Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 145 : ภาพตัด)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 145 : ภาพตัด

  • 02/06/2565

นี่ไม่ใช่การ "เจตนาฆ่า" แล้วก็ไม่ใช่การ "เจตนาพลาด" ด้วยเช่นกัน ต่อให้ใช้ทนายตั้มกับทนายเดชาทำงานร่วมกัน คดีนี้ก็ไม่มีทางพลิกจนต้องถึงมือพี่หนุ่มกรรชัยแห่งโหนกระแสแน่นอน! มันจะจบลงตรงนี้แหละสำหรับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่! มิวท์ยังคงนอนแน่นิ่งปล่อยกระแสเลือดไหลรินหยดติ๋ง แม้จะมืดแต่ก็สังเกตเห็นความเปียกชุ่มตามชุดนอนของเธอได้อยู่

.

แพรวลุกขึ้นยืน พลางเดินเข้าไปดูผลงาน

.

"หึ!"

"แม่นกว่าที่คิดแฮะ!"

ดูใจเธอพูด.. ดีแค่ไหนที่สาวเจ้าไม่กลั้วน้ำลายแล้วถุยใส่มิวท์ลงไปด้วย

.

ร่างบางเก็บปืนทั้งสองกระบอกเหน็บไว้ที่ด้านหลัง จากนั้นจึงเริ่มใช้หลังเท้าสะกิดเขี่ยลงไปที่หลังมือเพื่อนเพื่อเช็คชีพจร ทั้งหมดทั้งมวลแม้แพรวจะเป็นนศ.คณะเภสัชที่เรียนไม่จบ แต่ศาสตร์การแพทย์แขนงไหนก็ไม่เคยสอนให้เช็คการมีชีวิตของคนด้วยวิธีนี้ การกระทำดังกล่าวบ่งบอกว่าแพรวเกลียดมิวท์มากถึงมากที่สุด! และที่เธอทำก็ไม่ใช่เพราะความเป็นห่วงเป็นใย.. หากแต่เป็นเพราะต้องการเช็คให้มั่นใจว่ามิวท์ยังมีลมหายใจอยู่มากกว่า..

.

"แฮ่ก..ก..ก..กๆ , แฮ่ก..ก..ก..ก..กๆ"

สลบเหมือดแต่ยังคงพะงาบๆ ร่องอกชุดนอนตัวบางเผยอในทุกๆ ครั้งที่มิวท์หอบหายใจ

.

แพรวค่อนข้างโล่งที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด ด้วยความสัตย์จริงว่าเธอจะลั่นกระสุนใส่หน้าผากมิวท์ไปเลยก็ย่อมได้ แต่ทว่าจุดที่กระสุนพุ่งไปใส่กลับไม่ใช่จุดตาย! หากแต่เป็นบริเวณต้นแขนด้านนอก แล้วก็ต้นขาด้านใน ณ ตำแหน่งที่ใกล้กับจุดซ่อนเร้น อันเป็นตำแหน่งที่เพื่อนทรยศใช่เย่อกับเปรมคนรักเก่าของเธอนั่นเอง!

.

เกลียดมากแต่ก็ฆ่าไม่ลง! ความบาดหมางไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยการฆาตกรรมเสมอไป แค่ประทับรอยตราบาปเอาไว้ให้ฝ่ายนั้นจดจำก็น่าจะพอ

.

"หลับไปซะ..เธอไม่ตายหรอกมิวท์! เธอก็แค่ตกใจจนสลบ!"

"ฉันฆ่าเธอไม่ได้หรอกเพราะยังไงเรามันก็เพื่อนกัน.."

"แต่โปรดจำไว้ว่าที่ฉันทำกับเธอวันนี้.. มันไม่ถึงครึ่งกับที่ฉันรู้สึกเลยด้วยซ้ำ..."

.

"หึ...หึ...ฮือ..อ..อ..อ , ฮือ..อ..อ..อ"

น้ำตาหลั่งอยู่ในคลองจักษุ แพรวเริ่มหวั่นไหวอีกแล้ว ผู้หญิงก็แบบนี้บทจะตัดกันมันก็ตัดไม่ขาด!

.

ขนาดยิงปืนใส่กันได้ก็ยังไม่กล้าพอที่จะเล็งใส่ศีรษะ! มันแค้น! มันอยากจะทำใจจะขาด! แต่ข้างในลึกๆก็ยังอุตส่าห์ถูกจิตใต้สำนึกแห่งคุณงามความดีฉุดรั้งเอาไว้

.

กลายเป็นความสับสนที่อธิบายไม่ถูก แพรวได้แต่เดินวนไปวนมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม และไม่มีความคิดที่จะพาเพื่อนขึ้นรถไปส่งที่เรือนพยาบาลแต่อย่างใด! เหมือนเธอจะตั้งใจปล่อยให้เลือดไหลจนหมดตัว เพราะอยากจะเห็นมิวท์ทรมานให้ถึงที่สุด

.

"หึๆ...หึๆ...ฮือ...ฮืออ.."

"ฉันเป็นแบบนี้อีกแล้ว... มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่"

"เพราะเธอคนเดียวมิวท์... เธอทำให้ฉันแสดงมุมอ่อนแอแบบนี้ออกมา.. ฮือ..ฮือ..ฮือๆ"

.

.

5 นาทีผ่านไป และแล้วในที่สุดก็ถึงเวลาที่ตัวละครสำคัญจะปรากฏตัว ถ้าเป็นหนังไทยช่วงนี้คงไม่แคล้วซีนเปิดตัวของตำรวจ แต่ไม่ใช่กับนิยายเรื่องนี้! ที่เขียนมา140 ตอนยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ หนำซ้ำที่โผล่มาก็ไม่ใช่ตำรวจ! หากแต่เป็นกลุ่มชาววิลเลจตาปรือที่งัวเงียตื่นนอนวิ่งกุลีกุจอออกมาจากเคหะสถาน

.

เสียงปืนได้ล่อทุกคนออกมารวมตัวกัน การปะทะกันที่นอกกำแพงถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่ปืนที่ดังเกินกว่า 10 นัดจากด้านในวิลเลจในยามวิกาลถือเป็นเรื่องผิดวิสัย การยิงปืนตักเตือนตามกฎก็ไม่เคยมีจำนวนกระสุนที่มากมายขนาดนี้มาก่อน จนสุดท้ายผลพวงแห่งการกระทำ ก็นำมาสู่การปิดล้อมสาวหัวหน้าแคลนอย่างแพรวเอาไว้ที่เนินหน้าบ้าน!

.

"มีคนบุกรุกเข้ามาพวกเรา..! รีบจับมันไว้เร็ว..! มันทำร้ายคุณมิวท์ด้วย!!"

เสียงคุณลุงคนหนึ่งตะโกน

.

หมาหัวเน่าหรือจะสู้หมาหมู่ พอมีพวกมากขึ้นชาววิลเลจมือเปล่าก็ถึงกับเก่งขึ้นมาเลย ต่างคนต่างร้องเฮโรเสียงดังอื้ออึงชนิดที่ถ้าไม่มีใครห้าม ชะตากรรมของแพรวก็คงไม่แคล้วโดนรุมประชาทัณฑ์เป็นแน่!

.

"คุณมิวท์งั้นหรอ..? นี่ถึงกับยกยอปอปั้นกันขนาดนั้นเชียว? แค่มืดนิดหน่อยทุกคนถึงกับจำฉันไม่ได้เลยเหรอ?!"

"ฉันอุตส่าห์สร้างที่นี่ขึ้นมา.. แล้วที่เสียสละออกไปเสี่ยงตายด้านนอกก็เพื่อเสาะแสวงหาวิธีให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย.."

"แล้วนี่หรือคือสิ่งที่ฉันได้รับ!! , โถ่เอ๊ยยย!!"

.

"ปัง!!!!"

.

เอะอะอะไรก็เอาแต่ยิงปืน ทว่าคราวนี้แพรวหาได้ยิงใส่ใครหรือยิงใส่หัวตัวเองไม่! เธอหันปลายกระบอกปืนไปในทิศ 3 นาฬิกา กระสุน 9 มม. พุ่งฉิวตรงดิ่งไปหาเบ้าหลอดไฟหน้ารถออฟโร้ด ความแม่นเหมือนจับวางไม่ได้ทำให้หลอดไฟแตกหรือมีรอยร้าวแต่อย่างใด หากแต่มันได้ไปกระทบชิ่งเข้ากับตัวกระเปาะที่เป็นส่วนโค้ง ส่งผลให้องศาของแสงไฟที่เคยพุ่งใส่หน้าบ้านหันเบี่ยงมายังจุดที่เธอยืนอยู่

.

ไฟอาบเจิดจ้าแสงอำพันแผ่หลาย้อมทั้งตัวของมิวท์ที่นอนจมกองเลือดอยู่ กับตัวของแพรวที่เป็นคนยิงให้เด่นหลาราวกับนักแสดงละครเวที และเพียงเท่านี้ก็ทำให้ชาววิลเลจรู้แล้วว่ากำลังเล่นอยู่ผิดคน!

.

"นั่นน้องแพรวนี่..! น้องแพรวของพวกเรากลับมาแล้ว!"

เสียงมนุษย์ป้าคนหนึ่งตะโกนสวนออกมา

.

จากท่าทีที่คิดว่าจะมาล้อมจับก็เลยกลายเป็นหยุดสตันท์! เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญดังระงม หลายคำถามถาโถมเข้าใส่แพรวแบบไม่ยั้ง ซึ่งคำถามที่สำคัญที่สุดจนทำให้สาวเจ้ามีปฏิกิริยาก็คือ

.

"ทำไมน้องแพรวมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงคะ? , พวกเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย?"

"ทำไมเจนิสถึงไม่บอกเรื่องนี้กับพวกเรา?"

.

ขีดเส้นใต้คำว่า "เจนิส" เด็กสาวมัธยมคนนี้แหละที่จะเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง กลุ่มชาววิลเลจไทมุงเริ่มคลายตัวออก บางส่วนพุ่งเข้าไปสอบถามแพรว บางส่วนก็ปรี่เข้ามาดูอาการของมิวท์ พวกเขาไม่มีใครู้ว่าความหลังระหว่างแพรวกับมิวท์เป็นมายังไง? ต่างคนต่างเดากันไปต่างๆนาๆแต่ก็หาข่้อสรุปไม่ได้ รู้แต่ว่าต้องพยายามพามิวท์ไปเรือนพยาบาลให้เร็วที่สุด

.

สบโอกาสแพรวเลยถามขึ้น

.

"ใช่! , ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงติดต่อใครในนี้ไม่ได้เลย! เจนิสอยู่ที่ไหน?! เธอไม่ได้อยู่ในบ้านด้วยซ้ำ? มีใครเห็นเจนิสบ้าง?!"

น้ำเสียงค่อนข้างดุ ประกอบกับแสงไฟหน้ารถที่สาดส่องเข้ามาก็เลยเหมือนกับมีออร่าบารมีแผ่ออกมาจากแพรวแบบเต็มๆ ชนิดที่ใครเห็นก็ต้องกลัว

.

กลุ่มชาววิลเลจไทมุงที่ยังคงยืนออกันอยู่วงนอกสุดก็เลยแตกฮือออก พวกเขาพยายามกวาดสายตามองหาเจนิสช่วยกัน ก่อนจะพบว่าสาวมัธยมผู้ดำรงค์ตำแหน่งรักษาการ บัดนี้ได้สลบเหมือดอยู่ที่ด้านหลังพร้อมกับจักรยานคู่ใจ!

.

อานุภาพแห่งความตกใจทำเอาเจนิสช็อค! เธอรู้ว่าแพรวกลับมาแล้วหลังเจอกับโบ๊ทที่บนกำแพง ทว่าโบ๊ทก็ได้บอกกับเจนิสว่าแพรวอยู่ที่เรือนพยาบาล พอหล่อนปั่นจักรยานมาหาก็ดันไม่เจอตัวจริงอีก ทั้งเรือนพยาบาลมีแต่ชาวจีนที่เธอสื่อสารด้วยไม่เข้าใจ สุดท้ายจึงลองปั่นจักรยานย้อนกลับมาที่บ้านพักดู จนกระทั่งมาพบกับความจริงที่ว่าแพรวกับมิวท์ทำร้ายกันจนปางตายนี่แหละ!

.

คนกลางที่ขั้นอยู่ระหว่างคนสองคนก็เลยช็อคจนหมดสติไป! เจนิสรักมิวท์มากแล้วก็เคารพแพรวในฐานะพี่สาวคนหนึ่ง เจอแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็คงทำอะไรไม่ถูก หน้ามืดลมใส่หลับแบบหนีความรับผิดชอบไปแม่งซะเฉยๆ

.

ฟ้าใกล้จะสาง..ตะวันกำลังจะขึ้น และท้ายที่สุดแล้วเหตุการณ์อลม่านหน้าบ้านหนนี้ก็ไปจบลงที่เรือนพยาบาล เจนิส , มิวท์ , นอนหลับให้น้ำเกลืออยู่ที่เตียงใกล้กัน ส่วนแพรวนั้นถูกจัดให้อยู่ในโหมดของคนนอก เธอต้องไปนอนอยู่ในห้องคัดกรองปะปนกับพวกเฟิงฉินและลูกทีมคนอื่นๆที่บาดเจ็บ พวกเธอจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสีแดงเข้มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

.

.

ซึ่งแบบนี้ก็ดีแล้ว.. ลองจัดให้เจนิส , แพรว , กับมิวท์ นอนอยู่บนเตียงข้างกันสิ! ตื่นมาคงไม่แคล้วตบกันอีรุงตุงนังอีก!

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า