ตอนที่ 349 หลักฐานกระทำความผิด
หยวนเจิ้งหลินรับแฟ้มมาและเปิดอ่านเอกสารข้างใน
ในแฟ้มมีกองกระดาษหนาทึบ ด้านบนเป็นหลักฐานความผิดทางอาญาของหงหยุนเรียลเอสเตท ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้ติดสินบนหลิวจื่อคุน รองนายกเทศมนตรี และเว่ยเฉิงกวน หัวหน้าหน่วยงานถนนและการจราจรด้วยเงินกว่าร้อยล้านหยวน และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนมากมาย นอกจากหลิวจื่อคุนและเว่ยเฉิงกวนแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดสินบนด้วยเช่นกัน แม้ว่าจำนวนสินบนจะน้อยกว่ามาก แต่ก็อาจถูกตัดสินจำคุกหลายปี
บางคนเสียชีวิตจากการถูกบังคับรื้อถอน หงหยุนปฏิเสธที่จะชดเชยให้พวกเขา นอกจากนี้หงหยุนยังได้กระทำการหลีกเลี่ยงภาษีอย่างผิดกฎหมายเป็นจำนวนเงินเกือบห้าร้อยล้านหยวนภายในสามปี และหนึ่งในไซต์ก่อสร้างของพวกเขาใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพต่ำ ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง
นอกจากหงหยุนเรียลเอสเตทแล้ว โรงแรมที่มีชื่อเสียงของหงหยุนกรุ๊ปยังให้บริการทางเพศอย่างลับๆ ในบรรดาโสเภณีมีเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกในโรงแรมส่วนใหญ่ แต่ก็ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ มีคนเสียชีวิตจากอาหารเป็นพิษในร้านอาหารชื่อดังของหงหยุนกรุ๊ป แต่สุดท้ายก็ถูกตัดสินว่าเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย
แม้ว่าหยวนเจิ้งหลินจะรู้ว่าหงหยุนเรียลเอสเตทมีความลับสกปรกมากมาย แต่เขาก็ยังตกใจกับสิ่งที่พวกเขาทำ หยวนเจิ้งหลินโกรธมากที่หงหยุนยังลอยนวล
กู้หนิงซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามก็รู้สึกโกรธมาก
เอกสารอื่นๆ แสดงหลักฐานความผิดทางอาญาของหลิวจื่อคุนและเว่ยเฉิงกวน มีเขียนไว้ในเอกสารว่าพวกเขารับสินบนจากฟางซางเจิ้ง และให้ความช่วยเหลือเขาอย่างผิดกฎหมายเพื่อปกปิดความผิดของเขา K ยังมีวิดีโอและเก็บไว้ใน USB แฟลชดิสก์ นอกจากนี้ยังมีภาพการนอกใจมากมาย ใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้
นอกจากนี้ยังแนบข้อมูลของเมียน้อย มีทั้งชื่อ ที่อยู่ สถานที่ทำงาน และเวลาที่พวกเธอเริ่มมีความสัมพันธ์กับหลิวจื่อคุนหรือเว่ยเฉิงกวน และหลิวจื่อคุนมีลูกนอกสมรสซึ่งอายุได้ 8 ขวบแล้ว
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาเคยเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม เมื่อสามปีที่แล้ว หัวหน้าสำนักงานถนนและจราจรคนก่อนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งสร้างความแตกตื่นอย่างมากในขณะนั้น หลังจากที่หัวหน้าหน่วยงานจราจรและถนนคนก่อนเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ เว่ยเฉิงกวนได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าคนใหม่
หยวนเจิ้งหลินตบโต๊ะเสียงอันดังและพูดด้วยความโกรธว่า “ลุงตกใจจริงๆที่พวกเขายังลอยนวลอยู่ได้หลังจากทำเรื่องเลวๆ!”
“หลิวจื่อคุนและคนอื่นๆ จะต้องถูกสอบสวนและตัดสินให้ติดคุก แต่ว่าลุงไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ ลุงต้องคุยกับหัวหน้าของลุงในวันพรุ่งนี้ก่อน แล้วจะติดต่อหนูไป หนูคิดว่าอย่างไร?" เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ไม่ใช่แค่ความไม่พอใจส่วนตัวของหยวนเจิ้งหลิน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
“ได้ค่ะ” กู้หนิงเข้าใจ “แต่ว่าอย่าบอกว่าหลักฐานนี้มาจากหนูนะคะ หนูไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง”
“ไว้ใจได้ ลุงไม่พูดหรอก” หยวนเจิ้งหลินรู้ว่ากู้หนิงจะตกอยู่ในอันตรายหากศัตรูทางการเมืองของเขาพบว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้อง
“อ้อ ลุงหยวนคะ ถ้ากลุ่มหงหยุนถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริง หนูว่าจะขอซื้อกิจการบางส่วนของพวกเขาได้ไหมคะ?” กู้หนิงถาม
กู้หนิงต้องการกิจการเพียงบางส่วนขอหงหยุน เนื่องจากสถานที่ก่อสร้างส่วนใหญ่มีคุณภาพต่ำและบริษัทวัสดุก่อสร้างของหงหยุนกรุ๊ปมีชื่อเสียง เจียงซู่มีธุรกิจวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว ดังนั้นกู้หนิงจะไม่ยุ่งในส่วนนี้ ส่วนบริษัทเงินกู้ เธอก็ไม่สนใจ
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมก่อสร้าง การเช่าเครื่องจักรก่อสร้าง คนงานก่อสร้าง อุตสาหกรรมการติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้น และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในบ้านของหงหยุนเรียลเอสเตทก็ไม่เลว
มีเมืองระดับที่หนึ่งสองเมือง เมืองระดับที่สองสามเมือง และเมืองระดับที่สามสี่เมืองในจังหวัด D และเมืองหลวงคือเมือง D ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นเมืองเล็กๆ
หงหยุนกรุ๊ปมีโครงการก่อสร้างในเมืองระดับสองของเมือง J ซึ่งเพิ่งเริ่มก่อสร้าง ครอบคลุมพื้นที่ 200 ไร่ นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่กำลังก่อสร้างอีกด้วย ดังนั้นกู้หนิงจึงอยากเข้ายึดครองและดำเนินการสร้างต่อไป มีห้างสรรพสินค้าเจ็ดแห่ง โรงแรมสี่ดาวหกแห่ง และร้านอาหารห้าแห่งภายใต้ชื่อหงหยุนกรุ๊ป พวกเขาทั้งหมดตั้งอยู่ในสามเมืองระดับสองในจังหวัด D กู้หนิงมีแผนที่จะเข้ายึดครองเช่นกัน
แน่นอนว่าหลังจากเข้ายึดกิจการ กู้หนิงจะไม่บริหารต่อ ยกเว้นห้างสรรพสินค้า โรงแรม และร้านอาหารทั้งหมดจะต้องได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมด กล่าวอีกนัยหนึ่ง กู้หนิงเพียงซื้อสิทธิ์ในทรัพย์สินและจะเริ่มทำธุรกิจใหม่ มันไม่ยากหากเธอมีรากฐานที่หงหยุนสร้างขึ้น แม้ว่าโรงแรมและร้านอาหารจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ก็ยังทำกำไรได้
คาดไม่ถึงว่ากู้หนิงอยากเข้ายึดกิจการของหงหยุน ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว เขาก็จะไม่ขวางเธอ
“หากหงหยุนกรุ๊ปถูกยึดกิจการเนื่องจากผิดกฎหมาย รัฐบาลจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินของบริษัทหงยุนซึ่งจะถูกนำมาใช้ชดเชยความสูญเสียและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก่อนนำขึ้นประมูล ในเมื่อหนูต้องการมัน ลุงจะให้โอกาสหนูเป็นคนแรก แต่ว่ากิจการของหงหยุนนั้นไม่เล็ก หนูกู้จะต้องใช้เงินจำนวนมาก” นี่ไม่ใช่การละเมิดกฎหมาย ดังนั้นหยวนเจิ้งหลินจึงสามารถให้คำมั่นสัญญาได้ แต่เขาไม่รู้ว่ากู้หนิงสามารถซื้อกิจการของหงหยุนกรุ๊ปได้หรือไม่
“หนูคิดว่าราคารวมไม่น่าเกิน 3 พันล้านหยวน และถ้าลุงหยวนยินดีลดราคาให้หนู จะดีมากค่ะ” กู้หนิงพูดกึ่งติดตลก
“ฮ่า ฮ่า” หยวนเจิ้งหลินรู้สึกขบขัน แต่นั่นแสดงว่ากู้หนิงมีสามพันล้านในมือ
แม้ว่ากู้หนิงจะไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เขาก็จะพยายามให้ส่วนลดกับเธอเพราะหลักฐานสำคัญที่เธอมอบให้เขา หลังจากพูดคุย หยวนเจิ้งหลินและกู้หนิงก็ออกจากห้องทำงาน
“สองคนนี้พูดเรื่องอะไรกัน? ต้องลึกลับขนาดนั้นเลยหรือ? บอกฉันไม่ได้เลยหรือ?” นายท่านหยวนบ่นหลังจากที่พวกเขาเดินออกจากห้องทำงาน อันที่จริงนายท่านหยวนเพียงแค่ล้อเล่น เพราะเขารู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญไม่อย่างนั้นคงไม่แยกไปคุยตามลำพัง
“เราไม่ต้องการทำให้คุณปู่กังวลค่ะ ให้คุณปู่ได้มีเวลาพักผ่อนกับคุณปู่ฝูและคุณปู่ไป๋ ส่วนคุณลุงหยวนก็ปล่อยให้จัดการปัญหาต่างๆแทนไงคะ” กู้หนิงยิ้มปลอบใจคนแก่
ตอนที่ 350 รักษาโรค
เมื่อกู้หนิงพูดถึงนายท่านฝูและนายท่านไป๋ นายท่านหยวนก็เอ่ยถามว่า “สองคนนั่นไม่รู้ใช่ไหมว่าหนูมาเมือง G ?”
“หนูไม่ได้บอกค่ะ” กู้หนิงอมยิ้ม
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ถ้าพวกเขารู้ว่าหนูมาเมือง G และมาหาปู่ที่บ้านก่อน พวกเขาจะต้องโมโหและรีบมาที่นี่ใช่ไหม?” นายท่านหยวนหัวเราะพออกพอใจ
แม้ว่ากู้หนิงจะเป็นรุ่นหลาน แต่นายท่านทั้งสามชื่นชมเธอมาก ไม่มีใครสนใจช่องว่างอายุและเต็มใจที่จะผูกมิตรกับเธอ พวกเขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนหลานสาวของพวกเขาเอง กู้หนิงไม่ได้มาที่เมือง G สองสัปดาห์แล้ว และพวกเขาคิดถึงเธอมาก แต่พวกเขาก็รู้ว่ากู้หนิงกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงไม่มีใครรบกวนเธอ
ทันใดนั้น อาจารย์หยวนก็ถอนหายใจและดูวิตกกังวล “ลืมมันเถอะ วันนี้ไป๋ไม่สบาย ปู่คิดว่าปู่ไม่ควรล้อเลียนเขาในตอนนี้”
กู้หนิงประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ไป๋หรอคะ?”
“ก็คนแก่ล่ะหนู ป่วยง่าย ไป่เสียความรู้สึกที่แขนขาตอนล่าง ก็เลยได้แต่นั่งรถเข็น” นายท่านหยวนกล่าว
กู้หนิงนิ่งคิดอยู่สักพัก “คุณปู่คะ รบกวนพาหนูไปเยี่ยมคุณปู่ไป๋พรุ่งนี้ได้ไหมคะ? หนูรู้วิธีการนวดซึ่งอาจช่วยได้”
กู้หนิงปฏิบัติต่อนายท่านทั้งสามด้วยความจริงใจ หากมีอะไรที่เธอช่วยได้เธอก็เต็มใจ
“จริงหรือ?” ใบหน้าของนายท่านหยวนสว่างขึ้น
นายท่านฝู นายท่านไป๋ และนายท่านหยวนเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายสิบปี และเขาก็หวังว่าทั้งสองคนจะมีสุขภาพแข็งแรง
นายท่านหยวนรู้ว่ากู้หนิงไม่ใช่เด็กสาวธรรมดา และเธอไม่ใช่คนที่คุยโว แต่เรื่องนี้ก็ยังน่าประหลาดใจอยู่ดี
“คุณปู่หยวนคะ คุณปู่อยากลองดูไหมคะ?” ในเมื่อกำลังจะไปช่วยคุณปู่ไป๋ เธอก็ไม่ควรละเลยคุณปู่หยวนและคุณปู่ฝู แม้ว่าตอนนี้พวกท่านจะดูสบายดี แต่ก็สูงอายุแล้ว และมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ ดังนั้นกู้หนิงจึงตัดสินใจนำพลังของเธอบางส่วนเข้าสู่ร่างกายเพื่อช่วยให้พวกท่านแข็งแรง อย่างไรก็ตาม พวกท่านมีอายุมากแล้ว จะไปเทียบกับคนรุ่นใหม่ก็คงไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับคนวัยเดียวกันก็ถือว่ามีสุขภาพที่ดีกว่ามาก
“คุณปู่หยวนรู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่าคะ?” กู้หนิงถาม นายท่านหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ช่วงนี้เอวของปู่ไม่ค่อยดี ยืนนานๆแล้วรู้สึกเจ็บ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้หนิงก็วางมือบนหลังเอวของเขา เด็กคนนี้นวดรักษาโรคได้จริงหรือ?
เมื่อกู้หนิงนวดเอวของนายท่านหยวน เธอไม่ได้ใส่พลังของเธอในทันที เพราะมันอาจกระตุ้นความสงสัยที่ไม่จำเป็น ผ่านไปหนึ่งนาทีกู้หนิงก็ค่อยๆถ่ายทอดพลังลงไป นายท่านหยวนรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นในทันทีทว่าค่อนข้างสบาย และความเจ็บปวดก็ค่อยๆ บรรเทาลงก่อนที่จะหายไป ร่างกายของเขารู้สึกเต็มไปด้วยพละกำลัง
“นี่มัน…” นายท่านหยวนตื่นเต้นเกินกว่าจะพูดจบประโยค เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
หยวนเจิ้งหลินซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ทำสีหน้าตะลึง เขามีความสุขมากที่พ่อของเขาแข็งแรงและกระฉับกระเฉง
เมื่อนวดเสร็จแล้ว กู้หนิงก็ดึงมือของเธอกลับ "ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างคะ?" แม้ว่าเธอจะได้รับคำตอบจากปฏิกิริยาของคุณปู่หยวนแล้ว แต่เธอก็ยังถามด้วยตนเอง
“ดีมาก ปู่รู้สึกดีมากๆ”
ในขณะนั้นเอง เซียวหลี่ฮวาได้ยินเสียงของพวกเขาและเดินออกมาดู เมื่อเห็นว่านายท่านหยวนยิ้มมีความสุข เธอจึงสงสัย “คุณพ่อ อะไรทำให้พ่อมีความสุขขนาดนี้คะ?”
หยวนเจิ้งหลินเล่าให้ภรรยาฟัง เธอมองไปที่กู้หนิงด้วยความชื่นชม "ไม่น่าเชื่อ หนูเก่งจริงๆ!” กู้หนิงยิ้มรับ
พวกเขาเอาแต่ขอบคุณกู้หนิงอยู่นานเป็นเวลานานซึ่งทำให้เธอวางตัวลำบากอยู่เล็กน้อย ไม่นานจานอาหารก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ
ลูกชายคนโตของหยวนเจิ้งหลิน คือ หยวนเก่อ อายุ 27 ปีและเพิ่งแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว หยวนเก่อได้ย้ายออกไปอยู่กับภรรยา ส่วนลูกชายคนเล็กคือ หยวนจิน อายุ 23 ปี ศึกษามหาวิทยาลัยเมืองหลวง หยวนจินกำลังจะสำเร็จการศึกษาและยุ่งกับการฝึกงานของเขา เขาจึงยังไม่กลับมาบ้านจนกว่าจะถึงเทศกาลปีใหม่ ดังนั้นตอนนี้มีเพียงสามคนในตระกูลหยวนที่ร่วมทานข้าวกับกู้หนิง เซียวหลี่ฮวาคีบอาหารทุกจานลงในชามของกู้หนิง โชคดีที่กู้หนิงกินเยอะ มิฉะนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะกินมันทั้งหมดได้อย่างไร
หลังรับประทานอาหารเสร็จก็เกือบ 2 ทุ่ม กู้หนิงจึงได้เวลาบอกลาพวกเขา หยวนเจิ้งหลินเสนอขับรถไปส่งเธอแต่ถูกปฏิเสธ เขารู้ว่ากู้หนิงเก่งกังฟู ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของเธอ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงเดินไปส่งเธอที่ประตู
กู้หนิงขึ้นรถแท็กซี่ตรงไปยังที่พักของเธอ Clean Water Blue Sky
เมื่อกู้หนิงกลับไปแล้ว นายท่านหยวนก็โทรหานายท่านไป๋โดยไม่ชักช้า และบอกเขาว่ากู้หนิงจะไปรักษาโรคของเขาในวันพรุ่งนี้ นายท่านไป๋ค่อนข้างประหลาดใจแต่ตื่นเต้นดีใจมากกว่า คนสูงอายุมักป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่ไม่พึงปรารถนา
แม้ว่ากู้หนิงจะรักษานายท่านหยวนได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าเธอสามารถรักษาขาของนายท่านไป๋ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย
จากนั้นนายท่านหยวนก็โทรหานายท่านฝู บอกให้เขาไปพบนายท่านไป๋พร้อมกับเขาในวันพรุ่งนี้ นายท่านฝูรู้สึกดีใจแทนเพื่อน แต่ก็บ่นว่ากู้หนิงไม่ได้บอกเขาว่าเธอมาเมืองG นายท่านหยวนบอกว่ากู้หนิงมาหาหยวนเจิ้งหลินเพราะมีเรื่องสำคัญ ดังนั้นนายท่านฝูจึงเลิกบ่น
ในขณะเดียวกัน หยวนเจิ้งหลินก็กลับไปที่ห้องทำงานอีกครั้ง โทรหาหัวหน้าของเขาในทันที หัวหน้าของเขาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด D เสี่ยวฉางชุน