Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 127 : ตัดสลับฟาก)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 127 : ตัดสลับฟาก

  • 25/04/2565

พุ่มไม้สั่นกระเพื่อมกระจุยกระจาย กิ่งก้านสาขาหักระเนระนาดคล้ายมีสัตว์กัดกันอย่างบ้าระห่ำอยู่เบื้องหลัง ยามเฝ้าประตูเห็น ทีมแพทย์ทุกคนก็เห็นแต่ไม่มีใครใส่ใจ พวกเขาจินตนาการไปไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะบังเกิดขึ้นได้ พูดไปใครจะเชื่อว่าใต้กอไม้ดังกล่าวจะมีการใช้นิ้วแหย่แยงร่องสวาทของกันและกันอยู่!

.

กอดกันกลมเป็นงูเขียว ทั้งมิวท์และเจนิสต่างใช้มือป้องปากกันและกันเอาไว้เพื่อไม่ให้มีแม้แต่เสียงกระซิกลอดออกมา มันเสียวอย่างกับอะไรดี! เนินหน้าท้องจรดถึงหัวหน่าวสั่นกระเพื่อมเกร็งสะบั้น ในวินาทีสำคัญที่จุดสุดยอดพุ่งทะลัก ปลายนิ้วชี้ของมิวท์ปักคาอยู่ในแคมของเจนิส ส่วนปลายนิ้วกลางของเจนิสก็แหย่คาอยู่ในร่องหีของมิวท์เช่นกัน พวกหล่อนไม่มีใครยอมใคร! ต่างกระทุ้งมากระทุ้งกลับตาต่อตาฟันต่อฟัน!

.

ภาพสุดท้ายจึงออกมาเป็นการหอบแฮ่กๆ ของคนทั้งคู่ พวกหล่อนซบหน้าเข้าหากันอิงอกแนบหัวไหล่ ก่อนจะเผยอหน้าขึ้นโปรยยิ้ม นี่จึงนับเป็นการเสร็จแบบเฉพาะกิจ! เป็นการหลั่งน้ำเงี่ยนแบบหญิงรักหญิงเวอร์ชั่นเอาท์ดอร์ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น!

.

สาสมแล้วกับการเรียกสิ่งนี้ว่า "บูธเตอร์" เพราะตัวกิจกรรมนั้นทำให้อารมณ์กำหนัดเงี่ยนของมิวท์และเจนิสพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด!!! ชนิดที่ถ้าเอาก้านตรวจเชื้อ swab มาคว้านในโพรงจิ๋มดู แล้วหยดน้ำยาในชุดตรวจ ATK ลงไป รอผลอีกราว 30 นาที ผลก็คงจะออกมาเป็นลบ เพราะโควิดนั้นมีชีวิตอยู่ในน้ำเงี่ยนแห่ง "รัก" ไม่ได้!

.

"เสร็จแล้วค่ะพี่มิวท์.. ป่ะ! เราเข้าไปข้างในวิลเลจกันเถอะ"

เด็กสาวกระซิบชวน

.

"อืม.."

มิวท์ตอบกึ่งอมยิ้ม เธอชันกายลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือน้องให้ลุกขึ้นตาม

.

เป็นไงเป็นกัน! หลังจากทำใจดีสู้เสือเสี่ยงตายเข้าไปตรวจ ผลก็ออกมาเป็นจริงอย่างที่มิวท์คิด กระบวนการตรวจเชื้อแบบ Rapid Test ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว หมอคือคนที่มิวท์พามา ส่วนพยาบาลก็ล้วนแต่เป็นคนของเจนิสทั้งสิ้น ผลแลปต่างๆก็เลยอ่านค่าออกมาได้่อย่างง่ายดาย ว่า "ผ่านฉลุย!" สวนทางกับผู้อพยพแปลกหน้ารายอื่นๆ ที่กว่าจะผ่านเข้าวิลเลจได้ก็ต้องตรวจแล้วตรวจอีกเพื่อความแน่ใจ

.

เหตุฉะนี้การบูธด้วยความเงี่ยนจึงเป็นอันสำเร็จ! ทฤษฎีเย็ดกันแบบรักร่วมเพศของเจนิสได้ผล! ผู้หญิงกับผู้หญิงเอากันขอแค่หลั่งน้ำเสียวแห่งความรักออกมาได้โควิดก็จะไม่แสดงอาการ ผู้ที่ผ่านการร่วมรักจะไม่ถึงกับตาย แล้วก็จะอยู่ได้ไปแบบนานๆ โดยไม่ต้องง้อก๊าซจากเลือดกระเทยของบริษัท AP แต่อย่างใด

.

มันจึงเวิร์คซะยิ่งกว่าเวิร์ค! ตกเย็นวันนั้นหลังจากชวนกันตรวจตรากิจกรรมต่างๆในวิลเลจ สลับกับการแนะนำตัวว่าแต่นี้ต่อไปมิวท์กับเจนิสจะช่วยกันดูแลที่นี่ สาวมัธยมก็ได้ชวนรุ่นพี่ให้เข้ามาอยู่ด้วยกันในกระท่อมหลังหมู่บ้าน มันเป็นเรือนไม้หลังเล็กหลังคามุงจากที่ทั้งน่ารักแล้วก็น่าอยู่ เจนิสไม่ต้องการให้มิวท์ไปไหนอีกแล้ว เธออยากให้พี่สาวที่เธอรักอยู่ด้วยกันที่นี่จะได้เป็นแหล่งต้านเชื้อให้แก่กันและกัน และถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็! จะคืนไหนก็คืนนั้น! จะเย็ดกันเมื่อไหร่ก็ได้!

.

นอกชานระเบียงที่ยื่นเอียงออกมาด้านนอก ลมโชยมาเบาๆ ท้องฟ้าดำมืดมองเห็นดาวระยิบระยับ มิวท์ในชุดคลุมตัวหลวมยืนจิบกาแฟอยู่ด้านบน สายตาเธอจดจ้องไปบนฟากฟ้าแล้วก็เหม่อลอยคล้ายกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

.

"ซีดดดดดดดดด!..."

เธอเผลอครางออกมา

.

"เงี่ยนเหรอคะพี่..?"

เจนิสในชุดนอนเดินเข้ามาโอบจากทางด้านหลัง ทำเอาคนที่จือปากอยู่ถึงกับสะดุ้ง!

.

"อุ๊บ!.. เปล่าซะหน่อย!"

"ฉันก็แค่เป็นห่วงงานบนกำแพงน่ะ.. มองไปทางโน้นสิ! เห็นไหมว่าฟ้ามันเป็นสีแดงๆ แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงปืนด้วย! บางทีเราอาจจะต้องแวะไปดูสักหน่อย คงจะมีการปะทะกันระหว่างฝูงผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น!?"

.

ร่างบางพยายยามจะแกะมือของน้องออกจากลำตัว ทว่าเจนิสกลับเลือกที่จะไซร้มือขึ้นไปอังเข้ากับหน้าอกอูมๆของมิวท์แทน ก่อนจะแย้งขึ้น

.

"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะพี่.. หนูเตรียมการให้พวกเขาไว้แล้ว นี่เป็นเรื่องปกติของชาววิลเลจเรา เราเจอสิ่งนี้กันอยู่ทุกวันและอีกไม่นานไฟก็จะถูกตัด มันจะมืดได้ยิ่งกว่านี้อีกนะคะ! หนูว่าคืนนี้เราควรจะพักผ่อนกันก่อน.. เราเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วนะคะพี่มิวท์"

.

เจนิสพูดแบบนั้นก็จริง แต่มือนี่สิที่ซุกซนไม่ยอมหยุด เธอยังคงสอดมันเข้าไปใต้ชุดคลุม พลางแตะคลึงอยู่กับหัวถันของมิวท์เป็นว่าเล่น เดือดร้อนให้รุ่นใหญ่ต้องตวัดตัวกลับหลังหันมาขอเคลียร์!

.

"พรึบ!!"

.

"ไม่ค่ะน้อง! , อย่า! , ฉันไม่ต้องการแบบนี้!"

"บนกำแพงก็เรื่องหนึ่ง แต่ฉันก็ยังมีความกังวลใจอยู่อีกเรื่อง!"

"ตอนนี้แพรวไม่อยู่ก็จริง.. แต่ถ้าวันหนึ่งแพรวกลับมาล่ะ..พวกเราจะทำยังไงเจนิส!?"

.

"อะ..เอ่อ?!"

.

"เห็นไหมขนาดเธอยังตอบไม่ได้เลย! ถ้าเธอรู้ว่าฉันทำเรื่องแย่ๆกับแพรวไว้ขนาดไหน เธออาจจะไม่คิดกับฉันแบบนี้ก็ได้ ความสัมพันธ์ของพวกเราจะดำเนินไปได้สักเท่าไหร่กัน??!"

.

"พี่มิวท์.. เรื่องนั้นมันก็แบบ..บ..บ..บ จะว่ายังไงดีล่ะ.."

.

มือเรียวหลุดพร็อยออกจากเรือนร่าง เจนิสไม่มีอารมณ์จะทำรักได้อีกต่อไป สองร่างกายยืนคอตกหันหน้าเข้าหากัน ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดดำกับเสียงปืนดังก้องกังวานอยู่ไกลๆ ในใจพวกเธอระส่ำหนัก ความสัมพันธ์ชั่วคราวอาจจะเป็นไปได้ แต่มันจะออกมาอีท่าไหนถ้าแพรวผู้อยู่ไกลมารับรู้เรื่องนี้เข้า! โดนหักหลังจากมิวท์ก็ทีหนึ่ง! แล้วนี่ก็กำลังจะกลายเป็นมิวท์อีกทีที่มายึดครองหัวใจของน้องสาวที่แพรวโคตรจะไว้ใจไปอีกหน! นี่มันจะมะรุมมะตุ้มไปถึงไหน? มันจะมีอะไรเละเทะไปกว่าความสัมพันธ์ของพวกเธออีกไหมในโลกใบนี้!?

.

.

ตัดภาพกลับมาที่ฟากฝั่งของแพรวผู้ถูกกล่าวถึง

.

"นี่ครับพี่ทิชชู่!"

โบ๊ทเด็กน้อยเจ้าของโดรนส่งกระดาษให้ คาราวานของพวกเขาน่าจะมาถึงมหานครลำปางกันแล้ว และบัดนี้รถออฟโร้ดทั้ง 4 คันก็หยุดห้ามล้อลงตรงที่ซุ้มประตูทางเข้าอาณาเขต

.

"พี่จะจามฟุดฟิดแบบนี้ไม่ได้นะครับพี่แพรว.. คนอื่นเขากลัวพี่ไปหมดแล้ว.. และถ้าพี่ติดเชื้อจริงผมนี่แหละจะใช้โดรนจัดการกับพี่เอง!"

โบ๊ทตวาดขู่เสียงแข็ง ดูก็รู้ว่าเขาก็อปคาแรกเตอร์สุดโหดนี้มาจากใคร

.

"อ่าๆ..พี่รู้น่ะ! พี่ว่าพี่ต้องโดนใครสักคนนินทาอยู่แน่ๆเลยถึงได้จามออกมา! ขอบคุณมากนะสำหรับกระดาษ เราคงต้องตั้งแคมป์กันตรงนี้ก่อนแหละโบ๊ท ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้าไปข้างในกัน ที่นี่หนาวมากๆแล้วกลางคืนก็ไว้ใจอะไรไม่ได้ด้วย วานส่งข้อความไปบอกเพื่อนคนอื่นๆในทีมด้วยนะ^^"

.

"รับทราบครับพี่แพรว!"

.

กระโจนลงจากข้างรถออฟโร้ดยกตัวถังสูง โบ๊ทจัดแจงทำตามคำสั่งทันที คาราวานของพวกเขาร่วม 15 ชีวิต บวกกับเด็กๆเลือดบริสุทธิ์อีกราว 10 กว่าคนในกรงขังด้านหลังได้หยุดพักกันสักที การเดินทางอันยาวนานยุติลงพร้อมกับความหวังตรงหน้าว่าจะเป็นจุดสิ้นสุด เสบียงเริ่มร่อยหรอ กระสุนดินดานก็ใช้ไประหว่างทางจนเกือบหมด จึงได้แต่หวังว่าให้คนๆ นั้นที่กำลังตามหาอยู่ยังคงอยู่ในพื้นที่!!!

.

เขาคือชายผู้กอบกู้โลก บุรุษหนุ่มผู้แบกองค์ความรู้ที่ว่า.. "มีวิธีการในการหยุดเชื้อโควิดที่กำลังระบาดอยู่ ณ ปัจจุบันได้!" ได้โปรดเถอะ! ขอร้องให้เขายังอยู่ในเมืองลำปางที! คาราวานของแพรวไม่เหลือเรี่ยวแรงพอที่จะไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว..

.

ถนนคอนกรีต 10 เลนว่างโล่งโจ้ง! พื้นถนนแตกระแหงมีผิวดินกับต้นหญ้าเสียดแทงขึ้นมาเป็นหย่อมๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่กลายเป็นสีเทาคล้ายกับเศษขึ้เถ้า! ฝุ่นผงโขมงโฉงเฉง! ซุ้มกำแพงเมืองตั้งตระหง่านง่อนแง่นราวกับจะล้มแหล่มิล้มแหล่ มิหนำซ้ำป้ายยินดีต้อนรับที่ประดับประดาไว้ข้างกันก็ยังพับงอห้อยต่องแต่งลงมา จนไม่เหลือสภาพว่าจะไปต้อนรับใครหน้าไหนได้..

.

จากมุมมองภายนอกที่มองเข้าไป ลำปางตายสนิทแบบไม่มีทีท่าว่าจะมีผู้คน! สภาพมันคือเมืองร้างที่ถูกปล่อยทิ้งโดยไม่ต้องสงสัย! อาคารร้านรวงปิดสนิทแนบแน่น บางส่วนเริ่มผุพัง ในขณะที่บางหลังก็มีการตอกฝาไม้กระดานป้องกันเอาไว้ประหนึ่งรู้ว่าพอตกกลางคืนแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น! เสียงโหยหวนดังแว่วมากับเสียงลมเป็นระยะ บรรยากาศมันเหมือนกับหนังสยองขวัญสักเรื่อง ที่ตัวเอกตายห่ากันหมด แล้วก็เหลือแต่ผีห่าซาตานทิ้งไว้ให้เฝ้าเมือง~~

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า