“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
“คุณคิดว่าจะหนีจากฉันไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ? ชิ ชิ คุณฮัน คุณประเมินฉันต่ำไปจริงๆ” “ฉันจะตามล่าคุณจนเจอ แม้ว่าคุณจะพยายามซ่อนตัวจากฉันสุดล่าฟ้าเขียวแค่ไหนก็ตาม” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย
กู้จางจับตาดูโครงการก่อสร้างที่กำลังจะมีขึ้นของฮันคอร์เปอเรชั่นตั้งแต่วันที่ประกาศมัน
อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าในบรรดาบริษัทหลายร้อยแห่ง บริษัทของเขาจะไม่ถูกเลือก เนื่องจากในด้านการก่อสร้าง พวกเขายังใหม่และเป็นมือสมัครเล่น มันเป็นเวลาเพียงสามปีที่เขาได้ก่อตั้งบริษัทในเครือซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง
หากโครงการที่จะเกิดขึ้นของฮันคอร์เปอเรชั่นตกมาถึงมือของเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถป้องกันบริษัทของเขาจากการเป็นผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ในด้านการก่อสร้างเช่นกัน ฮันคอร์เปอเรชั่นไม่มีชื่อโดยไม่มีเหตุผล
เขาคิดว่าการใช้กรณีอุบัติเหตุของชวี่หน่วนทำให้เขาเลือกบริษัทกู้สำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นเป็นค่าตอบแทนได้
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเสียงที่แผ่วเบาแต่เย็นชาจากด้านข้าง
“ใครบอกว่าเรื่องนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว?”
ฮันจื่อห่าวเลิกคิ้วในขณะที่เขามองดูหญิงสาวอย่างเกียจคร้านคนที่ดูป่วย แต่มีความมุ่งมั่นและออร่าที่แข็งแกร่งในดวงตาของเธอ
เฟิงเถิงบอกเขาว่าลูกสาวบุญธรรมของครอบครัวกู้ กู้หน่วน ขี้อายและเป็นคนเก็บตัว
นั่นเป็นเหตุผลที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เฟิงเถิงไม่ได้ให้ค่าตอบแทนมากนักและแค่คิดว่าการรับผิดชอบเรื่องบิลเรียกเก็บเงินของโรงพยาบาลก็เพียงพอแล้วเนื่องจากครอบครัวกู้ไม่ไร้เงิน แต่อย่างใด
ฮันจื่อห่าวไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาไม่สนใจที่จะจัดการกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ เขากำลังจะไปทำงานที่สำคัญและกำลังเดินทางไปสนามบิน ทันใดนั้นเธอก็กระโดดตัดหน้ารถของเขา
คนขับของเขากำลังขับรถอยู่และเพราะช็อก เขาจึงเบรกไม่ทันและลงเอยด้วยการกระแทกเธออย่างแรง
พวกเขาพาเธอมาส่งโรงพยาบาลทันทีและเขาต้องยกเลิกการเดินทางด้วยเพราะนี่เป็นปัญหาที่ค่อนข้างร้ายแรง แม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่เป็นเรื่องของชีวิตของคนคนหนึ่ง
พวกเขาทำทุกอย่างที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม ขณะออกจากโรงพยาบาล เขาได้ยินพยาบาลที่คุยกับครอบครัวของเด็กหญิงคนนั้น และมีคนของอีกฝ่ายบอกว่าไม่รู้จักใครที่ชื่อนี้
เขาค่อนข้างแปลกใจและเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวฟื้นแล้ว เขาก็ไปพบแพทย์เป็นอันดับแรก
หลังจากทราบอาการของเธอแล้ว เขาก็แปลกใจเล็กน้อยที่ได้ยินว่าเธอสูญเสียความทรงจำ แต่อาจเป็นเพียงชั่วคราวเพราะความตกใจ หลังจากนี้ เขามาพบเธอครั้งนี้ครั้งเดียวเพื่อเคลียร์เรื่องนี้ แต่ก็ต้องตกใจที่ได้ยินการสนทนาที่เกิดขึ้นในห้อง
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันที่ข่าวลือว่าลูกสาวบุญธรรมของตระกูลกู้ ไม่ใช่บุตรบุญธรรม แต่เป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายของครอบครัว
ชีวิตของใครบางคนจะน่าทึ่งขนาดนี้ได้อย่างไร?
….
เขาประหลาดใจเมื่อเห็นท่าทีไม่แยแสของหญิงสาวที่ลือกันว่าขี้อาย
ชวี่หน่วนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเฉยเมย เธอหัวเราะอย่างประชดประชันและหันไปหากู้จาง “ใครบอกว่าเรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้ว มันเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง เพราะคนนี้...” เธอหยุดขณะที่เธอกำลังจะพูดว่ามันทำให้คนๆหนึ่งตาย
แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้และเม้มริมฝีปาก เธอหันไปหาฮั่นจื่อห่าวและพูดว่า “เพราะเหตุนี้ ฉันจึงได้เข้ารับการผ่าตัดและอยู่ในสภาพนี้ แล้วการจ่ายค่ารักษาพยาบาลก็เพียงพอแล้วงั้นหรือ? ฉันไม่เห็นด้วย ข้อตกลงนี้มันไม่ยุติธรรม”
สายตาของกู้จางมืดลงสาปแช่งชวี่หน่วนเมื่อได้ยิน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เด็กคนนี้หยาบคายมากขนาดนี้? ชวี่หน่วนอาจไม่สง่างาม และฉลาดเหมือนลูกสาวของเขา แต่เธอเชื่อฟังและขี้ขลาดตลอดมา เขาจึงไม่เคยมีปัญหากับเธอเลย
“ชวี่หน่วน นี่พูดบ้าอะไร? นี่คือสิ่งที่เราสอนเธอเหรอ?” หลินหรันร้องลั่นเมื่อเห็นพฤติกรรมของชวี่หน่วน
ชวี่หน่วนขมวดคิ้วและหัวเราะเบาๆ ขณะมองดูสิ่งที่เรียกว่าแม่ของร่างนี้ “ฮ่า ช่างตลกสิ้นดี คุณเลี้ยงดูฉันงั้นเหรอ? ฉันคิดว่าคุณลืมไปแล้วซะอีกว่าฉันเป็นเด็กกำพร้าและคุณก็รับฉันมาเลี้ยง ตั้งแต่วันนั้น ไม่มีวันไหนที่คุณพยายามจะสอนฉันเลย”
“เดี๋ยว...คุณสอนอะไรฉันบ้างนะ” เธอหยุดคิดขณะที่มองขึ้นไปที่หลินหรันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
“คุณสอนฉันว่าผู้คนเปลี่ยนทัศนคติอย่างไรตามความต้องการของพวกเขา คุณพาฉันกลับบ้านสำหรับความพอใจของคุณ ในขณะที่คุณไม่เคยยอมรับฉันเป็นลูกสาวของคุณเลย พวกคุณไม่อะไรเลยแต่เป็นพวกขี้แพ้”
"-_-"
"-_-"
"-_-"
ทั้งสามคนตกใจ พวกเขาได้เห็นชวี่หน่วนตลอดหลายปีแต่เธอไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อน
‘จู่ๆ อะไรทำให้เอลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้? ทัศนคติของเธอที่มีต่อเราเปลี่ยนจากซินเดอเรลล่าเป็นแม่มดชั่วร้ายได้อย่างไร’ กู้ชินเหรินขมวดคิ้วขณะที่กำหมัดแน่น
ฮันจื่อห่าวเลิกคิ้วขึ้นให้ความสนใจฟังคำพูดของเธอ เฟิงเถิงทำผิดเกี่ยวกับข้อมูลของเธอหรือไม่?
“แล้วคุณล่ะ คุณคือนักธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไม่ใช่หรือ? คุณจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลแทนค่าชดเชยสำหรับอุบัติเหตุร้ายแรงแบบนี้ได้ไหมค่ะ?” เธอแสดงความเห็นอย่างประชดประชันขณะพยุงตัวเอนหลังพิงหัวเตียงที่ยกสูง
ฮันจื่อห่าวรู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอมองมาที่เขาและแสดงความคิดเห็นอย่างประชดประชัน ใบหนาของเขาเกร็ง คิ้วขมวด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับเขาแบบนี้
เฟิงเถิงตื่นตระหนกเมื่อเห็นวิธีการที่หญิงสาวแสดงท่าที
เขาก้าวออกมาข้างหน้าและมองดูกู้จาง "คุณกู้ นี่มันอะไรกัน ปล่อยให้ลูกสาวของคุณไม่ให้เกียรติคุณฮันได้ยังไง?"
กู้จางกัดฟันจ้องชวี่หน่วน " ชวี่หน่วน เธอทำบ้าอะไร? เธอควรจะขอบคุณคุณฮัน ที่เขามาเยี่ยมและเต็มใจ จ่ายค่ารักษาพยาบาลในรูปของการชดเชย ทั้งๆ ที่ตัวเธอเองทำผิด เธอควรระมัดระวังเมื่อเดินตามถนน จะโดดตัดหน้ารถแบบนี้ได้ยังไง?”
เฟิงเถิงลูบจมูกของเขาเพราะไม่ได้อยากให้กู้จ่างตะโกนด่าชวี่หน่วน เขาแค่ต้องการให้กู้จางหยุดเธอจากการประชะประชันคุณฮันแต่กู้จางนั้นกลับทำรุนแรงเกินไป
ชวี่หน่วนมองขึ้นไปที่กู้จางด้วยสายตาเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่เย็นชาว่า “ใครบอกว่าเป็นความผิดของฉัน ใครบอกว่าฉันกระโดดตัดหน้ารถเพราะความประมาทของฉันหรือแค่เรื่องเล่นๆ?”