“คฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ของข้าไม่รอบคอบขนาดนั้น หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ท่านก็ออกไปได้แล้ว”
สถานภาพดังกล่าว จุนจ้าวเฉินนี้ดูดีกว่าจุนหลินเถียนมาก ความประทับใจของซูจื่อโม่ต่อจุนจ้าวเฉินนั้นไม่เลว
"เยี่ยม! ท่านแม่ขอรับ ท่านลุงคนนี้ไม่มีปัญหาอีก ตราบใดที่เขาไม่ปล่อยให้บาดแผลติดเชื้อและเขายังคงใช้ยาของฉีเอ๋อร์ต่อไป บาดแผลของเขาจะสมานหลังจากนี้สามวัน”
ซูฉียืนขึ้นและกล่าว ดวงตาที่สดใสของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ พี่ชายของเขากลายเป็นคนดัง ไม่นานเขาก็จะกลายเป็นคนดัง เพียงแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็แทบรอไม่ไหวที่การแข่งขันนักเล่นแร่แปรธาตุจะมาถึง
"สามวัน?" จุนจ้าวเฉินไม่สามารถนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เด็ก5ขวบจะเก่งขนาดนั้น? เขารู้ถึงสภาพของอาการบาดเจ็บในมุมมองของเขา แม้แต่นักเล่นแร่แปรธาตุระดับเซินอาวุโสในวังก็ไม่กล้าพูดว่าเขาจะฟื้นในอีกสามวันนี้
จุนจ้าวเฉินมองไปที่พี่น้องทั้งสาม พวกเขามีผิวขาวเนียนเหมือนหยก พวกเขาดูสงบ รวบรวม น่ารัก เขาไม่สามารถหาคำมาบรรยายความน่ารักของลูกทั้งสามได้มากเพียงพอ เกี่ยวกับข่าวลือภายนอก เขาสามารถได้ยินบางอย่างได้ ดวงตาของเขาแสดงความอิจฉา ใช่ เขาอิจฉา แม้ว่าเขาจะเป็นองค์ชายรัชทายาทของแคว้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาเด็กชายที่น่ารักและฉลาดคนนี้
“โมเอ๋อร์ ข้าจะไปนำอาหารมามอบให้นายน้อยคนนี้ เจ้าพาลูกๆไปทานข้าวเถอะ”
ซูจื่อเหนียนรู้ว่าซูจื่อโม่ไม่ได้พยายามขับไล่บุคคลนั้นจริงๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย นางจึงเรียกนางว่า 'โม่เอ๋อร์'
“งั้นข้าจะรบกวนท่านด้วย” จุนจ้าวเฉินพูดก่อน เขาไม่อยากจากไปเร็วขนาดนี้ ตั้งแต่เขาเข้ามาที่คฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ เขาต้องการพูดคุยดีๆ มากกว่านี้ มันก็แค่ ซูจื่อโม่มองเขาอย่างว่างเปล่า แล้วนางก็หันหลังกลับและจากไปพร้อมกับเด็กๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น จุนจ้าวเฉินลุกขึ้นและพร้อมที่จะจากไป แต่ก่อนจะจากไป เขาก็ไปหาซูจื่อโม่ ท้ายที่สุดพวกเขาช่วยชีวิตเขาไว้ แม้ว่าเขาจะเป็นองค์ชายรัชทายาทและมีอัตลักษณ์สูงส่ง แต่เขาก็ยังรู้วิธีที่จะกล่าวขอบคุณ
อย่างไรก็ตาม ซูจื่อโม่ไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ นางต้องการให้เขาออกไปโดยเร็วที่สุด คำเดียวที่นางพูดเพื่อแลกกับการทักทายตอนเช้าของเขา รักษาตัวด้วย!
จุนจ้าวเฉินส่ายหัวและจากไป เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เขาแค่บอกว่าเขาจะขอบคุณนางอีกครั้งในอนาคต
“นายท่าน” หลิวจื่อหยูเข้ามาในเวลาที่ถูกเรียกโดยซูจื่อโม่
หลิวจื่อหยูใจเย็นอยู่เสมอ ดังนั้นซูจื่อโม่จึงให้อะไรหลายๆ อย่างให้เขาทำ
“จื่อหยู เจ้าไปกับพี่ชายของข้าและส่งตัวอย่างนี้ไปที่โรงเตี้ยมซุยจุน นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าขายอันใหม่ให้มู่หรง กงจื่อดูและขอให้เขาตอบกลับข้าโดยเร็วที่สุด”
ซูจื่อโม่ชี้นิ้วไปที่กล่องผ้าบนโต๊ะ มีบางอย่างถูกห่อด้วยผ้าไหม ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ นางพยายามทำตัวอย่างกระดาษ และมันดูดีกว่ามากเมื่อเทียบกับตระกูลมู่ ผู้คนในแคว้นชิงเยว่และ แคว้นฮ่าวเยว่ชอบวาดภาพ ทั้งหมดที่นางต้องทำคือผลิตกระดาษที่มีคุณภาพสูงกว่าตระกูลมู่
"ขอรับ นายท่าน จื่อหยูจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
"และนอกจากนี้ยังมี… …"
หลิวจื่อหยูหมุนตัวกลับแล้วหยุด
“มีอะไรอีกหรือไม่ขอรับ นายท่าน?”
“จื่อหยู วันนี้ข้าจะไปเที่ยวภูเขา เราไม่ได้รับหญ้าเงินในโรงประมูล ข้าทำได้แค่ไปหามันบนภูเขาเท่านั้น ข้าจะพาสมาชิกทีมนักฆ่ามรณไปด้วย 6 คน เจ้ากลับมาโดยเร็วที่สุด หยุนถิงยุ่งมากกับการส่งมอบวัสดุในช่วงสองวันที่ผ่านมา เฉพาะเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่เท่านั้นที่ข้าสามารถมั่นใจได้”
Chapter 51: ตกตะลึง, ไปที่คฤหาสน์หมิงเยว่ (Part 2)
ซูจื่อโม่กล่าวว่ามีการส่งมอบเตาหลอมชุดแรกแล้ว สิ่งต่อไปที่พวกเขาต้องทำคือเริ่มการผลิตกระดาษขนาดใหญ่ทันทีที่วัสดุอื่นๆ มาถึง แม้ว่านางจะสามารถยืมภูมิปัญญาของสมัยโบราณได้เท่านั้น แต่ซูจื่อโม่ก็อยากจะตั้งฐานที่มั่นที่นี่
"ขอรับ นายท่าน เมื่อข้าเสร็จสิ้นเรื่องนี้ข้าจะรีบกลับมา แต่นายท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องไปที่ภูเขา ท่านสามารถไปที่ตลาดมืดเพื่อมองหาหญ้าสีเงินได้นะขอรับ”
หลิวจื่อหยูดูกังวลมาก สัตว์วิเศษในภูเขานั้นแข็งแกร่งกว่าในป่าหมอกมาก ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้คนกลายเป็นลูกแกะที่วิ่งเข้าปากเสือได้
“ตลาดมืดไม่ดี มีของปลอมเยอะมาก มันดีกว่าที่จะขึ้นไปบนภูเขา”
ซูจื่อโม่พูดอย่างดื้อรั้น หลิวจื่อหยูรู้ว่าเมื่อนางตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ แม้แต่วัวสิบตัวก็ไม่สามารถดึงนางกลับมาได้
“ถ้างั้น นายท่านโปรดระวังตัวด้วยขอรับ”
“อืมมม!”
ซูจื่อโม่พยักหน้า นางไม่ได้บอกซูหลี่ว่าพวกเขาจะไปไหน นางเพียงบอกว่าพวกเขากำลังจะออกไปข้างนอก
******
“พี่ใหญ่ นั่นใช่ซูฉิงเจวี๋ยและหลิวจื่อหยูใช่หรือไม่?”
มู่หยุนซวนและมู่หยุนฮั่นเพิ่งผ่านโรงเตี้ยมซุยจุนและบังเอิญเห็นคนทั้งสองกำลังจะเข้ามาในโรงแรม
มู่หยุนซวนขมวดคิ้วและมองดูทั้งสองคน ทันใดนั้นเขาก็จำสิ่งที่ซูจื่อโม่พูดเมื่อวานนี้ แต่เมื่อเห็นซูฉิเจวี้ย มู่หยุนซวนต้องการยืนยันความคิดของตัวเองโดยเร็วที่สุด ด้วยนิสัยของนาง นางไม่น่าจะช่วยคนที่ไม่เกี่ยวข้องสองคนโดยไม่มีเหตุผล
“เราไปดูกันเถอะ” เขาต้องการดูว่ากิจการค้าที่นางต้องการทำคืออะไร
“พี่ใหญ่ พวกเราไม่ไปคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่แล้วหรือ?”
มู่หยุนฮั่นยังไม่ชินกับการเคลื่อนไหวที่ไม่สมเหตุสมผลของพี่ชายของเขา
“อีกสักพักเราจะไป”
มู่หยุนซวนยกเท้าก้าวเข้าไปในโรงเตี้ยมซุยจุน มู่หยุนฮั่นต้องตามไปอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งสองไม่ทักทายผู้คนและตรงไปที่ห้องของมู่หรงเส้าเฟิง ณ ขณะนี้ หลิวจื่อหยูกำลังเปิดผ้าไหมที่พันรอบกระดาษ
วินาทีต่อมา ไม่เพียงแต่ซูฉิงเจวี้ยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลิวจื่อหยูและมู่หรงเส้าเฟิง ผู้ซึ่งทำการค้ากับซูจื่อโม่ก็ตกตะลึง กระดาษสำหรับวาดภาพนี้มีสีขาวและดูเรียบเนียน หลิวจื่อหยูกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากนั้น เขาอยู่กับซูจื่อโม่มาสองปีแล้ว แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่นางทำก็ยังทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
"นี่คือ… …?" มู่หรงเส้าเฟิงลุกขึ้นจากที่นั่งนุ่ม ๆ ของเขาด้วยความตกใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้สังเกตว่ามู่หยุนซวนและมู่หยุนฮั่นเข้ามาข้างในแล้ว กระดาษที่เขาเคยเห็นเป็นสีเหลือง เขาไม่เคยเห็นกระดาษขาวเนียนขนาดนี้มาก่อน
มู่หยุนซวนและมู่หยุนฮั่น ซึ่งยืนอยู่ที่ประตูก็ประหลาดใจเช่นกัน
“ไปที่คฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่กันเถอะ”
มู่หยุนซวนไม่ต้องการอยู่อีกต่อไป เขากลัวที่จะพลาดสิ่งต่าง ๆ มากมาย อันที่จริง มู่หยุนซวนมักรู้สึกรำคาญกับความรู้สึกแปลก ๆ นี้ หลายปีที่ผ่านมาไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถควบคุมหัวใจของเขาได้ แต่ผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อซูจื่อโม่ได้หยั่งรากลึกในหัวใจของเขา
การมาของสองพี่น้องไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คน แม้ว่าพวกเขาจะจากไปก็ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขา
“กงจื่อขอรับ กระดาษนี้ในกล่องผ้าเป็นตัวอย่างที่นายท่านต้องการให้ความร่วมมือทางกิจการค้ากับท่าน เมื่อได้ดูแล้ว นายท่านต้องการให้ข้าบอกกับท่านให้ตอบนางโดยเร็วที่สุด”
ซูจื่อโม่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของราชวงศ์ ดังนั้นต่อหน้าซูฉิงเจวี้ย หลิวจื่อหยูจึงเรียกมู่หรงเส้าเฟิงว่ากงจื่อ
** "公子 / gong zi (กงจื่อ) แปลเป็นไทยคือ "คุณชาย"
2 วันอัพค่ะ