ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ปาดดวงเนตรก้มลงมองแผนที่ในมือด้วยความฉับไว ระบบประมวลผลจากแกนสมองสอดประสานกับภาพจำในเมมโมรี่ ได้ออกมาเป็นเส้นทางเดินแบบสามมิติที่แพรวนั้นมองเห็นอยู่คนเดียว! มันกระพริบวูบวาบเป็นจุดนำทางราวกับระบบค้นหาในวีดีโอเกมแบบโอเพนท์เวิร์ล! เพียงแค่นำทุกคนเดินไปตามนั้นความปลอดภัยก็จะบังเกิด
.
“ข้างหน้ามีร้านมินิมาร์ท! ทุกคนตามฉันมา! เราจะหาก๊าซเพิ่มกันที่นั่นแล้วก็พักกันสักแป๊บ!”
แพรวออกคำสั่งไปพลาง แล้วก็เดินนำหน้าทุกคนไปด้วย
.
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในมือสาวเจ้า จะมีเพียงไม้หน้าสามที่ฝังตะปูไว้ตรงหัวเป็นอาวุธเท่านั้น นั่นแสดงว่าแพรวค่อนข้างมั่นใจในแผนที่ของตัวเองอยู่พอสมควร เธอไม่กลัวเลยสักนิดว่าจะมีพวก AP ดักอยู่รึเปล่า? แล้วก็ไม่กลัวด้วยว่าจะมีคนจากแคลนอื่นซุ่มดูอยู่หรือไม่?
.
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว สถิติที่บันทึกไว้บวกกับประสบการณ์ที่เคยปะทะกับกลุ่มต่างๆ ตรงนี้มาก่อน ทำให้แพรวค่อนข้างคุ้นชินกับพื้นที่
.
จนกระทั่งเจนิสต้องขอขัดจังหวะขึ้น
.
“ช้าหน่อยพี่แพรว! … พวกเราตามไม่ทัน! ข้างหลังยิ่งมีแต่คนแก่ๆ อยู่!”
ที่ต้องบอกเพราะทุกครั้งที่ผินหน้ามองกลับหลัง คนที่รั้งท้ายขบวนดันกลายเป็นลุงกับป้าที่ชรามากแล้ว! คนจากบ้านพักคนชรารึจะเร็วกว่าวัยรุ่นหนุ่มสาว… มันเป็นไปไม่ได้เลย!!!
.
ทว่าแพรวกลับเห็นต่าง! เธอยังคงมุ่งหน้าตรงดิ่งไปที่ร้านมินิมาร์ทข้างทางแบบไม่วอกแวกเสียสมาธิ พลันพูดบางอย่างออกมา ที่ทำเอาเจนิสกับคนอื่นๆ ถึงกับต้องเงียบปากไปเลย!
.
“โถ่แม่สาวน้อย…!!”
“ช้าก็ได้ตายกันพอดีสิจ๊ะ?! เราเหลือก๊าซแค่ 3 กระป๋อง! ถ้าไม่รีบหาเพิ่มก็ได้ลงไปดิ้นกระแด่วๆ อีกทีสิ! คราวนี้พี่ช่วยไม่ได้แล้วนะ…ตายสถานเดียว!!! , ตายอ่ะรู้จักรึเปล่า!!!”
.
“อึก..ก…ก..ก”
เงียบกริบไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง แต่กลับให้ผลดีเกินคาด! เพราะคำพูดสั้นๆ แค่นั้นกลับทำให้ทุกคนในแคลนเพิ่มสปีดขึ้นมาอย่างทันทีทันใด!!! นี่แหละแพรว! เรื่องจิตวิทยาขอให้บอก ไม่งั้นเธอไม่นำพาทีมรอดมาได้เป็นสิบๆ หนทั้งที่มีแค่ไม้หน้าสามเป็นอาวุธในมือหรอก
.
.
ราวสามสิบนาทีผ่านไป ทันทีที่ปีนพ้นแท่นแบริเออร์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่พังถล่มลงมาจากทางด่วนด้านบนได้ ทุกสายตาก็ประจักษ์เข้ากับร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง โลโก้หน้าร้านเป็นรูปเลข 7 มีแถบสีส้มกับสีเขียวพาดคาดตรงกลาง น่ายินดีแต่ก็เหมือนกับทุกทีและทุกที่ในเมื่องหลวงแห่งนี้! คือร้างสนิท! ไฟโดนตัด! แล้วกระจกทุกบานก็แตกจนไม่อยู่ในสภาพที่จะรับลูกค้าได้อีกต่อไป!
.
สายตาของผู้นำจดจ้องมายังลูกทีมทุกคนแบบไม่ยี่หระ กระจับปากขบกันครุ่นคิดราวกับภายในดวงจิตนั้นกำลังสรรหาทรัพยากรบุคคลที่เหมาะสมกับเนื้องานอยู่ “Put the right man in the right job” สำนวนฝรั่งเขาว่ากันเช่นนั้น และแพรวเองก็กำลังทำแบบเดียวกันอยู่ เธอเล็งไว้แล้วว่าตู้กดก๊าซหยอดเหรียญตรงหน้าทางเข้าจะเป็นหน้าที่ของเธอ ที่จะเป็นคนงัด! ส่วนเจนิสกับแก็งค์เด็กหญิงให้คอยดูต้นทางไปพลางก่อน การบาดเจ็บหลังการขาดอากาศหายใจของเพื่อนจะต้องพักต่ออีกเล็กน้อย คงให้ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
.
ก็เลยเหลือแต่ 2 ผู้เฒ่าลุงป้าจากบ้านพักคนชรา แม้สองคนนี้จะไม่ค่อยมีบทบาทนัก หน้าตาท่าทางเป็นยังไงก็ไม่เคยได้ถูกพรรณนาถึงมาก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าพวกแกเป็นหนึ่งในทีม! สมาชิกแคลนจำต้องช่วยกันในทุกๆ บริบท แพรวจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องให้พวกแกช่วย
.
เธอตรงเข้ามาปรับกระชับสายเป้ให้แก่พวกเขา พลันชี้นิ้วเข้าไปภายในร้าน
.
“ลุงกับป้าเข้าไปดูในร้านให้หนูหน่อย! กระเป๋าเป้เบาๆ ว่างๆ แบบนี้กวาดอะไรได้ก็ยัดกลับเอามาให้หมด เสร็จแล้วออกมารอกันตรงนี้… ระวังตัวด้วยนะคะ!”
.
สั่งเสร็จก็หันกลับมาโฟกัสที่ตู้กดก๊าซบรรจุกระป๋องต่อ ปากบอกไม่รีบแต่พฤติกรรมแพรวเหมือนจะลนลานแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะคุณภาพของตู้ที่ผนึกแน่นราวกับตู้ ATM ก็เป็นได้! ซึ่งก็แน่ล่ะ! เพราะมันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของพวก AP นี่นา จะมาทำบางๆ กรอบๆ ให้โจรกรรมง่ายๆ ได้ยังไง? ไม่งั้นมันไม่ตั้งตระหง่านทนแดด, ทนฝน , ทนเชื้อ , มาได้นานถึงเพียงนี้หรอก
.
เจนิสกับเพื่อนประครองเพื่อนที่บาดเจ็บมานั่งลงแถวละแวก ต่างคนต่างดูแลกันเป็นอย่างดี แล้วก็มีเสี้ยวหางตาหนึ่งที่ทั้งหมดเหลือบมองมาที่ลุงกับป้า! แสงสว่างแห่งความหวังพุ่งเสียดแทงมาที่พวกแกจนต้องรีบตื่นตัว มันคือแรงกดดันที่โถมเข้ามาใส่โดยเจตนา แม้ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงพูด แม้ไมมีแม้แต่ท่างทางฮึดฮัดไม่พอใจ แต่ทั้งสองก็รู้ดีว่าคนแก่อย่างพวกตนควรจะมีประโยชน์อะไรบ้าง
.
“อะ..อืม…ได้เลยหนูแพรว! พวกเด็กๆ ด้วย! รอลุงกับป้าตรงนี้นะโปรดสนใจแต่ของสำคัญๆ อย่างกระป๋องก๊าซเถอะ ที่เหลือไว้เป็นหน้าที่พวกลุงเอง”
ป้าพยักหน้าเห็นพร้องต้องกัน ก่อนที่สองเฒ่าจะงกๆ เงิ่นๆ สืบเท้าก้าวผ่านกระจกหน้าร้านที่แตกละเอียดเข้าไปสู่ภายใน
.
.
ติ๊งต่องไม่มี แอร์ก็ไม่เย็น สิ่งแรกที่เห็นนอกจากเศษแก้วกระจกบาดคือแผงไฟเพดานที่ห้อยลงมาระเกะระกะ! ภายในเหม็นเหมือนของเน่า สองลุงป้าแทบจะเดินเอาหลังพิงกัน ฉากบรรยากาศมันเหมือนกับในหนังสยองขวัญหรือไม่ก็พวกเกม resident evil ภาครีเมคที่ภาพสมจริงโคตรๆ
.
การสนทนาแทบเป็นศูนย์ ลุงกับป้าแค่มองตากันก็รู้ใจ ลุงรีบตรงดิ่งไปที่ชั้นวางของโดยทันที แกพยายามกวาดขนมและของแห้งทั้งหมดที่พอจะกวาดได้ พลันมองข้ามแผนกที่เป็นเนื้อหมูหรือของสดที่เน่าเสียไปพลางก่อน ในกระเป๋าจึงมีแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงไม่กี่ซอง , ซอสพริก , น้ำปลาขวดเล็ก , ปลากระป๋อง , แล้วก็ผักกาดดอง ของทุกชิ้นล้วนเก่าเขรอะ กระป๋องก็บุบบี้ วันเดือนปีหมดอายุนั้นแทบไม่ต้องแคร์! เพราะจากสภาพที่ปรากฏอยู่ ก็มีความเป็นไปได้สูงเหลือเกินว่ามินิมาร์ทแห่งนี้น่าจะถูกคนอื่นเข้ามาค้นไปหลายครั้งหลายคราแล้ว
.
ถอนหายใจพรู… ลุงตะเบ็งเสียงขึ้น
.
“ทางนี้เสร็จแล้ว…ทางนั้นเป็นยังไง?”
.
“จ้า…อีกนิดนึง มีน้ำให้เก็บเพียบเลย กระเป๋าฉันไม่น่าจะใส่พอหรอกลุงเอ๊ย!! มาช่วยกันหน่อยสิ!!”
ป้าตะโกนกลับ โดยยังคงโน้มตัวเก็บขวดเครื่องดื่มหลากรสใส่ลงในกระเป๋า บางทีอาจจะเป็นเพราะความดีใจก็เป็นได้ถึงทำให้เกิดช่องโหว่ขึ้น!
.
ป้าไม่เอะใจเลยว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง ที่ตู้แช่น้ำเหล่านี้ยังมีของอัดอยู่เต็ม? ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนหรือใครมาจัดฉากล่อเอาไว้ก่อน??!!
.
หญิงชราชันกายขึ้นเตรียมแบกเป้บรรทุกน้ำขึ้นแผ่นหลัง และในเสี้ยวพริบตานั้นเอง! ที่บริเวณบานประตูกระจกตู้แช่ ก็ได้ปรากฏเงาของชายคนหนึ่งขึ้น! เขาสวมเสื้อฮูดคลุมศีรษะเข้มกำมะหยี่ สภาพสกปรกมอมแมมโสโครก ก่อนจะง้าง 9 มม. สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 459 โครงอัลลอย ขึ้นมานาบปากกระบอกเข้าหาบานกระจก
.
ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลาสักคำ…
.
“ปัง!!!!!!!”
.
ป้าล้มทั้งยืน!!! คมกระสุนพุ่งผ่านกระจกตู้แตกเป็นเสี่ยง เศษกระจุยบาดผิว ประกายไฟจากปากลำกล้องขนาด 4 นิ้ว เผาไหม้รุ่มร้อน มากพอที่จะส่งกระสุนยัดใส่สมองจนกระจุยกระจาย! ศีรษะป้าเว้าแหว่ง! แกทิ้งตัวลงนอนเสียชีวิตในเวลาเพียงเสี้ยวหายใจ!
.
“ตุบ!”
.
เช่นเดียวกับอีกฟากหนึ่ง… ลุงเองก็ไม่รอด! กระเป๋าเป้เสบียงถูกตัดสายทิ้งด้วยมีดคัตเตอร์ แกถูกจับล็อคจากทางด้านหลังโดยชายใสเสื้อฮูดอีกคน พวกมันทำงานกันเป็นทีม! ซึ่งก็อย่างที่บอกมาตลอด! ว่าเมืองหลวงแห่งนี้ผู้นคนมันแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า! ไม่ได้มีแต่แคลนของแพรวเท่านั้นที่เป็นผู้อยู่รอด และแสงไฟจากหน้ากากครอบแก้วที่ทุกคนใส่อยู่นั่นแหละคือปัจจัย! ความสีฟ้าสว่างโพลงของมันใครเห็นก็ต้องอยากได้ ชะตากรรมสุดซวยจึงตกเป็นของลุงกับป้า!
.
ลุงถูกผลักดันออกมายืนด้านหน้า มีคัตเตอร์จ่ออยู่ที่คอหอย พอดีกันกับชายเจ้าของปืนสมิธแอนด์เวสสันที่ตามมาสมทบ เหมือนพวกเขาพยายามที่จะต่อรองบางสิ่งบางอย่างกับพวกเด็กๆ อยู่