Your Wishlist

องค์หญิงหมอเทวะ (บทที่ 20 : รู้สึกเศร้า)

Author: panthera

ซูมู่เก๋อ หญิงสาวที่พระเจ้าโปรดปรานในวงการแพทย์ กลายเป็นเด็กสาวน่าเกลียด จากการเดินทางข้ามเวลา พ่อของเธอเกลียดเธอ และแม่ของเธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะปกป้องเธอ! เซี่ยโฮวโม่ หมาป่าผู้โดดเดี่ยว ผู้หยิ่งผยองและเคยมีชัยชนะในสนามรบถูกจักรพรรดิขอให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ไร้ประโยชน์และอัปลักษณ์! ชีวิตของนางจะเป็นเช่นไร เมื่อตัวนางไม่สวยและไม่มีอำนาจใดทั้งสิ้น แต่นางมีแสงสีทองและมือวิเศษ

จำนวนตอน : 459 ตอนจบ

บทที่ 20 : รู้สึกเศร้า

  • 05/04/2564

 

          ซูมู่เก๋อมองไปที่สนามหญ้าและขมวดคิ้ว

 

          ใกล้ค่ำแล้ว  ในสนามมันมืดมาก เงียบและแปลกๆ  ซึ่งเข้ากันไม่ได้กับควันที่ลอยไปทั่วบริเวณโดยรอบ

 

          ซูมู่เก๋อเปิดประตูรั้ว  ไม่มีอะไรเลยนอกจากบ้านอิฐดินเก่าๆสามหลังในสนาม

 

          นางอันให้เงินนางจ้าวและมู่เก๋อเป็นมูลค่าสามเหลียงต่อเดือนเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต  นางจ้าวเก็บหนึ่งเหลียงไว้ใช้ส่วนที่เหลือจะแอบเก็บไว้  นางส่งอย่างน้อยสิบเหลียงให้นางจางทุกปี

 

         ซูมู่เก๋อรู้ว่านางจางมีลูกชายสามคนและลูกสาวสองคน  แต่งงานกันหมดแล้ว  พวกเขามีที่ดินมากกว่าสิบเอเคอร์ นางจ้าวบอกมู่เก๋อว่าลุงของนางไม่ได้ไร้ประโยชน์  ลุงคนที่สามของนางเป็นชาวนา  ส่วนลุงอีกสองคนทำงานในเมืองและมีรายได้ทุกเดือน  ยิ่งไปกว่านั้นนางจ้าวยังส่งเงินให้พวกเขาทุกปี  การสร้างบ้านดีๆ หลายหลังไม่ใช่เรื่องยาก

 

         ด้วยความงงงวย   ซูมู่เก๋อผลักประตูห้องโถงเข้าไปและได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ทำให้นางขมวดคิ้ว

 

         ห้องเงียบมากจนนางได้ยินเสียงหายใจอ่อนแรงอย่างชัดเจน

 

         มีคนอยู่ข้างใน!

 

         นางหยิบม้วนไฟออกมาและจุดฟางที่พื้น  จากนั้นนางก็เห็นคนนอนอยู่บนเตียงนอนดินเตี้ยๆแบบดั้งเดิม

 

         คนที่นอนอยู่บนเตียงมีผมหงอกและแก้มตอบจมลึก  ศีรษะของนางเหมือนโครงกระดูกไม่มีผิวหนังและเนื้อ  ผ้าห่มของนางหมดสภาพ สีซีดจางและเหม็นอย่างหนัก

 

         ตั้งแต่นางจ้าวแต่งงานกับซูหลุน  นางไม่เคยกลับมาดูนางจางเลย  ซูมู่เก๋อจึงไม่แน่ใจว่าคนบนเตียงคือนางจางหรือไม่

 

         ซูมู่เก๋อก้าวไปข้างหน้า  คนที่อยู่บนเตียงสังเกตเห็นและลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทางหมองคล้ำของนาง

 

         “เจ้ามันสารเลว  เพื่อรับเงินที่พี่สาวของเจ้าส่งมาที่นี่ทุกปี  เจ้าปล่อยให้ข้าใช้ชีวิตของข้าด้วยตัวเอง  ไอ้สารเลว!”  เสียงที่กลวงพอๆกับเสียงร้องที่แตกออกมาหลอกหลอนในห้องที่ว่างเปล่า

 

         ซูมู่เก๋อไม่ใช่คนเลือดเย็น  ดังนั้น  นางจึงรู้สึกเศร้ากับหญิงชรามาก

 

         “จ้าวเสี่ยวคุย เป็นลูกสาวคนเล็กของท่านใช่หรือไม่?”

 

         การได้ยินเสียงของซูมู่เก๋อ  นางจางเปิดตาขุ่นๆของนางอย่างกว้าง  ในที่สุดนางก็เห็นซูมู่เก๋อ  แต่ห้องมันมืดเกินไป  นางสามารถมองเห็นเพียงร่างบางสลัวๆ

 

        “เจ้า  เจ้า....”

 

        “ท่านยาย  ข้ามู่เก๋อ  หลานสาวของท่าน”

 

        “มู่เก๋อ  เจ้าคือมู่เก๋อ....”

 

        นางจ้าวเขียนจดหมายถึงนางจางเพื่อให้นางรู้เกี่ยวกับนางจ้าวและมู่เก๋อ

 

        “ใช่จริงรึ?  เจ้าคือมู่เก๋อ?”  นางจางรู้สึกตื่นเต้นและจับมู่เก๋อด้วยมือที่ผอมแห้งของนาง

 

        ซูมู่เก๋อจับมือนางเบาๆ  “ข้าเองจ้าค่ะท่านยาย  ท่านแม่ส่งข้าให้มาดูท่าน  นางเพิ่งให้กำเนิดน้องชายของข้า  ดังนั้นท่านแม่จึงไม่สามารถกลับมาเยี่ยมท่านยายได้  ท่านยายรอสักประเดี๋ยวนะเจ้าค่ะ  ข้าจะกลับมาให้ไว”

 

        ซูมู่เก๋อปล่อยมือนางจางและเดินออกจากลานโล่งของบ้านไป

 

        มืดสนิทและไม่มีใครอยู่ข้างนอก  นางไปที่ลานท้ายหมู่บ้าน

 

        ที่ที่เด็กหญิงตัวน้อยส่งนางให้มาที่หมู่บ้านที่อาศัยอยู่

 

        “แม่นาง  เจ้า ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่....”  เด็กหนุ่มที่เข็นรถมีชื่อว่าฮูเทา  ลูกชายคนโตของครอบครัวนี้  เขาเขินอายและเคอะเขินเมื่อเห็นซูมู่เก๋อ

 

        “ข้าต้องการซื้อของบางสิ่งที่นี่”  ซูมู่เก๋อบอกกับเขา

 

         หลังจากนั้นไม่นานซูมู่เก๋อก็กลับไปที่บ้านของนางจางพร้อมกับตะเกียงน้ำมันและตะกร้า

 

         ตะเกียงน้ำมันไม่สว่างมากนัก  แต่มันก็สามารถให้แสงสว่างมากขึ้น

 

         “ท่านยาย  นี่ของกิน”  นางซื้อไข่ต้มสองฟองและตะเกียงน้ำมันและสาวน้อยเอย่าคนนั้นให้ขนมปังนึ่งสองก้อนกับโจ๊กหนึ่งชามกับนาง

 

          นางจางแทบรอไม่ไหวที่จะได้กินโจ๊ก  เมื่อเห็นเช่นนั้นซูมู่เก๋อก็รู้สึกทรมานใจ

 

          ถ้านางจางได้รับการดูแลเป็นอย่างดี  นางไม่ควรมีสภาพน่าอนาถเช่นนี้!

 

          นางจางกินโจ๊กหนึ่งชามและซาลาเปาไปครึ่งลูก  ซูมู่เก๋อจึงหยุดป้อนอาหารนาง

 

          เมื่อกินอิ่มนางจางมีแรงเพิ่มมากขึ้น

 

          “ท่านยาย  ให้ข้าจับชีพจรท่านดูหน่อย  ท่านพ่อของข้าจ้างครูมาสอนข้าและเขาก็รู้บางอย่างเกี่ยวกับยา  ข้าจึงได้เรียนรู้อย่างลับๆ”

 

          นางจางให้ความสำคัญกับซูมู่เก๋อมากจนนางไม่สงสัยในสิ่งที่หลานของนางพูด

 

          ซูมู่เก๋อรู้สึกได้ถึงชีพจรนางจาง  ชีพจรอ่อน  แต่ไม่ได้หมายความว่านางกำลังจะตาย  มีความเป็นไปได้มากกว่าว่าความเจ็บป่วยของนางจางเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง

 

           นางเปิดผ้าห่มและเห็นขาของนางจางที่เนื้อเน่า  นางจางถึงกับกำผ้าห่มไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มีของนาง

 

           เมื่อมู่เก๋อเข้ามาใกล้  นางก็สามารถเห็นตัวหนอนที่ดิ้นได้!

 

           “บ้าเอ้ย!”

 

           ในขณะนั้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้อง

 

31/3/2564
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า