ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
ความรักหลากอารมณ์ที่ดอมดมอยู่กลางดงโรคระบาดโควิด-19 เพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน แฟนที่ไม่ใช่แฟน งานนี้ไม่มี "กามเทพ" มีแต่ "กามรมณ์" ในกมลสันดาน
หาจนล้าาา! นี่มันไวรัสนะ! ไม่ใช่หาเห็บหมาออกจากหลังสุนัขจรจัดที่จะได้เจอกันง่ายๆ มันไม่ใช่ความโชคร้ายเลวทรามอะไรหรอก! หากแต่เป็นการไม่เจียมตัวและประเมินกำลังของตัวเองผิดไปของแพรวเสียมากกว่า ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นการล้มเหลวอย่างพังพินาศ
.
ไม่พบไวรัสคร่าชีวิตตามที่บันทึกเขียนบอก และต่อให้เจอ! แพรวก็ดูไม่ออกอยู่ดีว่ายาที่เห็นใช้สิ่งที่ต้องการหรือไม่? เจ็บใจ! แต่ไม่เจ็บปวด! เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ทำเพื่อพีแล้ว แม้ภารกิจสุดท้ายจะไม่สำเร็จ แต่หากนับปริมาณรูปถ่ายกับหน่วยความจำเมมโมรี่ในโทรศัพท์ที่ถูกกินพื้นที่ไป ก็นับว่าได้การณ์อยู่ทีเดียว! แพรวมีข้อมูลหลักฐานเพียงพอที่จะทำให้พีเชื่อได้แล้วว่าพ่อนักวิทย์ของเขา มีส่วนสำคัญในการทำให้เพศสภาพลูกเป็นแบบนี้!
.
“เอาล่ะ…ถ้างั้นก็ถึงเวลาออกจากที่นี่สักที”
หญิงสาวปาดเหงื่อพลันบ่นกับตัวเองในใจ
.
“ฉันล้อเล่นหรอกน่าาาาา… ใครจะเป็นบ้ามุดท่อระบายน้ำใต้ตะแกรงเหล็กบนพื้นนี้ออกไปกัน ขี้คร้านเชื้อโรคจะเยอะกว่าโควิดข้างนอกซะอีก… ฉันมีอีกวิธีหนึ่งที่เพิ่งคิดออกสดๆ ร้อนๆ เลย!”
.
“มา! …มาลองดู!”
.
ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็จัดแจงเดินทะลุออกมาจากโซนห้องแลป แล้วตรงเข้าไปในครัว เธอกระเถิบร่างบางผ่านโต๊ะกินข้าวที่มีพ่อฟุบหลับอยู่อย่างระแวดระวัง! ก่อนจะหยิบมีดบังตอติดมือออกมาเล่มหนึ่ง! แพรวชักมันออกมาจากที่เก็บมีดบนเคาท์เตอร์ พลางชูมันขึ้นอาบต้องแสงไฟวาบวาม!!!
.
“ฉันจำได้ว่าพ่อใช้กำปั้นทุบกับผนังแล้วประตูแลปก็เปิดออก! เพราะงั้นจะต้องมีเซ็นเซอร์ที่บันทึกลายนิ้วมืออยู่ตรงประตูแน่.."
“ไม่ลองไม่รู้! , กล้าๆ หน่อยแพรวก็แค่ตัดมือคนแก่ไปนาบกับข้างประตูมันจะไปยากอะไร!!! แกกลัวคนเมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ลำพังจะยืนพ่อยังทำไม่ได้เล๊ยยย…! "
.
ปลุกใจตัวเองเสร็จก็เป่าปากพรูไปหนึ่งที แพรวเอาจริงแล้ว! เธอเดินอาดๆ เข้ามากระชากหัวพ่อที่ฟุบคาอยู่บนโต๊ะให้แหงนไปด้านหลัง พลางจับเอามือข้างที่เคยเห็นแกใช้ทุบกำแพง ขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะในท่าทางที่สุดจะทะมัดทะแมง!
.
เม้มปากแน่นกัดเกร็ง ก่อนจะฟัน “ฉับบบบ!!!” ลงใส่บริเวณข้อมือของพ่อ!
.
“ฉึบ!!!!!”
.
“ซู่!!!!!!!!”
ไม่ได้เอาแค่นิ้ว แต่สาวเจ้าแม่งล่อทั้งมือ! กระแสโลหิตพุ่งราวกับน้ำพุ! มันอาจจะไม่มีรสชาติซู่ซ่าเหมือนน้ำพุโซดาในข่าว แต่ก็กระเด็นเข้าปากเข้าตาเด็กสาวอยู่พอสมควร
.
แพรวยิ้มกึ่งหัวเราะ แปลกที่เธอไม่ยักกะจะได้ยินเสียงกรีดร้องของพ่อสักแอะ หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะความเมาจนสลบไสลเหมือนได้ยาสลบไปในตัวก็ไม่รู้! เธอไม่สนใจมันด้วยซ้ำ! แพรวมองดูรอยบากขนาดยาวบนโต๊ะไม้ และมองดูมีดบังตอที่ปักคาอยู่ด้านบนราวกับอนุสรณ์สถาน! เลือดเจิ่งนองหยดติ๋งๆ โต๊ะทั้งโต๊ะแดงฉานแถมยังเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วห้อง
.
“มือกระเด็นไปไหนหว่า??”
เธอถาม..
.
ผีห่าซาตานตนใดเข้าสิง? ถึงเปลี่ยนผู้หญิงสวยๆ ให้อำมหิตได้ถึงเพียงนี้! เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ความจิตตกหมกมุ่นเช่นนี้ไม่เคยเป็นคาแรกเตอร์ของเธอเลย เหตุผลของความรุนแรงยังคงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม และก่อนจะได้คำตอบที่ต้องการ แพรวก็ได้จัดแจงก้มลงไปที่ใต้โต๊ะซะแล้ว..ว..ว!
.
จากการหาไวรัสตอนต้นบท เข้าสู่ช่วงท้ายบทแม่งกลายเป็นการหามือ ที่กระเด็นหลุดออกจากแขนคนไปได้ยังไง?! สาวเจ้าก้มคลานสอดส่ายสายตาหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบ! และจังหวะถอดใจจะลุกขึ้นยืนเท่านั้นแหละ ดันซวย! เอาหัวมาโขกชนเข้ากับขอบโต๊ะเข้าซะได้!!!
.
“โป๊ก!!!!!”
.
“โอ๊ยยยย!!!”
.
ความอัศจรรย์บังเกิด! เพราะจู่ๆ ก็เกิดได้สติฟื้นคืนกลับมา! ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ค่อยๆ รีเพลย์กรอกลับหลัง มันเป็นภาพสโลโมชั่น back forward reverse ย้อนทิศทางทีละเฟรมๆๆๆ จนมาหยุดกึก!!! อยู่ตอนที่แพรวกำลังจะเดินเข้าไปในครัว แล้วมีพ่อนอนหน้าทิ่มอยู่บนโต๊ะ
.
ให้ตายเถอะ! ทุกสิ่งเธอคิดไปเองล้วนๆ แพรวเป็นนางเอกของนิยายจะใจไม้ไส้ระกำทำกับคนรุ่นลุงแบบนั้นได้ยังไง? จะบ้าเหรอ?! เธอก็แค่คิดไปตามประสาเด็กวัยรุ่น ว่าถ้าหั่นนิ้วหั่นดุ้นลุงออกไปได้ล่ะก็ อะไรๆ มันก็คงจะง่ายขึ้นเยอะ! ไม่ต้องมาติดแหง็กอยู่แบบนี้
.
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีหรอกนะ!? ที่ว่าคิดออกน่ะคือคิดออกจริงๆ ไม่ได้โม้!!
.
“มา…มาเริ่มกันเลย!”
ตีอกชกตัว แพรวขอลองอีกครั้ง
.
คราวนี้ของจริงไม่ใช่ภาพฝัน เธอจิกหัวพ่อแหงนหน้าพาดไปด้านหลังพนักเก้าอี้ ต่อด้วยการหยิบเอามือข้างขวาของแกขึ้นมาวางราบไว้บนโต๊ะ โดยจับพลิกด้านให้ฝ่ามือแหงนโชว์ขึ้นข้างบน หลังจากนั้นก็จัดแจงเอา “สมาร์ทโฟน” ของตัวเอง ที่กล้องหลังชัดสุดๆ มากดถ่ายรูปนิ้วมือของพ่อเอาไว้!
.
“แชะ!!!!”
.
ในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ… นิ้วหัวแม่มือนี่เห็นแบบเต็มๆ ชัดๆ สาดซูมเข้าไปถึงรูขุมขนกันเลยทีเดียว! เรียกได้ว่าถ้าไม่ผ่านก็ให้มันรู้ไป!!! เสร็จจากตรงนี้แพรวก็ส่งพ่อเข้านอนบนโต๊ะตามเดิม ไม่มีลากไปที่โซฟา หรือหาผ้ามาห่มให้ตามแบบฉบับสาวน้อยวัยใสหัวใจคิกกะปู้อะไรทั้งสิ้น
.
"หวัดดีค่ะพ่อ…"
ที่ไม่ใช่หวัดดีเบลล์ คือสิ่งที่แพรวแจ้งบอก เธอจับสมาร์ทโฟนถือเท่ๆ เดินโทงๆ ย้อนกลับมาที่หน้าประตูห้องแลปอีกครั้ง ก่อนจะชูมันเข้าหาแผงตรวจจับเซ็นเซอร์ที่ด้านข้างประตู แล้วรออย่างมีความหวัง…
.
“ตุ๊ดดด…ด…ด…ด….ด ตุ๊ด….ด…ด…ด..ด”
“ตู๊ดๆ!”
“ยืนยันตัวตนถูกต้อง…”
“เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะด็อกเตอร์”
คือเสียงคอมพิวเตอร์จากระบบ security แจ้ง
.
สุดท้ายแพรวก็ทำสำเร็จ! เธอหลอกระบบได้ง่ายๆ ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีจากโลกปัจจุบันที่พ่อค้าแม่ค้าใช้ขายของผ่านโครงการ “เราชนะ” หนำซ้ำยังดีกว่าด้วยเพราะไม่มีวงเงินให้เติม แล้วก็ไม่จำกัดเวลาการใช้ แถมระบบก็ไม่ล่มง่ายอีกต่างหาก! เธอก็เลยเดินขึ้นบันไดชั้นใต้ดินมาสู่ภาคพื้นได้อย่างสง่างาม
.
.
ประตูห้องเก็บของแง้มเปิดออก แพรวโผล่ขึ้นมา ณ จุดกึ่งกลางบ้าน พลันสังเกตเห็นจากนอกหน้าต่างว่าฝนโควิดด้านอกนั้นหยุดตกแล้ว
.
“โอเค…โล่งอกไปที… หาหน้ากากครอบแก้วใส่สักอันแล้วออกไปข้างนอกกัน อีพีจะต้องรู้เรื่องนี้? สิ่งที่พ่อมันทำสำคัญกว่ายาคุมฉุกเฉินกันท้องของเราเยอะ..”
.
ไม่รู้จริงไหม? แต่โชคดีมากที่บ้านไม้พังๆ ที่สร้างขึ้นมาหลอกๆ นี้ดันมีหน้ากากกันแก็สอยู่อันหนึ่ง มันแขวนอยู่ตรงหน้าประตู ราวกับเป็นของๆ คุณพ่อที่จำเป็นจะต้องใช้เวลาออกนอกบ้าน เพราะนอกจากเจ้านี่แล้วก็ยังมีกุญแจรถ แล้วก็กุญแจมอเตอร์ไซต์แขวนรวมปะปนกัน
.
“หึ…คนแก่ก็แบบนี้! พอสมองเลอะๆ ลืนๆ ก็มักจะวางของไว้ที่เดิมๆ เพื่อกันหลง ดูจากรอยแดดเลียแล้วคงแขวนไว้ตรงนี้ประจำสินะคะ หนูขอเอาไปใช้หน่อยนะคะพ่อ…ขอบคุณค่ะ”
ประนมมือย่อเข่าถอนสายบัวอย่างสวยงาม พลางตวัดเอาหน้ากากกันแก็สเข้ามาครอบลงที่หน้าตัวเอง ณ เดี๋ยวนั้น! ใกล้กันยังมีเสื้อกันฝน รองเท้าบูธ ที่แม้จะเบอร์ใหญ่เกินไซต์ผู้หญิงไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรป้องกันเชื้อโรคเลย
.
หลักฐานพร้อม! อุปกรณ์พร้อม! แต่งตัวเสร็จแพรวก็เปิดประตูหน้าบ้านผุๆ ออกไปสู่โลกภายนอก
.
“พ่ามมมมมม!!!!”
.
สนามหญ้าแห้งกรอบหงิกหงอยใบเหี่ยวเฉา เดินย่ำเท้าลงมาเหยียบเบาๆ แทบจะกลายเป็นฝุ่นขี้เถ้าปลิวล่องลอย แพรวกระชับหน้ากากกันแก็สให้แน่นขึ้นไปอีก เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ของดีที่กันเชื้อได้แบบของบริษัท AP เลยต้องเช็ครอยต่อตรงคอว่ามันแนบสนิทดีหรือไม่ พลางทอดสายตามองสิ่งต่างๆ หลังพายุผ่านพ้นไปพร้อมกันไปด้วย
.
“ซีดดดดดดด!!!”
“โกลาหลมากอ่ะ… แบบนี้จะติดต่ออีพียังไง”
.
เสาไฟหักโค่นขวางทางรถ ถนนแตกเป็นหลุมราวกับหลุมยุบที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน สัญญาณเน็ตเป็นศูนย์! สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี! แทบเป็นไปไม่ได้ที่อีพีจะมาถึงที่นี่ได้ ติดต่อครั้งสุดท้ายมันบอกจะรีบมาหาแพรวแต่ดูความอนาถาของสิ่งแวดล้อมแล้ว ต้องยอมรับเลยว่าค่อนข้างยาก
.
รถประสบอุบัติเหตุเกินกว่าสิบคันซ้อน! เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มีกันน้อยนิดแค่ 2 -3 คน บางทีอาจจะกระจายตัวไปช่วยที่ต่างๆ อยู่ ซึ่งนี่คือกลียุคโดยไม่ต้องสืบ! คือมหาวิบัติที่หนักกว่าสึนามิหรือภูเขาไฟระเบิดที่คีรีมันจาโร! แต่ละคนทำงานกันหนักมาก และขณะที่แพรวเดินสืบเท้าออกมาจากสนามหญ้าหน้าบ้านช้าๆ นั่นเอง เธอก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
.
“นี่ประเทศเรามาถึงจุดนี้แล้วเหรอ…?”
“จุดที่หน่วยกู้ภัยปอเต็กตึ้ง , ร่วมกตัญญู ต้องใส่ชุด PPE ออกมาเก็บศพ!?”
“ (อีพี…มึงถึงไหนแล้วเนี่ยะ…มึงปลอดภัยดีรึเปล่า?) ”