Your Wishlist

Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (nc18+) (บทที่ 66 : หนีแหละแต่เหมือนไม่หนี)

Author: L.sunanta

ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน

จำนวนตอน :

บทที่ 66 : หนีแหละแต่เหมือนไม่หนี

  • 02/12/2564

“นี่พูดจริงเหรอครับน้องแพรว… เมื่อวานเรายังต้านพวก AP ได้อยู่เลย น้องเจรจากับพวกเขาได้นี่?! พี่ว่ายังเร็วไปนะที่เราจะหนี!”

ถ้อยคำขลาดเขลาจากชายในแคลนตะเบ็งออกมาต่อหน้าทุกคน ณ ตอนนี้สมาชิกทั้งหมดได้แพ็คกระเป๋าและมายืนกระจายตัวอยู่เต็มสถานีชั้นล่างแล้ว ผนังโล้นโล่งเตียนทั้งสี่ด้าน ปราดสายตาดูทีเดียวก็เห็นกันหมดว่าที่นี่โคตรจะไม่ปลอดภัย และพร้อมจะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา

.

แพรวจึงโพล่งคำขึ้น

.

“หึ…พี่นี่สมกับเป็นนักเต้นระบำโป๊จริงๆ นะ! แต่ก็แล้วแต่พี่เถอะ! พี่จะไม่ไปก็ได้ใครอยากอยู่ต่อก็เชิญตามสบาย นี่คือแผนของหนู หนูให้เสรีภาพแก่ทุกคน เพราะหนูเองก็การันตีไม่ได้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดมันจะถูกต้องทั้งหมด ก็แค่ใช้การบันทึกสถิติกับชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ดู… สุดแต่ใครจะไขว่คว้าเห็นควรยังไงงานนี้ไม่บังคับ…”

.

สาวเจ้ายังคงย้ำชัดในจุดยืน เธอประทับเป้ขึ้นบนบ่าเรียบร้อย ไม้หน้าสามคู่ใจก็พร้อมกระชับขึ้นมือ เดินออกไปแค่ไม่กี่ก้าวโลกภายนอกอันเต็มไปด้วยเชื้อโรค ก็อ้าแขนรอรับเธออยู่ก่อนแล้ว ภารโรงหนุ่มที่เพิ่งปฏิสนธิกับนักเต้นระบำโป๊ไปเมื่อวานก็เลยขอเอ่ยคำขึ้นบ้าง

.

“ถ้างั้นพวกเราขออยู่ที่นี่ต่อล่ะกันน้องแพรว… เราต่างติดเชื้อกันทั้งคู่แล้วก็คงอยู่ได้อีกไม่นานเท่าไหร่นักหรอก… สู้อยู่ที่นี่แล้วคอยชะลอพวก AP เอาไว้ดูจะเข้าทีกว่า เราเหนื่อยเกินจะไปเป็นภาระใครแล้ว แล้วก็อยากจะอยู่ด้วยกันในวาระสุดท้ายของชีวิตด้วย ขอให้เราได้ตอบแทนน้องบ้างเถอะนะ…”

.

“แต่พี่คะ! … คือหนูไม่ได้รังเกียจอะไรพวกพี่เลยนะ..อย่าเข้าใจผิด! จะไปด้วยกันก็ได้แคลนเราไม่มีผู้ชายเลย ถ้ามีเหตุจำเป็นอาจจะต้องพึ่งพาพวกพี่ก็ได้”

.

“ไม่หรอกครับ…!”

.

จบประโยคนี้นักเต้นระบำโป๊ผู้เคยขี้ขลาด ก็ได้เดินเข้าไปโอบเอวนักการภารโรงเอาไว้ พวกเขาผ่านการสังวาชกันมาแล้ว! เชื้อผสมเชื้อ! กามผสมกาม! โควิดอาจจะอ่อนอำนาจลงไปบ้าง… แต่ฮอร์โมนในร่างกายนี่สิ! ที่ไม่เหลือความเป็นชายอีกต่อไป! การแสดงออกละม้ายคล้ายตุ้งติ้ง ทั้งสองพยักหน้าให้กันพลางทอดสายตาเป็นประกายวิบวับ

.

“เราจะอยู่ด้วยกันที่นี่… ความเป็นกระเทยจากสองเราอย่างน้อยก็น่าจะล่อพวก AP ให้เบนความสนใจมาหาได้บ้าง น้องแพรวจงไปซะเถอะ… เราขออวยพรให้ทุกคนโชคดี ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะเพราะยังไงเราสองคนก็ต้องตายเพราะติดเชื้ออยู่แล้ว ช่วยมีชีวิตต่อไปเผื่อพวกพี่ๆ ด้วยนะเด็กๆ”

.

คราวนี้หันมองมาทางเจนิสกับเพื่อน เล่นเอากลุ่มสาวมัธยมถึงกับสะอื้น ไม่ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวหรอกเพราะยังไม่ได้ผูกพันธ์กันขนาดนั้น แต่เจนิสกับเพื่อนก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่โคตรจะจริงใจของพี่ทั้งสองอยู่ดี เธอกับเพื่อนจึงเลือกที่จะเงียบ พลันแบกเป้ขึ้นหลังเตรียมเดินทางร่วมหัวจมท้ายไปกับแพรวแทน

.

สงบนิ่งสรุปความเช็คยอดกันอยู่สักพัก ท้ายที่สุดก็ได้ความออกมาว่า จะมีแค่พวกเด็กๆ กับคนชราแล้วก็แพรวเท่านั้น ที่จะได้ไปต่อตามแผน แพรวไม่อาจปฏิเสธเจตจำนงค์อันใหญ่ยิ่งของพี่นักการกับพี่นักเต้นเอาไว้ได้ แม้พวกเขาจะเป็นชายใจเป็นหญิง แต่สิ่งที่เขาเสียสละนั้นก็หาได้ยากยิ่งในสังคมที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว จนแพรวรู้สึกเสียดายเหลือเกิน ที่หาสิ่งแทนใจที่เลอค่ามากกว่านี้มาให้ไม่ได้

.

เธอลงทุนฉีกชายเสื้อยืดตัวเก่งของตัวเองออก… เสียงดัง

.

“แคว๊กกกกกก!!!”

.

เผยให้เห็นหน้าท้องอันแบนราบกับรอนกล้ามเลขสิบเอ็ด ตามสไตล์ของสาวหุ่นดีที่โชกโชนการต่อสู้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น! เพราะสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อก็คือของแทนใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ตั้งใจจะมอบให้แก่กันไว้เป็นที่ระลึก

.

มือเรียวรีบควักปากกาเมจิกด้ามเมื่อคืนออกมาเขียนชื่อตัวเองลงไป ต่อด้วยการกวักมือเรียกสมาชิกคนอื่นๆ ให้มาช่วยกันลงลายมือชื่อและเขียนคำอวยพรต่างๆ ลงในเศษผ้า เพื่อตอกย้ำว่าจะไม่ลืมกัน และจะจดจำร่วมกันว่าครั้งหนึ่งเราเคยฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกันมาก่อน…

.

“น่าเสียดายนะพี่ที่โทรศัพท์กับเน็ตมันล่มไปหมด ไม่งั้นเราคงได้ทิ้งที่อยู่ไว้ติดต่อกันบ้าง”

แพรวพูดขณะดูน้องๆ สลับกันเขียน

.

“ใช่…ไปรษณีย์ก็ไม่มี ตึกสำนักงานโดนย่อยแทบไม่เหลือ แต่ได้แค่นี้พวกพี่ก็ดีใจมากแล้วล่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะ เราจะเก็บผ้าชิ้นนี้ไว้เป็นอย่างดีเลย จนกว่าเราจะตายกันไปข้าง”

หนุ่มนักการกล่าว ส่วนคู่รักนักเต้นที่ยืนอยู่ติดกัน ก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

.

ทั้งแคลนร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีซากปรักหักพังของอาคารด้านหลังพังครือลงมาเป็นแบล็คกราวน์ ควันโขมงโพยพุ่ง! แพรวตัดสินใจแล้ว! ถึงเวลาเสียทีที่จะต้องออกเดินทาง รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง! สุพรรณฯ คือที่หมายสำคัญและที่ๆ จะต้องไปให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรกก็คือท่าเรือ!

.

หัวหน้าแคลนประกบหน้ากากกันแก๊ซอันเก่าเขรอะ ที่ได้มาจากบ้านพีขึ้นมาคลุมทับใบหน้า ทันทีที่หันหลังกลับมา เธอก็พบว่าสมาชิกทุกคนเองก็ทำแบบเดียวกัน มีหน้ากากครอบแก้วตวัดดีดขึ้นมาประกบชิดสนิทหัว! พร้อมกว่านี้จึงไม่มีอีกแล้ว!

.

“พร้อมนะทุกคน…!”

แพรวตะโกนปลุกใจ

.

“ครับ! , ค่ะ!”

แทบจะได้ยินเป็นการประสานเสียง กำลังใจเต็มเปี่ยมถึงส่วนประสมจะโคตรไม่ลงตัวระหว่างกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ กับคนแก่ในบ้างพักคนชราก็ตามที แต่การทีมีแพรวเป็นแนวหน้า ทุกอย่างก็ถือว่าง่ายลงมาเยอะ

.

ร้องเท้าผ้าใบก้าวพ้นออกมาจากชายคาสถานีรถไฟฟ้าร้างแบบยิ่งใหญ่ทรนง แพรวกางแผนที่เดินอาดๆ ขนาบไปกับเข็มทิศ เพื่อนำทางทุกคนมุ่งลงสู่ทางใต้ และต่อให้ตึกแถวร้านรวงอาคารต่างๆ จะล้มระเนระนาดมีแต่กองเศษอิฐเศษปูนแพรวก็ไม่สน! ประสบการณ์จะช่วยเธอได้ เธอทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วซึ่งมันก็เวิร์คทุกที!

.

.

ตัดภาพมาอีกฟากหนึ่ง ณ ทิศสิบแปดนาฬิกามุ่งลงทางใต้ราว 10 กิโลเมตร กล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่จากอาคารทรงกลมครึ่งเสี้ยวของหอดูดาวประจำเมือง ได้ส่องมายังพวกของแพรวพอดี!!! อาคารตรงนี้รกร้างไม่ต่างจากสถานที่อื่นในตัวเมือง ส่วนอดีตของมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกำกับดูแลของพวก AP มาก่อน ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่แต่แค่ถูกทอดทิ้งมาสักระยะ!

.

ความจริงก็คือ! มีใครบางคนอยู่หลังกล้อง! ระยะทางไกลเป็นบ้าเป็นหลัง แต่จอมอนิเตอร์ที่ลิงค์สัญญาณต่อกับกล้องก็ยังส่องสว่างให้ใครคนนั้นได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มแพรว

.

“แฮ่กๆๆ ….แฮ่กกๆๆ … คนนี่!? ใช่คนจริงๆ ด้วย…ยังมีผู้รอดชีวิตนอกเหนือจากกลุ่มของเราอยู่!!!”

“ดีจัง….แฮ่กๆ …เราโชคดีมากๆ”

.

เก้าอี้หมุนติ้วโดดเดี่ยว… ในห้องที่เปล่าเปลี่ยวและมืดสลัว… ทุกอย่างยังคงคลุมครือและขาดความชัดเจนอันกระจ่างชัด… ดูไม่ออกว่าเป็นคนร้ายหรือคนดีกันแน่? แต่รู้แน่ๆ คือคนๆ นี้น่าจะเหลืออยู่แค่เพียงลำพัง!

.

แพลนภาพออกมามุมกว้าง ในห้องสลัวทรงโค้งพาราโบล่าแสงจากมอนิเตอร์ได้ฉาบฉายลงมา เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตมากมายที่นอนกองอยู่บนพื้น พวกเขาเป็นคน! ต่างคนต่างร้องโอดโอย… แล้วก็มีหลายคนที่ถึงขั้นสลบหมดสติ!

 

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า