ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่ แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตมันก็ต้องก้าวต่อไป! แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้… แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง
.
เธอค่อยๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่างๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน? ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า?
.
“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ…Noๆๆ! , ไม่ใช่ล่ะ! , เป็นไปไม่ได้!!”
“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง…เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด..”
.
กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า มันจะสร้าง damage ได้สักเท่าไหร่กัน?!
.
แต่ครานั้นเจนิสก็หาได้ใส่ใจ! เธอยังคงด้อมๆ มองๆ ต่อไปโดยไม่ลดละ
.
“หลังเสาตอม่อน่าสงสัยที่สุด..?”
“ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติจุดนี้มักจะเป็นที่ๆ ผู้ชายมักจะมายืนฉี่กัน เพราะมันค่อนข้างเปลี่ยวและเป็นมุมอับ แต่พอมาเป็นช่วงนี้แล้วล่ะก็.. บอกเลยว่ามีความเป็นไปได้สูงเหมือนกัน ที่จะมีคนใช้ที่นั่นเป็นจุดซุ่ม!!”
.
ร่างบางเยื้องย่างแช่มช้า เจนิสผสานทุกข้อมูลที่ได้รับมาเข้าด้วยกัน ก่อนจะพบว่าแม้แต่เสียงจิ้งหรีดที่เจ้าตัวสงสัยเมื่อครู่ ก็ยังดังออกมาจากเสาตอม่อต้นนี้ด้วย! ขาดแค่หลักฐานว่าเธอคิดถูกหรือเปล่า!? เจนิสจึงตัดสินใจพุ่งทะยานเข้าไปแบบไม่ให้เหยื่อตั้งตัว!!!
.
“ฟุบบบบบบ!!!!”
.
“หวี๊ดดดดๆๆ , หวี๊ดดดดๆๆ , กึกๆ , แคล๊กกกกก..ก..ก , กึกๆ”
“หวี๊ดดดดๆๆ , หวี๊ดดดดๆๆ , แคล๊กกก..ก..กๆ , แคล๊กกกกๆๆ , หวี๊ดดดด!!!”
.
ไม้พลองที่ถูกง้างขึ้นสุดแขนแทบจะล่วงหลุดออกจากมือ ท่าทางเกรี้ยวกราดของสาวมัธยมหายไปในบัดดล ทันทีที่ได้เห็นเจ้าสิ่งนี้เข้า!
.
“มะ..ไม่ใช่คนนี่… แต่เป็นหุ่นยนต์?!”
หรี่ตาดูอย่างพิถีพิถันอีกที กระทั่งเหลือบไปเห็นใบพัดจำนวน 4 ใบที่ติดตั้งไว้รอบตัว เจนิสจึงรู้ว่าที่แท้เจ้านี่ก็คือ “โดรน” หรือ “อากาศยานไร้คนขับ”
.
ดูท่ามันจะเสียหายหนักมาก มีประกายไฟสปาร์คเป็นระยะพลางส่งเสียงจี่…วี๊ดๆๆๆ ออกมาเรื่อยๆ จนละม้ายคล้ายกับเสียงจิ้งหรีดร้องตามที่เจนิสสังสัย ตรงจุดกึ่งกลางเครื่องมีหลอดไฟสีแดงสว่างติดๆ ดับๆ ราวกับกำลังแจ้งเตือนสถานะอะไรบางอย่าง จนสุดท้ายเจนนิสก็อดเห็นใจไม่ไหว มีอันต้องยื่นมือเข้าไปช่วย!
.
ไม่สิ! ถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าเอาไม้เขี่ยช่วยและแงะออกมามากกว่า..
.
“ฮึบ!! ไหนดูซิว่าพอจะบินได้อยู่ไหม, ฮึบ! , ฮึ่ย!!! , นี่ฉันช่วยแกแล้วนะ!”
.
ปีกด้านซ้ายถูกงัดออกจากซอกตอม่อ และในที่สุดเจ้าโดรนลำนี้ก็บินหลุดออกมาได้จริงๆ แต่ก็โชคร้ายอย่างหนึ่งที่บินได้แค่ต่ำๆ ในระดับหัวไหล่ของเจนิสเท่านั้น ไฟสถานะของมันยังคงติดๆ ดับๆ เสียงใบพัดก็ดังอื้ออึงไม่สม่ำเสมอ คล้ายจะตกมิตกแหล่ ดูท่าไม่ดีเอาซะเลย! แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะทำยังไงกับมันต่อไป เจนิสก็เลยสอดมือยกแม่มทั้งลำไปหาแพรวกับเพื่อนๆ
.
.
น้ำหนักราว 2 -3 Kg. เส้นผ่านศูนย์กลางวัดจากซ้ายไปขวาได้ราว 1 - 2 ฟุต ใบพัดเสียหายใช้การติดขัด แต่สถานะและระบบสั่งการทางไกลยังคงทำงานอยู่ หลักฐานคือการกระพริบของดวงไฟที่ติดตั้งมา
.
“นี่คือ Riot โดรน…”
แพรวเอ่ยปากบอก แสงไฟจากถังน้ำมันตรงกลางแคมป์ลุกโชติช่วงย้อมบรรยากาศ เช่นกันกับบรรดาพวกเด็กๆ ที่ต่างก็ทำตาโตลุกวาว ต่างคนต่างอยากรู้ว่าไอ้ “Riot โดรน” ที่แพรวว่ามันคืออะไร
.
ทว่าแพรวกลับเลือกที่จะแสดงให้ดูแทนการตอบด้วยคำพูด ร่างบางสะบัดผ้าห่มทิ้งกันความเกะกะ ก่อนจะทำการเหยียบย่ำลงไปที่ตัวโดรน แล้วตะแคงสันเท้าแงะเข้าไปให้ถึงภายใน เพื่องัดเอาสิ่งที่มันซุกซ่อนเอาไว้ให้โผล่ออกมาให้เห็น ปรากฏว่ามีตับกระสุนเจาะเกราะขนาด 50 BMG หล่นออกมาเพียบ! ถัดลงมาหน่อยเป็นกล้องสโคปเลนซ์ซูม 40 มม.สำหรับติดบนปืนไรเฟิล แถมยังมีศูนย์เล็งแบบจับความร้อน Red dot ติดมาด้วยอีกต่า่งหาก!
.
แพรวเตะโดรนพลิกสลับด้าน คราวนี้เธอใช้ฝ่ามือแงะบางส่วนที่เป็นเกราะด้านนอกออก เผยให้เห็นอาวุธอีกจำนวนมากที่ถูกยัดเข้ามาในโดรนลำนี้! หนึ่งในนั้นคือเครื่องยิงวัตถุระเบิด Grenade launcher รุ่น M203 แบบเดียวกับที่กองทัพสหรัฐใช้ติดตั้งไว้บนปืนกลกึ่งอัตโนมัติให้แก่ทหารที่ไปรบในสงครามซีเลีย ขีดความสามารถสูง สามารถเปลี่ยนลูกระเบิดเป็นแก๊สน้ำตาได้ ในกรณีที่ต้องการใช้เพื่อสลายการชุมนุม หรืองานด้านการรักษาความปลอดภัย
.
“นี่แหละคือ Riot โดรน!”
“เด็กๆ เอาเป้มาเก็บยุทธภัณฑ์เหล่านี้ไปหน่อยเร็ว! ฉันว่ามันช่วยเราได้เยอะเลยล่ะ เธอเยี่ยมมากเจนิสที่อุ้มมันมาถึงที่นี่”
แพรวหันมายกนิ้วให้ ส่วนเท้าด้านล่างก็ได้ทำการเตะพลิกด้านให้โดรนกลับมาตั้งตรงตามเดิม รอพวกเด็กๆ มาจัดการตามคำสั่งอีกที
.
แต่ทว่าเจนิสก็ยังอดสังสัยไม่ได้อยู่ดี เธอจึงถามขึ้น
.
“เอิ่ม…คือ…แล้วตกลงพี่จะไม่บอกเราหน่อยเหรอคะว่าไอ้ “Riot โดรน” เนี่ยะมันคืออะไร? ตอนนี้เหมือนพี่รู้เรื่องอยู่คนเดียวอ่ะ! ซึ่งมันไม่แฟร์เลย!”
.
“หึ…เธอนี่ช่างอยากรู้อยากเห็นสมเป็นเด็กซะจริงเชียว สรุปให้สั้นๆ ก็คือ “Riot โดรน” นั้นเป็นหนึ่งในนวัตกรรมรุ่นเรือธงของบริษัท AP มีหน้าที่หลักเป็นงานด้านการทหาร ภายในตัวถังจะอัดแน่นไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ ว่ากันว่ามันคือผลงานที่จะเป็นพระเอกหากเกิดสงครามโลกครั้งใหม่ขึ้น ทหารหน่วยหน้าจะตายน้อยลง และคนสั่งการตัวจริงก็อาจจะเป็นแค่เด็กติดเกมส์สักคนหนึ่ง ที่สั่งงานทุกอย่างผ่านแป้นคีย์บอร์ดในห้องแอร์แล้วก็เคี้ยวป็อปคอร์นไปด้วย"
.
“มีข่าวลือออกมาเหมือนกันว่าทีมวิจัยและพัฒนาของ AP มีการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ถ้าไม่เกิดภาวะโควิดระบาดซะก่อน เราอาจได้เห็น Riot โดรนรุ่นพิเศษ ที่ดร็อปอาวุธหนักลง แล้วชดเชยด้วยปืนยิงตาข่ายและแก๊ซน้ำตาก็เป็นได้! แต่นั่นก็แค่ข่าวลือหรอกนะ ฉันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันหรอก ก็แค่อยากเล่าสิ่งที่รู้ให้พวกเธอฟัง”
.
“โป๊ก! , โป๊ก! , โป๊ก! , แกร๊กกกกกก…ก…ก , โป๊ก! , โป๊ก!!”
เสียงพวกเด็กๆ กำลังงัดอาวุธจากโดรนออกมาใช้ จะมีก็แต่เจนิสกับแพรวนั่นแหละ! ที่ยังคุยกันจ้อกินแรงชาวบ้าน
.
“โหแค่นี้ก็สุดยอดแล้วพี่แพรว… แล้วนี่พี่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงคะ?”
.
“บัดโถ่เอ๊ย…ก็เปรมกับมิวท์มันเคยเป็นเพื่อนสนิทฉันมาก่อนยังไงเล่า… เธอลืมไปแล้วหรอ? คงไม่ต้องเล่าซ้ำมั้ง?!”
.
“เหอะๆ จริงด้วย… หนูดันลืมไปซะสนิท! เอาเป็นว่าหนูจะไม่ซักไซร้พี่มากแล้วกัน เพราะหนูรู้ว่าพี่คงไม่อยากพูดถึงเพื่อนเก่านัก..”
.
“ช่ายยยย… ไม่จำเป็นซะหรอก”
“เธอน่ะรีบหันหลังไปช่วยเพื่อนได้แล้ว จับกระเป๋าเป้ถ่างปากถุงให้เขาหน่อยก็ยังดี อย่าเอาแต่กินแรงคนอื่น”
.
เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันพอพูดถึงมิวท์ทีไรฮอร์โมนสายY ในตัวมันเหมือนจะทะลัก จู่ๆ เธอก็หน้าแดงแล้วก็ยิ้มออกมาเองอย่างไม่ทราบสาเหตุ ครั้นจะหยิบจับอะไรก็มือไม้อ่อนไปหมด จนเพื่อนต้องรีบกระเถิบตัวถอย!
.
เปล่าๆ! นี่ไม่ใช่ความผิดของเจนิสแต่อย่างใด! แต่เป็นเรื่องของกลไกเทคนิคที่ถูกฝังไว้ในตัวโดรนต่างหาก! เด็กๆ ต่างกุลีกุจอถอยห่างออกมา ในวินาทีเดียวกันกับที่ตัวเครื่องเริ่มสั่นแล้วก็ร้อนขึ้น!!! Riotโดรนปรับองศาใบพัดได้ด้วยตัวเอง ไฟสถานะก็เปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว ซึ่งไม่มีใครรู้สักคนว่ามันหมายถึงอะไร?
.
มันเริ่มลอยขึ้นจากพื้นแบบกระท่อนกระแท่น ก่อนที่ต่อมาจะมีท่อสั้นๆ ยื่นออกมาจากใต้ลำ พลันหมุนเป็นวงกลม 360 องศารอบตัวเอง!
.
“หนูจับตรงส่วนท้องครั้งล่าสุด มันร้อนมากเลยค่ะพี่แพรว!!”
เด็กหญิงคนหนึ่งพยายามรายงาน
.
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ระวังตัวด้วยนะเด็กๆ!”
.
พูดยังไม่ทันขาดคำระบบป้องกันตัวเองของ Riot โดรนก็ทำงาน! โปรดอย่าลืมว่าปืนไฟหรือ (Flamethrower) ก็เป็นหนึ่งในอาวุธยุคสงครามโลกเหมือนกัน! โดรนก็เลยพ่นไฟบรรลัยกัลป์ออกมาฟู่…..! ฟู่…..! หมุนวน 360 องศา! เพื่อขับไล่กลุ่มคนที่คิดจะงัดแงะตัวมันออกไปให้พ้น!