“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
ห่าวเหม่ยจ้องไปที่ลั่วต้านเมื่อได้ยินคำพูดที่ยั่วยุของเธอ ห่าวเหม่ยเกลียดมากเมื่อมีคนจี้จุดอ่อนหรือเรียกเธอว่าไร้ความสามารถ
เพราะในใจเธอรู้ดีว่าเจียงเยว่เก่งกว่าเธอมากและเธอไม่สามารถบรรลุไปอยู่ในระดับเดียวกับเจียงเยว่ได้ เจียงเยว่ไม่เพียงแต่เขียนเพลงเท่านั้น แต่ยังจัดระการทุกอย่างสำหรับอัลบั้มของพวกเขาและแม้แต่ออกแบบท่าเต้นด้วย
เจียงเยว่ไม่ใช่ผู้นำโดยไร้เหตุผล เธอเป็นผู้นำของวงในทุกสิ่ง ไม่เพียงเท่านั้น การแสดงบนเวทีของเจียงเยว่ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย เธอเป็นนักแสดงที่แท้จริงเมื่อพูดถึงการแสดงบนเวที
คำพูดของลั่วต้านทำให้เธอขุ่นเคือง ทำให้เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เธอเม้มริมฝีปากและขยับเข้าไปใกล้ลั่วต้าน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆ หน้าจอด้านหลังพวกเขาก็สว่างขึ้น ทำให้เธอสะดุ้ง
“อ่า ฉิ่นจู คุณกำลังทำอะไร? เราอยู่หน้าสำนักงานไม่ใช่เหรอ? อา ไม่ใช่ตรงนั้น” ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยตัณหาดังก้องทั่วห้องแถลงข่าว
ร่างของเธอแข็งค้างอยู่กับที่เพราะเธอจำเสียงนี้ได้โดยไม่ต้องหันหลังกลับ
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นเขียวและร่างกายของเธอแข็งเกร็ง เธอหันกลับไปอย่างลังเลและตกใจเมื่อเห็นวิดีโอที่เล่นบนหน้าจอ
"นี่...นี่.." เธอพึมพำด้วยความหวาดกลัวเมื่อดูวิดีโอนั้นเพราะเป็นวิดีโอที่พวกเขาอยู่ด้วยกันในรถเมื่อวานนี้ วิดีโอต่างจากครั้งที่แล้วเนื่องจากเป็นวิดีโอล่าสุดไม่ใช่ภาพจากห้องทำงาน
ลั่วต้านและเจียเหม่ยตกใจเช่นกันเมื่อเห็นวิดีโอ พวกเขาหันกลับไปและมีสีหน้ามืดมนเมื่อเห็นห่าวเหม่ยกึ่งเปลือย ไหล่ลงไปเปลือยเปล่าและด้านล่างชุดถูกเลิกขึ้นไปอยู่ที่ต้นขา เธอนั่งบนตักของฉิ่นจู แทบจะรัดคอเขา
สองคนจูบกันอย่างดูดดื่มและได้ยินเสียงครวญคราง แม้ว่าจะค่อนข้างมืด แต่การเคลื่อนไหวและเสียงลามกของพวกเขาทำให้เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังมีอะไรกันในรถ
"ห่าเอ้ย! ปิดเสียงมัน ปิดมัน" ฉิ่นจูที่ตกใจพอๆ กัน ตื่นจากภวังค์และรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อปิดวิดีโอ แต่น่าเสียดายที่เขาทำไม่ได้ แม้จะพยายามหลายครั้งแล้ว เขาก็หยุดวิดีโอไม่ได้เพราะเขาไม่รู้แหล่งที่มา
ในขณะที่ห่าวเหม่ยและฉิ่นจูอยู่ในความตื่นตระหนก นักข่าวก็ยุ่งอยู่กับการถ่ายภาพและวิดีโอ นักข่าวบางคนกำลังถ่ายทอดสดเรื่องดราม่าทั้งหมดนี้
หลังจากที่พวกเขานัวเนียกันเสร็จซึ่งใช้เวลาครึ่งนาทีในวิดีโอ ห่าวเหม่ยก็เลื่อนตัวออกจากเขาและนั่งที่นั่งผู้โดยสารเผยให้เห็นใบหน้าสีแดงเข้ม เหงื่อเต็มหน้าที่กล้อง นักข่าวต่างอ้าปากค้างเมื่อเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจนและตกใจกับสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณบริสุทธิ์ดูน่าหลงใหลเมื่ออยู่ในการแสดง
หลังจากจัดแจงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอมองที่โทรศัพท์แล้วพูดว่า "ดูสิ รูปที่เราถ่ายไว้ก่อนหน้านี้กำลังช่วยเรา ปาปารัสซี่คนนี้ทำได้ดีมาก มุมและการตัดต่อนิดหน่อยก็ดูเหมือนจริง " เธอหัวเราะหลังจากอ่านความคิดเห็นแสดงความเกลียดชังต่อเจียงเยว่
ริมฝีปากของเธอขดขึ้นขณะที่เธอพูดว่า "ฉันภาวนาให้เจียงเยว่จะยังมีชีวิตอยู่เพื่อดูแฟน ๆ ของเธอสาปแช่งเธอ เธอภูมิใจเสมอเมื่อพูดถึงแฟน ๆ ของเธอ เธอมักจะคุยโวกับทุกคนว่าแฟน ๆ ของเธอปฏิบัติต่อเธออย่างไรและเธอรักแฟนๆมากแค่ไหน” ห่าวเหม่ยเย้ยหยันเมื่อจำได้ว่าเคยรู้สึกอิจฉาริษยาด้วยเหตุนี้
“อย่างไรก็ตาม มันเป็นการดีที่จะเห็นว่าเวทมนตร์ของเธอหายไปแล้ว”
ฉิ่นจูเหลือบมองห่าวเหม่ยและพูดว่า "ห่าวเหม่ย แต่ผมไม่คิดว่าเป็นหลินฮุยนะที่ส่งรูปพวกนั้นมาให้เรา คุณแน่ใจเหรอว่าเราทำสิ่งที่ถูกแล้ว?"
เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ฉิ่น ทำไมพี่เป็นคนใจง่ายแบบนี้? ฉันแน่ใจว่าเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง อีกอย่างนะ มันไม่ได้เกี่ยวกับภาพพวกนี้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ไอ้หลินฮุยจมูกยาวนั่น เจียงเยว่คงจะเซ็นชื่อในพินัยกรรมและทรัพย์สมบัติของเธอคงตกเป็นของเราแล้ว ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นกับพินัยกรรมปลอมล่ะ ทรัพย์สมบัติของเจียงเยว่จะต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะโอนเข้ามูลนิธิ?"
“ทนายบอกว่าจะใช้เวลาอีกสองสามวัน” เขาพูดขณะหยิบบุหรี่ออกมาจุด
ดวงตาของห่าวเหม่ยเป็นประกายขณะที่พูดว่า "เยี่ยมมาก จากนั้นเราก็ไปเที่ยวพักผ่อนหลังจากเรื่องยุ่งเหยิงนี้จบลง ฉันดีใจที่ลั่วต้านและอีเจียเหม่ยออกไปซะได้ พวกหล่อนน่ารำคาญมาก ฮึ้ย ฉันเบื่อที่ต้องแสร้งทำเป็นดีกับพวกหล่อน” เธอพ่นลมหายใจอย่างโกรธจัด
“ใจเย็นๆ คุณไม่จำเป็นต้องแสร้งทำอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีแรงกดดัน หลังจากที่ลั่วต้านและเจียเฟยไปแล้ว จะไม่มีใครหยุดเราได้ เราสามารถประกาศความสัมพันธ์ของเราหลังจากผ่านไปสักระยะ”
ห่าวเหม่ยเม้มปากแล้วพูดว่า "อืม...ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องประกาศความสัมพันธ์ของเราเร็ว ๆ นี้ เราอยู่ด้วยกันแค่ปีเดียว ฉันคิดว่ามันรีบเร่งเกินไปที่จะประกาศ"
ฉิ่นจูขมวดคิ้วและหันไปหาห่าวเหม่ย "อะไร? ห่าวเหม่ย คุณไม่ได้พูดก่อนหน้านี้หรือว่าคุณเบื่อกับความสัมพันธ์ลับๆนี้? ผมอยู่กับเจียงเยว่มาสามปีแล้ว แต่เพื่อคุณ ผมนอกใจเธอเพราะคุณบอกว่าคุณชอบผม ตอนนี้คุณกำลังพูดว่าคุณต้องการเวลามากกว่านี้ คุณกำลังพูดว่าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรางั้นเหรอ?”
วิดีโอจบลงที่ตรงนี้ ตามด้วยความเงียบที่ยาวนาน หอประชุมใหญ่เงียบสงัด ส่งผลให้ฉิ่นจูและห่าวเหม่ย ตื่นตระหนก ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำและห่าวเหม่ยก็สะอื้นไห้
ขณะที่วิดีโอกำลังทำงาน ฉิ่นจูพยายามปิดวิดีโอ แต่ก็ไม่ได้ผล ในท้ายที่สุด เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเห็นชีวิตของเขาพังทลายลงในทันที
"-_-"
"-_-"
การแสดงออกของเจียเหม่ยเปลี่ยนเป็นสีดำสองเฉดหลังจากวิดีโอจบลง พวกเธอปฏิบัติกับห่าวเหม่ยเหมือนน้องสาวมาตลอด และเธอก็แกล้งทำเป็นเป็นคนดี?
"แก..สารเลว.. นี่มันอะไร...." ขณะที่เธอกำลังจะสอนบทเรียน หน้าจอที่ถูกปิดและกลายเป็นความมืดก็สว่างขึ้นอีกครั้งทำให้พวกเขาสะดุ้ง