ฮ่าๆ น่าขายหน้าชะมัด
แน่นอนว่าชิงอี้เฉินพยายามดึงประตูให้เปิดออก เขาขบกรามแน่นด้วยความโกรธ พูดเสียงลอดไรฟันจับใจความได้ว่า "เฉียวโม่หยู ออกมาข้างนอกเดี๋ยวนี้!"
ชิงอี้เฉินสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายเขามาสักพักแล้ว ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เป็นเพราะ........
ผู้หญิงคนนี้ เธอกล้าวางยาเขา ยังมีอะไรที่น่ารังเกียจกว่านี้อีกไหม!
เส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ เขารู้สึกเหมือนมีไฟร้อนๆ หมุนคว้างอยู่ในท้อง
มันค่อยๆกัดกินพละกำลังของเขา
โดยไม่รู้ตัว เขามองเห็นภาพของเฉียวโม่หยูที่กำลังเปลือยกายอันแสนเย้ายวนต่อหน้าเขาเมื่อสักครู่
รูปร่างของเธองดงามไร้ที่ติ ผิวของเธออ่อนนุ่มเหมือนเจลาติน ปลายลิ้นของเขาลากไล้บนลำคอขาวผ่องไปมาด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ผิวของเธอช่างอ่อนนุ่มละมุน กระตุ้นให้เขาอยากจะสัมผัสเธอ
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ชิงอี้เฉินก็พลันเกิดความความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง ความต้องการของเขาพร้อมจะระเบิดออกมาแล้ว เขาหยุดนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหวว่า
"หนึ่ง, สอง..."
ในห้องน้ำ เฉียวโม่หยูเข้าใจความหมายของเขา ถ้าหากเขาไม่สามารถกำจัดความต้องการทางร่างกายได้ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากนี้
เธอเพิ่งข้ามมาโลกนี้ไม่นาน ทุกอย่างจึงยังดูไม่คุ้นเคย ดังนั้นตอนนี้ทำตามเนื้อเรื่องหลักไว้ก่อนดีกว่า
ก่อนที่ชิงอี้เฉินจะนับถึงสาม เฉียวโม่หยูก็เอื้อมมือเปิดประตูออกทันที
ตอนนี้เขาใกล้จะถึงจุดสูงสุดที่ควบคุมไว้แล้ว เขาไม่แยแสเธอ รีบตรงไปยังฝักบัวเปิดให้น้ำเย็นไหลผ่านร่างของเขา
น้ำไหลลงมาทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้าแนบชิดติดไปกับรูปร่าง เผยให้เห็นเรือนร่างอันแข่งแกร่งสมส่วนและขอบวีไลน์อย่างชัดเจน
มันก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะนะ ว่ารูปร่างของพระเอกก็ต้องดีอยู่แล้ว ขณะที่เฉียวโม่หยูนึกชื่นชมอยู่ในใจ เธอก็สังเกตเห็นว่า ชิงอี้เฉินจ้องมองร่างเธออยู่ก่อนแล้วขณะที่เธอหยุดยืนอยู่ที่ประตู
เธอสะดุ้งโหยงรีบปิดประตูเสียงดัง ปัง "อาบน้ำให้สะอาดนะ ฉันไม่รบกวนนายแล้ว!"
เมื่อเฉียวโม่หยูออกมาจากห้องน้ำ เธอไม่ได้กลับออกไปในทันที เพราะสภาพของเธอตอนนี้มันดูไม่ได้เลยน่ะสิ ชื่อเสียงของเธออาจถูกทำลายป่นปี้ เธอต้องหาทางเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด
เธอจำได้ว่ามีตัวละครหญิงอีกคน เป็นพนักงานหญิงทำหน้าที่เลขาให้ชิงอี้เฉิน และยังคุ้นเคยกับเฉียวโม่หยูมาก่อน เธอจำชื่อหล่อนได้
เธอเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของอี้เฉิน เปิดดูสมุดโน๊ตที่จดบันทึกที่อยู่ หลังจากหาเบอร์โทรเลขาได้แล้ว เธอต่อสายโทรไปทันที
"สวัสดีค่ะท่านประธาน" โมนิก้ากล่าวทักทาย
"โมนิก้า นี่ฉันเอง" เฉียวโม่หยูกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ด้วยความรวดเร็ว
"ฉันต้องการให้เธอช่วยซื้อเสื้อผ้ามาให้ฉันที ตอนนี้ชุดที่ฉันใส่อยู่มันขาด ซื้อมาสักหนึ่งชุดนะ แล้วก็เอามาส่งที่ห้องทำงานคุณชิง"
"คุณหนูเฉียว?" เลขาเอ่ยขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
"อ้อ ได้สิคะ ฉันจะออกไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ”
หลังจากพูดคุยนัดแนะเสร็จสรรพ เฉียวโม่หยูวางสาย เธอสังเกตเห็นมือถือสีชมพูถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ สันนิษฐานได้ว่าเป็นของเจ้าของร่างนี้ เธอหยิบมันขึ้นมาและปลดล็อกด้วยนิ้วมือ เลื่อนดูบันทึกการสนทนาในวีแชท เธอต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ไทมไลน์ในตอนนี้คือ (เฉียวโม่หยูในนิยาย) ต้องกลับไปทำการแสดงต่อ เธอได้รับงานแสดงละครจีนโบราณที่ชิงอี้เฉินลงทุน โดยรับบทเป็นตัวละครนำหญิงลำดับที่สาม
ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน เธอได้ขอร้องอ้อนวอนคุณปู่ให้ช่วยเธอได้รับบทเป็นตัวละครหญิงลำดับสาม ในเวลาเดียวกันนั้นเองเธอก็ถูกขับออกจากตระกูล แต่เธอยังซมซานกลับมาหาปู่อย่างหน้าไม่อาย เพราะเธอต้องการจะเป็นราชินีจอแก้ว กันไม่ให้นางเอกขึ้นมาเทียบเคียงเธอ
ทว่าความคาดหวังอันสูงลิบลิ่วของเธอต้องแตกสลายอย่างไม่เป็นท่า นั่นเป็นเพราะตัวละครนำหญิงของเรื่องซึ่งก็คือน้องสาวของชิงอี้เฉิน ผู้ที่เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ เฉียวโม่หยูจำต้องทนต่อการถูกกลั่นแกล้งจากทีมงานนักแสดง ทว่าแท้จริงแล้วเธอต่างหากที่ขาดไหวพริบในการตอบโต้ทุกคน จนเธอต้องถอนตัวเองออกจากละครด้วยความเจ็บช้ำระกำใจ
ในระหว่างที่เฉียวโม่หยูตกอยู่ในห้วงความคิด เสียงอินเตอร์คอมหน้าประตูดังขึ้น
“ท่านประธานคะ คุณหนูเฉียวให้ดิฉันเอาของมาส่งค่ะ”
“เอาเข้ามา” เธอตอบกลับ
ชิงอี้เฉินยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ เฉียวโม่หยูรับเสื้อผ้าของเธอและรีบเข้าไปเปลี่ยนในอีกห้องด้วยความรวดเร็ว หลังจากนั้น เธอเจอที่ซ่อนที่เธอจะสามารถซ่อนตัวได้สักพักเพราะมีบางอย่างที่เธอต้องจัดการเพื่อความแน่ใจก่อนจากไป