Your Wishlist

มู่หลันฮวา (งานเลี้ยงสีเลือด2)

Author: ชาเขียวuมสด

ลูกไก่ ที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่ดีๆก็โดนรถชนจนได้ไปเกิดใหม่ในร่างเด็กน้อย อายุสิบขวบปีแถมยังมีครอบครัวที่น่ารักอีก ใครจะไปคิดว่าจะได้ย้อนยุค

จำนวนตอน : ตอนที่ 1

งานเลี้ยงสีเลือด2

  • 24/04/2564

อีกด้านของงานเลี้ยง

ณ บนหลังคาได้มีสองสามีภรรยานั่งดื่มสุราชั้นดีที่แอบหยิบออกมาจากงานอย่างสบายอารมณ์

"ท่านพี่...ข้ารู้สึกว่างานเลี้ยงค่ำคืนนี้เหมือนจะยังขาดสิ่งใดอยู่นะเจ้าคะ"

"นั่นสินะน้องหญิง...ถ้าเช่นนั้น"

ตู้มมมมมม!

อ๊ากกกกกก

หยางอันที่กำลังร่ำสุราอย่างอารมณ์ดีก็พลันหยุดชะงักเมื่อเลือดแดงฉานสาดกระเซ็นเต็มใบหน้า
       

"เกิดอะไรขึ้น" หยางอันเอ่ยด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวแววตาดุดันคล้ายต้องการสังหารคน

"อุ้ย!...แย่จังเลยตายกันหมดรึยังล่ะนั่น" มู่หลันจิงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดอารมณ์ดีซึ่งแตกต่างกับอีกคนที่ตอนนี้อยู่ในโหมดที่พร้อมจะสังหารทุกคนที่บังอาจบุกมาทำลายงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ แต่ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงหวานคุ้นหูความรู้สึกเก่าๆก็เริ่มถาโถมเข้ามาหัวใจของเขาพลันรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเดิมทีตัวเขาคิดว่าตลอดเกือบยี่สิบปีความรู้สึกเหล่านั้นได้ตายด้านไปหมดแล้วแต่เปล่าเลยเมื่อนางมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าทุกอย่างก็เป็นต้องพังทลาย เขาเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอ รักจนหัวใจเต็มไปด้วยบาดแผลและความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่นางไม่อาจรับรักเขาได้ จนมาถึงวันนี้วันที่เขาทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังและใช่เขาเคยแกล้งหลอกว่ารักนางเพื่อหวังที่จะได้ครอบครองหยกโลหิตแต่นานวันเข้ากลับกลายเป็นว่าตัวเขาเองได้หลงรักนางไปแล้ว

"จะ...จิงเอ๋อร์" 

"ว่าไงเจ้าคะ...ศิษย์พี่ใหญ่" มู่หลันจิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาทั้งที่ใบหน้าของนางนั้นประดับไปด้วยรอยยิ้มหวานแต่สายตานั้นไม่ได้ยิ้มตามแม้แต่นิดเดียว

"เป็นเจ้าจริงๆสินะ"

"ใช่...เป็นข้าเองคนที่ท่านและศิษย์พี่รองต้องการสังหารยังไงล่ะ"

"ใครต้องการจะสังหารเจ้ากันจิงเอ๋อร์ข้าเพียงแค่..."

"แค่ต้องการหยกโลหิตสินะ...ท่านคิดว่าข้าโง่นักหรือไงศิษย์พี่ใหญ่...ตลอดหลายสิบปีมานี้ที่ข้าต้องคอยหลบๆซ่อนๆจากการตามล่าของพวกท่านและอย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้เรื่องที่ท่านและศิษย์พี่รองเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังมู่ซ่งหลิน"

แปะ แปะ แปะ

"เจ้าก็ฉลาดไม่เบานี่ศิษย์น้อง" ถงหยินพูดพลางก็ก้าวเดินมาตรงหน้านาง

"หากข้าอวดฉลาดก็คงไม่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้หรอกศิษย์พี่รอง"

"นะ...นี่เจ้า" ถงหยินยกฝ่ามือขึ้นมาตบลงไปที่ใบหน้าของนาง มู่เหยียนชิงที่ยืนมองอยู่นานแล้วก็ได้ปรี่เข้ามาขวางก่อนจะใช้ฝ่าเท้าถีบอัดเข้าไปที่ท้องของถงหยินจนกระเด็นไปหลายก้าว

"อย่าได้คิดที่จะแตะต้องฮูหยินของข้า" ก่อนจะปล่อยแรงกดดันและจิตสังหารออกมา ถงหยินเดิมทีก็เป็นคนวู่วามอารมณ์ร้อนชอบทำอะไรไม่คิดจึงได้ทำอะไรโง่ๆออกมาอีกครั้ง

"พวกเจ้าฆ่ามันซะ...ใครตัดหัวมู่เหยียนชิงได้ข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม" เสร็จสิ้นคำสั่งทุกคนก็ปรี่เข้าไปโจมตีอย่าไม่รีรอ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมู่เหยียนชิงสบัดฝ่ามือไปตรงหน้าเป็นเส้นแบ่งอาณาเขตหากก้าวเท้าล้ำเส้นมาเพียงแค่นิดเดียวอาจจะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ไม่ได้

"หากพวกเจ้ายังรักชีวิตไม่คิดอยากตายตอนนี้ก็อย่าได้ก้าวข้ามเส้นนี้เข้าไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ละเว้นปรานีผู้ใด"

เมื่อได้ยินเช่นก็ได้เกิดความลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก่อนที่หลี่หยางอันได้เอ่ยห้ามปรามถงหยินก็ชิงเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

"เจ้าพวกโง่ฆ่ามันซะ...ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าแทน" จากที่มีความลังเลใจอยู่ชั่วครู่เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นนายเอ่ยออกมาต่างก็พุ่งพรวดเข้าหามู่เหยียนชิง มู่หลันจิงที่อยากให้สามีมีอะไรสนุกๆให้ทำ ก็ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปขวางกับการเล่นสนุกเหล่านั้น 

"ขอให้สนุกนะเจ้าคะท่านพี่" นางจึงได้พริ้วกายขึ้นไปชมการต่อสู้ของสามีอยู่บนหลังคาพร้อมกับนั่งจิบสุรา เพียงแค่มู่เหยียนชิงซัดฝ่ามือใส่เหล่าลูกน้องของถงหยินแค่ครั้งเดียวก็ได้กระเด็นกระจัดกระจายกันไปคนละทิศทาง ก่อนจะหันไปขยิบตาใส่ภรรยา ประมานว่าเป็นไงล่ะไม่คณามือพี่หรอกอะไรทำนองนั้น หลี่หยางอันที่ได้มองทุกการกระทำของคนที่ตัวเองแอบรักอย่างปวดใจยิ่งนานวันจิตใจของหลี่หยางอันก็ยิ่งตกต่ำและดำดิ่งเกินที่จะเรียกกลับคืนมาได้ ด้านถงหยินที่เห็นว่าคนของตนเองได้เพลี่ยงพล้ำต่อมู่เหยียนชิงก็อาศัยในช่วงที่อีกฝ่ายไม่ทันระวังตัวได้ตวัดดาบใส่มู่เหยียนชิงแต่ไม่ทันทีดาบจะถึงตัวอีกฝ่ายก็โดนจอกสุราที่มู่หลันจิงดีดใส่ทำให้ดาบกระเด็นร่วงไปอีกทาง

เคล้งงง!

"ศิษย์น้อง...นี่เจ้า"

"ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะเจ้าคะศิษย์พี่รอง" เขารู้ดีว่านางหมายถึงอะไรแล้วอย่างไรล่ะใครจะสนขอแค่เขาได้ฆ่าคนตรงหน้าก็พอใจแล้ว

"ในเมื่อพวกเจ้ารนมาหาถึงที่เช่นนี้ก็ดีเหมือนกันข้าจะได้ส่งพวกเจ้าไปยังปรโลกพร้อมๆกัน...อ้อ...และไม่ต้องห่วงบุตรสาวและบุตรชายของเจ้าล่ะข้าจะส่งไปอยู่ด้วยในอีกไม่ช้า" มู่เหยียนชิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็พานทำให้เส้นอารมณ์ขาดผึ่งแต่ก็ยังสามารถควบคุมความโกรธที่กำลังปะทุได้เป็นอย่างดี

"เจ้าคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะถงหยิน" 

"ใครรึ?...จะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ...ข้าว่าคงเป็นพวกเจ้าทั้งสองเสียมากกว่ามั้งที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปถึงได้รีบร้อนมาให้พวกข้าสังหารถึงที่เช่นนี้" ไม่รอช้าถงหยินก็ใช้แรงทั้งหมดเคลื่อนเข้ามาใกล้มู่เหยียนชิงหมายจะลงมือฆ่าให้ตายโดยใช้เคล็ดวิชาฝ่ามือพริบตาเข้าใส่ มู่เหยียนชิงจึงได้เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างแต่ก็ไม่อาจหลบพ้นทำให้พลาดท่าโดนเคล็ดวิชาไปหลายกระบวนท่าจนกระเด็นออกไปหลายก้าวจนทำให้ฝุ่นคลุ้งตลบอบอวลไปทั่ว 

"เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะท่านพี่...พอที่จะทำให้ท่านสนุกได้หรือไม่"

"ศิษย์น้องยังคิดว่าสามีเจ้าจะมีแรงลุกมาตอบเจ้าได้เช่นนั้นรึ?" แต่มู่หลันจิงหาได้สนใจไม่ 

"แค่มดกัดน่ะน้องหญิง"

"เป็นไปไม่ได้...เหตุใดเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย"

"ข้าว่าเราเลิกเล่นเถอะท่านพี่...ข้าคิดถึงลูกๆแล้ว" เพียงพริบตาเดียวนางก็ได้มายืนอยู่ข้างกายผู้เป็นสามี ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ 'เอ๊ะ...ศิษย์พี่ใหญ่หายไปไหนกัน...หรือว่า' แต่แล้วสิ่งที่นางคิดไว้ก็เป็นจริงเมื่อหันหลังกลับไปมองก็เจอกับมีดน้ำแข็งที่ก่อตัวมาจากพลังธาตุน้ำของหลี่อยางอันเรียงรายอยู่ตรงหน้าก่อนจะพุ่งเข้าใส่สามีของนาง

"ท่านพี่ระวัง" นางเอ่ยเสียงสูงพร้อมพุ่งตัวเข้าไปโอบเอวสามีก่อนจะร่นถอยห่างออกมาจากจุดที่ยืนอยู่

"หึหึหึ...ยังรวดเร็วเช่นเดิมไม่เปลี่ยน" 

"ท่านก็ยังเป็นคนที่ชอบลอบกัดไม่เคยเปลี่ยนเช่นกัน" ในตอนนี้ใบหน้าของนางนั้นไม่หลงเหลือรอยยิ้มล้อเล่นอีกแล้ว  

"ข้าจะรอดูว่าเจ้านั้นยังมีโอกาสได้ยืนพูดแบบนี้อยู่อีกหรือไม่" หลี่หยางอันพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน

จากนั้นทั้งสี่ก็ได้ห้ำหั่นเข้าหากันอย่างไม่ยอมลดละ และพุ่งโจมตีในระยะประชิด 

หลี่หยางอันได้ตวัดดาบพุ่งตัวเข้าไปโจมตีมู่หลันจิง นางที่ว่องไวอยู่แล้วได้กระโดดม้วนตัวหลบคมดาบได้อย่างสบายก่อนจะซัดฝ่ามืออัดเข้าไปตรงกลางอกของอีกฝ่ายจนกระเด็นไปชนกับโต๊ะภายในห้องจัดงานเลี้ยงแตกกระจายทั้งยังทำให้แขกเรื่อภายในงานที่ยังแอบเฝ้ามองเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ต่างหนี่หัวซุกหัวซุนออกมา หลี่หยางอันเมื่อลุกขึ้นมา ก็ได้ยกมือขึ้นมาแตะเลือดตรงมุมปากจากนั้นก็ได้ใช้ลิ้นลิ้มลองรสชาติของมันก่อนจะเหยียดยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้

"อ่าาาา...รสชาติของเลือดช่างหอมหวานเสียจริง"

ด้านถงหยินเมื่อเห็นว่าศิษย์พี่พลาดท่าให้ศิษย์น้องก็ได้แต่นึกสมเพชในใจก่อนจะหันไปตวัดดาบใส่มู่เหยียนชิงอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้เสื้อตัวนอกของอีกฝ่ายขาดวิ่นจึงได้รับบาดแผลหลายแห่ง ถงหยินที่หลงระเริงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บเพราะตนจึงทำให้พลาดท่าหลงกลอีกฝ่าย มู่เหยียนชิงที่ไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ก็ได้ใช้พลังธาตุพฤกษาเรียกเถาวัลย์ออกมาก่อนจะบังคับทิศทางให้พุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างว่องไว ยิ่งอีกฝ่ายทำลายเถาวัลย์มากเท่าไหร่ความเร็วและจำนวนก็จะมากขึ้นอีกเท่าตัว ถงหยินที่ตอนนี้กำลังอ่อนแรงก็โดนเถาวัลย์เกี่ยวรัดแน่นทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ยิ่งเขาดิ้นรนมากเท่าไหร่เถาวัลย์เหล่านี้ก็จะยิ่งรัดแน่นขึ้นทุกครั้งเมื่อเริ่มอ่อนล้าสะสมจากการต่อสู้ก็ได้หันไปมองรอบๆบริเวณห้องจัดเลี้ยงก็ปรากฏว่าทุกอย่างพังพินาศไม่เว้นแม้แต่เก้าอี้เจ้าสำนักและเสาสลักมังกรที่พวกเขาต่างภาคภูมิใจนับถือมาตั้งแต่บรรพบุรุษก็ได้พังทลายด้วยน้ำมือชายตรงหน้า มู่หลังจิงที่เห็นว่าถงหยินเริ่มอ่อนแรงก็ได้รีบหันไปเอ่ยกับสามี

"ท่านพี่หากคิดจะตีงู...ต้องตีให้หลังหัก" ได้ยินเช่นนั้นมู่เหยียนชิงไม่รอช้าเริ่มลงมือทันทีเพียงแค่ฝ่ามือเดียวร่างกายถงหยินถึงกับกระเด็นไปติดกำแพงก่อนจะกระอักเลือดออกมาจนแน่นิ่งไป

"ถงหยิน" หลี่หยางอันที่เห็นศิษย์น้องโดนอีกฝ่ายจัดการก็เริ่มร้อนรนหาทางหนีแต่ทว่าก็สายไปเสียแล้วเมื่อคนที่ตนเคยรักหมดใจได้แทงดาบลงมาตรงกลางอกอย่างไม่มีความลังเลใดๆทั้งสิ้น เขาจึงได้รวบรวมพลังปราณไว้ที่ฝ่ามือก่อนจะซัดเข้าใส่นางจนถอยห่างออกไป เมื่อหลุดพ้นจากการโดนแทงก็ได้พลิ้วกายไปข้างๆถงหยิน แต่ก่อนที่นางและมู่เหยียนชิงจะได้ลงมือสังหารทั้งสองอีกครั้ง แต่.......

ตู้มมมมมม!

 

..................................................................

17/4/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า