแก่หลิงซู่ซึ่งนั้นทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน
หลังจากวางสาย หลิงซู่มาถึงโรงงานทันที แต่ผู้สื่อข่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในโรงงาน พวกเขาจึงให้สัมภาษณ์ข้างนอก โจวเจิ้งหงนำหยกจักพรรดิมาให้พวกเขาถ่ายรูป
เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ชางชิงชวนและพนักงานคนอื่นหยุดทำงานชั่วคราวและเดินออกมาพร้อมกับโจวเจิ้งหง
โจวเจิ้งหงมีประสบการณ์มากมาย เขารู้ว่าจะโฆษณาร้านยังไง
แม้ว่านักข่าวจะมาหาพวกเขาเพื่อสัมภาษณ์ แต่โจวเจิ้งหงก็ยังคงให้ซองแดงแก่นักข่าวและช่างภาพคนละห้าร้อยหยวน เพราะข่าวนี้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา
เมื่อนักข่าวและช่างภาพได้รับเงิน พวกเขาจึงขยายเวลาในการสัมภาษณ์เพิ่มขึ้นอีก
หลิงซู่บอกเขาว่าถ้าเป็นไปได้อยากจะถ่ายทำในร้านพรุ่งนี้ด้วย แน่นอนว่าโจวเจิ้งหงยินดี เพราะเป็นการโฆษณาฟรีสำหรับร้าน
ตอนที่ 188: ความลับของเลิ่งเชาถิง
หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ โจวเจิ้งหงก็ไปรับกู้หนิงที่สนามบิน เขาเก็บหยกจักรพรรดิไว้ในที่ปลอดภัยก่อนไปรับเธอ
กู้หนิงเปิดโทรศัทพ์เมื่อลงจากเครื่องบิน เธอโทรหาเลิ่งเชาถิงครั้งหนึ่งแต่เขาปิดโทรศัพท์ เขาอาจจะกำลังออกจากเมือง F บางทีอาจอยู่บนเครื่องบิน เธอโทรหาเขาไม่ได้เลยส่งข้อความไปแทนและบอกเขาว่าเธอถึงอย่างปลอดภัย
ในขณะเดียวกันที่สนามบินเมือง F ซู่จินเฉินก็เพิ่งลงจากเครื่องบิน โทรหาเลิ่งเชาถิงแต่โทรไม่ติดเพราะเขาปิดเครื่อง ซู่จินเฉินยืนนิ่งเหมือนคนโง่ หัวหน้าของเขาออกจากเมืองไปทันทีที่เขามาถึงงั้นเหรอ? ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปิดโทรศัพท์
เลิ่งเชาถิงปิดโทรศัพท์มีอยู่สองกรณีเท่านั้น หนึ่งเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สองเขาอยู่บนเครื่องบิน โทรศัพท์ของเขาไม่เคยแบตหมด ถึงแม้จะไม่ได้ทำงานโทรศัพท์ก็อยู่กับเขาตลอดเวลา
เลิ่งเชาถิงไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือถ้าเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ซู่จินเฉินก็น่าจะรู้ ตอนนี้ซู่จินเฉินไม่รู้จะทำอะไร หัวหน้าของเขาออกจากเมืองไปแล้ว
กู้หนิงโทรหาอาจารย์ฝูและเพื่อนๆของเขาก่อนขึ้นเครื่องบิน พวกเขาตื่นเต้นที่กู้หนิงจะมาเมือง G เช้านี้ พวกเขาอดใจรอยลโฉมหยกจักรพรรดิแทบไม่ไหว
กู้หนิงเห็นโจวเจิ้งหงเมื่อเธอเดินมาถึงทางออกสนามบิน เธอโทรหาอาจารย์หยวน อาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ บอกพวกเขาให้ไปพบเธอที่โรงงาน
อาจารย์ทั้งสามท่านรวมตัวกันอยู่ก่อนแล้ว รอคอยการมาถึงของกู้หนิง เมื่อกู้หนิงโทรมา พวกเขาก็รุดมาที่โรงงานโดยไม่รอช้า
กว่ากู้หนิงจะมาถึงโรงงานใช้เวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นอาจารย์ทั้งสามท่านจึงมารอเธอที่โรงงาน พวกเขายังไม่เข้าไปด้านในทันที โทรหากู้หนิง เธอบอกว่าจะถึงในอีกห้านาที พวกเขาตัดสินใจรออยู่ด้านนอก ไม่มีใครออกมาต้อนรับอาจารย์ทั้งสามท่านเพราะไม่มีใครรู้จักพวกเขา
ภายในห้านาทีกู้หนิงก็มาถึง เมื่อเห็นกู้หนิง อาจารย์ทั้งสามท่านก็ตื่นเต้นดีใจราวกับว่ากำลังจะได้พบหน้ากับบรรพบุรุษของพวกเขาเอง จุดประสงค์ของพวกเขาคือหยกจักรพรรดิ ดังนั้นพวกเขาจึงเร่งกู้หนิงให้พาเข้าไปดูข้างใน ทั้งโจวเจิ้งหงและกู้หนิงรู้สึกอยากหัวเราะเพราะตลกขบขัน
หลังจากลงทะเบียนสำหรับบุคลภายนอก ทุกคนก็เดินเข้าไปข้างใน
อาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋อยากเห็นหยกจักรพรรดิกว่าใครเพื่อน ทั้งสองท่านไม่มีอารมณ์เยี่ยมชมโรงงาน แต่อาจารย์หยวนที่ไม่ค่อยสนใจหยกเท่าไหร่ เลือกที่จะเดินชมโรงงานก่อน
กู้หนิงพาอาจารย์ฝูและอาจาย์ไป๋ไปนั่งที่ห้องรับรอง ในระหว่างที่โจวเจิ้งหงไปเอาหยกจักรพรรดิออกมา
เมื่อเห็นหยกจักพรรดิ อาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ก็แย่งกันว่าใครจะเป็นคนได้ดูก่อน
“หนูกู้ หยกทั้งหมดในนี้ของหนูมีค่ามาก!” อาจารย์หยวนที่เดินดูรอบๆโรงงานประหลาดใจด้วยความทึ่ง
“ค่ะ หนูวางแผนจะสร้างแบรนด์สินค้าไฮเอนด์ ดังนั้นหยกที่ใช้ล้วนเป็นหยกระดับกลางขึ้นไปค่ะ” กู้หนิงตอบ
“เป็นความคิดที่ดีมาก” อาจารย์หยวนชม
อาจารย์ฝูและอาจารย์ไป๋ไม่อยากวางหยกจักพรรดิลง และทั้งสองอยากจะนำมันกลับไปด้วย ผ่านไปสามสิบนาทีจึงยอมวางหยกลงในกล่อง
“อัศจรรย์มาก!” อาจารย์ฝูพูด เขาอยากจะตัดหยกจักรพรรดิด้วยตัวเอง
จากนั้นอาจารย์ฝูและอาจารย์ไปก็ไปเดินชมโรงงานกู้หนิง พวกเขาเอาแต่พูดชมเธอไม่ขาดปากถึงความมีคุณภาพของหยก
ยิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนตัดหยกได้ทั้งหมดคนเดียว พวกเขายิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่
“หนูทำได้ยังไง? แม้แต่พระเจ้ายังไม่แม่นยำขนาดนี้ แต่หนูกลับทำได้ง่ายๆ!” อาจารย์ไป๋ประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ
กู้หนิงยิ้มย้อยๆ ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
อาจารย์ไป๋ไม่ได้บังคับกู้หนิงให้บอกเขาทุกเรื่อง ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ พวกเขาต้องรักษาระยะห่างไม่ไปก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของคนอื่น ยกเว้นว่ากู้หนิงเต็มใจจะบอกพวกเขาด้วยตัวเอง
หลังจากทัวร์สั้นๆ ก็เกือบห้าโมงครึ่งแล้ว กู้หนิงเชิญอาจารย์ทั้งสามท่านไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน รวมถึงโจวเจิ้งหงและพนักงานคนอื่นๆ
อาจารย์ทั้งสามกลับไปทันทีที่รับประทานอาหารเสร็จ กู้หนิงและพนักงานกลับไปที่โรงงาน
กู้หนิงเพิ่งจะมีเวลาว่างดูจี้หยก
ส่วนที่เป็นมังกรเสร็จแล้ว แต่ส่วนที่เป็นนกฟินิกซ์ยังต้องขัดต่ออีกเล็กน้อย
กู้หนิงหยิบมันขึ้นมาดูและพึงพอใจกับผลงาน ฝีมือการแกะสลักของชางชิงชวนนั้นยอดเยี่ยมมาก
ชางชิงชวนเก่งกว่าเจาหรงในการแกะสลักด้วยมือ และเจาหรงมีฝีมือในการแกะสลักด้วยเครื่องจักรมากกว่า ดังนั้นกู้หนิงจึงขอให้ชางชิงชวนทำจี้ให้เธอ
ตอนบ่ายกู้หนิงอยู่ที่โรงงาน ถึงเธอจะไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ แต่ก็ได้ดูดซับพลังงานมากมาย
เกือบบ่ายสามฉินอี้ฟานก็มาถึงสนามบินเมือง G
กู้หนิงโทรหาซื่อตู้เย่ชวนเขามาทานอาหารเย็นด้วยกันตอนหกโมงเย็น เธอมีเรื่องให้เขาช่วย ซื่อตู้เย่ดีใจที่จะได้ช่วยเหลือเธอ เขาตอบตกลงโดยไม่ลังเล ถ้าเธอต้องการพบเขา ต่อให้ไม่ว่างเขาก็สามารถเปลี่ยนตารางงานของเขาเพื่อเธอได้
สถานที่นัดพบคือโรงแรมฮวงเติ้ง กู้หนิงจองห้องทานอาหารส่วนตัวไว้แล้ว
เธอมาถึงโรงแรมฮวงเติ้งราวๆห้าโมงสี่สิบ ซื่อตู้เย่มาถึงห้าโมงห้าสิบ
“ยินดีที่พบค่ะ เชิญนั่งค่ะ” กู้หนิงกล่าวต้อนรับเขา
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้าของแก๊งฉิง แต่เธอไม่รู้สึกกังวล เธอทำตัวเหมือนปกติ เหตุผลที่กู้หนิงรู้สึกสบายใจเป็นเพราะเขาปฏิบัติกับเธออย่างเป็นกันเอง อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอปฏิบัติกับเขาด้วยความยำเกรงมากขึ้น
กู้หนิงให้เขาเป็นคนสั่งอาหารก่อน
หลังจากบริกรกลับไป เขาก็ถามเธอว่า “เธออยากให้ฉันช่วยอะไรแค่โทรมาบอกก็ได้”