ตอนที่ 131: ยืนหยัดเพื่อบอสของพวกเรา
“ไม่ ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉัน! โกหก!” อยู่ๆกู้เซียวเซียวก็พูดเสียงดังขึ้น เธอไม่อาจยอมรับได้ ถ้าเธอยอมรับ ชื่อเสียงของเธอคงถูกทำลายย่อยยับ
แต่แม้เธอจะปฏิเสธเสียงแข็งเพียงใด สีหน้าและปฏิกิริยาของเธอกับทรยศเธอเสียอย่างนั้น สิ้นเสียงกู้เซียวเซียวก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
‘พูดอีกครั้งสิ ใครขอให้นายมาทำร้ายฉัน? ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น? และเธอสั่งให้นายทำอะไรกับฉัน?’
เป็นเสียงผู้หญิง ทุกคนรู้ว่าเป็นเสียงกู้หนิง
จากนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้น ‘ฉัน…’
นิ่งเงียบไปสองสามวินาที เสียงผู้ชายก็ดังต่อไปว่า ‘กู้เซียวเซียว เธอโทรหาฉันและบอกให้ฉันซ้อมเธอ เธออยากให้พวกเราข่มขืนเธอ’
ได้ยินกันแบบนั้นทุกคนก็กลั้นลมหายใจ มองไปที่กู้เซียวเซียวที่ทำสีหน้าบิดเบี้ยว ทุกคนตื่นตะลึง กู้เซียวเซียวช่างเป็นคนร้ายกาจใจดำอำมหิตนัก
ฉินเจิ้งรู้จักหลินฉู่ฮ่าวที่เป็นญาติของกู้เซียวเซียว ทันทีที่เขาได้ยินเสียง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของหลินฉู่ฮ่าว
เขาดูคลิปวิดีโอนั้น ปรากฏว่าเขาคิดถูก
“ไม่ ไม่ใช่ฉันนะ ไม่ใช่ฉันจริงๆนะ! ฉันถูกใส่ร้าย!” กู้เซียวเซียวปฏิเสธเป็นพัลวัน
คนอื่นอาจจะยังเคลือบแคลง แต่ฉินเจิ้งรู้ชัดแก่ใจว่าญาติของกู้เซียวเซียวหักหลังเธอแล้ว
นอกจากนี้กู้เซียวเซียวดูตื่นตระหนกร้อนรน ไม่มีใครสามารถเพิกเฉยได้และพวกเขาส่วนใหญ่เริ่มเชื่อว่ากู้เซียวเซียวอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้
ในขณะเดียวกันนั้น จ้าวเฟยเฟยและเฉินจื่อเหยาต่างก็ได้ยินข่าว ถึงแม้ทั้งคู่จะผิดหวังที่กู้หนิงไม่ได้รับบาดเจ็บอันตรายใดๆ แต่ก็ยิ้มหน้าบานที่เห็นกู้หนิงมีเรื่องกับแก๊งฉิง
เฉินจื่อเหยาพอจะเข้าใจได้ว่ากู้หนิงไม่มีทางปล่อยกู้เซียวเซียวไปง่ายๆแน่ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าไปอยู่ใกล้กู้เซียวเซียวในเวลานี้
ฉู่เพ่ยหาน มู่เค่อและคนอื่นๆกลับมาที่ห้องเรียนหลังจากฝึกซ้อมร่างกายกันเสร็จ
ระหว่างทาง ฮ่าวหรันล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา สังเกตเห็นว่ามีคลิปวิดีโอหนึ่งกำลังเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้
“เชี่ยอะไรวะเนี่ย? กู้เซียวเซียวกล้าดียังไงที่ให้แก๊งฉิงมาทำร้ายบอสของเรา!”
“ห้ะ อะไรนะ?! กู้เซียวเซียวขอให้แก๊งฉิงช่วยทำร้ายกู้หนิง?”
ทุกคนต่างทำสีหน้าเคร่งเครียด กรูเข้าไปดูวิดีโอกับฮ่าวหรัน
ไม่มีใครพึงพอใจที่เห็นวิดีโอนี้ พวกเขาหัวเสียกับสิ่งที่กู้เซียวเซียวทำกับกู้หนิง
ยกเว้นฉู่เพ่ยหาน เธอในตอนนี้ยิ่งกว่าคำว่าหัวเสีย ต่อให้แก๊งฉิงจะทรงพลังมาก ก็ไม่ควรปล่อยให้สมาชิกในแก๊งทำเรื่องอัปรีย์เช่นนี้ได้ แต่ไอ้พวกหน้าไม่อายกับทำเรื่องนี้ลับๆ และเป้าหมายของพวกมันคือกู้หนิงซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ฉู่เพ่ยหานยอมไม่ได้เด็ดขาด
ฉู่เพ่ยหานส่งวิดีโอพวกนี้ให้พี่ชายของเธอ และขอให้เขาช่วยจัดการเรื่องนี้ ฉู่ซวนเฟิงเป็นคนสำคัญข้างกายซื่อตู้เย่ที่เป็นผู้นำจื่อชิวกรุ๊ปซึ่วเป็นศูนย์กลางของแก๊งฉิง
ถึงแม้พวกเขาจะโกรธแค้น แต่ก็ยังรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่เห็นว่ากู้หนิงสามารถล้มพวกนักเลงได้ง่ายๆ
พวกเขามีความคิดแบบเดียวกันในหัวนั่นก็คือ…
“ไปยืนหยัดเพื่อบอสของพวกเรากันเถอะ” ฮ่าวหรันพูดขึ้น
“ใช่!” คนอื่นๆเห็นด้วย
ไม่นานพวกเขาก็เดินดิ่งไปที่อาคารเรียน พวกเขาไม่สงสัยว่ากู้เซียวเซียวจะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ เพราะคลิปวิดีโอนั้นเป็นหลักฐานเพียงพอแล้ว ถ้าหากไม่จริงกู้หนิงคงไม่อัพวิดีโอนั้นลง
พวกเขาเชื่อใจกู้หนิงเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อรู้ว่ากู้หนิงปลอดภัย พวกเขาก็ไม่ได้ออกตามหาเธอ
นักเรียนต่างพากันหวาดกลัวพวกเขาและหลีกทางให้พวกเขาเดินผ่าน
“หมิงซี ถ้าเธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับปัญหา เธอกลับไปที่ห้องเรียนของเธอก่อน พวกเราไม่ว่าอะไรเธอหรอก” ฮ่าวหรันพูดกับหยูหมิงซีระหว่างเดิน
พวกเขาเข้าใจว่าหยูหมิงซีแตกต่างจากพวกเขา เพราะพวกเขาไม่กลัวที่จะมีเรื่อง แต่หยูหมิงซีเป็นเด็กเรียบร้อย พวกเขาไม่ต้องการให้เธอมายุ่งเกี่ยวกับปัญหา
“ใช่ หมิงซี เธอไม่ต้องรู้สึกว่าเธอต้องทำเรื่องนี้” มู่เค่อพูดเสริม
“ไม่ ฉันจะไปกับพวกนาย” ถึงแม้หยูหมิงซีจะค่อนข้างกังวลที่จะมีเรื่อง แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะยืนอยู่ข้างเพื่อนของเธอ กู้หนิงทำตัวดีกับเธอมาก เธอไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเวลานี้ ต่อให้เธอไม่มีพละกำลังมากพอที่จะช่วยได้ เธอก็ต้องการแสดงให้เห็นว่าเธออยู่ข้างไหน
ฮ่าวหรันและคนอื่นจึงไม่ยับยั้งเธอ
ไม่นานฉู่ซวนเฟิงก็เห็นวิดีโอที่น้องสาวของเขาส่งมาให้ดู เขาเป็นพยานที่เห็นกู้หนิงล้มผู้ชายตัวโตสี่คนมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่พบว่าเธอล้มนักเลงห้าคนได้สบายๆ แต่เขาไม่พอใจที่พวกมันมีแผนจะข่มขืนกู้หนิงเพื่อเงินเพียงเล็กน้อย โชคดีที่พวกมันพลาด
พวกมันพลาดเพียงเพราะกู้หนิงไม่ใช่เด็กสาวอ่อนแอ ถ้ากู้หนิงอ่อนแอ บางทีเธออาจถูกทำลายศักดิ์ศรีไปแล้วก็ได้
ฉู่ซวนเฟิงมีความรู้สึกดีให้กู้หนิง อีกทั้งน้องสาวของเขาและเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉู่เพ่ยหานส่งคลิปวิดีโอนี้มาให้เขาเพื่อให้เขาเป็นคนจัดการ นั่นแสดงว่ากู้หนิงมีความสำคัญต่อน้องสาวของเขาเพียงใด ดังนั้นฉู่ซวนเฟิงจึงต้องจัดการเรื่องนี้
แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อกู้หนิงเพียงคนเดียว เขาไม่อนุญาตให้พวกเศษสวะทำลายชื่อเสียงแก๊งฉิงเหมือนกัน การกระทำที่เลวระยำนี้ทำลายชื่อเสียงแก๊งฉิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นฉู่ซวนเฟิงจึงไม่อาจปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้
โดยไม่รอช้า ฉู่ซวนเฟิงสั่งให้คนของเขาตรวจสอบเรื่องนี้ เขาต้องการรู้ว่าไอ้พวกเศษสวะนั่นเป็นคนของแก๊งฉิงจริงหรือไม่ และใครที่เป็นหัวหน้าพวกมันโดยตรง
มีคนจำนวนมากที่อยู่ในแก๊งฉิง ฉู่ซวนเฟิงจึงไม่รู้จักหมดทุกคน เขารู้จักแต่ระดับผู้บริหารและคนสำคัญเท่านั้น
ถ้าพวกมันไม่ได้มากจากแก๊งฉิงและแอบอ้างชื่อแก๊งฉิงเพื่อทำเรื่องระยำนี้ เขาจะลงโทษพวกมันแค่เหนาะๆ แต่ถ้าพวกมันมาจากแก๊งฉิงจริง ก็ถือว่าพวกมันไม่ฟังคำสั่งแหกกฏ ซึ่งจะถูกลงโทษรุนแรงตามกฏของแก๊งฉิง
ฉู่ซวนเฟิงคิดว่าน้องสาวของเขาคงไม่สะดวกรับสายตอนนี้ เพราะเธอส่งคลิปวิดีโอให้เขาทางวีแชท ดังนั้นเขาจึงไม่โทรไป
ในห้องเรียนหนึ่ง ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบทันทีที่เห็นฉู่เพ่ยหาน ฮ่าวหรันและคนอื่นๆก้าวเข้ามาในห้อง
บางคนที่จำพวกเขาได้รู้ว่าพวกเขาต้องมาที่นี่เพราะเรื่องกู้หนิงแน่ บางคนที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากู้หนิงก็พอจะมองออกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น แต่พวกเขาไม่มีความเห็นใจกู้เซียวเซียว
บางคนถึงกับดีใจโดยเฉพาะสาวๆ
ฉินเจิ่งที่มีคนชื่นชอบมากมาย แต่แฟนสาวของเขาคือกู้เซียวเซียว ผู้หญิงหลายคนจึงเกลียดกู้เซียวเซียวด้วยเหตุนี้
ตอนที่ 132: พวกเราไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวานนะ!
เมื่อเห็นว่ากู้เซียวเซียวกำลังจะมีเรื่อง พวกเขาก็อดทำสีหน้าหวาดเสียวแทนไม่ได้ สิ่งที่กู้เซียวเซียวทำเป็นเรื่องที่ใครก็ไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ
กู้เซียวเซียวรู้ว่าพวกเขามาที่นี่เพราะเธอ เธอกลัวยกเว้นจางเทียนปองและหยูหมิงซี ส่วนคนที่เหลือเธอไม่กล้ามีเรื่องด้วย
เธอตัวสั่นด้วยความกลัวและอยากจะหนีกลับบ้าน แต่เธอไม่สามารถทำได้
ฉู่เพ่ยหานเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปตบหน้ากู้เซียวเซียวเสียงดังฉาด ทุกคนตกใจกับการกระทำนั้น
กู้เซียวเซียวเจ็บจี๊ดระคนหัวเสีย ถึงเธอจะกลัวฉู่เพ่ยหาน เธอก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เธอตะคอกกลับไปว่า
“ฉู่เพ่ยหาน เธอตบฉันทำไม?”
เป้าหมายของกู้เซียวเซียวคือกู้หนิงไม่ใช่ฉู่เพ่ยหานซะหน่อย ต่อให้ฉู่เพ่ยหานสนิทกับกู้หนิงก็ไม่ควรตบกู้เซียวเซียวเพราะเรื่องนั้น กู้เซียวเซียวโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ
แน่นอนว่าฉู่เพ่ยหานไม่ใช่เป้าหมายของกู้เซียวเซียว แต่เธอยืนอยู่ข้างกู้หนิง เธอจึงตั้งใจตบกู้เซียวเซียว
ในระหว่างนั้นฉินเจิ้งที่เป็นแฟนกู้เซียวเซียวที่นิ่งเงียบมาตลอด เขารู้สึกผิดหวังในตัวกู้เซียวเซียวเป็นอันมาก และเขาก็กลัวฉู่เพ่ยหานและเพื่อนของเธอ
ถ้าฉู่เพ่ยหานอยู่ที่นี่คนเดียว เขาก็คงพอที่จะพูดอะไรได้บ้าง แต่ฮ่าวหรันและเพื่อนของเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเขาช่วยกู้เซียวเซียวเขาคงถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ฉินเจิ้งไม่อยากถูกพวกเขารุมต่อย
“เพราะแกสมควรโดนแล้ว กู้เซียวเซียว! แกกล้าดียังไงที่ทำร้ายกู้หนิงแบบนั้น!” ฉู่เพ่ยหานเตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ
ฮ่าวหรันและเพื่อนยังคงยืนนิ่ง เพราะฉู่เพ่ยหานคนเดียวก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ นอกจากนี้พวกเขาไม่อยากตีผู้หญิง
“ฉันเปล่า...” กู้เซียวเซียวปฏิเสธแต่ไม่มีใครเชื่อเธอ เธอช่างโง่เขลาที่คิดว่าตราบใดที่เธอไม่ยอมรับ เธอจะปลอดภัย
“แกเปล่างั้นเหรอ? พวกเราไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อวานนะ!” ฉู่เพ่ยหานจิกไปที่ผมกู้เซียวเซียว
“ปล่อยฉันนะ!” กู้เซียวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ ยิ่งเธอดิ้นแรงเท่าไหร่ ความเจ็บยิ่งทวีขึ้นเป็นทวีคูณ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอไม่ขาดสาย
“ไม่ปล่อย!”
หลังจากนั้นฉู่เพ่ยหานก็ตบไปที่หน้ากู้เซียวเซียวอีกครั้งและอีกครั้ง แก้มกู้เซียวเซียวมีรอยแดงเป็นปื้น เธอร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
กู้เซียวเซียวพยายามดิ้นหลุดสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล ต่อหน้าฉู่เพ่ยหานที่เรียนการศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็ก กู้เซียวเซียวจึงได้แต่ร้องไห้อย่างเจ็บปวด
ฉินเจิ้งรู้สึกผิดหวังในตัวกู้เซียวเซียว แต่เขาไม่ต้องการเห็นเธอเจ็บตัวไปมากกว่านี้ เขาจึงเปิดปากพูดขึ้นว่า
“ฉู่เพ่ยหาน พอได้แล้ว!”
ฉู่เพ่ยหานหยุดมือ แต่ไม่ใช่เพราะฉินเจิ้ง เธอคิดว่าเธอลงมือเพียงพอแล้ว แต่มือของเธอยังจิกที่ผมกู้เซียวเซียว
ฉินเจิ้งที่บอกให้ฉู่เพ่ยหานหยุดทำให้ฮ่าวหรันและเด็กหนุ่มคนอื่นหงุดหงิด ฉู่เพ่ยหานตะคอกใส่ฉินเจิ้งว่า
“ฉินเจิ้ง นายอยากจะเจ็บตัวเหมือนนังนี่ด้วยใช่ไหม? ถ้ากู้หนิงเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ เธอคงถูกพวกสวะนั่นทำลายไปเรียบร้อยแล้ว เธอคงฆ่าตัวตายเพราะเรื่องระยำนี่! ถ้าเป็นแบบนั้นกู้เซียวเซียวก็เป็นคนฆ่าเธอ!”
ฉินเจิ้งนิ่งไป ใช่แล้ว ถ้าหากเรื่องเลวร้ายนั้นเกิดขึ้นกับกู้หนิง กู้เซียวเซียวก็ไม่ต่างจากเป็นฆาตกรที่ฆ่าเธอ เธอต้องลงเอยในคุก
ถ้าหากกู้หนิงเป็นคนอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน เธอคงฆ่าตัวตาย
“ฉินเจิ้ง ถ้ากู้เซียวเซียวทำแบบนี้กับเพื่อนของนายหรือครอบครัวนาย นายจะปล่อยเธอไปรึเปล่า?” มู่เค่อถามออกไป
“อย่าคิดว่าพวกเขาทำพลาดแล้วกู้เซียวเซียวจะหนีรอดไปได้ ถ้ากู้หนิงโทรหาตำรวจ กู้เซียวเซียวก็ต้องติดคุกหลายปี” ฮ่าวหรันพูดขึ้น
ได้ยินดังนั้นร่างของกู้เซียวเซียวก็สั่นรุนแรง ไม่ เธอไม่อยากติดคุก!!
“ไม่ ไม่ใช่ฉันนะ ไม่ใช่ฉัน!!!” กู้เซียวเซียวกรีดร้องทำให้แก้มของเธอดึงรั้งสูง แก้มของเธอเจ็บระบม แต่เธอยังคงตะโกนด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
“พระเจ้า” ฉู่เพ่ยหานเยาะหยัน กู้เซียวเซียวช่างไม่ละอายแก่ใจที่ยังปฏิเสธคความจริง
เสียงออดดังขึ้นบ่งบอกว่าเป็นเวลาเข้าชั้นเรียน แต่ฉู่เพ่ยหานและคนอื่นๆยังไม่ถอยกลับออกไป หวังเฉิงฉีที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นห้องหนึ่งเดินเข้ามา เขาเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้า
หวังเฉิงฉีจำฮ่าวหรันและคนอื่นๆได้เมื่อเขาเดินเข้ามา เขารู้ได้ทันทีว่าเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น
ฮ่าวหรันและเพื่อนของเขามีชื่อเสียงในทางไม่ดีที่ก่อปัญหาได้ทั้งวัน
“พวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่?” หวังเฉินฉีถามพวกเขา
สิ้นเสียงอาจารย์หวังเฉิงฉี นักเรียนทั้งหมดก็กลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง ยกเว้นฮ่าวหรันและเพื่อนของเขา พวกเขาจ้องไปที่หวังเฉิงฉีด้วยท่าทางไม่ยี่หระ
ยังไม่ทันได้รับคำตอบ อาจารย์หวังเฉิงฉีก็สังเกตเห็นฉู่เพ่ยหานใช้มือจิกไปที่ผมกู้เซียวเซียว แถมแก้มของเธอก็บวมแดง กู้เซียวเซียวร้องไห้ไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ อาจารย์หวังเฉิงฉีโมโห
“ฉู่เพ่ยหาน ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ! ทำไมถึงตบเพื่อนนักเรียนด้วยกัน?”
ฉู่เพ่ยหานลดมือของเธอลง แต่ยังจ้องไปที่อาจารย์หวังเฉิงฉี เธอแค่นเสียงพูดว่า “เพราะเธอสมควรโดนแล้วค่ะ อย่าเพิ่งรีบโทษหนูเลยค่ะอาจารย์ อาจารย์ควรไปเช็คข่าวในเว็บบอร์ดโรงเรียนก่อนนะคะ”
ได้ยินแบบนั้น อาจารย์หวังเฉิงฉีก็มึนงง เขารีบดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเข้าไปดูที่เว็บบอร์ดโรงเรียน เขาอ่านโพสและดูคลิปวิดีโอ เขาตะลึงกับความสามารถของกู้หนิง จากนั้นก็โมโหที่กู้เซียวเซียวมีส่วนเกี่ยวข้อง
ถึงแม้เขาจะยังไม่แน่ใจว่ากู้เซียวเซียวอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธอมันได้ว่าเธออาจมีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีหลักฐานที่แน่นหนาวางอยู่บนโต๊ะ เขาพยายามระงับความโกรธและถามกู้เซียวเซียวไปว่า
“กู้เซียวเซียว เรื่องจริงหรือ?”
ถ้าเป็นจริง กู้เซียวเซียวก็ถือว่าเป็นคนเลว กู้หนิงไปทำอะไรให้กู้เซียวเซียวจนเธอตัดสินใจทำเรื่องเลวร้ายนี้ได้?
“ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่เรื่องจริง…” กู้เซียวเซียวยังคงยืนกรานคำเดิม แต่เธอไม่มีความสารถมากพอที่จะกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงงของตัวเองได้ เธอประหม่าจนเห็นได้ชัด
อาจารย์หวังเฉิงฉีทั้งหงุดหงิดและผิดหวังในคราวเดียวกัน เขามีความคาดหวังมากสำหรับนักเรียนห้องหนึ่ง ตอนนี้เขาจึงรู้สึกเจ็บและผิดหวังอย่างรุนแรง