ตอนที่ 175 กุหลาบจากเลิ่งเชาถิง
กู้หนิงพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงมาเร็วนัก แต่เธอคิดว่าเรื่องห้องอาหารนั้นตลกดี
อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาต้องจัดเตรียมไว้แล้ว กู้หนิงประหลาดใจที่เขาก็มีมุมโรแมนติกเหมือนกัน
ผู้ชายคนนี้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ
กู้หนิงโชคดีที่ได้ขึ้นแท็กซี่ในเวลาที่เธอเดินออกจากโรงเรียนพอดี และรถไม่ติดมาก เธอมาถึงร้านอาหารเวลา 18:40 น.
เมื่อบริกรมาต้อนรับกู้หนิง เขาดูประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าเธอมีนัดในห้องทานอาหารส่วนตัวหมายเลข 520
เลิ่งเชาถิงรับรู้ได้ว่ากู้หนิงมาถึงแล้ว รูปร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ขายาว และใบหน้าที่หล่อเกินผู้ชายคนไหน เสน่ห์ของเขามีมากกว่าไอดอลชายหรือดาราซะอีก เขาจองห้องหมายเลข 520 และเตรียมการเซอร์ไพรส์ เห็นได้ชัดว่าเขามีนัดกินข้าวกับแฟนสาวของเขา พนักงานร้านอาหารทุกคนคิดว่าแฟนของเขาต้องเซ็กซี่และสวยจนตะลึง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง เด็กสาวคนนี้เป็นคนสวยก็จริง แต่พวกเขาทั้งคู่ดูไม่เหมือนแฟนกันเลยสักนิด!
บริกรนำทางกู้หนิงไปยังห้องหมายเลข 520 กู้หนิงเคาะประตูด้วยตัวเอง ขณะที่เธอกำลังจะเคาะ ประตูถูกเปิดออกจากด้านใน
เลิ่งเชาถิงได้ยินเสียงกู้หนิง ดังนั้นเขาจึงเปิดประตูให้เธอ ดวงตาของทั้งคู่ประสานกันเข้าพอดี ต่างคนต่างไม่รู้จะพูดอะไร พวกเขาได้แต่มองอีกฝ่าย
ในขณะนั้นกู้หนิงคิดว่าเธอตกหลุมรักเข้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในของเขา เลิ่งเชาถิงสัมผัสได้ถึงหัวใจของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่คุ้นเคยกับเขา เธอรู้เพียงชื่อและเรื่องที่เขาเป็นนายทหาร นอกนั้นไม่มีอะไรอื่นอีก พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันมาก แต่เธอเชื่อใจเขาและรู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับเขา
เลิ่งเชาถิงชอบความรู้สึกของเขายามที่ได้อยู่กับเธอ เขาอดที่จะคิดถึงเธอ ห่วงเธอและแม้แต่การมีเธอไม่ได้ มันยากมากที่จะอธิบายว่าทำไมคนเราถึงตกหลุมรักคนๆหนึ่ง แต่เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้เจอกับคนที่เรารักอย่างลึกซึ้งและรักพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข
“เข้ามาสิ” เลิ่งเชาถิงดึงสติกลับมาเป็นคนแรก เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้างให้เธอเข้ามาข้างใน
ได้ยินเสียงของเลิ่งเชาถิง กู้หนิงก็พลันตระหนักได้ว่ายังยืนอยู่ตรงประตู เธอรู้สึกเขินนิดหน่อย แต่สงบลงได้อย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปข้างใน
มีไวน์หนึ่งขวดกับแก้วสองใบและเมนูวางอยู่บนโต๊ะ
เลิ่งเชาถิงดึงเก้าอี้ออกให้กู้หนิงนั่ง หลังจากเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเองและยื่นเมนูอาหารให้เธอ “เชิญคุณผู้หญิงก่อนครับ”
จู่ๆเลิ่งเชาถิงก็ทำตัวสุภาพบุรุษ ทำเอากู้หนิงไม่ชิน
เธอรับเมนูอาหารมาอ่าน เลิ่งเชาถิงสั่นกระดิ่ง ไม่นานบริกรก็เข้ามาในห้อง
กู้หนิงสั่งสเต๊กสุกระดับกลางราดด้วยซอสพริกไทยดำ เลิ่งเชาถิงสั่งเหมือนเธอ
จากนั้นกู้หนิงสั่งพิซซ่า และสลัดผลไม้เพิ่มเติม
เมื่อบริกรกลับออกไป เลิ่งเชาถิงดูลุกลี้ลุกลน ดูเหมือนว่าเขาวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้ใช่เวลาที่ดีหรือเปล่า
“มีอะไรรึเปล่าคะ?” กู้หนิงถาม เธอคิดว่าเขาต้องมีเรื่องให้ไปจัดการและต้องกลับแล้ว
“เอ่อ ผมมีบางอย่างจะให้คุณ ถ้าไม่ชอบก็อย่าโกรธนะ”
“อ้อ” กู้หนิงคาดไม่ถึงว่าการที่เขาลุกลี้ลุกลน เป็นเพราะกลัวเธอจะโกรธ เธอค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีเดียวแต่ก็อยากรู้ว่าเขามีอะไรจะให้เธอ เธอไม่ใช่เด็กที่จะโกรธง่ายเพียงเพราะได้ของขวัญไม่ถูกใจ
กู้หนิงอยากรู้จริงๆว่าของขวัญที่เลิ่งเชาถิงเตรียมไว้ให้เธอคืออะไร
“ได้สิ ไม่โกรธหรอก” กู้หนิงตอบ
เลิ่งเชาถิงโล่งใจ เขาลุกขึ้นเดินไปด้านหลังและเดินกลับมาพร้อมกับกุหลาบแดงช่อใหญ่ เมื่อกู้หนิงเห็นช่อกุหลาบ ความรู้สึกหลากหลายทะลักเข้ามาสู่ตัวเธอ
ชาติที่แล้ว ฉีซีหยูมักส่งกุหลาบให้เธอด้วยความหวานชื่นเมื่อเขาตามจีบเธอ แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกหลอกหลวง เธอรู้สึกขยะแขยง
กู้หนิงซ่อนความเกลียดชังของเธอที่มีต่อฉีซีหยูเป็นอย่างดีในชาตินี้ มันคงไม่ยุติธรรมกับเลิ่งเชาถิงที่เธอดันนึกถึงฉีซีหยูขึ้นมาตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงสลัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
เลิ่งเชาถิงเดินเข้าไปหากู้หนิง เขารู้สึกเขินนิดหน่อยแต่หวั่นวิตกมากๆ เขาพูดกับกู้หนิงด้วยความจริงใจว่า “ผมได้ยินมาว่าผู้หญิงชอบกุหลาบ แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบมัน คุณชอบมันรึเปล่า?”
“แน่นอนค่ะ!” กู้หนิงตอบ เธอรับช่อกุหลาบจากเขา แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบกุหลาบ โดยเฉพาะเมื่อพวกเธอได้รับจากผู้ชายที่ชอบ
เลิ่งเชาถิงดีใจที่เห็นกู้หนิงชอบ แต่วินาทีถัดมาเขาก็รู้สึกกังวลอีกครั้ง “เอ่อ ผมซื้อตั๋วหนังมาสองใบ คุณไปดูหนังกับผมได้ไหม?”
กู้หนิงอึ้งไปสองวิ ตั๋วหนัง? ตอนนี้เธอยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์ ดูเหมือนว่าเขาทำการบ้านมาดีทีเดียว!
“ได้สิคะ” กู้หนิงตกลง
ตอนนี้เลิ่งเชาถิงหายใจสะดวกทั่วท้อง ใบหน้าของเขาเปล่งประกายสดใส ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเห็นใบหน้าแบบนี้ของเขา ตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเด็กสาวที่ตัวเองชอบ
สลัดผลไม้และพิซซ่าถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ เลิ่งเชาถิงเปิดขวดไวน์รินใส่แก้วให้กู้หนิงและตัวเขาเอง
ถึงแม้พวกเขาทั้งสองจะไม่ได้สนทนากันมากมาย แต่ก็ทานอาหารกันอย่างชื่นมื่น หลังจากจบมื้ออาหาร ทั้งคู่พากันไปโรงหนัง
กู้หนิงและเลิ่งเชาถิงดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างค่อนข้างมาก
สำหรับเลิ่งเชาถิงทุกคนตกตะลึงและแทบจะกรีดร้องออกมาพร้อมกัน ราวกับว่าพวกเขาได้พบกับซูเปอร์สตาร์ พวกเขาส่วนใหญ่อิจฉากู้หนิง แม้ว่าเธอจะน่ารัก แต่เธอยังเด็กเกินไปและดูเหมือนนักเรียน เธอดูไม่เข้ากันกับเลิ่งเชาถิงเลย
บางคนคิดในใจ บางคนก็พูดออกมาดังๆ บางคนก็ซุบซิบว่าเลิ่งเชาถิงกับกู้หนิงเป็นพี่ชายน้องสาว กู้หนิงไม่พอใจที่ได้ยินแบบนั้น
พวกเขาดูไม่เข้ากันขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาชอบเธอมากและไม่อนุญาตให้ใครมาตัดสินเธอ เขาสัมผัสได้ว่าเธอไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงกวาดตามองคนที่อยู่รอบข้างพวกเขา ส่งสายตาเย็นชาไปให้ ทำเอาไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาสักคำเดียว
ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา แต่ตอแหยด้วยไม่ได้
การกระทำของเลิ่งเชาถิงประทับใจกู้หนิงมาก เธอเลิกเศร้าทันที
ตอนที่ 176 ผมจะพยายามต่อไป
เลิ่งเชาถิงซื้อน้ำสองขวดและป๊อบคอร์นก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในโรงหนัง
เลิ่งเชาถิงจองที่นั่งสองที่ในแถวสุดท้าย แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้ แต่ก็กำลังจะออกจากโรงเร็วๆนี้แล้ว ดังนั้นจึงมีผู้ชมไม่มากนักในโรงหนัง มีเพียงเขาและเธอเท่านั้นที่นั่งอยู่ในแถวสุดท้าย
ชั่วโมงครึ่งต่อมาหนังก็จบลง กู้หนิงกับเลิ่งเชาถิงยังไม่ลุกจากที่นั่ง รอจนกว่าคนอื่นที่เหลือจะออกไปหมด พวกเขาออกจากโรงหนังตอนสี่ทุ่ม แล้วพากันกลับไปที่เฟิ่งหัวแมนชั่น
ระหว่างทางทั่งคู่ต่างคนต่างเงียบ บรรยากาศชวนให้เคอะเขิน
เลิ่งเชาถิงอยากจะพูดบางอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาค้นหาคำพูดหวานๆมากมายจากอินเตอร์เน็ต แต่ไม่สามารถพูดคำเหล่านี้ออกมาได้ เพราะเขาคิดว่าคำพูดเหล่านี้ดูไม่จริงใจ และเขาไม่ใช่ผู้ชายที่พูดเก่งอะไร แต่ถ้าเขาไม่พูดบรรยากาศในรถคงกระอักกระอ่วน
กู้หนิงเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ปกติเธอเป็นคนพูดมาก แต่จู่ๆก็รู้สึกเขินเมื่ออยู่กับเลิ่งเชาถิง
“เอ่อ...”
“เอ่อ...”
ทั้งคู่อ้าปากพูดขึ้นพร้อมกันและปิดปากลงพร้อมกัน
“คุณพูดก่อน”
“คุณพูดก่อน” ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“คุณพูดก่อน” เลิ่งเชาถิงชิงพูดขึ้นมาก่อนกู้หนิง
“ไหนคุณบอกว่าอยากให้ฉันเป็นแฟนคุณ? คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? ฉันชักจะเซงแล้วนะ” กู้หนิงพูดขึ้นมาอย่างเซงๆ แต่เธอก็ชอบอยู่กับเขา
เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนชอบคุย ถ้าเธอไม่ชอบก็คงไม่ตกหลุมรักเขา ถ้าเธอไม่ชอบเขาคงไม่เปิดโอกาสให้เขาจีบเธอเหมือนฉินอี้ฟาน ที่เธอปฏิเสธเขาตรงๆ
เธอรู้ว่าเธอไม่ควรไว้ใจเขาอย่างสนิทใจ แต่บางครั้งเธอไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเขาทุกอย่าง หากเขากล้าหลอกเธอ เธอจะทำลายเขาอย่างไม่ลังเล
เธอยังไม่สูญเสียความมั่นใจในตัวผู้ชายเพียงเพราะเธอถูกผู้ชายในชาติที่แล้วหลอกหลวง มันไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเลยสักนิด เธอแค่ระมัดระวังตัวมากขึ้นและจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก
เลิ่งเชาถิงแข็งทื่อ ประสาททุกส่วนเกร็งเขม็ง “ผมกำลังเรียนรู้อยู่ ให้เวลาผมหน่อยเถอะนะ”
เห็นเขากังวล เธอรู้สึกเสียใจ พระเจ้า! เธอต้องตกหลุมรักผู้ชายคนนี้อย่างสุดหัวใจแน่ๆ แค่มองเขาเธอก็ใจอ่อนขนาดนี้แล้ว แต่เธอไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ “ไม่ต้องห่วงหรอก ยังมีเวลาอีกเยอะ ตอนนี้ฉันแค่สิบแปด ยังเด็กเกินไปที่จะมีความรัก ควรเอาเวลาไปตั้งใจเรียนดีกว่า”
กู้หนิงจงใจพูดแบบเดียวกับที่เลิ่งเชาถิงเคยพูด ผู้ชายคนนี้ต้องเสียงใจกับสิ่งที่เขาเคยพูดกับเธอ
“เอ่อ คือ....” เลิ่งเชาถิงต้องการจะอธิบาย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง เขาต้องเผชิญกับความจริงที่ว่ากู้หนิงยังเด็กเกินไปในตอนนี้ และเขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้มีผลกระทบกับการเรียนของเธอ เขาปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงที่ว่านี้ไม่ได้ เขาไม่ควรเข้าใกล้เธอ เขารู้สึกเสียใจจริงๆ
กู้หนิงรับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขา ถึงเธอจะไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ก็พอจะเข้าใจว่าเขากังวลเรื่องไหนอยู่
เห็นเลิ่งเชาถิงเสียใจ กู้หนิงก็ไม่ได้มีความสุขกับการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆของเธอ กลับกัน เธอรู้สึกเสียใจเหมือนกัน แต่ก็อดหงุดหงิดเขาไม่ได้ เธอกำลังขัดแย้งในตัวเอง
แน่นอนเธอย่อมไม่ยินดีที่เห็นเขาเสียใจนานนัก เธอเลยถามเขาไปว่า “อะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร” เลิ่งเชาถิงยอมแพ้ในที่สุด แม้ว่าเขาอยากจะอธิบายให้เธอฟังแค่ไหน
“จริงเหรอ? ถ้าคุณไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าคุณคงล้อเล่นตอนที่บอกว่าจะตามจีบฉัน!” กู้หนิงหงุดหงิด
“มะ ไม่ใช่นะ” เลิ่งเชาถิงโต้กลับ “ผมแค่...”
“อะไร?” กู้หนิงเกือบจะหมดความอดทน
“ผมแค่ไม่อยากให้เรื่องนี้มีผลกระทบกับการเรียนของคุณ” ในที่สุดเขาก็พูดออกมา
“เป็นไปไม่ได้! ฉันได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนเชียวนะ!” พูดจบก็เพิ่งรู้ตัวว่าเธอรีบพูดเร็วเกินไป เหมือนเธอรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับเขา
ได้ยินเช่นนั้น เลิ่งเชาถิงก็ประหลาดใจ เขาไม่คิดว่ากู้หนิงจะเรียนเก่งขนาดนี้ ถ้าเธอยังรักษาคะแนนเป็นอันดับหนึ่งได้ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติคงเป็นเรื่องง่ายๆ เธอยังสามารถเป็นที่ 1 ของประเทศนี้ได้อีกด้วย! มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งต้องพากันแย่งตัวเธอแน่
เป้าหมายของกู้หนิงคือมหาวิทยาลัยแห่งชาติ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ในเมื่อกู้หนิงบอกว่าเธอเรียนเก่ง เธอมีเวลาว่างพอที่จะออกเดต! เลิ่งเชาถิงอดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ “คุณหมายความว่าพวกเรา...”
กู้หนิงรู้ว่าเขาจะพูดอะไร เธอหยุดเขาก่อนที่เขาจะพูดจบ “ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น ถ้าคุณอยากเดทกับฉัน คุณต้องพยายามมากกว่านี้”
กู้หนิงยอมรับว่าตอนนี้เธอรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย แต่ถ้าเลิ่งเชาถิงไม่มีเวลาหรือความอดทนที่จะจีบเธอ เธอคงไม่รู้สึกพึงพอใจที่เป็นแฟนเขา เธอจะไม่ยอมเป็นแฟนเขาเพราะความหลงใหล เธอต้องการใช้เวลาศึกษาเขามากกว่านี้
เลิ่งเชาถิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่กู้หนิงไม่ได้ให้คำตอบที่ยืนยันกับเขา แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธเขาเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าเขายังมีโอกาส เลิ่งเชาถิงตัดสินใจที่จะพยายามต่อไป
“ผมจะพยายามต่อไป!”
ไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงอาคาร G ใน เฟิ่งหัวแมนชั่น กู้หนิงลงจากรถเดินเข้าไปข้างใน
เลิ่งเชาถิงมองกู้หนิงเดินเข้าไปในตึกจนกระทั่งลับหายไปจากสายตาของเขา
นาทีที่กู้หนิงก้าวเข้าไปในลิฟต์ เธอได้รับข้อความจากเลิ่งเชาถิง “นอนหลับฝันดีนะ ราตรีสวัสดิ์!