Your Wishlist

ว่าไงคะ ท่านนายพล (บทที่ 7 : คุณคือยาของฉัน (4))

Author: Han Wuji (Akira แปล)

กู้เหนียนจื่อ หญิงสาวอายุ 17 ปีผู้สูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก มีเพียงภาพที่ตนเองติดอยู่ในรถที่กำลังลุกไหม้เท่านั้นที่ยังฉายชัดอยู่ในความฝันของเธอ โชคดีที่เธอได้ฮัวเฉาเหิง ทหารหนุ่มผู้มีตำแหน่งพลตรีช่วยชีวิตเอาไว้ ชายหนุ่มถูกกองทัพของจักรวรรดิร้องขอให้เป็นผู้ปกครองของกู้เหนียนจื่อที่มีอายุเพียง 12 ปี และปกปิดประวัติที่แท้จริงของทั้งคู่เอาไว้ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่เธอก็อยู่กับเขานับตั้งแต่นั้นมา เธอใช้ชีวิตด้วยความกลัวและไม่มั่นคงมาตลอด เธอจะรู้สึกปลอดภัยเฉพาะเวลาได้อยู่ใกล้ ๆ ผู้ปกครองหนุ่มเท่านั้น ระหว่างนั้นกองทัพของจักรวรรดิได้ทำการสืบค้นประวัติของหญิงสาว แต่ก็ไม่สามารถค้นหาได้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ตัวตนที่แท้จริงของกู้เหนียนจื่อคือใครกันแน่? เหตุใดเธอจึงถูกลอบทำร้ายจนเกือบเสียชีวิต?

จำนวนตอน : 2263

บทที่ 7 : คุณคือยาของฉัน (4)

  • 19/07/2564

บ้านที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษเมือง C นั้นกันเสียงได้ทั้งหมด นอกจากนี้โครงสร้างภายในยังหุ้มฉนวนป้องกันคลื่นวิทยุและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไม่มีใครสามารถแอบฟังหรือสอดแนมบ้านพวกนี้ได้เลย

 

หลังจากเตะเฉินหลายออกจากบ้านไปแล้ว ตอนนี้ในบ้านก็เหลือแค่ฮัวเฉาเหิงและกู้เหนียนจื่อ

 

ตอนนี้หญิงสาวแทบจะไม่มีสติแล้ว ผู้ปกครองหนุ่มของเธอเป็นคนเดียวที่มีสติและควบคุมทุกอย่างในบ้านหลังนี้ได้อย่างเต็มที่

 

ในขณะนี้เขายังอยู่ในเครื่องแบบ เขานั่งบนโซฟาไม้เนื้อแข็งสีขาวแล้วเหยียดขาที่หุ้มด้วยรองเท้าบูทยาวออกแล้วมองไปทางเตียง

 

ยามค่ำคืนทำให้ภายในบ้านมีแสงสลัว ๆ ม่านกำมะหยี่ทึบกันเสียงหนาถูกดึงลงมาตั้งแต่เพดานจรดพื้น

 

ตรงข้ามเขาคือเตียงที่ปูด้วยผ้าปูที่นอนลายทางสีขาวงาช้างที่สะอาด มันเป็นผ้าฝ้ายอียิปต์ที่ทอด้วยเส้นด้ายถึง 1,800 เส้นซึ่งกู้เหนียนจื่อเป็นคนเลือกมันให้เขา

 

ฮัวเฉาเหิงไม่ได้สนใจเรื่องเล็กน้อย เขาเคยนอนในสถานที่ต่าง ๆ ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นในหิมะ โคลน ขั้วโลก บนภูเขา ทะเลทราย หนองน้ำ ที่แปลก ๆ เขาเคยเจอมาหมดแล้ว

 

แต่เขามักจะตามใจกู้เหนียนจื่อเสมอเมื่อเขากลับบ้าน

 

หญิงสาวมีรสนิยมดีสำหรับคนที่มีอายุมากกว่าเธอ ทุกอย่างที่เธอซื้อให้เขานั้นเหมาะกับเขามาก

 

ที่เธอเลือกผ้าปูที่นอนสีขาวงาช้างมาเพราะมันเหมาะกันคนที่รักสะอาดและชอบความสมบูรณ์แบบของฮัวเฉาเหิง

 

ปอกหมอนบนเตียงก็มีสีและใช้วัสดุเหมือนกัน มันเป็นเมมโมรี่โฟมของอียิปต์และดีต่อกระดูกสันหลังของผู้ใช้ ซึ่งกู้เหนียนจื่อได้เลือกสิ่งนี้ให้เขาเป็นพิเศษ 

 

สิ่งที่ต่างออกไปในวันนี้ก็คือหญิงสาวที่เป็นคนเลือกชุดเครื่องนอนให้กับเจ้าของห้องนี้

 

นายพลหนุ่มจุดบุหรี่ไว้ในมือพลางเฝ้าดูคนที่ไม่ได้สติที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน

 

เขาไม่ได้สูบมันเข้าไป เขาแค่จุดบุหรี่จนติดเป็นนิสัยเท่านั้น เมื่อบุหรี่ที่อยู่ระหว่างนิ้วของเขาไหม้จนหมด เขาก็ละสายตาออกจากอีกฝ่ายก่อนจะกดบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่

 

จากนั้นควันบุหรี่ก็ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ฮัวเฉาเหิงเดินไปหยิบรีโมทเพื่อเปิดเครื่องฟอกอากาศ หลังจากเครื่องฟอกอากาศทำงาน กลิ่นควันก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่ออากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่

 

เขาค่อย ๆ แกะซองบุหรี่ในกระเป๋าของเขาออก แล้วโยนลงบนโต๊ะ ก่อนที่เขาจะกลับไปนั่งลงบนโซฟาและถอนหายใจยาว

 

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็รู้ว่ามีไฟแช็กซิปโปอยู่ในมือ ไฟแช็กอันนี้ก็เป็นของขวัญจากกู้เหนียนจื่อเหมือนกัน

 

เขายกไฟแช็กขึ้น ใบหน้าของเขาว่างเปล่าและอ่านไม่ออก เขาสะบัดไฟแช็ก เปิด ปิด เปิด ปิด เปิด ปิด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

 

เขายังคงเล่นกับไฟแช็กต่อไปอีกชั่วขณะหนึ่ง

 

ภายในห้องมืดลงทุกนาที แสงริบหรี่ที่เกิดจากไฟแช็คของเขาทำให้เห็นใบหน้าของเขาแบบลือนราง เงาที่ตกสะท้อนนั้นดูสวยงาม ต้องห้ามและบีบคั้นหัวใจ

 

ตอนนี้นอกจากเสียงคร่ำครวญของกู้เหนียนจื่อที่ดังอย่างต่อเนื่องแล้วก็ไม่มีเสียงอะไรอีกเลย

 

ฮัวเฉาเหิงไม่สามารถบอกได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จนโทรศัพท์ของเขาสว่างขึ้นในความมืด

 

เขามองไปที่โทรศัพท์

 

มันเป็นข้อความจากเฉินหลายที่บอกว่า: อย่าลืมจับตาดูอัตราการเต้นของหัวใจของเธอ ถ้ามันผิดปกติให้โทรหาผมทันที ผมจะส่งคนไปที่นั่น

 

คิ้วหนาของทหารหนุ่มขมวดแน่น เขาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงกับพื้นจนหน้าจอโทรศัพท์แตกพลางโยนไฟแช็กออกจากมือ เสร็จแล้วเขาก็เดินไปยืนดูหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานก่อนที่จะเดินไปนั่งบนขอบเตียง 

 

เขาตบแก้มเธอเบา ๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เจ็บไหม? เธออยากให้มันหายไปหรือเปล่า”

 

สายตาของเขานั้นทั้งมืดมนและล้ำลึกทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ 

 

ในขณะนี้จิตใจของกู้เหนียนจื่อล่องลอยอยู่ในอากาศ เธอนอนครางแผ่วเบาอยู่บนเตียง 

 

ทันใดนั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นของฟีโรโมนชาย เธอจึงหันเข้าหาเขาอย่างกระตือรือร้น

 

แม้ว่าตอนนี้ภายในห้องจะมืด แต่ดวงตาของเขาได้ปรับให้เข้ากับความมืดนั้นแล้ว

 

และฮัวเฉาเหิงเป็นคนที่มองเห็นตอนกลางคืนได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว

 

พอได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในอากาศ ใบหน้าสวยหวานของกู้เหนียนจื่อก็แดงผิดปกติ และดวงตาของเธอแม้จะเหม่อลอยและว่างเปล่า แต่มันก็ฉ่ำวาวจนทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากขึ้น

 

คนเป็นผู้ปกครองหันหน้าหนีก่อนที่จะหยิบผ้าพันคอเฮอร์เมสที่ยังไม่ได้ใช้ออกมาจากโต๊ะข้างเตียงแล้วดึงมาปิดหน้าเธอ เขายกศีรษะของเธอขึ้นและผูกผ้าพันคอไว้ที่ด้านหลังศีรษะของเธอ 

 

ผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้มของเฮอร์เมสได้ซ่อนดวงตาที่เชิญชวนของเธอไว้

 

แต่การปิดตาคนที่สติเลือนรางมันไม่ค่อยมีผลเพราะเธอมองไม่เห็นอะไรแล้วเพราะสติของเธอนั้นไม่ได้อยู่กับตัว ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกขังอยู่ในห้องมืด ๆ ที่ไม่มีทางออก เธอทำได้เพียงรอเท่านั้น

 

ลึกลงไปในส่วนที่มืดมิดที่สุดในจิตใจของเธอ มีบางอย่างบอกเธอว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอกับเรื่องแบบนี้

 

หลังจากปิดตาเธอแล้ว ฮัวเฉาเหิงก็ลูบแก้มของหญิงสาวตรงหน้า ผิวของเธอเนียนละเอียดน่าสัมผัส แต่ในขณะเดียวกันมือของเขาก็เหนอะหนะไปด้วยเหงื่อของเธอ

 

เขาคิดว่าไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว

 

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลุกขึ้นจากเตียง เขาปลดหัวเข็มขัดที่เอวแล้วโยนลงกับพื้นก่อนจะขยับมือไปที่กระดุมบนเครื่องแบบของเขา เขาเริ่มแกะกระดุมจากด้านล่าง นิ้วที่เรียวยาวและแข็งแรงขยับขึ้นด้านบนเพื่อปลดกระดุมทีละเม็ด เมื่อเอื้อมถึงคอเขาก็หยุดลงเพราะลังเลแล้วค่อย ๆ ปลดกลัดกระดุมที่คอเสื้อ

 

เขาถอดเครื่องแบบออกแล้วโยนลงบนโซฟาข้างเตียง รองเท้าบูททหารเข่าสูงถูกโยนตามไปในไม่ช้า เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยสวมกางเกงบ็อกเซอร์สีเทาดำเท่านั้น

 

ไม่นานก็มีเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ เมื่อมองผ่านประตูกระจกฝ้าจะเห็นเงาของร่างที่เปลือยเปล่าของชายผู้สง่างามและมีสีผิวสม่ำเสมอ

 

เมื่อเขาทำธุระส่วนตัวเสร็จ ฮัวเฉาเหิงก็เดินออกจากห้องน้ำแบบเปลือยเปล่าโดยมีแค่ผ้าขนหนูสีน้ำตาลพันรอบเอวของเขา

 

เขาเดินไปเปิดไฟมุมห้องนอนของเขา ก่อนที่เงาร่างสูงราวกับเทพเจ้ากรีกโบราณเคลื่อนตัวไปตามวอลล์เปเปอร์สีเบจ

 

ผิวของเขาเป็นสีแทนและไหล่ของเขากว้างมาก ไหนจะกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบของเขา รวมถึงหน้าท้อง V-line ที่ขับให้หุ่นของเขาชวนมอง สิ่งที่ทำให้สะดุดตาอีกอย่างคือไรขนอ่อนที่เรียงเป็นระเบียบตั้งแต่ใต้สะดือและหายไปใต้ผ้าเช็ดตัว

 

เอวของเขามีกล้ามเนื้อแน่นและบั้นท้ายก็พอดีกับร่างกาย ด้านล่างนั้นเป็นช่วงขาที่ยาวของเขา ดูเหมือนเต็มไปด้วยพลังที่ซ่อนอยู่ราวกับสปริงที่ขดแน่น

 

ตอนนี้เขาเดินไปยืนข้างเตียงแล้วก้มศีรษะลง หยดน้ำกลิ้งจากปลายผมของเขาค่อย ๆ ไหลลงมาที่คอและไปที่หน้าอกที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง

 

ในขณะเดียวกันกู้เหนียนจื่อกำลังดิ้นรนอย่างหนักอยู่บนเตียงราวกับว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เสื้อผ้าของเธอยับยู่ยี่และผิวที่เปลือยเปล่าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งหมด

 

ฮัวเฉาเหิงมองไปยังคนที่อยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เขาดึงผ้าเช็ดตัวออกแล้วโยนลงบนโซฟา ก่อนจะนั่งลงบนเตียง

 

ใต้ผ้าขนหนูเขามีกางเกงบ็อกเซอร์สีเทาดำอยู่

 

หญิงสาวรู้สึกว่ากลิ่นที่มาจากเขาคือสิ่งที่เธอต้องการอย่างมาก เธอพยายามเอนตัวเข้าหาเขาอย่างสิ้นหวัง

 

นายพลหนุ่มเอาแขนโอบไหล่บางแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาพลางมองดูริมฝีปากอวบอิ่มของเธอที่เผยอขึ้นมาหาเขา ไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก้มศีรษะลงและจูบเธอ

 

กลิ่นฟีโรโมนชายช่วยดับความกระหายของกู้เหนียนจื่อได้เป็นอย่างดี เธอตอบกลับจูบนั้นอย่างกระตือรือร้น ขณะที่ลิ้นของพวกเขากำลังไล้โลมกันอย่างร้อนแรง ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่ามีลมเย็นสดชื่นพัดมาเพื่อปลอบประโลมร่างกายที่เร่าร้อนของเธอ ความรู้สึกเสียวซ่าในส่วนลึกของเธอก็ลดลงเล็กน้อย

 

มันทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น

 

คิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน ในขณะที่เขากำลังโต้ตอบกับเธอ

 

หลายปีของการฝึกต่อต้านการยั่วยวน เขาทำทั้งหมดไปเพื่ออะไร?

 

ในระหว่างการฝึกเขาใช้ยาปลุกไปด้วย แต่เขายังคงเย็นชาและไม่รู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่กำลังเย้ายวนเขาเลย นอกจากนี้เขาไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เขาไม่เคยใช้ ‘อุปกรณ์’ ของเขาใน ‘การต่อสู้จริง’ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นและการควบคุมตนเองที่เหลือเชื่อของเขา ซึ่งไม่เคยมีใครทำให้เขาควบคุมความปรารถนาของเขาไม่ได้

 

เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นเครื่องจักรสังหารที่สมบูรณ์แบบแล้ว

 

นั่นคือเหตุผลที่ฮัวเฉาเหิงไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายของเขาถึงมีปฏิกิริยากับกู้เหนียนจื่อ มันทำให้เขาไม่พอใจมาก

 

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วขมวดคิ้วจนเป็นปม 

 

จากนั้นเขาก็กดปุ่มปิดไฟตรงมุมห้อง แล้วในห้องนอนก็ตกอยู่ในความมืดสนิททันที

 

ถึงเวลานี้สัญชาตญาณของหญิงสาวก็ได้ครอบงำร่างกายของเธอแล้ว

 

เธอครางเบา ๆ และขยับเข้าไปใกล้ชายตรงหน้าอย่างรีบร้อน

 

ทหารหนุ่มลูบหัวกู้เหนียนจื่อเบา ๆ ก่อนที่เขาจะดึงร่างบางเข้าหาตัวเขาแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฉันขอโทษ ฉันต้องทำสิ่งนี้เพื่อช่วยให้เธอหลุดพ้นจากยาปลุก”

 

กู้เหนียนจื่อกลิ้งไปมาด้วยความกระหาย ฮัวเฉาเหิงเป็นเหมือนไวน์ชั้นดีสำหรับเธอและเธอรู้สึกว่าเธออยากจะกลืนกินเขาจนแทบทนไม่ไหว

 

กลิ่นของผู้ชายที่กวนใจพุ่งเข้ามาเต็มจมูกทำให้จิตใจของเธอขุ่นมัว ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออก ทุกอย่างเป็นภาพเบลอสำหรับเธอ สิ่งเดียวที่เธอต้องการตอนนี้ก็คือสัมผัสและครอบครองร่างกายของคนที่อยู่ใกล้เธอเพื่อสนองความปรารถนาในใจ

 

แต่แขนและขาของเธอถูกมัดไว้แน่น เธอจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

 

ฮัวเฉาเหิงเป็นชายหนุ่มที่เรียกได้ว่าเทพบุตร แต่ความหล่อของเขานั้นล้ำหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้ผู้หญิงแทบจะคุกเข่าลงตรงหน้าของเขา

 

แต่ที่นี่ภายในห้องนอนที่มืดมิด ดวงตาของเขากำลังมองดูกู้เหนียนจื่อ ทำให้กรอบที่เขาขีดไว้พังทลายหายไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน นิ้วอันเรียวยาวของเขากำลังลูบไล้แก้มเธอเบา ๆ

 

ในขณะเดียวกันหญิงสาวที่ถูกปิดตาก็หันศีรษะกดแก้มของเธอลงบนฝ่ามือของเขา ก่อนที่เธอจะสูดกลิ่นของเขาอย่างตะกละตะกลาม

 

ตอนนี้มีไฟกำลังลุกไหม้อยู่ในอกของเธอ เธออยากเข้าใกล้กลิ่นนั้นให้มากกว่านี้ 

 

ใกล้อีก…

ทุกวันเสาร์ เวลา 15:00
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป