“และสินค้าของคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ก็มีมากกว่าตระกูลมู่แล้ว” มู่หรงซิงเฉินกล่าว เขาไม่กลัวที่จะตาย
“เฮ้! มู่หรงซิงเฉิน เจ้าอยู่ข้างตระกูลมู่ของเราหรืออยู่ข้างคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่? เจ้าบอกว่าพวกเขาแซงหน้าพวกเราไปไกลแล้ว เจ้าตาบอดไปแล้วหรือ?”
มู่หยุนฟานไม่พอใจและตะโกนใส่มู่หลงซิงเฉิน
“หยุนฟาน! ข้ากำลังพูดแบบนี้เพื่อให้ครอบครัวของท่านชดเชยข้อบกพร่องของท่าน และพยายามเรียนรู้จากความเข้มแข็งของผู้อื่น ลองดูเสื้อผ้าเหล่านี้ที่ข้าสวมอยู่บนร่างกายของข้าสิ รูปแบบและการออกแบบของคฤหาสน์หมิงเยว่ดีกว่าของท่านมาก ร้านเสื้อของพวกเขาในแคว้นซิงเยว่ได้รับความนิยมอย่างมาก เจ้าของคฤหาสน์หมิงเยว่มาครั้งนี้ข้าแน่ใจว่านางเตรียมตัวมาอย่างดี”
“ไม่ว่านางจะเตรียมพร้อมหรือไม่ ตราบใดที่นางกล้าที่จะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ใต้เท้าผู้นี้จะไม่ปล่อยนางไป”
มู่หยุนซวนลุกขึ้น ใบหน้าที่เย็นชาของเขาปกคลุมไปด้วยความเศร้าหมอง
“หยุนฮั่น ในเรื่องนี้ ส่งคนไปตรวจสอบทุกกิจการค้าขายของหมิงเยว่ในแคว้นของเราทั้งหมด”
“ขอรับ พี่ใหญ่”
มู่หยุนฮั่นพยักหน้า แต่ใจของเขาก็ไม่ไว้วางใจเจ้าของคฤหาสน์หมิงเยว่
มู่หรงซิงเฉินนั่งสบาย ๆ อยู่ข้างๆ เขาจะไม่อยู่ดูการแสดงดีๆแบบนี้ได้ยังไง……ฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่าเขาจะต้องอยู่ในแคว้นห่าวเยว่สักพักแล้ว
************
ในคฤหาสน์ภูเขาหมิงเยว่ หลังจากได้รับการทำแผลแล้ว ซูฉิงเจี่ยและซูจื่อเหนียนก็ถูกนำตัวไปที่ หมิงเยว่ซวน
ซูจื่อโม่และเด็กทั้งสามคนมาด้วย
“โมโม่ มันคือเจ้าจริงๆใช่ไหม?”
ซูฉิงเจี่ยอดไม่ได้ที่จะถาม ท้ายที่สุด เขาไม่ได้คาดหวังว่านางจะมีชีวิตอยู่ เขาไปเมืองหยุนหลายครั้ง แต่ในที่สุด การมาเยือนของเขาก็ไร้ผล ครอบครัวมู่บอกเขาว่านางตายแล้ว
“โมโม่ ……” ริมฝีปากของซูจื่อเหนียนสั่นระริก
ซูจื่อโม่ถอดหน้ากากสีทองบนใบหน้าของนางออก และใบหน้าที่สวยงามของนางก็เผยให้เห็นในทันที
“พี่ชาย พี่สาว โมโม่ไม่ตายเจ้าค่ะ ไม่เพียงแต่ข้าไม่ตายแต่ยังมีความโชคดีอีกด้วย ตอนนี้ ข้ากำลังมีชีวิตที่ดี ข้าขอโทษถ้าข้าไม่ได้กลับมาหาท่านให้เร็วกว่านี้ ข้าอยากไปงานแต่งงานของพี่สาวในวันพรุ่งนี้เพื่อช่วยท่าน ข้าไม่คาดคิดว่าวันนี้พี่ชายและพี่สาวจะมาที่นี่”
ดวงตาของซู่จื่อโม่เต็มไปด้วยน้ำตา นางไม่อยากร้องไห้ แต่น้ำตาเจ้ากรรมของนางไม่ยอมหยุดไหลออกมา บางที นี่อาจเป็นสิ่งที่ผู้คนเรียกว่าสายสัมพันธ์ทางสายเลือด!
“โมโม่” ซูจื่อเหนียนไม่สามารถกลั้นตัวเองได้อีกต่อไปและโผเข้ากอดซูจื่อโม่
“พี่สาวคิดว่านางจะไม่ได้พบเจ้าอีกแล้ว จุนหลินเถียนเป็นคนโหดเหี้ยมและดื้อด้าน เจ้าเลือกที่จะตายเพื่อผู้ชายแบบนั้นได้ยังไง? เจ้าเคยคิดถึงความรู้สึกของพี่สาวบ้างไหม? เจ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของข้า…”
ซูจื่อเหนียนพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจของนาง ความเศร้าของนางแตกออกอย่างสมบูรณ์ในเวลานี้
ซูฉิงเจี่ยก็ร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ที่ด้านข้าง เขามีความสุขมากในขณะนี้ น้องสาวคนเล็กของเขายังไม่ตาย นี่เป็นความสบายใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาได้รับในชีวิตของเขา
“พี่สาว ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านเสียใจมาเป็นเวลานาน”
ซูจื่อโม่ปลอบโยนซูจื่อเหนียน ต่อไปในโลกนี้นางจะมีญาติแล้ว
“โมโม่ บอกพี่สาวของเจ้าว่าเจ้าใช้ชีวิตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พี่สาว นั่งลงก่อน โมโม่จะค่อยๆเล่าทุกอย่างให้ท่านและพี่ชายฟังเจ้าค่ะ”
หลังจากความโศกเศร้า พี่ชายและน้องสาวก็มีความสุขกับการกลับมาพบกันอีกครั้ง ซูจื่อโม่ บอกซูฉิงเจี่ยและซูจื่อเหนียนถึงสิ่งที่นางประสบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหลือเพียงเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของลูกทั้งสามคนเท่านั้นที่ไม่ต้องพูดถึง สำหรับนางนั่นเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่จะพูด เป็นสิ่งที่นางจะไม่บอกใคร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ซูหลี่ ซูฉี และ ซูซิน กำลังเอียงศีรษะไปด้านข้าง อย่างไรก็ตาม ท่านแม่ของพวกเขายังคงลังเลที่จะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับท่านพ่อของพวกเขา พวกเขาทำได้เพียงยักไหล่หลังจากความคาดหวังของพวกเขากลายเป็นความผิดหวัง การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขาไม่ได้รอดพ้นสายตาของซูจื่อโม่ ไม่ใช่ว่านางไม่อยากบอกเล่าเรื่องบิดาให้พวกเขาฟัง แค่นางไม่อยากเห็นสัตว์ร้ายตัวนั้นจริงๆ
2 วันอัพค่ะ