กระท่อมหลังนี้เหมาะที่จะใช้เป็นฉากในละครสยองขวัญ มันทั้งเก่าและผุพังเกินไปที่จะใช้อยู่อาศัย แต่หลังคาดูเหมือนจะยังกันฝนได้อยู่
เมื่อเฉียวโม่หยูผลักบานประตูเข้าไปข้างใน เธอพบชิ้นผ้าไหมสีขาวแขวนไว้ที่ประตู เธอเห็นว่ามันยังดูสะอาดอยู่ จึงหยิบมาเช็ดผมและแขวนกลับไว้ที่เดิม
เธอเดินมานั่งลงข้างหน้าต่าง รอคอยอย่างเงียบๆหวังว่าจะมีไฟหน้ารถของทีมงานกลับมารับเธอ
สายฟ้ายังคงฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง ป่าไผ่ที่อยู่ไกลออกไปปกคลุมด้วยความมืด เฉียวโม่หยูนึกถึงบทกลอนที่เธอเคยเรียนในอดีต
ขณะที่นึกถึงประโยคแรกของบทกลอน เธอเห็นว่ามีแสงไฟหน้ารถคันหนึ่งจากระยะไกล รถคันนั้นขับมาด้วยความเร็วจนกระทั่งอยู่ใกล้ตรงที่เธออยู่
เฉียวโม่หยูรีบร้อนออกไป เธอไม่ได้ออกทางประตูกลับกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปแทน และโบกมือไปมาให้รถที่กำลังขับตรงมา
"ช่วยด้วยค่ะๆ ขอฉันติดรถไปด้วย!"
วันนี้เย่เป่ยเฉิงขับรถมาที่กองถ่ายเองจึงไม่ต้องรบกวนให้คนขับรถขับไปส่ง พอดีกับที่เขารับโทรศัพท์ขณะที่อยู่ในลานจอดรถ เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จจึงขับรถตรงไปยังจุดนับพบเพื่อถ่ายฉากตอนเย็น
สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดคือมีคนแปลกหน้าในชุดโบราณสีขาววิ่งออกมาจากกระท่อมอย่างกับจอมยุทธ์
เย่เป่ยเฉิงกระพริบตาด้วยความแปลกใจ รถของเขามีระบบกันเสียงรบกวนดังนั้นขาจึงไม่ได้ยินเสียงจากด้านนอก เขามองผ่านกระจกอาศัยแสงจากสายฟ้าฟาดแปลบปลาบ เย่เป่ยเฉิงรู้สึกว่าผู้หญิงในชุดขาวนั้นดูคุ้นตาอย่างมาก
เขาผ่อนคันเร่งลงและเลี้ยวรถกลับจนเห็นว่าเป็นเฉียวโม่หยูที่ยังสวมเสื้อผ้าชุดเดิมในตอนบ่าย เธอโบกไม้โบกมือให้เขา
หลังจากจอดรถ เขาเลื่อนกระจกลง "ขึ้นมา"
ด้วยความโล่งอก เฉียวโม่หยูวิ่งฝ่าสายฝนด้วยความเร็วพุ่งไปเปิดประตูรถและนั่งลง
"ขอบคุณค่ะ ราชาเย่!" เธอปาดน้ำฝนออกจากหน้าตัวเอง
เย่เป่ยเฉิงสตาร์ทรถแล้วเอ่ยถามเธอว่า "ทำไมมาอยู่ที่นี่?"
เธอส่ายหน้าก่อนตอบว่า "ตอนที่ฉันออกมาจากห้องอาบน้ำ ทุกคนก็หายไปหมดแล้วค่ะ"
เย่เป่ยเฉิงไม่พูดอะไรออกมาอีก เขาส่งสัญญาณให้เธอคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะขับรถออกไป
รถสีดำขับมาตามทางวิ่งฝ่าสายฝนที่ยังตกลงมาไม่ยอมหยุด คนสองคนที่นั่งในรถต่างนิ่งเงียบ จนเฉียวโม่หยูอดรนทนไม่ไหว
"ราชาเย่ ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมคะ?
"อืม ถามมาสิ" เขาตอบ
"ฉันไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับฉากที่เราจะถ่ายกันเย็นนี้" เธอไม่เก่งในการแสดงฉากจูบ ถ้าต้องแสดงฉากบนเตียงอีก จึงถามออกไปว่า
"ฉันควรจะแสดงอารมณ์แบบไหนออกมาในฉากนั้นหรอคะ?"
เย่เป่ยเฉิงขมวดคิ้วกับคำถามเธอและไม่ได้ให้คำตอบกลับมา ฉับพลันนั้นเธอรู้สึกไม่แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจเธอผิดไปว่าเธอต้องการอ่อยเขาด้วยคำถามนี้รึเปล่า?
เธอกำลังจะแก้ต่างให้ตัวเอง ชายหนุ่มที่นั่งข้างเธอจู่ๆก็จอดรถ เฉียวโม่หยูหันไปหาเขาและถามเขาด้วยความสงสัย "ราชาเย่?"
ชายหนุ่มเอื้อมมือมาปลดเข็ดขัดนิรภัยเธอออกทันที
พื้นที่ภายในรถนั้นค่อนข้างแคบ เฉียวโม่หยูจึงขยับตัวหนีจากเขาไม่ได้ถึงแม้เธอจะหดตัวหนีก็ตาม เบาะรถทำให้เธอไม่สามารถหนีออกไปได้
ทรวงอกของชายหนุ่มห่างจากเธอเพียงหนึ่งฝ่ามือ เขาใช้แขนกดเธอไปกับเบาะ สีหน้าเขาดูไม่ชัดเจนว่ากำลังคิดอะไรอยู่
นอกหน้าต่างรถมีแสงจากสายฟ้าฟาดลงมาทำให้สว่างไปทั่วท้องฟ้า เฉียวโม่หยูเห็นตัวเธอเองสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ชายหนุ่มดูลึกลับน่าค้นหา
เย่เป่ยเฉิงโน้มตัวลงมาเกือบถึงปลายจมูกเธอ เธอได้กลิ่นหอมสะอาดจากตัวเขา