Your Wishlist

หอยทากน้อยหมายปองอาณาจักร (ตอนที่ 15)

Author: Puk Pik

จอมพลงูหลาม VS วิญญาณหอยทากหน้ามึน

จำนวนตอน : 115

ตอนที่ 15

  • 13/10/2564

ตอนที่ 15

 

เมื่อเรนน์ก้มศีรษะลงไปมองที่เทอร์มินอลมันก็ได้แสดงชื่อของผู้ติดต่อเข้ามาว่า "ไม่ทราบ"

 

หากเป็นในอดีตเรนน์ก็คงจะวางสายหรือไม่สนใจการติดต่อจากบุคคลที่เขาไม่สามารถระบุตัวตนอย่างนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้เขากำลังรู้สึกเบื่อกับพฤติกรรมของผู้อาวุโสเป็นอย่างมาก เขาจึงส่งสัญญาณให้พ่อบ้านโอนสายการติดต่อมาให้เขาโดยตรง

 

พฤติกรรมของเรนน์ทำให้ผู้อาวุโสแสดงท่าทีอันไม่พอใจออกมา เพราะท้ายที่สุดอิทธิพลภายในตระกูลของเขาก็สูงมากและตราบใดก็ตามที่เขาพูดอะไรออกมามันก็ไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขามาก่อน

 

แต่ในปัจจุบันเรนน์ที่กลายเป็นเพียงแค่คนที่ไร้ประโยชน์กลับพยายามที่จะท้าทายอำนาจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและถ้าไม่ใช่เพราะ...!!

 

เมื่อเทอร์มินอลของเรนน์ได้เชื่อมต่อกับสายที่พ่อบ้านได้โอนเข้ามา มันก็ได้มีหน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาและทันใดนั้นมันก็ทำให้ดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ

 

ในเวลาเดียวกันดอริสที่ยืนอยู่ด้านข้างของเรนน์ก็อ้าปากค้างขึ้นมาและภายในแววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

ช่วงเวลานั้นพ่อบ้านอาวุโสที่อยู่กับตระกูลแห่งนี้มานานก็ได้อุทานออกมาว่า

 

“นั่นมันนายน้อย!”

 

“ใครนะ?!” ลุงของเรย์มอนด์และคาร์ลที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเรย์มอนด์อุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งในเวลาเดียวกันสีหน้าของผู้อาวุโสก็ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย

 

ในช่วงเวลานั้นเรนน์ก็ได้หันไปหาพ่อบ้านเพื่อให้เขาทำการฉายภาพสามมิติขึ้นมาและทันทีที่ภาพโฮโลแกรมได้ปรากฏขึ้นมากลางห้อง มันก็แสดงให้เห็นถึงเรย์มอนด์ที่กำลังสวมใส่ชุดทหารและดูไม่ต่างไปจากเมื่อก่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“เรย์มอนด์ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรอ?!” คาร์ลร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ

 

ในระหว่างนี้ดอริสก็รีบวิ่งไปที่ภาพโฮโลแกรมเพื่อมองดูลูกชายที่ยังคงมีชีวิตอยู่ของเธอพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

 

“เรย์มอนด์นั่นลูกอย่างนั้นหรอ! ขอบคุณพระเจ้าที่ลูกยังมีชีวิตอยู่!!”

 

ขณะเดียวกันเรย์มอนด์ก็เหลือบตามองฝูงชนพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะได้กล่าวกับดอริสว่า

 

“แม่อย่ากังวลไปเลยผมยังมีชีวิตอยู่ แค่ผมได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อยและต้องพักฟื้นในดาวเคราะห์รามสโตนช่วง 2 วันที่ผ่านมา”

 

“พระเจ้าลูกยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ นี่มันยอดไปเลย เรนน์คุณเห็นไหม! เรย์มอนด์ยังมีชีวิตอยู่!!”

 

“ฉันเห็นแล้ว” แม้ว่าเรนน์จะไม่ได้พูดอะไรออกมามากนักแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงจับจ้องมองลูกชายของเขาอย่างไม่วางตา

 

“นั่นมันตัวปลอม! มันจะต้องมีใครบางคนปลอมตัวเป็นเรย์มอนด์แน่ ๆ” คาร์ลอุทานพร้อมกับชี้ไปที่ภาพโฮโลแกรมของเรย์มอนด์

 

อย่างไรก็ตามเรย์มอนด์ก็ไม่แม้แต่จะเหลือบสายตาไปมองคาร์ลเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับพูดกับเรนน์ออกมาว่า

 

“พ่อครับผู้หญิงที่ชื่อว่าไซริลในสตาร์เน็ตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับผมทั้งนั้นและลูกที่อยู่ภายในท้องของเธอก็ไม่ใช่ลูกของผม หลังจากที่ผมได้กลับไปที่ดาวศูนย์กลางแล้วเดี๋ยวผมจะกลับไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”

 

อันที่จริงในตอนแรกที่เรนน์ได้เห็นภาพของเรย์มอนด์เขาก็กำลังรู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าคนตรงหน้าเป็นลูกชายของเขาหรือไม่ แต่หลังจากที่เขาได้พูดกับเรย์มอนด์แล้วเขาก็สามารถยืนยันได้เลยว่าชายตรงหน้าเป็นลูกชายของเขาจริง ๆ

 

“โชคดีที่ลูกติดต่อครอบครัวมาได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นดาวพลังงานของลูกคงจะถูกใครบางคนเอาไปแล้ว” เรนน์กล่าว

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเรย์มอนด์ก็สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ได้ในทันที ก่อนที่เขาจะได้มองไปยังผู้อาวุโสราวกับว่าชายชราคนนี้เป็นคนอื่นและกล่าวออกมาว่า

 

“อ้าว! ผู้อาวุโสก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรอ”

 

“เรย์มอนด์ในเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่แล้วทำไมไม่รีบติดต่อมาหาครอบครัวดูสิว่าเจ้าทำให้พ่อแม่ของเจ้ารู้สึกกังวลไปมากขนาดไหนแล้ว” ผู้อาวุโสส่งเสียงดุ

 

“ผมเพิ่งรู้เรื่องในสตาร์เน็ตวันนี้นี่เอง ผมถึงได้รีบติดต่อมาอยู่นี่ไง” เรย์มอนด์กล่าว

 

“ว่าแต่ร่างกายของเจ้าเป็นยังไงบ้าง จากที่ฉันได้ดูวิดีโอของกองทัพดูเหมือนว่าเจ้าจะระเบิดพลังงานออกมาไม่ใช่อย่างนั้นหรอ” ผู้อาวุโสกล่าวถาม

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นมันก็ทำให้คิ้วของเรย์มอนด์กระตุกขึ้นเล็กน้อย

 

“ตอนนี้เส้นเอ็นทั่วทั้งร่างของเจ้าคงจะขาดสะบั้น ดังนั้นเจ้าควรนอนอยู่บนเตียงและพักผ่อนไม่น้อยไปกว่า 3 วัน ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะไม่สามารถเชื่อมต่อเส้นเอ็นในร่างกายได้อีกเลย” ผู้อาวุโสกล่าวออกมาพร้อมกับดวงตาอันเปล่งประกาย

 

“ผมต้องขอขอบคุณในความกังวลของผู้อาวุโสด้วย” เรย์มอนด์กล่าว

 

“แค่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับลูบเครายาวของเขา

 

สถานการณ์นี้ได้ทำให้ลุงและลูกพี่ลูกน้องของเรย์มอนด์จ้องมองไปยังผู้อาวุโสอย่างกังวล เพราะทันทีที่ผู้อาวุโสได้เห็นว่าเรย์มอนด์ยังมีชีวิตอยู่ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

 

“เรนน์ในเมื่อเรย์มอนด์บอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา เรื่องนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องของตระกูลอีกต่อไป” ผู้อาวุโสกล่าว

 

“ท่านผู้อาวุโส!” ลุงของเรย์มอนด์ร้องอุทานออกมา

 

“พวกเรากลับกันเถอะ” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับยืนขึ้น

 

หลังจากนั้นลุงและลูกพี่ลูกน้องของเรย์มอนด์ก็กัดฟันพร้อมกับเดินตามผู้อาวุโสออกไป แต่ทางด้านของเรนน์และดอริสกลับไม่คิดที่จะลุกไปส่งแขกเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

 

ในเวลาเดียวกันพ่อบ้านก็กำลังอารมณ์ดีเป็นอย่างมากเพราะนายน้อยของเขายังคงมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินตามออกไปส่งแขกด้านนอกคฤหาสน์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

 

“ผู้อาวุโสเรย์มอนด์คนนั้นจะต้องเป็นตัวปลอมอย่างแน่นอน จากวิดีโอที่กองทัพได้เปิดเผยออกมามันก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขาได้ระเบิดพลังงานออกมาอย่างเต็มกำลัง” ลุงของเรย์มอนด์จ้องไปยังประตูของคฤหาสน์ที่กำลังปิดลงด้วยความไม่พอใจ

 

“หลังจากที่เรย์มอนด์ได้ระเบิดพลังงานออกมา ร่างของเขาก็ได้พุ่งตรงไปยังดาวลึกลับและการตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้นก็ไม่น่าจะมีใครรอดชีวิตไปได้ แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ได้ยังไง” คาร์ลกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคืองเช่นเดียวกัน

 

“พวกเจ้าจะมัววิตกกังวลกันไปทำไม ถ้าหากเรย์มอนด์คนนั้นเป็นของปลอมทั้งเรนน์และดอริสก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่กุเรื่องขึ้นมาเช่นเดียวกัน และถึงแม้ว่าเรย์มอนด์จะยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ แต่ท้ายที่สุดเขาก็จะกลายเป็นเพียงแค่คนที่ไร้ประโยชน์เนื่องมาจากไม่เหลือพลังงานภายในร่างกาย” ผู้อาวุโสกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ย

 

“ถ้าเขาเป็นเรย์มอนด์ตัวจริงแล้วเราจะเอายังไงกับสมบัติของเขาดี” ลุงของเรย์มอนด์กล่าวขึ้นมาหลังจากสงบสติอารมณ์ได้เล็กน้อย

 

ตราบใดก็ตามที่เรย์มอนด์เสียชีวิตสมบัติส่วนหนึ่งของเขาก็จะตกไปเป็นสมบัติของตระกูล ซึ่งในตอนนี้เขาก็กำลังจะได้มีสิทธิ์เข้าไปจัดการกับสมบัติของเรย์มอนด์อยู่แล้ว แต่จู่ ๆ มันกลับกลายเป็นว่าเรย์มอนด์ยังมีชีวิตอยู่

 

“แล้วพวกเราจะทำยังไงเรื่องดาวพลังงานดี” คาร์ลกล่าวเสริม

 

คาร์ลอยากจะได้ดาวพลังงานมาเป็นเวลานานแล้วและผู้อาวุโสก็ให้สัญญากับเขาว่าหลังจากที่ได้รับดาวพลังงานจากเรย์มอนด์มาได้สำเร็จดาวพลังงานนี้จะตกเป็นของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ตกลงยอมแต่งงานกับหญิงชั่วคนนั้นหลังจากที่เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้จบลง

 

“อย่าไปกังวลนักเลยอะไรที่เป็นของเรามันก็จะเป็นของเราเอง แต่อะไรที่มันไม่ใช่ของเรามันก็จะไม่ใช่ของเรา” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับหรี่ตา

 

“แล้วผู้อาวุโสคิดว่าพวกเราควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี”

 

“ดาวเคราะห์รามสโตนอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากดาวศูนย์กลาง แล้วมันก็มีโจรสลัดอวกาศและกลุ่มทหารรับจ้างอยู่ระหว่างเส้นทางดวงดาวนั้นอย่างมากมาย…” ผู้อาวุโสกล่าวค้างเอาไว้เพียงแค่เท่านี้แต่มันก็ทำให้ดวงตาของลุงเรย์มอนด์เปล่งประกายขึ้นมาอย่างสว่างเจิดจ้า

 

“ท่านผู้อาวุโสหมายความว่า… พวกเขาคงจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางกลับมาที่นี่สินะ”

 

ไม่ว่าเรย์มอนด์ที่ติดต่อเข้ามาจะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม แต่ในตอนนี้เขาก็กลายเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีพลังในการต่อสู้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

ถึงแม้ว่ามันจะมีลูกน้องของเรย์มอนด์ติดตามเขามา 2-3 คน แต่ลูกน้องที่มีความสามารถมากที่สุดก็คือคอรีย์ที่เป็นออร์คระดับ 7 เท่านั้น

 

หากพวกเขาทำการว่าจ้างกลุ่มทหารรับจ้างระหว่างดวงดาว ทหารรับจ้างที่มีพลังระดับ 6 ถึงระดับ 7 เหล่านี้ย่อมสามารถจัดการกับพวกเรย์มอนด์ได้อย่างแน่นอน และถ้าหากเรย์มอนด์ได้สูญเสียชีวิตระหว่างการเดินทางมันก็คงจะไม่มีใครรู้สึกแปลกใจกับสถานการณ์เช่นนี้เลย

 

สิ่งที่เรย์มอนด์พอจะทำได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแต่ตำหนิความโชคร้ายของตัวเอง

 

ลุงและลูกพี่ลูกน้องของเรย์มอนด์ต่างก็มองตาซึ่งกันและกัน ซึ่งในระหว่างแววตาของพ่อลูกคู่นี้ก็สามารถทำความเข้าใจซึ่งกันและกันได้โดยไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรออกมา

 

“พวกเราไปกันเถอะ” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับลูบเครายาว ก่อนที่เขาจะนำลุงและลูกพี่ลูกน้องของเรย์มอนด์เดินทางออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ไป

 

-----

 

ภายในคฤหาสน์ของจอมพล

 

ปัจจุบันดอริสกำลังมองร่างโฮโลแกรมของลูกชายเธอด้วยความกังวลและรู้สึกยินดีในเวลาด้วยกัน และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่โชคดีที่ลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงนั้นก็คือเรย์มอนด์คงจะกลายเป็นเพียงแค่คนพิการที่จะต้องอยู่ติดเตียงเหมือนกับสามีของเธอ

 

นอกจากนี้มันยังดูเหมือนกับจะมีฝูงปีศาจร้ายกระหายเลือดคอยจับจ้องครอบครัวของเธออยู่ตลอดเวลา และเธอก็เป็นเพียงแค่ออร์คระดับ 3 ดาวที่มีพลังไม่พอจะจัดการกับทหารธรรมดา ๆ ได้ด้วยซ้ำ แล้วเธอจะสามารถปกป้องทรัพย์สินนับแสนล้านของสามีและลูกชายของเธอได้อย่างไร

 

หลังจากที่ผู้อาวุโสได้ออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปสักพักแล้ว เรย์มอนด์ก็ได้จ้องไปยังพ่อแม่ของเขาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า

 

“พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงหรอก มันไม่มีใครสามารถทำอะไรผมได้ทั้งนั้น”

 

“ลูกกำลังหมายความว่ายังไง?” ดอริสกำลังคิดว่าเรย์มอนด์พูดอะไรผิดไปหรือเปล่า

 

แต่ทันใดนั้นเรย์มอนด์ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงก่อนที่เขาจะตบมือลงไปยังโต๊ะหินอ่อนเบา ๆ พร้อมกับทำให้โต๊ะหินอ่อนโต๊ะนั้นแตกละเอียดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้แม้แต่เรนน์ก็ยังรู้สึกตกใจ เพราะภาพโฮโลแกรมในตอนแรกเรย์มอนด์ดูเหมือนกับเป็นคนติดเตียงที่อ่อนแอ แต่จู่ ๆ เขากลับแสดงพละกำลังอันมหาศาลออกมา

 

“เรย์มอนด์นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทางกองทัพได้เผยแพร่วิดีโอปลอมออกมาอย่างนั้นหรอ” เรนน์กล่าวถาม

 

เหตุการณ์นี้ทำให้ดอริสมีความสุขเป็นอย่างมากเพราะไม่เพียงแต่ลูกชายของเธอจะยังมีชีวิตอยู่ แต่พลังงานภายในร่างกายของเรย์มอนด์ยังคงอยู่ดีเหมือนเดิมอีกด้วย

 

“มีใครในกองทัพพยายามจะทำร้ายลูกหรือเปล่า”

 

มันเห็นได้ชัดเลยว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่แต่มันก็ได้มีวิดีโอประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้มีการสอบสวนเรื่องนี้ ดังนั้นดอริสจึงรู้สึกสงสัยว่ามันอาจจะมีเรื่องราวอะไรที่ซ่อนอยู่

 

“วิดีโอนั้นเป็นของจริง แต่ผมยังไม่สะดวกที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา ผมน่าจะกลับไปถึงดาวศูนย์กลางภายในวันพรุ่งนี้และทันทีที่ผมกลับไปถึงคฤหาสน์ผมจะรีบเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟัง” เรย์มอนด์กล่าว

 

หลังจากที่เรย์มอนด์ได้ตัดการสื่อสารไปดอริสและเรนน์ก็หันมามองหน้ากันเป็นเวลานาน ก่อนที่ดอริสจะได้กล่าวออกมาว่า

 

“ในตอนที่เรย์มอนด์ลุกขึ้นมาเดินไปรอบ ๆ คุณสังเกตเห็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอไหม”

 

“ฉันคิดว่าน่าจะใช่” เรนน์กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอยู่นาน

 

ในเวลานั้นทั้งคู่กำลังรู้สึกตกใจที่เรย์มอนด์สามารถลุกขึ้นมาเดินได้เหมือนกับปกติ แต่เมื่อพวกเขาได้มองย้อนกลับไปในตอนนี้พวกเขากลับได้พบเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่กำลังอยู่ข้างกายของเรย์มอนด์จริง ๆ

 

“ฉันคิดว่าตอนที่เรย์มอนด์ติดต่อมาเขาได้อยู่ภายในห้องนอนใช่ไหม? ลูกของเราเป็นอะไรกับสายพันธุ์ที่อ่อนแอคนนั้นกันแน่”

 

เรน : "..."

 

ดอริส : "..."

 

+++++++++++++++++

โถ่ววว เราก็นึกว่าที่เงียบกันไปนานหลังวางสายยังช็อคเรื่องเรย์มอนด์อยู่ แต่จริงๆคืออยากรู้เรื่องของน้องหอยทาก 55555 웃❤유


 

21/8/64
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป