จุมพิตที่ริมฝีปาก มีบางสิ่งที่หลินเค่อสงไม่เคยเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเอาค้อนทุบหัวเธอมากแค่ไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การไหลย้อนกลับของแม่น้ำแยงซี หรือดาวหางฮัลเลย์พุ่งชนโลก…… แต่สิ่งเหล่านี้เทียบไม่ได้กับ ‘เจียงเฉียนฟ่าน’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ
จุมพิตที่ริมฝีปาก มีบางสิ่งที่หลินเค่อสงไม่เคยเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเอาค้อนทุบหัวเธอมากแค่ไหนก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น การไหลย้อนกลับของแม่น้ำแยงซี หรือดาวหางฮัลเลย์พุ่งชนโลก…… แต่สิ่งเหล่านี้เทียบไม่ได้กับ ‘เจียงเฉียนฟ่าน’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ
จุมพิตที่ริมฝีปาก
มีบางสิ่งที่หลินเค่อสงไม่เคยเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเอาค้อนทุบหัวเธอมากแค่ไหนก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่น การไหลย้อนกลับของแม่น้ำแยงซี หรือดาวหางฮัลเลย์พุ่งชนโลก……
แต่สิ่งเหล่านี้เทียบไม่ได้กับ ‘เจียงเฉียนฟ่าน’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอ
วินาทีที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเป้ากระสุนปืน ขาสองข้างโซซัดโซเซไปข้างหลัง พยายามจับทุกอย่างที่จะจับได้ เสียงสะท้อนดังก้องในหู เหมือนโลกทั้งใบกำลังพลิกคว่ำ
ปลายลิ้นของเขาหยอกเย้าให้ริมฝีปากของเธอเผยอเปิดออก ทำลายความภูมิใจของเธอ ทุบทำลายทุกสิ่งที่เธอรู้ และทำให้เธอตัวร้อนในเสี้ยววินาที
หลินเค่อสงไม่สามารถรับมือกับความเอาแต่ใจนี้ได้ เมื่อขาทั้งสองข้างของเธออ่อนปวกเปียกราวกับเยลลี่จนเธอร่วงลงพื้น แขนของเขาประคองเธอไว้และกดเธอเข้าหาตัวเอง นิ้วทั้งห้าจับที่ต้นคอของเธอแน่น จนเธอรู้สึกได้ว่ากระดูกของเธอกำลังจะแตก
จูบของเขาทั้งดุเดือดและปลอบประโลม กลืนกินลมหายใจของเธอ ลิ้นตวัดเข้ามาในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ และในนาทีนั้นเธอรู้สึกราวกับว่าได้โบยบินไปยังสรวงสวรรค์
เลือดทั้งหมดในกายรวมเป็นจุดเดียวที่ปลายลิ้น
เมื่อลิ้นของเขาเลียริมฝีปากบนของเธอ ปล่อยให้เธอ ‘หลินเค่อสง’ มองเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
การแสดงออกทางสีหน้าของเจียงเฉียนฟ่านไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายว่า “ทำความสะอาดที่นี่ซะ”
หลินเค่อสงพยายามอ่านแววตาของเขา แต่น่าเสียดายที่ดวงตาของเจียงเฉียนฟ่านไม่มีสิ่งที่เรียกว่าหน้าต่างของหัวใจ
ยามที่เขาเปิดปากพูด ลิ้นของเขาตวัดขึ้นลงทำให้ผู้อื่นบ้าคลั่ง
จนกระทั่งขายาวๆสองข้างของเขาเดินจากไป หลินเค่อสงจึงก้มลงมองพื้น
ไข่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายอยู่เต็มพื้น
เครื่องเทศต่างๆหกเรี่ยราด
ถุงแป้งหล่นลงพื้น กระจายเต็มห้อง
อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นต่างๆ ที่ผสมปนเปเข้าด้วยกันทำเอาหลินเค่อสงปวดหัวอย่างหนัก
ไม่กี่นาทีต่อมาสมองของเธอก็เริ่มทำงานได้อีกครั้ง เธอกัดฟันและถามอากาศที่ว่างเปล่าว่า “คุณหมายความว่าไง 'ทำความสะอาดที่นี่'!?”
เขาเพิ่งทำอะไรลงไป?
ทำให้คนอื่นเป็นบ้านี่สนุกมากใช่ไหม!?
ไอ้คนทะลึ่ง! บ้ากาม!
หลินเค่อสงนั่งยองๆ และสางผมตัวเองที่ตอนนี้กลายเป็นรังนก
เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นเมื่อครึ่งปีก่อน
เป็นคืนที่มีกลิ่นของกุ้งมังกรผัดเผ็ดลอยอบอวลอยู่ในอากาศ
คนที่นั่งตรงข้ามหลินเค่อสงคือซ่งอี้หราน
แสงไฟสีเหลืองสลัวทำให้คิ้วของเขาขมวดมุ่น
“ฉันมีข่าวดีมาบอกเธอ”
ซ่งอี้หรานยิ้มอย่างไม่ยี่หระ อากาศร้อนอบอ้าวระหว่างคิ้ว ทำให้คนที่อยู่รอบตัวเขาหันมามองเขาอัตโนมัติ
หลินเค่อส่งก็ยิ้มอย่างไม่ยี่หระให้เขา ขณะที่มือสวมถุงมือปลอกเปลือกกุ้งมังกร
“เกิดอะไรขึ้นล่ะ? ครอบครัวล้มละลาย? นายไม่มีเงินเลี้ยงกุ้งมังกรฉันแล้ว? มีที่นอนมั้ย? ถ้าไม่มี ฉันให้นายนอนในห้องน้ำที่บ้านฉันได้นะ”
“ห้องน้ำบ้านเธอเล็กจะตาย อ่างอาบน้ำก็ไม่มี ขายาวๆของฉันเหยียดตรงๆไม่ได้ด้วยซ้ำ อีกอย่างฉันมีรายชื่อสาวๆที่อยากให้ฉันค้างคืนด้วยยาวเป็นหางว่าว ทำไมฉันถึงจะไม่มีที่นอนล่ะ?”
หลินเค่อสงเบะปาก ที่ผ่านมาข่าวดีของเขาอย่างมากก็คือเขาใช้เงินค่าเรียนจนหมดแต่โรงเรียนไม่ยักไล่เขาออก
“ฉันจะไปนิวยอร์ก ไปเรียน”
นิ้วของหลินเค่อสงกระตุกจนทำให้น้ำซอสของกุ้งมังกรกระฉูดออกมา พุ่งใส่คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ซ่งอี้หรานหลับตาราวกับคาดเดาได้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ
การกระทำนั้นเหมือนกับว่าเขาอยากจะตีอะไรบางอย่างแรงๆ
หลินเค่อสงดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าของเธอด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด และกดลงบนใบหน้าของเขาเพื่อป้องกันไม่ให้ซอสหยดลงบนเสื้อที่สกรีนคำว่า BOSS ของเขา
เป็นเพราะเขาอยู่ใกล้ เธอจึงเห็นรายละเอียดตัวเขาอย่างชัดเจน ดวงตารูปผลท้อคล้ายยิ้มไม่ยิ้ม ส่งผลให้หัวใจของใครบางคนเต้นกระตุกผิดจังหวะ
ตามตรรกะแล้วเธอเห็นใบหน้านี้มาหลายปี แต่ทำไมเมื่ออยู่ใกล้ทีไร เธอก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้?
จาก ม.ต้น ถึง ม.ปลาย ตามมาด้วยมหาวิทยาลัย ซ่งอี้หรานยังคงเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุด แค่เดินไปตามท้องถนน เขาก็ได้รับนามบัตรจากเอเจนซี่ต่างๆ น่าเสียดายที่ไอ้หมอนี่มาจากครอบครัวเศรษฐี ทั้งหมดที่เขาคิดได้คือการผลาญเงินไปวันๆ ไม่อย่างนั้นวงการบันเทิงคงมีดาราชายประหนึ่งเทพเจ้ามาประดับบารมีเพิ่ม
ในขณะนั้นเทพเจ้าผู้ชั่วร้ายก็เผยรอยยิ้มชั่วร้าย เขายกมือขึ้นเรียกเจ้าของร้าน “คุณครับ! กุ้งมังกรเผ็ดอีกสองจาน! หอยตลับผัดเผ็ดหนึ่ง! ปลาแมนดารินหนึ่งจาน! หอยทากตุ๋นหนึ่ง! อ้อ หมกนกกระทาอีกหนึ่ง!”
หลินเค่อสงเบิกตากว้าง มองไปที่เขา “เว้ย! ซ่งอี้หราน! นี่คืออาหารมื้อสุดท้ายของนายรึไง? คิดจะพยายามยัดเยียดความตายให้ฉันเหรอ?”
“ช่ายย” เขาแสดงท่าทางเฉยเมย โน้มตัวไปข้างหน้าไปทางหลินเค่อส่ง “หรือ...เธอจะไปกับฉัน?”
มันเหมือนกับมีบางอย่างสะกิดเยื่อหุ้มหัวใจของหลินเค่อสง ทำให้เลือดไหลออกมาอย่างท้วมท้น แต่เธอยังคงระงับอารมณ์ตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม
“ไปนิวยอร์ก? ทำไมฉันต้องไปนิวยอร์ก ไปขายกั้งผัดเผ็ดรึ? หยุดล้อเล่นได้แล้ว! ฉันอุทิศตนเองอยู่ข้างนายมาตั้งนาน แล้วจุดจบของฉันคือถูกยัดเยียดให้ตายเนี่ยนะ?” หลินเค่อสงกระพริบตา พริกไทยในท้องตีรวนขึ้นมาที่ลำคอ “ซ่งอี้หราน นายเลิกเป็นแมลงในเมืองจีนแล้วอยากไปอเมริกาเพื่อศึกษาถังขยะหรือไง?”
ซ่งอี้หรานยิ้มไม่ตอบ เขากระพริบตา ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดบนใบหน้าๆ
ก่อนที่หลินเค่อสงจะพูดสรุป รถสปอร์ตสีแดงก็ได้ขับปาดมาหยุดอยู่ที่ข้างฟุตบาท
คนในร้านอาหารหันออกไปมองรถสปอร์ตสีแดงแทบจะทันที
สาวผมยาวสลวยโบกมือให้ซ่งอี้หราน “ที่รัก! ฉันมารับคุณแล้ว! พวกเราสัญญาว่าจะไปเที่ยวกันคืนนี้”
เสียงอ่อนหวานทำให้รู้สึกเหมือนอากาศเต็มไปด้วยขนมสายไหมที่กำลังลอยละล่อง
แต่หลินเค่อสงขนลุกซู่ จนเกือบปัดจานบนโต๊ะลงพื้น
“กำลังไป!” ซ่งอี้หรานหยิบธนบัตรออกมาและยื่นให้พนักงาน “ไม่ว่าเพื่อนของผมอยากกินอะไร ก็ทำให้เธอ!”
“ไม่มีปัญหาครับ”
ซ่งอี้หรานลุกขึ้นยืน ออร่าหงส์กระจายท่ามกลางเหล่าเป็ดน่าเกลียด
“เฮ้ น้องสาว ฉันไปล่ะ ไว้คุยกันทีหลัง”
ซ่งอี้หรานเดินออกไปและเปิดประตูรถสปอร์ต โน้มตัวแฟนสาวมาจูบดูดดื่ม แฟนสาวคนปัจจุบัน ‘ชูถิง’
ชูถิงไม่ลืมส่งสายตายั่วยุให้หลินเค่อสง
สิบวินาทีพวกเขาถึงผละออกจากกัน จากนั้นรถสปอร์ตก็เคลื่อนตัวออกไป ปล่อยให้หลินเค่อสงนั่งอยู่ที่โต๊ะตามลำพัง
หลินเค่อสงเสียใจที่กินมากเกินไป
ตอนนี้เธออยากอ้วก
เธอเม้มริมฝีปากเพื่อไม่ให้น้ำตาร่วง
มีแต่ผีเท่านั้นแหละที่อยากเป็นพี่น้องกับนาย!
พี่น้องคนไหนจะเหมือนฉันที่พกทิชชู่ติดตัวไว้ในกระเป๋า? พี่น้องคนไหนจะเหมือนฉันที่จำชื่อคนรักของนาย กระทั่งเบอร์โทร นิสัย และความชอบนาย? ตอนที่นายไส้ติ่งอักเสบ นายปวดมากจนน้ำตาไหล พี่น้องที่ไหนนั่งรถสามล้อเพื่อรีบไปโรงพยาบาล?
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือพวกเธอใส่กระโปรงสั้น ส่วนฉันชอบสวมเสื้อยืด!
พวกเธอสวมรองเท้าส้นสูง ส่วนฉันสวมแต่ผ้าใบ!
พวกเธอฉีดน้ำหอม ส่วนฉันได้แต่ใช้น้ำจากห้องส้วม!
สมองของหลินเค่อสงเริ่มเล่นเพลง You Belong With Me ของเทย์เลอร์ สวิฟ โดยนึกถึงฉากตัวแสดงนำหญิงจูบนักแสดงนำชายใน MV กับฉากที่เพิ่งเกิดขึ้นในชีวิตจริง
“นี่ สาวน้อย เธออยากกินอะไรอีกมั้ย? เงินที่เพื่อนของเธอทิ้งไว้ให้มันเยอะเกินไป”
เจ้าของร้านเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก
“ค่ะ ขอเค้กข้าว กุ้งทอดพริกไทย ไก่คั่วพริก......ห่อกลับบ้าน!”
“จัดไป!”
บ้าเอ้ย ไอ้คนชั่วกำลังจะไปนิวยอร์กเร็วๆนี้ ฉันจะกินให้หมดนี่เลยคอยดู!
รถสปอร์ตสีแดงจอดอยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซ่งอี้หรานดันประตูรถให้เปิดออก แล้วยืดคอเสื้อของเขาให้ตั้งตรง “มันดึกแล้ว ฉันจะนอนล่ะ ส่วนเธอก็นอนเร็วหน่อย”
“อะไรนะ?” หญิงสาวในรถทำหน้าตกใจ “ไม่ใช่พวกเราสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งคืน.....”
“ชูถิง เรานัดกันเวลาไหน?” ซ่งอี้หลานถาม เขากำลังยิ้มและวางแขนไว้ที่ประตูรถ
“สี่ทุ่ม”
“คุณมารับผมกี่ทุ่ม?”
“สามทุ่มยี่สิบ.....ฉันแค่อยากเจอคุณไวๆนี่!”
ถึงแม้ซ่งอี้หรานจะกำลังยิ้มแย้ม แต่ชูถิงสัมผัสได้ว่าเขากำลังไม่สบอารมณ์
ซ่งอี้หรานเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดในมหาวิทยาลัย ด้วยรูปลักษณ์และรสนิยมที่ยอดเยี่ยม เด็กผู้หญิงหลายคนวิ่งเข้าหาเขาเหมือนนกอินทรี ชูถิงชอบเขามาสี่ปีเต็ม และในที่สุดเขาก็ตอบรับคำสารภาพของเธอ ชูถิงรู้สึกว่านี่เป็นเดือนที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ
ซ่งอี้หรานไม่เหมือนคนรวยคนอื่นที่หยิ่งผยอง ในทางตรงกันข้ามเขาอดทนต่อความขี้งอนของเธอ สิ่งนี้ทำให้ชูถิงรู้สึกว่าเขาชอบเธอจริงๆ
ชูถิงทำหน้ารู้สึกผิด เธอดึงแขนเสื้อเขาและเริ่มทำตัวน่ารัก “ก็มีคนบางคนอยากใช้เวลาอยู่กับคุณมากกว่านี้”
ซ่งอี้หรานจิ้มหน้าผากชูถิงให้ห่างออกจากตัว “ผมให้เวลาคุณสำหรับเรามากพอแล้ว ดังนั้นเวลาที่ผมอยู่กับเพื่อนจึงมีค่ามาก เข้าใจไหม?”
ชูถิงน้ำตาคลอพร้อมจะหยดอยู่รอมร่อ แต่เธอกลั้นมันไว้ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งอี้หรานพูดแบบนี้กับเธอ
หมายความว่าผู้หญิงทั่วไปที่ไม่สะดุดตาคนหนึ่งมีความสำคัญมากกว่าเธองั้นเหรอ?
“ขอโทษค่ะ ถ้าเพื่อนคุณไม่พอใจ ไว้วันหลังพวกเราเลี้ยงข้าวเธอดีไหมคะ? ฉันจะขอโทษเธอเอง”
“ไว้เจอกัน”
ซ่งอี้หรานปรายตามองชูถิง ราวกับว่าเขากำลังมองดูเด็ก สองมือล้วงกระเป๋าเดินจากไป
ชูถิงถูกทิ้งให้นั่งตะลึงงันอยู่ในรถ จากนั้นเธอก็ตบไปที่พวงมาลัยอย่างแรง
เพื่อนแบบไหนกัน ห๊ะ! สำคัญมากกว่าแฟนตัวเองเลยเหรอ?!
หลินเค่อสง ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน หลินเค่อสงคนนี้เป็นขี้ข้าของซ่งอี้หรานมานาน ครอบครัวธรรมดาๆ พื้นๆ เป็นยัยบ้านนอกขนานแท้ และยังกล้าพาซ่งอี้หรานมากินข้าวข้างทาง ถ้าซ่งอี้หรานท้องเสียจะทำยังไง!
ซ่งอี้หรานก็เหลือเกิน ถ้าเขาอยากมีเพื่อน เขาควรเลือกคนที่มีภูมิหลังครอบครัวอย่างเธอ ชูถิง ยัยบ้านนอกนั่นมีอะไรให้พูดถึงกัน!
เธอไม่อาจทนเห็นหลินเค่อสงได้ ดังนั้นเธอจึงตั้งใจไปรับซ่งอี้หรานก่อนเวลานัด.....แต่ดูเหมือนว่าซ่งอี้หนานจะดูเจตนาเธอออก?
เป็นไปไม่ได้.....เธอทำตัวเป็นธรรมชาติมาก เขาจะมองออกได้อย่างไร?
ซ่งอี้หรานเดินเข้าไปในห้อพักของโรงแรม และนอนเอนกายลงบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน เขากดรับโทรศัพท์
“เป็นไงบ้าง?”
จากน้ำเสียง น่าจะเป็นเพื่อนของซ่งอี้หรานที่นิวยอร์ก ‘เควิน อัน’
“ก็ดี นอนขี้เกียจอยู่ในโรงแรม ไม่ต้องทำตัวสำรวยใส่พี่ชายตัวเอง อ้อ เขาสัญญาว่าจะให้ค่าเลี้ยงดูน้องชายเป็นรายเดือนด้วย!”
“ถ้าพี่ชายนายรู้ว่านายใช้เงินไม่ระวังอีก คงทำหน้าประหลาดพิลึก แล้วลุงสี่เจ้าแผนการของนายล่ะ?”
“เขาบอกว่าฉันจะเป็นหลานรักของเขาตลอดไป แม้ว่าฉันจะถูกพี่ชายทอดทิ้ง แต่เขายังสนับสนุนฉันเสมอเหมือนที่เคยทำมาตลอด”
ซ่งอี้หรานแสยะยิ้ม ซ่อนรอยยิ้มขี้เกียจของเขา
“รอจนกว่าครอบครัวซ่งทั้งหมดจะถูกล้างบางโดยลุงสี่ของนาย เมื่อถึงเวลานั้นพี่ชายที่โง่เขลาของนายจะถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งเอง อ้อ การแลกเปลี่ยนหุ้นครั้งก่อน ทิศทางโอกาสของเราได้รับการจัดการค่อนข้างดี ได้เงินมากกว่าเดิมสองเท่า ว่าแต่เมื่อไหร่นายจะลงมืออีกครั้งล่ะ?”
ซ่งอี้หรานหัวเราะเบาๆ “เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”
“โอ้ใช่ เมื่อไหร่นายจะมานิวยอร์ก มาคนเดียวรึเปล่า?”
ซ่งอี้หรานเงียบ หลังจากเงียบสักพักเขาก็พูดว่า “เรื่องที่ฉันขอให้นายไปจัดการ เป็นไงบ้าง?”
“เรียบร้อยแล้ว ถ้านายอยากพาใครสักคนมาด้วยก็ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้นี่นา”
“เพราะว่าฉันไม่มีสิทธิ์ขอให้เธอไปกับฉันไงล่ะ” ซ่งอี้หรานจ้องเพดานและยิ้มเบาๆ