“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
การแสดงออกของกู้ชินเหรินเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้ยินคำพูดของชวี่หน่วน โทรแจ้งตำรวจ? ยัยคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ?
"ชวี่หน่วน! แกจะพูดเหลวไหลอะไรอย่างนี้? แกอยากจะโทรแจ้งตำรวจและต้องการใส่ร้ายน้องสาวของแกเหรอ? หลินหรันโกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดของชวี่หน่วน
กู้ชินเหรินก็ตื่นตระหนกและพูดติดอ่าง "ชวี่หน่วน เธอพูดอะไรไร้สาระ? ฉันผลักเธอเมื่อไหร่? ฉันออกก่อนเพื่อทำงานด่วนและขอให้เธอขึ้นแท็กซี่ ความผิดของฉันเหรอที่เธอประสบอุบัติเหตุนั่นเป็นความผิดของฉันได้ยังไง? เป็นฉันเองไม่ใช่เหรอที่พยายามจะเดินบนรองเท้าส้นสูงทั้งๆ ที่เธอยืนยังไม่ได้เลย?”
ชวี่หน่วนเลิกคิ้วขณะที่เธอมองชินเหรินด้วยความสนใจ เด็กสาวคนนี้รู้วิธีโกหกเป็นอย่างดี
ตามความทรงจำของชวี่หน่วน ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ เธอกับชินเหรินไปช้อปปิ้งกัน แน่นอน นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด
ในความเป็นจริง มันเป็นกู้ชินเหรินที่กำลังช้อปปิ้งในขณะชวี่หน่วนอยู่ที่นั่นเพื่อถือถุงช้อปปิ้งให้เธอ อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงให้พ่อแม่ของเธอเห็น กู้ชินเหรินพาชวี่หน่วนไปที่ร้านรองเท้าในห้างสรรพสินค้า
อย่างชัดเจนเธอเลือกรองเท้าส้นสูงที่ชวี่หน่วนใส่ไม่ได้ แม้ว่าชวี่หน่วนจะปฏิเสธที่จะใส่มัน เธอสนับสนุนแกมบังคับเจาะจงให้ชวี่หน่วนสวมรองเท้าคู่นั้นโดยใช้การขู่กรรโชกด้วยอารมณ์และบอกว่ามันเป็นของขวัญจาก 'พี่สาว' ของเธอ
ชวี่หน่วนผู้ซึ่งโหยหาความรักในครอบครัวและความผูกพันระหว่างพี่น้องมาโดยตลอด คนโง่ที่อยากเอาใจสวมรองเท้าส้นสูงที่ไม่สบายตัวและรู้สึกอึดอัดตลอดเวลาในขณะที่กู้ชินเหรินเดินไปรอบ ๆ ห้างสรรพสินค้าอย่างอิสระและเพลิดเพลินกับชวี่หน่วนที่สะดุดล้มและลื่นไถลไปตามสถานที่ต่างๆ
เมื่อเห็นว่าเธอพยายามโยนความผิดทั้งหมดให้กับส้นรองเท้าคู่นั้น ชวี่หน่วนก็สามารถเห็นได้ว่าเธอมีความสามารถในการลุกขึ้นเป็นตัวร้ายที่มีศักยภาพ
กู้จางที่ยืนนิ่งอยู่เงียบๆ ในที่สุดก็พูดออกมา "ชวี่หน่วน ฉันเข้าใจเรื่องนั้นเธอเป็นเด็กสาวและมีความต้องการที่จะดูสวย เธอใส่ส้นสูงได้แต่อย่างน้อยก็ให้ระวังการยืนของเธอด้วย เมื่อเธอยืนบนรองเท้าแบบนั้นยังไม่ได้ ทำไมเธอถึงใส่มัน?”
“และแม้ว่าเธอจะใส่มัน เธอจะโทษชินเหรินสำหรับอุบัติเหตุของเอได้อย่างไร? เพียงเพราะชินเหรินซื้อรองเท้าคู่นั้นให้เธอเหรอ? เธอมันไร้สาระ” เขาถ่มน้ำลายรดคำนั้นอย่างโกรธเคือง
เขาไม่ชอบวิธีที่ชวี่หน่วนแสดงอยู่ในขณะนี้ เธอจะพูดตัดเขาในขณะที่เขาพูดต่อหน้าคุณฮันได้ยังไง?
ชวี่หน่วนไม่ได้พูดอะไรเลยในขณะที่ฟังการก่นด่าของพวกเขาและวิธีที่พวกเขาพยายามปกป้องลูกสาวสุดที่รักของพวกเขา
“หืม...คุณคิดว่าฉันกล่าวหาเธออย่างผิดๆ? งั้นแจ้งตำรวจเถอะ ทำไมเธอถึงตื่นเต้นนักล่ะ? ถ้าเธอบริสุทธิ์มันจะพิสูจน์ได้เมื่อตำรวจมา ทำไมคุณถึงตื่นตระหนกกับเรื่องนี้?” เธอพูดอย่างสบายๆ ขณะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำจากโต๊ะข้าง
ฮันจื่อห่าว ซึ่งยืนอยู่ใกล้เตียงของเธอ ไม่ได้พูดอะไรและหยิบแก้วน้ำขึ้นมาและส่งให้เธอ
"-_-"
เธอพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนี้เอาใจใส่มากแค่ไหน แม้แต่พ่อแม่ของชวี่หน่วนก็ไม่ได้สังเกตว่าเธอลำบากแค่ไหนในการหยิบแก้วน้ำนั้น
แต่เขาสังเกตเห็นมันทันที เธอลืมไปชั่วขณะหนึ่งว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นเพราะการมีอยู่ของเขาแทบจะไม่มีเลย
เขายืนพิงกำแพงอย่างเกียจคร้านด้วยมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง เขาแค่ฟังข้อโต้แย้งทั้งหมดและไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
แม้แต่เลขาของเขาก็ยังแสดงความเห็นเป็นบางครั้งและแสดงปฏิกิริยาบางอย่างออกมาบ้าง แต่เขาเฝ้าสังเกตทุกคนอย่างเงียบๆ
"เอ่อ ขอบคุณค่ะ" เธอรับแก้วจากมือของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
"-_-"
แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือ เขาไม่แม้แต่จะมองเธอและยืนพิงกำแพงอีกครั้ง
เขาเกลียดที่จะพูดคุยกับผู้คนมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
...........
เธอจิบน้ำเมื่อได้ยินเสียงแหลมสูงของหลินหรัน
"ชวี่หน่วน หยุดทำตัวน่าขยะแขยง ไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจมาที่นี่ทั้งนั้น ฉันแน่ใจว่าเธอแค่พูดไร้สาระ ไม่จำเป็นต้องโทรหาตำรวจด้วยเหตุผลโง่ ๆ นี้"
“คนอื่นจะคิดยังไงถ้าเธอให้ร้ายพี่สาวตัวเอง”
ชวี่หน่วนขมวดคิ้วและกำลังจะวางแก้วกลับเมื่อมีมือยื่นมาข้างหน้าเธอ
เธอตกใจเพราะชายคนนั้นหยิบแก้วจากมือของเธอไปวางที่โต๊ะ แล้วเขาก็ยืนพิงกำแพงอีกครั้งโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม้แต่เลขาของเขาก็ยังมึนงงเมื่อเห็นว่าเขากระตือรือร้นมาก
เฟิงเถิงพูดไม่ออกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นชายหนุ่มช่วยใครซักคนและนั่นก็เป็นผู้หญิงด้วย
ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย เขาไม่เคยเดทกับใครเลย เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฮันจื่อห่าวเพราะปู่ของฮันจื่อห่าวทำให้เขาค้นพบความสัมพันธ์ในอดีตของเขา และพบว่านายน้อยของตระกูลฮันนั้นสะอาดเหมือนผ้าปูที่นอนสีขาว
สมัยที่เขายังหนุ่มๆ นั้นดีทุกอย่าง แต่ตอนนี้เมื่อเขาอายุ 28 ปีในปีนี้ ครอบครัวของเขาก็เป็นห่วงเขา เขาไม่มีแฟนและเขาไม่ชอบใครเลย เขาจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตไหม?
นั่นเป็นเหตุผลที่เลขาแปลกใจเพราะเขาไม่เคยเห็นเขาเอาอกเอาใจผู้หญิงคนใดและไม่เคยนึกถึงใครเลย ทำไมเขาถึงได้แสดงท่าทีใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้ที่ดูถูกเขาขนาดนี้?
เขาเป็นพวกมาโซคิสซ์ไหมที่จู่ ๆ เขาก็สนใจเธอเพียงเพราะเธอดูถูกเขา?
ฮันจื่อห่าวซึ่งไม่รู้ถึงความคิดที่บ้าคลั่งของเลขาของเขากำลังเฝ้าดูสถานการณ์ทั้งหมดจากด้านข้าง
ชวี่หน่วนเพิกเฉยทุกอย่างและมุ่งความสนใจไปที่กู้ชินเหรินและหันไปหาหลินหรัน ขณะที่ริมฝีปากของเธอขดตัวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย "คุณกู้ คนจะพูดแค่ว่าเจ้าหญิงตัวปลอมแห่งตระกูลกู้พยายามฆ่าทายาทตัวจริงเพื่อมาแทนที่เธอ"
"ชวี่หน่วน หุบปากเน่าๆของเธอซะ!!" กู้ชินเหรินตะโกนด้วยความโกรธเมื่อเธอได้ยินคำพูดจี้ใจดำและยั่วยุอารมณ์ของชวี่หน่วน