Your Wishlist

ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว! [สามบุพเพสกุลซือ] (78:ความกลัดกลุ้มใจของคุณชายสาม)

Author: หานยวี่

#จบแล้วจ้า ข้าจะไม่คิดแค้น...ข้าจะไม่โกรธเคือง..สิ่งที่ท่านทำ ข้าจะไม่เก็บมาเป็นเพลิงสุมใจ ขอให้ระหว่างเรา 'ท่าน' กับ 'ข้า' เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันนับจากนี้...และตลอดไป...

จำนวนตอน : N/A

78:ความกลัดกลุ้มใจของคุณชายสาม

  • 29/04/2564

78

ความกลัดกลุ้มใจของคุณชายสาม

 

ทันทีที่เซียวหลินหลิงเห็นร่างคุ้นตาของผู้ที่นางนึกเป็นห่วงเดินเข้ามากับหลี่ชางจวิ้น ร่างบางก็รีบวิ่งไปหาด้วยความดีใจ

“โล่งอกไปที... เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ?”

“ข้าไม่เป็นไร ขอบใจมากที่ถาม” ซือหยวนซาพูดพลางยิ้มให้นาง ฝ่ายจุ้นเผิงก็ตรงเข้ามาหาผู้เป็นนาย แล้วถามว่า

“คุณชายไปไหนมาขอรับ? ข้าเป็นห่วงแทบแย่”

“พวกข้าก็เหมือนกันเจ้าค่ะ / ขอรับ” เจินเจิน ต้าเหลย ชินหวัง หงถิงเอ่ยด้วยความโล่งใจ

“ขอโทษนะทุกคน... พอดีข้าไปนั่งทบทวนอะไรบางอย่างนิดหน่อยน่ะ” ร่างสูงกล่าว

“ไปเจอตัวที่ไหนล่ะ?” หงเถิงเอ่ยถามชางจวิ้น

“ท้ายหมู่บ้านน่ะ” เขาตอบก่อนจะเดินไปหาหงถิง

“รู้ตัวหรือไม่!? ว่าการไปทบทวนตัวเองของเจ้าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกันไปทั่ว” หงเถิงปล่อยมือจากชินหวังแล้วเดินไปพูดใส่ซือหยวนซา

“โดยเฉพาะคุณหนู... ตอนแรกนางจะเดินออกไปตามหาเจ้ากับจุ้นเผิงเพียงแค่สองคนด้วยซ้ำ”

“จริงหรือ!?” ซือหยวนซาหันไปถามผู้ที่ถูกกล่าวถึงด้วยความดีใจ

“เจ้าค่ะ...” เซียวหลินหลิงยอมรับแล้วพูดต่อ

“ก็คุณชายไม่เคยหายไปนานขนาดนี้มาก่อน ข้าเลยกลัวว่าท่านอาจจะหลงทางหรือไม่ก็อาจจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับท่าน...”

“คุณหนูเป็นคนมาชวนข้าด้วยตนเองเลยนะขอรับ... ซึ่งตอนนั้นข้าก็กำลังจะไปตามหาคุณชายพอดี พวกเจินเจินมาได้ยินเข้า จึงช่วยตามหาอีกแรง” จุ้นเผิงกล่าว

“ขอบคุณทุกคนมาก...” ร่างสูงเอ่ยด้วยความตื้นตันใจ

“ทีหลังถ้าจะไปไหนก็บอกกันหน่อยนะเจ้าคะ” ร่างบางเอ่ย

“แน่นอน...” ซือหยวนซารับคำพร้อมกับยิ้มบางๆ

“พวกเราเข้าบ้านไปกินข้าวกันเถอะเจ้าค่ะ! ตอนที่รอชางจวิ้นกลับมา ข้าทำอาหารรอไว้เพียบเลย!” เซียวหลินหลิงกล่าว

เพราะตกลงกันไว้ว่าปิงจือ เจินเจิน ต้าเหลย หงถิงจะไปดูในตัวเมือง

ส่วนหลินหลิงกับเจินเจินเดินหาที่หน้าหมู่บ้าน จุ้นเผิง ชินหวัง หงเถิงเดินหารอบๆ และชางจวิ้นจะเดินไปดูที่ท้ายหมู่บ้าน หากหาเสร็จแล้วไม่ว่าจะพบหรือไม่ก็ให้กลับมารวมตัวกันที่บ้าน ซึ่งกว่าชางจวิ้นจะพูดคุยกับซือหยวนซาจนเข้าใจกัน ทุกคนก็กลับมาหมดแล้ว

“ดีเลย ตอนนี้ข้ากำลังหิวมาก” ชางจวิ้นพูดพลางมองมาที่หงถิงอย่างมี เลศนัย

“หิวจนกลืนคนได้ทั้งตัวเลย!”

“ให้มันน้อยๆ หน่อย! ยังไม่ทันจะได้ตบแต่งก็ออกลายกับน้องข้าเสียแล้ว!” หงเถิงกล่าว ในขณะที่หงถิงหน้าแดงด้วยความเขินอายจนพูดอะไรไม่ออก

“เช่นนั้น… อีกสองวันข้าจะรีบพานางไปแจ้งข่าวแก่สหายที่เมืองลี้รัวเลย จะได้แต่งกันเสียที! ดีหรือไม่!?” หงถิงพยักหน้ารับเบาๆ ทำให้หงเถิงรู้สึกหงุดหงิดทั้งในตัวน้องสาวและน้องเขย ขณะเดียวกันก็นึกเอ็นดูทั้งคู่ไม่น้อย

หงถิงเอ๋ยหงถิง! ปกติเจ้าเคยยอมง่ายๆ เช่นนี้ที่ไหนกัน

หลี่ชางจวิ้น! หากเจ้าทำให้น้องสาวของข้าเสียใจ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!

“เข้าบ้านไปกินข้าวดีกว่า” ชางจวิ้นกล่าวแล้วถือวิสาสะเข้ามาจูงมือหงถิงเดินเข้าไปในบ้านอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่สนใจสายตาของหงเถิงแม้แต่น้อย ปิงจือได้ทีจึงทำบ้าง

“ปิงจือ!! เจ้าคนฉวยโอกาส!!” เจินเจินโวยวาย

“ฉวยโอกาสอะไร ทีตอนอยู่สองคนก็ทำแบบนี้กันบ่อยๆ” ปิงจือเอ่ยยิ้มๆ 

“จากหน้าบ้านไปที่ประตูก็แค่ไม่กี่ก้าวเอง... จะจูงมือกันเพื่อเหตุใด!?”

“นั่นสิ... คงเพราะอยากจูงกระมัง” ชินหวังเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะคว้ามือของหงเถิงมากุมไว้แล้วเดินนำเข้าไป เรื่องอะไรเขาจะต้องยอมน้อยหน้าคู่อื่นเล่า!

“ชินหวังคนบ้า!!” แม้ปากจะกล่าวเช่นนี้ แต่หงเถิงก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

“อะไรของพวกเขา” เซียวหลินหลิงกับซือหยวนซาพึมพำออกมาพร้อมกัน แล้วทั้งคู่ก็ส่ายหน้าเบาๆ

“ดูเหมือนว่าพวกเราจะใจตรงกันนะ” ร่างสูงกล่าว เซียวหลินหลิงไม่ตอบแต่กลับยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปตามด้วยร่างสูงโปร่งของซือหยวนซา

ส่วนต้าเหลยกับจุ้นเผิงที่เหลืออยู่เพียงสองคน ก็หันมามองหน้ากันอย่างเหงาๆ พลางรีบตามคนอื่นเข้าไป...

--------------------------------------------------------------------------------

กลางดึกคืนนั้น... จุ้นเผิงกำลังฝันว่าตัวเองได้เดินไปซื้อซาลาเปาเจ้าประจำ แต่ว่าซาลาเปาดันขายหมดเสียก่อน ป้าเตียเจ้าของร้านจึงคิดจะจับเขาไปทำเป็นไส้ซาลาเปา!!

“คิดเหรอว่าข้าจะยอมเป็นไส้ซาลาเปาให้ป้าง่ายๆ น่ะ!!!” จุ้นเผิงตะโกนเสียงดังลั่นห้องพร้อมกับยกขาถีบออกไป

“นี่แน่ะป้าเตีย!! อย่าหาว่าข้ารังแกคนแก่ละกัน เพราะท่านทำข้าก่อน!!” ก่อนจะรู้สึกตัวลุกพรวดขึ้นมานั่ง แล้วได้สติว่าเรื่องเมื่อครู่เป็นแค่ความฝัน

“ขออภัยขอรับคุณชาย...” เขาเอ่ยพร้อมกับหันไปทางนายของตนที่นอนอยู่ข้างๆ เพราะคิดว่าตัวเองเผลอทำเสียงดังรบกวน

ทว่า... ตรงนั้นกลับไม่มีผู้ใดเลย!!

ความว่างเปล่าตรงหน้าทำให้จุ้นเผิงหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง!!

เขาจึงรีบพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาเพื่อจะไปตามหาคุณชายของตน...

แต่ไม่ต้องไปไกลแล้วล่ะ เพราะทันทีที่เปิดประตูออกมาจากบ้านหงเถิงก็เห็นว่าร่างสูงโปร่งกำลังนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หลังบ้านแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง...

คุณชายเป็นอะไรกับท้องฟ้าหรือเปล่าขอรับ? ไม่ว่าจะกี่ครั้งๆ ก็เห็นชอบมองตลอด

“คุณชายทำอะไรอยู่หรือขอรับ!?” จุ้นเผิงตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ข้ากำลังคิดอยู่น่ะ ว่าจะพูดอย่างไรให้นางยอมมาเป็นฮูหยินของข้า...”

“ห... หา!!!” คำตอบของผู้เป็นนายทำให้จุ้นเผิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

“ว... ว่าอย่างไรนะขอรับ!? คุณชายจะขอคุณหนูหลินหลิง... แต่งงานอีกรอบ?”

ทั้งที่เมื่อวานก่อนยังเพิ่งบอกว่าจะหลีกทางให้ชางจวิ้นเนี่ยนะ...

แต่ก็สมควรหรอก ในเมื่อชางจวิ้นรักหงถิง ส่วนที่ทำทีว่าสนิทสนมกับคุณหนูเซียวนั่นเป็นแค่ละครฉากหนึ่ง...

โอ้! ในที่สุดสวรรค์ก็ตอบรับคำขอของข้าแล้ว!!

“หรือข้าไม่ควร?” ซือหยวนซาถามกลับด้วยน้ำเสียงลังเล

“คุณชายขอรับ...” บ่าวประจำตัวพูดพลางน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ

“ข้ารอให้ท่านพูดเช่นนี้มานานแล้วขอรับ”

“แต่ที่ข้ากำลังคิดหนักคือต้องพูดอย่างไรให้นางไม่ปฏิเสธข้า...”

ถึงจะพยายามมองในแง่ดีว่าเพียงได้พูดออกไปก็พอแล้ว...

แต่... ผู้ใดก็ต้องการคำตอบรับว่าตกลงทั้งนั้นแหละ!

“สู้ๆ นะขอรับ ส่วนเรื่องบ่าวของคุณหนูเซียวไม่มีปัญหาเลยขอรับ! ทุกคนพร้อมสนับสนุนเต็มที่!! ข้าได้ยินมากับหู” จุ้นเผิงกล่าว เผื่อว่าคุณชายกำลังกังวลเรื่องนี้

“ขอบใจมาก” ซือหยวนซาพูดพลางยิ้มบางๆ แล้วนั่งคิดต่อ...

ปัญหาตอนนี้คือนางจำข้าในปัจจุบันกับอดีตทุกอย่างเมื่อหลายปีก่อนตอนเริ่มเกี้ยวพานข้าไม่ได้...

แต่นางกลับจำเรื่องตอนเด็กได้ แถมยังฝังใจรักข้าในตอนนั้น ทั้งที่จำหน้าข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ หากข้าในตอนนี้ไปขอแต่งงานกับนางเพราะรัก... นางก็จะปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่านางไม่ได้รักข้า

ครั้นจะไปแสดงตัวว่าข้าคือคนในวัยเยาว์ นางก็ต้องได้ความทรงจำแย่ๆ กลับคืนมาด้วย แล้วนางก็จะบอกว่าทุกอย่างที่ข้าทำไป เพียงเพราะสงสาร...

หรือจะทำแบบที่นางเคยทำกับเขาดี... วางยาแล้วพาเข้ามานอนด้วย  กัน...

บ้าบอ! เรื่องเช่นนี้ข้าจะไปลงมือทำได้อย่างไร!?

ปวดหัวจริงๆ

ถัดออกไปไม่ไกลนัก เงาตะคุ่มของคนผู้หนึ่งกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้พลางทอดสายตาไปยังร่างสูงที่มีบ่าวประจำตัวนั่งอยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยว่า

“สู้เขานะ... ไอ้ลูกชาย”

อย่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยล่ะ... เจ้าเสียสละมามากพอแล้ว...

หากยังเอาแต่มัวทำเช่นนี้ต่อไป ข้าบอกได้เลย... ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเจ้าก็จะไม่ได้รู้จักความสุขที่เกิดจากการใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนหรอก!!

คิดพลางบุรุษผู้นี้ก็หลับตานึกถึงความทรงจำในอดีตที่เลยผ่าน... แต่กลับติดตัวเขามายังปัจจุบัน... จริงๆ แล้ว มันไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิดหรอก เพิ่งมารู้ก็เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง

ภาพทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น... ทุกคำพูดที่เขาพร่ำสอนอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้

ทว่า... สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ความเป็นคนดีที่มีมากเกินไป จนบางทีแม้แต่เขายังรู้สึกรำคาญ อย่างน้อยยังดีที่ตอนรบราฆ่าฟันกับศัตรูไม่ได้ใจอ่อนเหมือนเรื่องพรรค์นี้!

แม้จะมีคนแอบมารายงานว่าเห็นอีกฝ่ายชอบมานั่งทำหน้ารู้สึกผิดหลังจากเสร็จสิ้นการรบแต่ละครั้งก็เถอะ!!

“พ่อลูกอะไรกัน... น่าขำสิ้นดี...” พลันก็มีน้ำเสียงเย็นๆ ที่ฟังแล้วไม่อาจจำแนกได้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรีดังขึ้นมาจากข้างหลัง

“อย่างน้อยก็เคยเป็น... ถึงเขาจะไม่ได้กำเนิดจากข้าก็ตาม...” เขาตอบโดยไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย

“ข้ารู้ แต่พอเห็นหน้าเจ้าที่ตอนนี้อายุพอๆ กับเขามาพูดเช่นนี้ ข้าก็อดขำไม่ได้”

“จะเรียกว่าพอกันก็ไม่เชิง... ข้าแก่กว่านิดหน่อย...”

“ในเมื่อเจ้าบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องคืนของแล้วล่ะ”

“ตามสบายขอรับ อย่างไรเสียตอนนี้ข้าก็ได้พบกับฮูหยินของข้าแล้ว”

ตรงส่วนนี้แหละที่ดีใจที่สุด เพราะได้มารู้ภายหลังจากได้ความทรงจำคืนว่าคนที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นและตอนนี้อีกฝ่ายก็รับรักเขาแล้ว ที่แท้ในชาติก่อนนางก็เป็นฮูหยินรักของเขา

“ฮ่าๆๆ อดีตฮูหยินที่กลับชาติมาเกิดเป็นว่าที่ฮูหยิน ช่างเป็นอะไรที่ตลกพิลึก” ผู้ที่อยู่ข้างหลังเอ่ยพลางส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าคนนี้ได้สร้างความเบิกบานใจให้ท่าน” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้อีกฝ่ายนำสิ่งที่ต้องการออกไปจากร่างกาย ขณะเดียวกันคนผู้นั้นก็คิดในใจว่า

ข้ามาเอาคืนก็แค่ตอนนี้แหละ อีกไม่นานเจ้าก็จะได้รับมันกลับไปและคืนมันกลับมาให้ข้าอีกรอบ

 

อา… เรื่องราวของพวกมนุษย์นี่มันช่างวุ่นวายเสียจริง!

 

Writer:พอกันทั้งหลิงเอ๋อร์ทั้งอาซานั่นแหละ!

เบื้องลึกของน้องหลินหลิง ยุทธภพไร้ใจ ตัวข้าไม่ไร้รัก (ตอนนี้ก็กำลังเพิ่มเติมและแก้ไขเนื้อหาสำนวนภาษาอยู่)

และถ้าใครยังคิดว่าเรื่องนี้ยังฮาร์ดคอร์ไม่สุด ต้องพบกับ หัวเราะทีหลังดังกว่า!! เลยค่า ^_^ ความดราม่าอาจไม่เท่า แต่เนื้อเรื่องไม่เป็นรองใครแน่นอน!

ร่วมพูดคุยกันได้ที่ Han Yu หานยวี่ น้า

ปล.สำหรับคนชอบอ่านเรื่องสั้นๆ ปมไม่ซับซ้อนนะคะ

[สามพี่น้องตระกูลหาน] แต่งกับเจ้าแล้วไง! ข้าก็ไม่ได้รักเจ้าเสียหน่อย!

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า