ตอนที่ 369 ซื้อของรับเทศกาลปีใหม่
ในทางกลับกัน อ้ายกวงเหยาค่อนข้างตกใจกับข่าวนี้ เขาคิดว่าหงหยุนจะสร้างปัญหาให้กับพวกเขาตอนที่ถนนเจิ้งหยางกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้กับหงหยุน ใครเล่าจะคิดว่ากลุ่มหงหยุนทั้งหมดจะประสบปัญหาใหญ่ในขณะนี้ ก่อนที่พวกเขาจะพัฒนาถนนเจิ้งหยางด้วยซ้ำ นอกจากนี้ฟางซางเจิ้งจะต้องถูกตัดสินจำคุกอย่างแน่นอน และไม่มีใครสามารถบริหารหงหยุนหรุ๊ปได้
อ้ายกวงเหยาไม่รู้ว่ากู้หนิงทราบเรื่องนี้รึยัง ดังนั้นเขาจึงโทรหากู้หนิงทันที กู้หนิงบอกว่าเธอทราบข่าวแล้วและได้ชวนเขาพร้อมเลขาของเขา จางชุนเจีย และทนาย หลี่เซ่อเหวินมาพบ
พวกเขานัดพบกันตอนหกโมงเย็น กู้หนิงไปพร้อมกับเกาอี้และเฉียวหยาและมาถึงร้านอาหารตอนห้าโมงนิดๆ
ไม่นานอ้ายกวงเหยาพร้อมคนของเขาก็มาถึง พวกเขาไม่รู้จักเกาอี้และเฉียวหยา และไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าสองคนนี้เกี่ยวข้องกับกู้หนิงอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงทักกู้หนิงว่า ‘คุณกู้’ แทนที่จะเป็น ‘บอส’
“เชิญนั่งค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง กู้หนิวก็แนะนำพวกเขาทีละคน “นี่คือเกาอี้และเธอคนนี้คือเฉียวหยา ทั้งสองคนเป็นผู้คุ้มกันของฉันค่ะและทำงานให้ฉันด้วย อ้ายกวงเหยาเป็นประธานบริษัทเจิ้งหัวเรียลเอสเตท นี่คือเลขาของเขา จางชุนเจีย และทนาย หลี่เซ่อเหวิน
พวกเขาพยักหน้าหลังจากที่กู้หนิงแนะนำ
“ที่เรียกมาวันนี้ เพราะฉันจะเข้าซื้อกิจการบางส่วนของหงหยุนกรุ๊ป หงหยุนคงไม่รอดหลังจากเผชิญเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่” กู้หนิงกล่าว
อะไรนะ? ซื้อกิจการบางส่วนของหงหยุนกรุ๊ป อ้ายกวงเหยาและคนของเขาทำหน้าตกใจ แน่นอนว่าข้อตกลงนี้จะสร้างกำไรมหาศาลถ้ามีใครได้กิจการของหงหยุนไป แต่จำนวนเงินที่ต้องใช้ก็มหาศาลไม่ต่างกัน เจิ้งหัวในยามนี้ไม่มีเงินทุนมากขนาดนั้น และแม้ว่าธุรกิจของหยกบิวตี้จะไปได้ดี แต่ไม่ได้มีเงินสดมากมาย พวกเขารู้ว่ากู้หนิงต้องมีแผนรองรับไว้แล้ว แต่ก็ยังสงสัยว่าเรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร
กู้หนิงพูดต่อว่า “หงหยุนกรุ๊ปมีสถานที่ก่อสร้างใหม่ในเมือง J ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ และมีห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้าง คุณภาพไม่เลว ฉันคิดว่าเราสามารถซื้อได้ทั้งพื้นที่ใช้สอยใหม่และห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ นอกจากนั้น ยังมีห้างสรรพสินค้าอีก 7 แห่ง โรงแรมสี่ดาว 6 แห่ง และร้านอาหาร 5 แห่งภายใต้ชื่อหงหยุนในเมืองอันดับสองในจังหวัด D เราสามารถครอบครองทั้งหมดได้ นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว เรายังต้องปรับปรุงโรงแรมและร้านอาหารใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจใช้เวลานาน เวลาคือเงิน ดังนั้นเราต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม คุณภาพยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะเผื่อไว้เสมอ”
ทุกคนแปลกใจอีกครั้งกับข้อมูลที่ละเอียดยิบ ดูเหมือนว่ากู้หนิงจะรู้ก่อนที่หงหยุนจะเกิดเรื่อง กระนั้นก็ไม่มีใครถามเธอ
“ฉันได้รับอนุญาตจากบุคคลสำคัญในวงการการเมืองแล้ว ดังนั้นหากไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กิจการเหล่านั้นจะเป็นของเราในไม่ช้า” หยวนเจิ้งหลินสัญญากับเธอแล้ว แม้ว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เธอก็สามารถขอความช่วยเหลือจากเลิ่งเชาถิงได้
กวงเหยาและคนอื่นๆ ต่างรู้ดีว่าเครือข่ายของกู้หนิงทรงพลังเพียงใด นับตั้งแต่พวกเขารู้ว่าหยกบิวตี้เป็นแบรนด์เครื่องประดับของกู้หนิง ด้วยการสนับสนุนจากนายกเทศมนตรี ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดหลายครอบครัว และแก๊งฉิง ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงเชื่อมั่นในตัวกู้หนิงอย่างสมบูรณ์ ในสายตาของพวกเขา กู้หนิงไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแต่เป็นนักธุรกิจหญิงที่ชาญฉลาดมาก ราวกับว่าเธอเคยทำธุรกิจมานานหลายปีแล้ว
เมื่อกู้หนิงตัดสินใจแล้ว พนักงานของเธอจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุด โชคดีที่เทศกาลปีใหม่อยู่ห่างออกไปเพียงสามวัน และพวกเขาจะหยุดพักผ่อนในวันมะรืนนี้ ทว่าพวกเขาเต็มใจที่จะยุ่ง เพราะมันหมายความว่าพวกเขากำลังทำเงินมหาศาล!
เกาอี้และเฉียวหยาย้ายเข้าไปอยู่ในเฟิ่งหัวในคืนนั้น พวกเขาไปส่งกู้หนิงที่โซน G ก่อน รอกู้หนิงเดินเข้าไปในตึกแล้ว พวกเขาจึงกลับไปที่โซน F
กู้ม่านทานข้าวกับครอบครัวกู้ชิง วันนี้ทั้งวันก็เป็นวันที่วุ่นวายสำหรับทั้งสองคนเช่นกัน และพวกเธอก็ปวดเมื่อยมาก
สิ่งแรกที่กู้หนิงทำเมื่อกลับถึงบ้านคือการนวดและแอบใช้พลังบรรเทาความเหนื่อยล้าให้แม่กับป้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู้หนิงนวดให้พวกเธอ ดังนั้นพวกเธอจึงชินกับการที่กู้หนิงนวดให้
แม้ว่าวันนี้พวกเธอจะเหนื่อยแต่ก็สนุกกับงาน เพราะลูกค้าวีไอพีหลายคนต่ออายุสมาชิกและมีลูกค้าวีไอพีคนใหม่หลายคนในวันนี้
กู้หนิงไม่คิดว่านี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อะไร กาเม่ยบิวตี้ซาลอนมีบริการและผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ยังไม่เห็นผลมากพอเพราะในท้องตลาดยังไม่มีผลิตภันฑ์ดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพมากนัก
กู้หนิงคิดจะแทนที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกาเม่ยบิวตี้ด้วยผลิตภัณฑ์ของเธอเอง เมื่อบริษัทผลิตยาของเธอก่อตั้งเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีประสิทธิภาพที่เห็นผลชัดเจน ทุกคนย่อมเต็มใจจ่าย
“โอ้ ช่วงนี้พวกเรายุ่งกันมาก ยังไม่ได้ซื้อของสำหรับเทศกาลปีใหม่เลย! พรุ่งนี้ทำไมพวกเราไม่ไปช้อปปิ้งด้วยกันล่ะ?” กู้ชิงเสนอ
“ตายจริง ฉันลืมไปแล้วนะเนี่ย!” กู้ม่านอุทาน
“ซู่ พรุ่งนี้คุณว่างไหม? คุณช่วยไปขนของที่เราซื้อสำหรับปีใหม่พรุ่งนี้ได้ไหมคะ?” กู้ชิงถามสามี
“พรุ่งนี้เช้าผมต้องรอลูกค้า แต่ตอนบ่ายไปช่วยพวกคุณได้” เจียงซู่ตอบ
“ไม่ต้องรบกวนลุงหรอกค่ะ” กู้หนิงปฏิเสธ “หนูจะโทรให้คนของหนูมาช่วยพวกเราเอง”
กู้หนิงหันไปพูดกับกู้ม่านว่า “แม่คะ หนูมีคนสองคนทำงานเป็นเลขาและขับรถให้หนู พวกเขาเป็นแฟนกันและทั้งคู่ก็เป็นกำพร้า บางทีหนูอาจเป็นคนที่ใกล้ชิดพวกเขาที่สุดแล้ว เพราะงั้นหนูอยากจะเชิญพวกเขามาร่วมฉลองปีใหม่กับพวกเราด้วย และพรุ่งนี้พวกเขาจะไปช่วยเราถือของด้วยค่ะ”
ได้ยินเช่นนั้น กู้ม่านก็สงสารพวกเขาและเห็นด้วย “ไม่มีปัญหาจ๊ะ พวกเรายินดีต้อนรับ”
จากนั้นกู้หนิงก็กลับไปที่ห้องชุดของเธอ ส่วนกู้ม่านยังคงอยู่คุยกับกู้ชิง
เมื่อมาถึงห้อง กู้หนิงก็โทรหาเกาอี้และบอกว่าพรุ่งนี้พวกเขาขะไปซื้อของด้วยกัน
ตอนที่ 370 คิดถึงมาก
เมื่อมีเวลาว่าง กู้หนิงก็อดคิดถึงเลิ่งเชาถิงไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เธอคิดกับตัวเอง ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น คนที่โทรมาคือเลิ่งเชาถิง
“หนิงหนิง” เลิ่งเชาถิงส่งเสียงทักทายสดใส เขาอยู่ในฐานทัพจึงไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ แม้แต่เปิดโทรศัพท์เพื่อดูรูปเธอยังทำไม่ได้ซึ่งนั่นเป็นการทรมานเขาอย่างยิ่งยวด
ได้ยินเสียงของเลิ่งเชาถิง หัวใจของกู้หนิงก็เต้นผิดจังหวะ
“เชาถิง” กู้หนิงคิดถึงเขามาก การไม่ได้รับข่าวคราวของเขาเลยทำเธอว้าวุ่นใจและใจคอไม่ดี
“ผมคิดถึงคุณมากเลย” เลิ่งเชาถิงเอ่ย
หัวใจของกู้หนิงเต้นเร็วขึ้น “ฉันเองก็คิดถึงคุณค่ะ”
ทั้งคู่สนทนากันสองชั่วโมงจึงวางสาย
วันต่อมา กู้ม่านและกู้ชิงไม่ได้ไปที่ร้านกาเม่ย พวกเธอไปช้อปปิ้งกับกู้หนิง เกาอี้ และเฉียวหยา
รถมีเพียงห้าที่นั่ง ดังนั้นจึงสามารถรองรับได้เพียงห้าคนเท่านั้น ดังนั้นเจียงซินหยูจึงเป็นฝ่ายอยู่บ้านแทน
เมื่อกู้หนิง กู้ม่าน และกู้ชิงปรากฏตัว เกาอี้และเฉียวหยาก็ลงจากรถมาเปิดประตูให้ทั้งสามคน “เกาอี้ เฉียวหยา นี่คือแม่และป้าของฉันเอง” กู้หนิงพุดกับพวกเขา
“ยินที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ” เกาอี้และเฉียวหยาทักทายกู้ม่านและกู้ชิงด้วยความเคารพ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันจ๊ะ” กู้ม่านและกู้ชิงเอ่ยตอบ
“แม่คะ ป้าคะ นี่คือเกาอี้ ส่วนนี่คือเฉียวหยา” กู้หนิงแนะนำ
“งั้นพวกเราเรียกพวกเธอว่าเกากับเฉียวแล้วกัน” กู้ม่านพูด เพราะเกาอี้และเฉียวหยายังดูเด็ก
“ได้ครับ/ค่ะ”
หลังจากทักทายกันเรียบร้อย ทุกคนก็ขึ้นรถ เกาอี้เป็นคนขับรถ มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมือง F
เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นจึงมีคนมาซื้อของมากมายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นแรก
ในอดีตครอบครัวของกู้หนิงสามารถซื้อได้แต่ของราคาถูกเท่านั้น แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว พวกเธอสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่พวกเธอชอบและต้องการ
กู้ชิงและกู้ม่านง่วนอยู่กับการช้อปปิ้ง ในขณะที่เกาอี้และเฉียวหยาเป็นลูกมือคอยถือของให้ตลอดทาง ตอนแรกกู้ชิงและกู้ม่านไม่กล้ารบกวนทั้งสองคน แต่กู้หนิงบอกว่าพวกเขาแข็งแรงมาก ไม่ต้องกังวล เมื่อเวลาเกือบสิบโมง อ้ายเฉียนก็โทรมาหากู้หนิง “กู้หนิง เธอหายหน้าไปอีกแล้วนะ! ทำไมถึงไม่บอกฉันว่าเธอกลับมาแล้ว! ถ้าอ้ายยี่ไม่บอก ฉันก็ไม่รู้อีกตามเคย”
แม้ว่าอ้ายเฉียนและกู้หนิงจะไม่ค่อยได้ติดต่อหรือไปมาหาสู่กันเท่าไหร่นัก แต่มิตรภาพของทั้งสองคนยังดีอยู่
“เป็นความผิดฉันเองค่ะ พรุ่งนี้คุณว่างไหมคะ? ไปทานข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง” กู้หนิงรู้สึกผิด และเธอเองก็ไม่ได้เจออ้ายเฉียนนานแล้ว
“ไปๆ ต่อให้ฉันไม่ว่าง ฉันก็เคลียร์ตารางให้ได้” อ้ายเฉียนพูดราวกับว่าจะไม่ปล่อยให้กู้หนิงหนีไปได้อีกครั้ง
กู้หนิงรู้สึกอยากหัวเราะ “คุณอยากทานอะไรคะ?”
“สเต๊ก! ฉันมีร้านอาหารตะวันตกจะแนะนำ ฉันไปบ่อย” อ้ายเฉียนเอ่ย
“ได้สิคะ เจอกันกี่โมงดี?” กู้หนิงถาม
“เที่ยงแล้วกัน”
เมื่อพวกกู้หนิงเดินออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง “โจร!” พวกเธอมองไปตามเสียงและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกระเป๋าถือ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามเขา แต่เธอสวมรองเท้าส้นสูงและเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไล่ตามโจรทัน
กู้หนิงจำผู้หญิงคนนั้นได้ เธอก็คือฉินอี้ฉิง พี่สาวฉินอี้ฟาน
กู้หนิงไม่ชอบหน้าเธอแต่ก็ไม่ได้เกลียด ดังนั้นเธอจึงหันไปบอกเกาอี้ว่า “เกาอี้ หยุดโจรที”
“ครับ” เกาอี้ตอบ เขาวางถุงในมือลงและเหยียดขาออกไป โจรสะดุดล้มลงอย่างแรง จากนั้นเกาอี้ก็รวบตัวเขาและแย่งเอากระเป๋าคืนมา
ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างทึ่งกับฉากที่เห็น และมองเกาอี้ด้วยความชื่นชม
ฉินอี้ฉิงวิ่งตามมาหยุดอยู่ที่เกาอี้ เกาอี้ยื่นกระเป๋าถือคืนให้เธอ “ขอบคุณมากนะคะ” ฉินอี้ฉิงเอ่ย
ฉินอี้ฉิงที่หยิ่งทะนง แต่ยังมีมารยาทดี จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นกู้หนิง เธอทำหน้าประหลาดใจและรู้สึกอาย เพราะนึกถึงเรื่องครั้งก่อนที่เธอทำไม่ดีต่อกู้หนิง แม้จะรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด กระนั้นก็ยังลังเลที่จะขอโทษ
กู้หนิงไม่สนใจ หมุนตัวเดินจากไปพร้อมกับแม่และป้า ฉินอี้ฉิงค่อยรู้สึกหายใจทั่งท้อง ขโมยถูกปล่อยตัวไปเพราะไม่ได้ทำอะไรเสียหาย
กู้ม่านและกู้ชิงเดินช้อปปิ้งต่อ
พวกเธอซื้อไวน์และยาสูบ ยาสูบสำหรับเจียงซู่และไว้สำหรับดื่มตอนมื้ออาหาร
กู้ชิงเลือกบุหรี่ตามความชอบของเจียงซู่ และไวน์แดงที่ดีที่สุดในร้านนี้คือ 85′ Lafite ซึ่งราคาตกขวดละ 12,000 หยวน และเหลือเพียงสามขวดในร้านเท่านั้น
กู้ชิงและกู้ม่านคิดว่ามันแพงเกินไป
“หนิงหนิง แพงจังเลยลูก”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กู้ม่านพูดนั้น ก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นข้างหลังพวกเธอ “มันคือ 85 ' ลาฟีต! ถ้าไม่มีเงินซื้อก็อย่าเดินเข้ามาในร้านสิ”
“ถูก!” เสียงผู้หญิงอีกคนก็ลอยตามมา
คนที่อยู่แถวนั้นหันมาดูตามเสียง
เมื่อเห็นผู้มาใหม่ กู้ม่านก็ขมวดคิ้ว เธอไม่ชอบผู้หญิงพวกนี้