ตอนที่ 83: ของขวัญ
เผื่อกู้ชิงปฏิเสธ กู้หนิงก็เอ่ยสำทับมาอีกว่า “ป้าคะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวก็ต้องช่วยเหลือกันสิคะ”
ในเมื่อพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน กู้ชิงก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เธอจึงพูดว่า “ได้ ป้าจะฟังหลาน แต่มันจะไม่เป็นอะไรเหรอที่หลานจะไม่ไปโรงเรียนพรุ่งนี้?”
กู้หนิงไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง กู้ชิงเกรงว่ามันจะมีผลกระทบต่อการเรียนของเธอรึเปล่าถ้าเธอจะขอลาโรงเรียนพรุ่งนี้
“ลาแค่วันเดียวเองค่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” กู้หนิงตอบ
“ก็ได้จ้ะ”
ส่วนกู้ม่าน เธอเชื่อใจลูกสาวว่าสามารถจัดการชีวิตและการเรียนไปพร้อมๆกันได้
“โอ้ พอดีหนูซื้อเสื้อผ้าจากเมือง G มาฝากทุกคนด้วยค่ะ เดี๋ยวหนูไปเอามาให้ก่อนนะคะ” พูดจบกู้หนิงก็เดินไปห้องนอนที่สอง เธอจำเป็นต้องหาที่ลับตาคนเพื่อเอาของขวัญออกมาจากพื้นที่ในกระแสจิตของเธอ
“จริงๆหรือ?”
กู้ชิงพูดไม่ออก พวกเขาประทับใจและซาบซึ้งใจกับความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของกู้หนิง
กู้หนิงถือถุงมาหลายใบและวางมันลงบนโซฟา กู้ชิงดึงกู้ม่านเข้าไปดูทันที
“หนูซื้อของฝากมาให้ทุกคน! อันนี้ของลุง” กู้หนิงวางถึงลงตรงหน้าเจียงซู่ จากนั้นก็ยื่นให้กู้ม่านและกู้ชิงคนละถุง”
กู้ม่านและกู้ชิงเปิดถุงดูข้างใน
“ซินหยู นี่ของเธอ” กู้หนิงหยิบเอาถุงสุดท้ายให้เจียงซินหยู เจียงซินหยูรับมาและกล่าวขอบคุณกู้หนิง
“ขอบคุณค่ะ พี่”
ส่วนกู้หนิงไม่ได้เอาของตัวเองออกมาด้วย
“ว้าว นี่มันลังโคม! ต้องแพงมากแน่ๆ!” กู้ชิงพูดเสียงดังด้วยความดีใจเห็นได้ชัดว่าเธอรู้จักลังโคมว่าเป็นแบรนด์ต่างชาติ
“นี่ นี่ อาร์มานี่!” เจียงซู่ดีใจ เขาฝันมาตลอดว่าจะมีสูทดีๆใส่ แต่เขาไม่มีเงินพอจะซื้อแม้แต่ตัวเดียว
ตอนนี้กู้หนิงให้สูทเป็นของขวัญราคาแพงแก่เขา
“กุชชี่! สวยมากก!” กู้ชิงทั้งประหลาดใจและตื่นเต้น เธอเอาขึ้นมาทาบที่ตัวและถามกู้ม่าน
“พี่ดูเป็นไงบ้าง”
“สวยมาก” กู้ม่านยิ้ม แล้วก็มองไปที่ชุดในมือ เธอชอบมันมาก
ถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ แต่ผู้หญิงก็มักชอบของสวยงามเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ชุดหนูสวยมาก!” เจียงซินหยูพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เอ๊ะ มีมือถือใหม่ด้วย!” ในตอนท้ายทุกคนก็ค้นพบว่ามีมือถือใหม่ที่ก้นถุง พวกเขาตื่นเต้นดีใจกันมาก
“หนูมีมือถือใหม่แล้ว! เย้!” เจียงซินหยูเกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ
ส่วนคนที่เหลือก็พากันหยิบเอามือถือเครื่องใหม่ที่ก้นถุงออกมา และแกะออกดู
“น่ารักจัง!”
“ใช่ๆๆ”
ทุกคนถือเสื้อผ้าชุดใหม่และมือถือไว้ในมือ ไม่มีใครวางมันลงกับพื้น
“เอ๊ะ กลิ่นอะไรคะ?” กู้หนิงได้กลิ่นอะไรบางอย่าง จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปดูในครัว
กู้ม่านและกู้ชิงก็วิ่งตามเธอไป พวกเขาลืมปิดเตาแก็ส
โชคดีที่ปิดทัน
กู้หนิงเป็นคนจมูกไว เธอได้กลิ่นฉุนๆ ดังนั้นเธอจึงเกิดสงสัยขึ้นมา
กู้หนิงเดินกลับออกมาจากห้องครัว เธอหยิบมือถือออกมาเช็คดูกลุ่มในวีแชท “ครอบครัวนักสู้” ทุกคนพูดถึงเธอในแชท พวกเขาเป็นห่วงว่าเธอกลับมารึยัง มีของขวัญมาด้วยรึเปล่า
กู้หนิงส่ายหน้าเบาๆ และพิมพ์ข้อความส่งไปว่า “ฉันกลับมาบ้านแล้ว แต่จะไม่ไปโรงเรียนพรุ่งนี้นะ ฉันมีของฝากให้พวกนายด้วย จะเอาไปให้วันมะรืนนะ”
ฮ่าวหรัน: บอส เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรให้ช่วยไหม?
มู่เค่อ: ใช่ เกิดอะไรขึ้น?
กู้หนิง: ไม่มีอะไร ต้องไปจัดการธุระให้แม่กับป้า เก็บเงียบไว้นะ อย่าบอกให้อาจารย์รู้ล่ะ!
ฮ่าวหรัน: แม่เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ? ทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ? พวกเราจะได้ไปรับและไปฉลองกัน!
จางเทียนปิง: ใช่ๆ!
กู้หนิง: ไม่เป็นไร
ฉู่เพ่ยหาน: แล้งของฝากพวกเราล่ะ?
ทุกคน: ใช่ เธอซื้ออะไรให้พวกเรา?
กู้หนิง: เดี๋ยววันมะรืนพวกนายก็รู้เอง ฉันไปกินข้าวล่ะ บาย
จากนั้นกู้หนิงก็ไม่สนใจพวกเขาอีก ตอนนี้เป็นเวลากินข้าวเย็นแล้ว
ตอนนี้เวลาสามทุ่ม ทุกคนกินขนมรองท้องไปบ้างแล้ว แต่ทุกคนก็ยังกินได้อีก หลังจากกินมื้อเย็นเรียบร้อย ก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม ครอบครัวกู้ชิงก็ขอตัวกลับบ้านไปก่อน พวกเขาต้องกลับไปเตรียมตัว ดังนั้นกู้ม่านจึงไม่ได้รั้งให้พวกเขานอนค้างที่นี่
พวกเขาทิ้งเสื้อผ้าไว้บางส่วน เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะกลับ กู้หนิงก็ได้เตือนเรื่องเอกสารสำคัญที่ต้องเอามาด้วยพรุ่งนี้ และทิ้งของที่ไม่จำเป็นไว้ที่บ้านหลังเดิมไม่ต้องเอามาด้วย
ถ้าอยากขาย พวกเขาสามารถขายมันทีหลังได้
นอกจากนั้นกู้หนิงยังบอกพวกเขาไม่ให้บอกสมาชิกที่เหลือในตระกูลกู้อีกด้วย พวกเธออยากจะใช้ชีวิตของพวกเธอเอง
หลังจากที่ครอบครัวกู้ชิงกลับไป กู้หนิงและกู้ม่านก็กลับเข้าห้องของตัวเอง
กู้ม่านตั้งใจให้กู้หนิงนอนในห้องนอนใหญ่ แต่กู้หนิงบอกปัด
กู้หนิงจะไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก อีกครึ่งเดือนเธอก็จะย้ายไปอยู่ในเมืองหลวง จากนั้นก็ซื้อบ้านใหม่ที่นั่นเป็นชื่อของเธอเอง
กู้หนิงไม่ได้ให้กู้ม่านย้ายตามเธอไปอยู่ด้วย แม่ของเธอสามารถมาเยี่ยมได้ตามที่ต้องการที่อยากจะมา
เมื่อเธอย้ายไปอยู่เมืองหลวงแล้ว สถานการณ์อาจจะยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่อยากให้กู้ม่านเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง
กู้หนิงไม่ได้เอาของติดตัวมาจากบ้านเดิมมากนัก ส่วนใหญ่เป็นของที่ใช้การไม่ได้ เธอเลยทิ้งมันไว้ที่นั่น
กู้หนิงต้องการเริ่มใช้ชีวิตใหม่ของเธอ
กู้ม่านและกู้หนิงพูดคุยกันสักพักก่อนจะพากันเข้านอน
ขณะนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว กู้หนิงเปิดวีแชทดูอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะเข้านอน เพื่อนของเธอยังคงแชทคุยกันอยู่ เธอได้แต่อ่านอยู่เงียบๆ
คืนนี้กู้ม่านและกู้หนิงมีช่วงเวลากลางคืนที่แสนวิเศษ ส่วนกู้ชิงและเจียงซู่นอนไม่หลับ พวกเขาครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้
“ซู่ คุณรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม?” กู้ชิงถามสามี เธอยังไม่หายจากอาการตกตะลึง
เธอรู้สึกเหมือนเป็นลูกเทนนิสที่ถูกตีขึ้นลอยสูงกลางอากาศ
“ฉันก็คิดเหมือนเธอ แต่มันเป็นเรื่องจริง” เจียงซู่ตอบ
ตอนที่ 84: ออกจากงานและย้ายเข้าบ้านหลังใหม่
“หนิงหนิงเปลี่ยนไปมาก เธอเพิ่งพูดว่าจะทำให้พวกเรามีชีวิตที่ดีอาทิตย์ที่แล้วนี้เอง และตอนนี้เธอทำตามสัญญาได้สำเร็จ น่าทึ่งจริงๆ” กู้ชิงรำพึงรำพัน
“ใช่ หนิงหนิงเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนตั้งแต่อุบัติเหตุรถยนต์คราวนั้น เธอกลายเป็นคนสุขุมมากขึ้น มีความคิดความอ่าน กล้าแสดงออกและมั่นใจในตัวเอง นิสัยของเธอไม่เหมือนเด็กอายุสิบแปด” เจียงซู่เอ่ย เขารู้สึกอายตัวเองที่ไม่เข็มแข็งเหมือนกู้หนิง
นิ่งเงียบกันไปสักพัก เจียงซู่ก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ก็ถือซะว่ามันเป็นเรื่องดีที่กู้หนิงเปลี่ยนไป เธอรู้วิธีต่อสู้กลับ ตระกูลกู้ทำให้หนิงหนิงและกู้ม่านเจ็บช้ำน้ำใจมานานหลายปี พวกเขายังไล่พวกเธออออกจากบ้านหลังเก่า โชคดีที่หนิงหนิงแข่งแกร่งแล้วตอนนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเธอคงมีชีวิตที่ลำบากกว่าเดิม”
“จริง! ถ้าพวกนั้นรู้ว่ากู้หนิงรวยแล้ว ต้องอิจฉาตาร้อนแน่! บางทีพวกเขาอาจะพยายามกลับมาสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับหนิงหนิง คนแบบนี้ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!” กูชิงมองออกอย่างทะลุประโปร่ง เธอรู้ดีเห็นชาติพี่น้องตัวเองดี
“พวกเราต้องทำตัวให้เหมือนเดิมเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา อย่าทำให้เกิดปัญหา” เจียงซู่เอ่ย
สุดท้ายสองสามีภรรยาก็ไม่ได้นอนจนกระทั่งตีสาม
วันรุ่งขึ้น เจียงซินหยูตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน กู้ชิงและเจียงซู่ก็ตื่นด้วยเช่นกัน มันยังเช้าอยู่ แต่พวกเขาไม่อาจข่มตาหลับได้อีก
พวกเขากำลังตื่นเต้นที่จะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่
กู้ชิงบอกลูกสาวให้ตรงไปที่เฟิ่งหัวแมนชั่นหลักเลิกเรียนเลยทันที เจียงซินหยูเองก็ตื่นเต้นที่จะได้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่เช่นกัน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะย้ายบ้านกันวันนี้ พวกเขาก็ไม่รีบร้อนเอาเงินประกันคืน เพราะยังไม่ถึงครบกำหนด ต้องรอจนกว่าจะสิ้นเดือน
วันนี้กู้ชิงไปทำงานตามปกติ เธอเขียนใบลาออกเตรียมไว้แล้วเมื่อคืน เธอจะยื่นลาออกตอนไปทำงาน
กู้ชิงเป็นเพียงพนักงานธรรมดาๆ ไม่ได้มีสลักสำคัญอะไร ไม่ว่าเธอจะลาออกหรือไม่ลาออกก็ไม่ส่งผลกระทบต่อที่ทำงาน ดังนั้นการลาออกของเธอจึงผ่านไปได้โดยง่าย
หลังจากทำเรื่องลาออกแล้ว กู้ชิงก็โทรหาเจียงซู่ พวกเขาทั้งสองนัดเจอกันที่เฟิ่งหัวแมนชั่น
พวกเขาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากเฟิ่งหัวแมนชั่น ถ้านั่งรถบัสใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ถ้ารถติดก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน
ตรงที่ที่เขาอยู่ไม่มีรถบัสวิ่งและเจียงซู่ก็มีกระเป๋าเดินทางใบโตสองใบ ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกสำหรับเขาที่จะขึ้นรถประจำทาง สุดท้ายเขาก็นั่งแท็กซี่ไป
ส่วนกู้หนิง เธอใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ เธอตื่นหกโมงเช้าและวิ่งลงไปชั้นล่าง
เธอออกไปวิ่งออกกำลังกายประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากหยุดพักให้หายเหนื่อย เธอก็โทรหาอาจารย์ประจำชั้นเพื่อขอลาหยุดวันนี้
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขอลาหยุดสำหรับนักเรียนปีสุท้าย นอกจากจะมีเรื่องสำคัญจริงๆที่เลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นกู้หนิงจึงจำเป็นต้องโกหกอาจารย์ว่าเธอมีรอบเดือน เธอปวดจนลุกไม่ขึ้น
อาจารย์ประจำชั้นของเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอจึงเข้าใจดีว่าความเจ็บปวดจากรอบเดือนนั้นเป็นยังไง ดังนั้นเธอจึงตกลงอนุญาตให้ลาได้
กู้หนิงรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เธอจำเป็นต้องขอลาหยุดวันนี้จริงๆ จากนั้นกู้หนิงก็วิ่งกลับบ้านไปอาบน้ำ
ในขณะเดียวกันกู้ม่านก็ตื่นพอดี เธอยังคงมึนงงนิดหน่อยเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในบ้านหลังใหม่
กู้ม่านลุกจากที่นอนและไปเตรียมอาหารเช้า
เมื่อเวลาเกือบสิบโมง กู้ม่านก็ได้รับสายจากกู้ชิงว่าเธอมาถึงแล้ว
กู้หนิงบอกให้แม่บอกป้าว่าให้รอที่ชั้นล่างตรงแผนกขาย พวกเธอจะรีบตามลงไป
สิบนาทีต่อมา ทั้งกู้หนิงและกู้ม่านก็ลงมาข้างล่าง
กู้หนิงได้โทรหาเว่ยจื่อรุ่ยไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรออยู่ที่ห้องโถงของแผนกขาย เมื่อกู้หนิงและครอบครัวของเธอเดินเข้ามา เว่ยจื่อรุ่ยก็ออกมาต้อนรับพวกเธอ
กู้หนิงบอกกู้ชิงเอาเอกสารออกมาจะได้ดำเนินการเอกสารทางกฎหมาย หลังจากนั้นกู้หนิงก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือก่อนรับกุญแจบ้านที่ฝากเอาไว้กลับคืนมา
เมื่อกู้ชิงและเจียงซู่รับกุญแจและทะเบียนบ้านมาแล้ว มือของพวกเขาก็สั่นเบาๆ พวกเขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเอง ทั้งยังเป็นบ้านที่ได้จากกู้หนิงอีกด้วย
จากนั้นพวกเขาก็เข้าบ้านใหม่พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า
เว่ยจื่อรุ่ยประทับใจขณะที่เดินออกไปส่งกู้หนิงและครอบครัวของเธอ เธอช่างเป็นเด็กดีมาก ไม่เพียงแต่จะซื้อบ้านให้ตัวเอง แต่ยังซื้อให้กับครอบครัวของป้าเธอด้วย พวกเขาต้องสนิทสนมกันมากๆแน่ๆ!
ทุกคนขึ้นลิฟท์กลับมายังชั้นเก้า ตึกสอง โซนG และหยุดยืนอยู่หน้าห้อง 906 ซึ่งเป็นบ้านหลังใหม่ของกู้ชิง
พวกเขาเปิดประตูและเดินเข้าไปข้างใน
ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าข้างในเป็นแบบไหน แต่พวกเขาก็ยังอดทึ่งกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ ครอบครัวกู้ชิงเดินดูรอบๆอย่างตื่นเต้นราวกับเด็กในงานฮาโลวีน
“กินข้าวที่นี่กันก่อนแล้วค่อยออกไปข้างนอกค่ะ” กู้หนิงเอ่ย จากนั้นพวกเขาก็พากันเดินออกจากห้อง 906 ไปยังห้อง 901
กู้ม่านและกู้ชิงช่วยกันทำกับข้าวในขณะที่กู้หนิงและเจียงซู่กำลังคุยกัน
“ลุงคะ ลุงมีปัญหาอะไรไหมคะที่จะทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง?” กู้หนิงถาม เธอไม่อยากเข้าไปจุ้นจ้านกับธุรกิจของเจียงซู่ เธอแค่เป็นห่วง
“ถ้าเป็นพวกวัสดุต่างๆ ลุงวางแผนไว้ว่าจะไปเดินดูที่ตลาดขายวัสดุก่อสร้างวันนี้ เงินลงทุนสิบล้านหยวน ลุงจะใช้มันให้ดีและคุ้มที่สุด ลุงจะค้นหาดูในอินเทอร์เนตก่อน แล้วค่อยติดต่อโรงงานผลิต” เจียงซู่กล่าว
“ดีค่ะ แล้วหนูจะโอนเงินสิบล้านให้ลุงนะคะ ลุงจะได้เอาไปซื้อรถ พวกเราไม่จำเป็นต้องซื้อรถแพงในตอนนี้ ราคาสักห้าแสนหยวนก็พอค่ะ ลุงซื้อเป็นชื่อลุงได้เลย แล้วก็ซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานด้วย เงินที่เหลือก็เป็นของบริษัท” กู้หนิงเอ่ย
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ พวกเขาก็พากันออกไปข้างนอก
กู้หนิงตั้งใจจะให้กู้ม่านและกู้ชิงเปลี่ยนใส่ชุดที่ซื้อมาใหม่ แต่ถูกแม่กับป้าปฏิเสธเพราะพวกเธอทั้งสองคนยังไม่คุ้นชิน
กู้หนิงไม่ได้บังคับอะไร มันต้องใช้เวลาปรับตัวสักหน่อย เธอเข้าใจ
ด้านนอกเฟิ่งหัวแมนชั่นมีธนาคารอยู่มากมาย ดังนั้นกู้หนิงจึงโอนเงินหนึ่งล้านหยวนเข้าบัญชีเจียงซู่ และโอนให้กู้ม่านและกู้ชิงอีกคนละล้าน
กู้ชิงพยายามบอกปัด เธอคิดว่าเธอได้รับจากกู้หนิงมากมายเกินไปแล้ว
เงินตั้งหนึ่งล้านหยวน มันมากเกินไปในสายตาของกู้ชิง ถึงอย่างนั้นกู้หนิงก็โน้มน้าวป้าให้รับเงินจนสำเร็จ กู้ชิงซาบซึ้งใจยิ่งกว่าเดิม