Your Wishlist

ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ (ตอนที่ 26 .. “ เหมือนตายทั้งเป็น ”)

Author: วีณา

เมื่อความรักที่ได้มันไม่ได้มาจากหัวใจ นับประสาอะไรกับความมั่นคงที่จะตามมา ถ้าความรักและความปรารถนามันมาจากเงินตรา สิ่งที่ตามมามันก็คงคือเกมส์ เกมส์ของชีวิต รักแท้อยู่ที่ใด คำตอบอยู่ที่ไหน หามันให้เจอ

จำนวนตอน :

ตอนที่ 26 .. “ เหมือนตายทั้งเป็น ”

  • 28/12/2564

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. วีณา

Rhinestone Cowboy - Glen Campbell

https://www.youtube.com/watch?v=8kAU3B9Pi_U

ขอขอบคุณ คุณ Glen Campbell จาก ค่าย Capitol Records Nashville ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

 Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 26 .. “ เหมือนตายทั้งเป็น ”

      หลังจากที่ดาวโดนไล่ออกจากบ้านไปแล้วเพราะนิด บวกกับตกงาน เพราะโรสไล่ออก จนกุ้งต้องหาที่อยู่ให้ใหม่เป็นที่เรียบร้อย ดาวยอมรับสภาพเมียน้อยอย่างเต็มตัว อยู่เงียบๆอย่างที่กุ้งบอก คอยปรนนิบัติให้ความสุขผัวอย่างเดียวเป็นพอ

     แต่กุ้งไม่อยากให้ดาวอยู่เฉยๆ จึงฝากให้ดาวไปทำงานกับเอ้นั่นแหละ เพื่อนอีกคนที่ออฟฟิตรับเหมาก่อสร้าง ทำงานไม่เหนื่อยมากโดยให้เป็นเสมียนคอยประสานงานรับดิวงานกับกุ้งโดยตรงไม่ขึ้นกับใครในโครงการของชัช แต่ไม่ได้ให้ไปอยู่ที่ไซด์งาน ให้อยู่ที่ออฟฟิตใหญ่ เอ้รับปากช่วย เรื่องเงินเดือนไม่เป็นไร เดี๋ยวกุ้งจัดการเอง เอ้ก็รับปากช่วยไปก่อนทีละเปราะ ดาวก็รับปาก เพราะถ้าไม่ทำตาม ไม่งั้นกุ้งไม่เลี้ยง ดาวหมดที่ไปจริงๆ เลยต้องทำ ทั้งๆที่ไม่อยากทำ เพราะรักความสบาย อยากแค่นอนแบอย่างเดียว

***** \\\\\ *****

     วันนี้วันพฤหัส ที่ 4 กุมภาพันธ์ น้องต้องมาทำงานเป็นประชาสัมพันธ์ให้กับนุ่นที่บริษัทเป็นวันแรก น้องตื่นเต้นมากที่ได้ทำงานแบบนี้ เพราะไม่เคยทำเลย นอกจากจะต้องถ่ายแบบแล้ว นุ่นยังขอให้น้องมาเป็นหน้าตาของบริษัทเพื่อดึงลูกค้าอีกแรงนึงด้วย โดยทำงานขึ้นตรงกับเธอเพียงคนเดียว นุ่นหาออฟิตชั่วคราวได้แถวๆลาดพร้าว ใกล้ๆ The Mall บางกะปิ

     ซึ่งน้องก็สามารถเดินทางมาทำงานได้ โดยไม่ติดขัดอะไร เพราะนุ่นให้น้องมาทำงานเพียง 2 วันเท่านั้น คือพฤหัสบดีกับเสาร์ เพราะนอกนั้นตรงกับวันที่เรียน งานที่น้องทำไม่มีอะไรมาก ก็คือต้องมาคอยอธิบายสินค้าและพาลูกค้าชมสินค้าของบริษัท ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์ ถ้าใครสนใจ ก็ไปติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อตรงก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่เหนือไปกว่านั้น ก็คือ น้องต้องรู้จักสินค้าและรายละเอียดทุกอย่างของสินค้าให้หมดจริงๆ ไม่งั้นแล้วจะทำงานไม่ได้เลย นี่แหละ จึงเป็นงานหนักสำหรับเธอ ที่ต้องมาคอยจดจำลักษณะของสินค้าให้ได้ทุกชิ้นและทุกตัว เพื่อจะได้แนะนำลูกค้าได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากความจริง

>>>>> ----- <<<<<

     เมื่อไหร่ที่ดาวคิดถึงกุ้งก็จะโทรหา คืนนี้ก็เช่นกัน <อาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์> ดาวคิดถึงกุ้งก็โทรหาอีก ขณะที่กุ้งมารับนิดที่ทำงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นิดพักเบรกพอดี พอโทรศัพท์มา กุ้งก็จะเดินออกไปข้างนอก เพราะข้างในเสียงดัง นิดสงสัยว่าทำไมถึงคุยนานผิดปกติ จึงเดินออกมาดู พอนิดเดินออกมากุ้งก็วางสาย นิดถาม “คุยกะใครหนะกุ้ง ดึกดื่นปาดนี้แล้ว” กุ้งไม่ตอบและเดินกลับเข้าไป

     นิดเดินตามเข้าไป ต้องรู้ให้ได้ “ใคร” กุ้งจึงบอกไปเพื่อตัดความรำคาญ “ลูกค้า” นิดสังเกตุว่า วันนี้กุ้งรับโทรศัพท์บ่อยมากจนผิดปกติ ตั้งแต่เช้ายันบ่ายแล้ว นี่ตกดึก ก็โทรมาอีกแล้ว มันจะอะไรกันนักกันหนา คุยไปก็ยิ้มไป คุยไปก็มีอาการแปลกๆ พอนิดหันไป ก็หลบหน้าเดินไปคุยที่อื่นไกลๆ เป็นแบบนี้บ่อยมาก ก่อนออกมาจากบ้านก็ยังคุย มันผิดปกติ จนนิดสงสัยมากกับพฤติกรรมนี้

     สักพักก็โทรมาอีก กุ้งเมมชื่อว่า ลูกค้า Vip ไม่ได้เมมชื่อว่าดาว แต่นิดสงสัยว่าลูกค้าอะไรทำไมถึงชอบโทรมานอกเวลางาน เดี๋ยวโทรเดี๋ยวโทร นิดเลยขอเสียมารยาท เก็บโทรศัพท์กุ้งมาถือไว้ตอนที่กุ้งไปห้องน้ำ สักพักก็โทรมาอีกคราวนี้นิดพูดเอง

“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า Vip ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรมากมายนักหนาเหรอค่ะ ถึงได้โทรมาเวลานี้ อะไรมันจะขนาดนั้น นี่มันนอกเวลางานแล้วนะคะ ไม่รู้เหรอคะว่ามันเสียมารยาท นี่กะไม่ให้สามีดิฉันพักผ่อนเลยรึไง กรุณาอย่าเอางานมาบังหน้า ดิฉันรู้นะว่าที่โทรมาเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวล้วนๆ กรุณาอย่ามาสะตอใส่ ดิฉันไม่ชอบ มันทุเรศ” แล้วนิดก็ร้องเพลงให้คนปลายสายฟัง

< เบอร์นี้...ไม่มีคนของเธอ - ปาน ธนพร > https://www.youtube.com/watch?v=YCEtIy4OJTA

     นิดรู้ว่าปลายสายเป็นใคร แต่ยังไม่พูดชื่อออกมา จึงได้แค่ร้องเพลงให้ดาวฟังไปก่อน เพราะถือว่า เคยเตือนไปแล้ว นิดจับได้อีกครั้งว่า ดาวแอบโทรนัดให้กุ้งไปหาที่บ้านเช่าที่กุ้งแอบหาไว้ให้ หลังจากที่โดนนิดไล่ออกจากบ้านโทษฐานแอบมีอะไรกับผัวตัวเอง พอเพลงจบ นิดจึงพูดออกมา “มึงอย่านึกว่ากูไม่รู้นะว่ามึงเป็นใคร อีดาว” ดาวตกใจมากที่นิดรู้ว่าเธอคือใคร

“กรุณาอย่ามายุ่งกับผัวชาวบ้านอีก ไม่งั้นมึงเจอดีแน่ เพราะกุ้งมีเจ้าของแล้ว ห้ามโทร ห้ามติดต่อ กูขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ามึงยังไม่เลิกมายุ่งวุ่นวายกับผัวกูอีก คราวนี้กูจะไม่ขู่เหมือนครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้กูจะทำจริงๆ อย่านึกว่ากูไม่รู้นะว่าที่อยู่ใหม่มึงที่ผัวกูแอบหาไว้ให้มึงอยู่หนะอยู่ที่ไหน กูรู้ทุกอย่าง เพียงแต่กูจะไปหาหรือเปล่า หรือทำตอนไหนก็เท่านั้น แต่นี่ นับวันมึงก็ยังไม่เลิก กูถือว่ากูเตือนมึงแล้วนะ ถ้ามึงยังกล้าที่จะโทรมาหาและนัดเจอผัวกูอีก มึงเจอดีแน่ จะเอาแบบศพไม่สวย หรือ ถูกฆ่าข่มขืนดีหละ เลือกเอา”

     พูดจบนิดก็วางสายโทรศัพท์ทันที ทำให้ดาวต้องหน้าถอดสีโดยไม่รู้ตัว เจ็บใจมากที่นิดรู้ได้ยังไง ดาวทำอะไรไม่ได้เลย สักพักกุ้งเดินออกมาตามหานิด เพราะโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหายไปพร้อมนิด พอเจอหน้า นิดก็ดึงมือขวากุ้งและวางโทรศัพท์ให้ แล้วเดินผ่านเข้าไปทำงานต่อทันที กุ้งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเปิดโทรศัพท์ดู เห็นดาวโทรเข้ามาล่าสุด ตอน เที่ยงคืน จึงโทรกลับไปอีกครั้ง

     ดาวกลัวไม่ยอมรับสาย เพราะนึกว่าเป็นนิดโทรกลับมาด่าเธออีก จึงปิดเครื่องทันที กุ้งโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด จึงได้แต่อารมณ์เสีย เดินกลับเข้าไปในผับดังเดิม เห็นนิดนั่งคอแข็งตาขวางอยู่ ก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องแน่ กุ้งจะเดินเข้ามา Clear แต่นิดงอนเลยเดินขึ้นเวทีไปร้องเพลงดีกว่า เบื่อผัวเจ้าชู้ กุ้งก็เลยต้องรอจนกว่านิดจะใจเย็นลงและหายโกรธ เพื่อที่จะขอ Clear เรื่องของดาว

     หลังจากที่ผับเลิก นิดก็เดินตัวปลิวออกมาเลย ไม่สนใจกุ้ง กุ้งวิ่งตามออกมาดึงมือนิดเอาไว้

“นิด” นิดปัดแขนกุ้งออก และเดินไปที่รถเพื่อนที่ชื่อหวาน กุ้งวิ่งตามมา นิดยังคงตื้อเพื่อน

“หวานคืนนี้กูขอไปนอนห้องมึงด้วยนะ” หวานเห็นหน้ากุ้งแล้ว จึงไม่อยากเสี่ยง

“ไม่หงะ คืนนี้ผัวกูอยู่ เขาพึ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ผัวกูไม่ชอบให้พาใครมาที่ห้อง กูต้องขอโทษด้วยนะ กูไปหละ”

“เดี๋ยวอีหวาน” นิดหันกลับไปเจอกุ้งยืนกอดอกหน้ามุ่ยอยู่ ไม่สนใจ เดินไปหาเพื่อนคนอื่นอีก หาให้คนช่วย ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะทุกบ้านก็มีปัญหากันทั้งนั้น สำหรับนิดตอนนี้มันเหมือนตายทั้งเป็น ที่ได้รู้ว่าผัวตัวเองไม่ซื่อสัตย์ แถมยังมาโกหกหน้าตายอีกต่างหาก

     นิดเดินไปเรียก Taxi กุ้งวิ่งไปดึงแขน “ผมขอโทษ ทำยังไงนิดถึงจะยอมกลับบ้านพร้อมผม” นิดหันกลับมาแล้วตวาดกลับไปเลยทันที “ก็ไปเลิกกับมันก่อนซิ อีดาวหนะ ฉันถึงจะกลับ อย่ามายุ่งกับฉันอีกนะ ตราบใดที่คุณยังแอบไปหา ไปอยู่กับมัน คุณก็ไม่ต้องมายุ่งมาอยู่กับฉัน” พูดจบ นิดก็ขึ้น Taxi กลับบ้านตัวเองทันที กุ้งไม่ยอมจึงวิ่งไปดักหน้ารถ Taxi เบรกเกือบไม่ทัน

     เมื่อกุ้งทำแบบนั้น นิดจึงลงจากรถ Taxi ทันที กุ้งรีบควักเงินให้ Taxiไป 500

“ไปได้แล้ว ขอบใจมาก” Taxi ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไร แต่เมื่อได้ค่าเสียเวลาแล้ว จึงรีบไปทำมาหากินต่อ กุ้งรีบวิ่งไปคว้าแขนนิด

“นิด อย่าดื้อได้ไหม มีอะไรเรากลับไปคุยกันที่บ้านจะได้ไหม ทำแบบนี้ไม่อายคนอื่นเค้าบ้างรึไง”

“ไม่อาย” นิดหันมาตบหน้ากุ้งอย่างแรง “ได้ ไม่อายใช่ไหม” กุ้งรีบข้อนขานิดขึ้นอุ้มทันที แล้วรีบเดินไปที่รถตัวเอง

     ในเมื่อนิดไม่อายเขาก็ไม่อาย “ปล่อยนะ ไอ้ผัวบ้า เอาอีกแล้วนะ ทำแบบนี้อีกแล้วนะ ชอบเล่นทีเผลอ” กุ้งไม่สนใจ พอประตูรถได้ ก็โยนโครมลงไปที่เบาะ แล้วชี้หน้านิด “อย่านะ ถ้าก้าวลงมาเมื่อไหร่ ได้เห็นดีแน่”

“คุณจะทำอะไรนิด” นิดจ้องหน้ากุ้ง “ผมจะทำแบบนี้ไง” กุ้งก้มลงไปจูบปากนิดทันที โดยไม่สนใจว่าใครจะมอง

“บ้า บอกด้วยปากก็ได้ ไม่ต้องทำจริง นิดยังไม่ได้ก้าวลงไปจากรถซะหน่อย”

“ก็คุณถาม ผมก็บอกไงว่าจะทำแบบนี้ พูดปากเปล่า กลัวคุณไม่เข้าใจ”

     นิดอายผัวตัวเองและคนที่มุงดู เลยรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคล้องตัว แล้วผลักกุ้งออกไปและปิดประตูรถทันที กุ้งรีบวิ่งนั่งที่ตัวเองแล้วขับรถออกไปเลยทันที และในระหว่างทาง นิดยังคงไม่ยอมพูดอะไรกับกุ้ง เพราะยังโมโหและโกรธอยู่ ขนาดกุ้งขยับมือไปจับมือ นิดก็ไม่ยอมให้จับ ครั้งนี้ ไม่ยอมคืนดีง่ายๆ พอถึงบ้าน กุ้งลงไปเปิดประตูรั้ว นิดก็แอบลง โดยที่กุ้งไม่ได้เอะใจอะไร พอกุ้งขึ้นมานั่ง ก็สงสัยว่านิดหายไปไหน นึกว่า งอนแล้วเดินหนีเข้าบ้านไปแล้ว จึงขับรถเข้าไปจอดที่โรงรถก่อน จึงจะเดินมาปิดประตูรั้ว

     นิดรีบขับรถตัวเองสวนออกไปทันที กุ้งซึ่งดับเครื่องรถเรียบร้อยแล้วกำลังจะลงจากรถ ต้องตกใจมากที่เห็นนิดทำแบบนั้น จะถอยรถตัวเองเพื่อขับตามไป ก็ไม่ทันแล้ว จึงได้แต่เดินออกมาปิดประตูบ้าน แล้วก็เดินเข้าบ้านไป และรีบโทรหานิด นิดไม่รับสาย พอโทรมาบ่อยๆก็ปิดเครื่องเลย กุ้งโมโหมากที่นิดกล้าทำแบบนี้ รีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วรีบอาบน้ำและเข้านอน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ เพราะงานของวัฒน์ยังคงค้างอยู่อีก ต้องนั่งปั่นให้เสร็จ ดีเหมือนกัน จะได้มีเวลาทำงานแบบสบายๆหน่อย โดยไม่มีใครมากวนใจ ส่วนนิด งอนกุ้งเลยขับรถกลับมาบ้านตัวเอง เพื่อหวังจะให้กุ้งมาง้อถึงที่ แต่คงจะคิดผิด เพราะกุ้งคงจะไม่ทำแน่นอน

///// +++++ /////

     ดาวเมื่อเจอเหตุการณ์ไปเมื่อคืนนั้นก็จิตแตก พอเช้า รีบเก็บข้าวเก็บของใส่กระเป๋าเสื้อผ้า แล้วเผ่นหนีออกจากบ้านเช่าไปเลยทันที งานการก็ไม่กล้ากลับไปทำอีกเลย โทรศัพท์ก็ปิด ไม่ติดต่อใครอีกเลยในช่วงเวลานั้น เพราะกลัวว่านิดจะมาฆ่าเธอ เพราะนิดรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ชีวิตของดาวเหมือนตายทั้งเป็น เพราะต้องคอยหนีนิดและหลบหน้ากุ้ง ไม่กล้าที่จะโผล่หน้าออกมาให้ใครเห็นอีกเลย

     ดาวต้องบากหน้ากลับไปพึ่งใบบุญพ่อตัวเอง เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน หมดที่ไปจริงๆ ยอมให้พ่อด่า ดีกว่าตายแบบหมาข้างถนน กุ้งไม่สามารถติดต่อดาวได้เลย เพราะดาวปิดเครื่องหนี เมื่อเกิดเรื่องขึ้น เอ้จึงต้องมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ดาวหายตัวไป ทิ้งงานกองไว้เต็มโต๊ะ จนกุ้งต้องโอนงานส่วนนี้กลับมาให้ออยทำ เพิ่มงานให้กับออย พวกใบเสร็จเบิกจ่ายต่างๆที่ต้อง Clear ถึงออยจะไม่อยากทำ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำ รับรองสรุปค่าใช้จ่ายไม่ทันแน่ โรสเอาตาย อย่างน้อย ดาวก็ไม่อยู่รกหูรกตาเธอแล้ว ถือว่าแผนกำจัดดาวสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ข่าวนี้กระจายแพร่ออกไปว่า ดาวได้หายตัวไปจากชีวิตกุ้งแล้ว ทำให้โรสดีใจทางอ้อมรวมถึงนิดด้วย

***** ฿฿฿฿฿ *****

     ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว เสื้อผ้าและเครื่องสำอางของนุ่นขายดีมาก ผลิตแทบไม่ทัน เพราะเปิดตลาดได้ถูกช่วงตามแผนที่เมฆวางแผนเอาไว้ให้ แบบและลาย สไตล์ถูกใจพวกกลุ่มสาวๆวัยรุ่น และวัยทำงานมาก โดยเฉพาะเครื่องสำอาง พวกรองพื้นและครีมกันแดด อายชาโดว์ รวมไปถึงหัวน้ำหอม ที่ทำราคาไม่แพงจนเกินไป พวกคนระดับล่างๆเช่นกรรมกรและคนที่เพิ่งจบใหม่ๆพึ่งเริ่มทำงาน ก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้ นุ่นจึงมีความสุขมากที่ลงทุนในครั้งนี้ รอดตัวไม่ขาดทุน แต่เรื่องชีวิตส่วนตัวนะซิกำลังแย่ ถ้าไม่รีบแก้ไขรับรอง เหมือนตายทั้งเป็นแน่ชีวิตนี้ เมื่อนุ่นพอมีเวลาว่างในวันนี้ จึงรีบตัดใจโทรหากุ้งทันที ยังไงวันนี้ต้องพูดกับกุ้งให้ได้

“พี่กุ้ง ติดต่อหาตัวยากจริงนะ ไม่มีเวลาให้เมียคนนี้เลย มัวแต่เอาเวลาไปให้เมียคนโน้น นุ่นชักจะน้อยใจแล้วนะ ถ้านุ่นไม่โทรหา มีไหมที่คิดจะโหรหาเมียคนนี้บ้างหนะ” นุ่นใส่เป็นชุด กุ้งแทบตั้งตัวไม่ทัน เพราะทางนี้ก็กำลังยุ่งและวุ่นๆเหมือนกัน

“อะไรอีกหละนุ่น ไหนเรา ตกลงกันแล้วไงว่าช่วงนี้ขอให้ต่างคนต่างทำงานไปก่อน งานของนุ่น พี่ก็ฝากไว้กับไอ้เมฆไปหมดแล้ว”

“นุ่นไม่ได้ห่วงเรื่องบ้าน นุ่นห่วงเรื่องชีวิตของนุ่น คืนนี้พี่ว่างไหม มาหานุ่นหน่อยซิ นานแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันสองคนตั้งแต่เดือนที่แล้วหนะ นุ่นคิดถึงพี่นะ แบ่งเวลาให้นุ่นบ้างได้ไหม หนูขอร้องหละ นุ่นจะทนไม่ไหวแล้วนะ ผัวอยู่ทางเมียอยู่ทางเนี่ย จะปรึกษาหารืออะไรกันไม่ได้เลย นะมาหานุ่นหน่อย ได้เห็นหน้านิดนึงก็ยังดี นุ่นมีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษาด้วย”

“ไม่ได้หรอกนุ่น ตอนนี้พี่เปิดโอทีทุกวัน เร่งงานของคุณชัชอยู่ พึ่งไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง อีกอย่างช่วงโอที พี่ไปไหนไม่ได้เลย มีคนคอยจับผิดพี่อยู่ ถ้าพี่ไม่อยู่ที่นี่ คนงานและอีกหลายๆคนจะเดือดร้อน พี่ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เพราะพี่ นะเข้าใจพี่หน่อย”

“พี่กุ้งหนะ ไม่สนใจชีวิตเมียบ้างเลย ไม่รักหนูเลยใช่ไหม ถึงปฏิเสธอย่างเดียวจะไม่รับผิดชอบแล้วใช่ไหม กับสิ่งที่ทำลงไปหนะ”

“นุ่น พี่บอกแล้วไง พี่ไปไม่ได้ แต่ถ้านุ่นอยากจะมา พี่ไม่ว่า นะ พี่ขอตัวทำงานก่อน” สักพักออยก็ตะโกนเรียก เพราะคนงานบาดเจ็บ

“พี่กุ้ง คนงานบาดเจ็บ เขาบอกคานบนหล่นลงมาทับ ไม่รู้เป็นไงบ้าง” กุ้งวางสายจากนุ่นและรีบวิ่งไปดูทันที

     นุ่นเหวอไปเลย “อะไรวะ แบบนี้ก็มีด้วย นึกจะวางก็วาง พี่กุ้งนะพี่กุ้ง แบบนี้ได้ด้วยเหรอ เอียด ต้องถามเอียด ว่าไซด์งานพี่กุ้งอยู่ไหน” แล้วนุ่นก็โทรไปหาเอียด ขอตำแหน่งที่กุ้งทำงานอยู่ในขณะนี้

“ว่าไงไอ้นุ่น มีอะไรด่วนกับฉันเหรอ ถึงโทรมาเอาตอนนี้ นี่จะเลิกงานแล้วนะ แกโทรมาก็ดีแล้ว ได้ข่าวว่าตอนนี้เสื้อผ้าแก กำลังขายดีนี่หว่า ฉันกำลังจะไปเดินดูพอดี ไปช๊อปด้วยกันไหม วันนี้ฉันว่างพอดี ไม่มีธุระที่ไหน”

“ไม่หละ เอาไว้ก่อน ฉันไม่มีอารมณ์ไปช๊อปอะไรทั้งนั้น แกรู้ไหมว่าไซด์งานพี่กุ้งอยู่ไหน”

“จะไปตามผัวว่างั้น” เอียดเล่นยิงตรงแกล้งเพื่อน “เออ แล้วแต่แกจะคิด ว่ามารู้ไหม”

     เอียดไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งโลเกชั่นของกุ้งไปให้ทันที “ได้รับแล้วใช่ไหมเพื่อน Love” หลังจากส่งโลเกชั่นให้ เอียดก็ถามเพื่อนเพราะกลัวจะไม่เข้าใจสถานที่ ไปไม่ถูก “ขอบใจมาก” นุ่นจะวางสาย เอียดขอถามอีกนิด

“แกไปถูกเหรอ ฉันเคยไปมาหนสองหนยังเกือบหลงเลย” เอียดแหย่จนหยุดสุดท้าย

“มีปากไว้ทำไมวะ ฉันไปหละ รีบ” นุ่นไม่สนใจสิ่งที่เอียดถาม “แหมๆ เรื่องตามผัวหนะไวเชียวนะแก ทิ้งเพื่อนเลย”

“บ้า ฉันไม่พูดกับแกแล้วไปดีกว่า..ไปตามปั๊ว” นุ่นเล่นศัพท์สะแลงเสียด้วย แล้วก็วางสายทันที

     เอียดยิ้มให้กับเพื่อนหลังจากวางสาย พอดูนาฬิกาก็ได้เวลาเลิกงาน แล้วก็เก็บของและเดินออกมา เห็นวันทนีย์กำลังเก็บของเตรียมกลับเหมือนกัน จึงเอ่ยปากถามเรื่องเจ้านายสุดที่รัก “พี่นี” นีหันหน้าหลับมาหานุ่น

“ขา บอส มีอะไรกับพี่หรือเปล่า” นีลุกขึ้นพอดีเตรียมตัวกลับบ้าน

“เจอเจ้านายสุดที่รักของพี่บ้างไหม” นีงงว่าอยู่ดีๆทำไมวันนี้เอียดถึงมาถามคำถามแปลกๆ

“ไม่นี่คะ พี่ไม่ได้เจอหน้านายมาตั้งนานแล้วตั้งแต่วันงานเลี้ยง ทำไมอยู่ดีๆบอสถึงถามพี่แบบนี้หละคะ มีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า เห็นพี่ต้องคอยรับคำสั่งพี่กุ้งอยู่ไม่ใช่เหรอ” เอียดถามแบบยิ้มๆ เหมือนจะรู้อะไรมาสักอย่าง เลยหยั่งเชิง

“ใช่ คุยกันแค่เสียง แต่ไม่ได้เจอตัว” เอียดเดินจากไปเฉยๆ จนนีงง ต้องตะโกนถาม

“อย่าพึ่งไปซิคะบอส อยู่ดีๆมาถามพี่แบบนี้ทำไม ร้อยวันพันปีไม่เคยถาม พี่ว่ามันต้องมีอะไรแน่ ไม่งั้นอยู่ดีๆบอสจะมาถามพี่แบบนี้ทำไม บอส กลับมาก่อน” เอียดไม่สนใจคำถามของนี เดินผลักประตูออกจากห้องไปเลย นีข้องใจมาก เลยโทรเข้าหากุ้ง

     กุ้งก็ไม่ว่างรับสาย เพราะกำลังช่วยพาคนงานไปโรงพยาบาล ที่ประสบอุบัติเหตุ แผ่นไม้กระดานที่เ็ป็นไม้แบบทำคานหล่นลงมาทับขาคนงานถึงสองคน แต่ไม่เป็นอะไรมาก เย็บคนละ 3-4 เข็ม เนื่องจาก รอยฉีกของไม้กระดานหล่นลงมาปักลงไป ค่อนข้างลึกพอสมควร พอกุ้งเดินทางกลับมาที่ไซด์ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรรายงานโรสเรื่องอุบัติเหตุในวันนี้ ก็พบกับ Misscall ของนี 5 สาย จึงโทรกลับไป “มีอะไรกับผมเหรอนี ถึงโทรมาถี่ขนาดนั้น”

“มีซินาย อยู่ดีๆ วันนี้คุณเอียดก็มาถามนีแปลกๆว่า เจอเจ้านายสุดที่รักบ้างไหม ซึ่งมันแปลกมาก ร้อยวันพันปีไม่เคยถาม นีว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ มันเหมือนอาการหวงพี่ชายจะกลับมาอีกแล้ว นีขอพูดตรงๆเลยนะ เหมือนคุณเอียดจะมาจับผิดและระแวงนีขึ้นมาซะอย่างนั้นแหละ นีไม่เข้าใจไม่ Happy นะนาย ความรู้สึกมันบอกอย่างนั้น ว่ากำลังโดนจับผิดอะไรอยู่สักอย่าง ยังไงๆ นีฝากนายช่วยดูๆน้องสาวนายหน่อยนะ นีถามอะไรไปก็ไม่ยอมบอก ขืนถ้าเป็นแบบนี้ นีทำตัวไม่ถูกเลยนะจะบอกให้ ทำงานด้วยกันไม่ได้แน่”

“เอาหละๆ อย่าพึ่งคิดอะไรมากมาย ฉันเข้าใจ เอางี้ เธอก็อย่าคิดมาก อยู่กับฉันมาตั้งนาน ก็น่าจะรู้นะว่าควรจะทำยังไง ฉันเชื่อว่าเธอรู้ใจฉันดีกว่าบรรดาผู้หญิงของฉันทั้งหมดซะอีก ทำใจให้สบาย ถ้าเราไม่มีอะไร ถ้าเราไม่ผิดหรือบริสุทธิ์ใจซะอย่าง ก็ไม่มีใครสามารถมาทำอันตรายเราได้ ฉันเชื่อว่านีของฉัน ต้องคิดและหาทางแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ ฉันขอตัวก่อนนะ มีงานรออยู่ อ้อ อย่าลืมลงเวลางานของฉันเลื่อนขึ้นมาให้ด้วยนะ ว่างานของคุณชัช ฉันเลื่อนขึ้นมาให้เสร็จ วันที่ 20 เมษา แล้วงานตกแต่งห้องประชุมคุณอาหนะ หลังวันวาเลนไทม์เสร็จ Sure อย่าลืมบอกคุณอาด้วยหละ ดูแลตัวเองด้วยนะคนเก่ง บาย” กุ้งวางสายทันที

“ค่า เจ้านาย ได้ทีสั่งงานเพิ่มเลยนะ ทูนหัวของบ่าว..จุ๊บ” นีบ่นหลังวางสาย รู้สึกโล่งและสบายใจเมื่อได้ยินเสียงของเจ้านายสุดที่รัก

----- ^^^^^ -----

     น้องเดินกลับออกมาจากบริษัทหลังจากเลิกงานช่วง 6 โมงเย็น ก็ต้องพบว่าโกร๋นมายืนดักรออยู่แล้วที่หน้าบริษัท น้องยังคงโกรธโกร๋นที่ทำตัวไม่น่ารัก ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้น่านับถือ เอะอะอะไรก็เมา ก็ดื่ม น้องเกลียดตรงนี้ โกร๋นเดินเอียงๆมาหาน้องอีก เพราะกระดกมานิดนึง ย้อมใจเพื่อจะได้กล้า น้องยืนใกล้ๆได้กลิ่นเหล้าเบียร์ ก็เอามือปิดจมูกและเดินหนีทันที โกร๋นเดินตามและเอายื่นมือเขามาจับมือน้อง น้องตกใจมากจึงสะบัดออก พอรถเมล์มาน้องจึงวิ่งขึ้นทันทีด้านหน้าโกร๋นขึ้นด้านหลัง พอน้องเห็นว่าโกร๋นขึ้นตามจึงรีบวิ่งลง รถเมล์ออกตัวพอดี โกร๋นจึงลงไม่ทัน เลยติดไปกับรถเมล์คันนั้นเลย น้องโล่งอกที่ไม่ต้องปวดหัวและขึ้นคันต่อไปกลับ

***** +++++ *****

     เอียดมาเดินช๊อปคนเดียวตามประสาคนโสด เช่นเดียวกับมอญที่พึ่งเลิกงาน เลยแวะหาอะไรทานสักหน่อยตามประสาคนโสด ทั้งสองคนเดินมาจ๊ะเอ๋กันที่ ศูนย์อาหาร ตาทั้งสองประสานกันจังๆจนของในมือที่เอียดถือมา หล่น มอญเลยก้มมาเก็บให้และถือไว้แทน

“เอียด มาคนเดียวเหรอ” เอียดใจเต้นตุบตับอีกแล้ว เขินก็เขินจึงได้แต่ก้มหน้า ไม่พูดอะไร มอญเลยส่งของที่ตกยัดใส่มือเอียดและบีบมือเบาๆจนเอียดต้องค่อยๆหดมือกลับ แล้วก็หันหลังกลับทันที มอญเลยเรียกอีกครั้ง

“จะไปไหนหละครับ ทานข้าวเป็นเพื่อนพี่สักมื้อก่อนซิ จะได้ไหม ถ้าเอียดไม่รีบไปไหน”

     เอียด ซี๊ดปาก ทำหน้าไม่ถูกเลย จะเอายังไงดี ถ้าจะกลับตอนนี้ก็เหมือนไม่มีมารยาท และมอญจะมองว่าเธอเป็นคนขี้ขลาดอย่างแน่นอน จึงตัดใจหันหน้ามาคุยด้วย “ไม่รีบค่ะ ไม่มีธุระที่ไหน เอียด ก็กำลังหิวพอดี” มอญดีใจมากที่เอียดยอมอยู่ทานอาหารกับเขา

     มอญเลยหันไปที่แคชเชียร์และส่งเงินให้ 200 บาท “2 ใบครับ ใบละร้อย ขอบคุณครับ ไปเอียด เราไปหาอะไรทานกัน มาพี่ถือให้” เอียดยิ้มให้เพื่อรับไมตรี “ขอบคุณนะ เชิญค่ะ” แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปด้านในและหาอาหารทานกัน

     ระหว่างที่เอียดเดินไปหาอาหารทานอยู่นั้น มอญก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กะว่าจะส่งข้อความไปหาเสียหน่อย เพราะเขาไม่ได้แตะโซเชียลมาหลายวัน ก็เห็นข้อความของเอียดค้างอยู่เพียบเกือบสิบข้อความและมาสะดุดที่ข้อความสุดท้าย “คิดถึงนะคะ” จึงทำให้มอญเริ่มรู้อะไรบางอย่างแล้วว่า เอียดคิดยังไงกับ BadBoy จึงส่งข้อความกลับไป “จริงหรา..ที่บอกว่าคิดถึง”

     เสียงไลน์ดังขึ้นระหว่างทางที่เอียดถือถาดอาหารมา เอียดเลยหาที่วางแป๊บนึงแถวนั้นและดูว่าใครส่งข้อความมาให้ พอเห็นว่าเป็น BadBoy เธอดีใจมาก จึงรีบส่งข้อความกลับไปทันที “จริงค่ะ ก็คุณเล่นหายหน้าไปเลยเกือบอาทิตย์ อย่ามัวแต่ทำงาน จนไม่ได้พักผ่อนหละ หาอะไรทานบ้าง มาค่ะ มาทานมื้อค่ำกัน” แล้วเอียดก็ถ่ายภาพอาหารส่งไปให้ BadBoy แล้วก็รีบเดินไปนั่งที่

     พอเอียดมาถึง มอญก็ลุกออกไปทันที และไม่ลืมที่จะตอบกลับ “น่าทานจัง ครับ ตามสบายเลย ผมก็กำลังหาอะไรทานเหมือนกัน พึ่งเสร็จงาน ตามสบายเลยนะครับ ผมไม่รบกวนเวลาพักผ่อนคุณแล้ว ทานเผื่อด้วยนะครับ คนน่ารัก”

     แหมมอญเล่นทิ้งท้ายแบบนี้มีหรือที่เอียดจะไม่คิดว่า BadBoy ก็มีใจให้เธอเช่นกัน “ปากหวานขึ้นทุกวันแล้วนะคุณเนี่ย BadBoy”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมปากหวาน มาลองชิมปากผมแล้วเหรอว่าหวานนะ” เท่านั้นแหละ เอียดใจเต้นตุบๆ ขึ้นมาทันที

     อยากจะร้องกรี๊ดตอนนี้เลยทีเดียว ที่ BadBoy เล่นประโยคนี้มา “ยังค่ะ และยังไม่อยากจะคิดชิมตอนนี้ด้วย แค่นี้นะคะ หิวแล้ว” เจอแบบนี้เข้า เอียดรีบตัดบททันที ทานอาหารดีกว่า เพราะเดี๋ยวยิ่งคุย จะยิ่งเข้าตัว มอญเดินมานั่งลงตรงข้าม เอาน้ำส้มคั้นมาฝาก 1 แก้ว เผ็ดเหรอครับน้องเอียด ทำไมถึงหน้าแดงแบบนั้นหละ” มอญจ้องมองดูอาหารที่เอียดทาน ก็ไม่เห็นจะมีพริกเลย

“มันแดงมากขนาดนั้น จนเห็นชัดเลยเหรอพี่” มอญพยักหน้า เอียดรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ว่ามันแดงแค่ไหน

     พอถึงห้องน้ำ เธอต้องตกใจมาก ที่มันแดงมากจริงๆ ยังกะลูกตำลึงสุกเลย “ตายแล้วยัยเอียด ทำไมแกถึงเป็นคนแบบนี้เนี่ย นี่ขนาดแชทคุยกับเขา ยังหน้าแดงขนาดนี่ แล้วถ้าวันนึงเขาขอนัดเจอตัวจริง แล้วฉันจะทำยังไงเนี่ย บ้าบ้าบ้า บ้าที่สุด เอียดรีบเปิดน้ำล้างหน้าตัวเองและเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดออก ทำใจให้สบายๆโล่งๆ สักพักหน้าก็เริ่มหายแดง จึงเดินกลับออกไปนั่งที่เดิมและทานอาหารต่อ

<<<<< ===== >>>>>

     นุ่นขับรถมาหากุ้งถึงที่ โดยที่กุ้งไม่รู้ว่านุ่นจะมา นุ่นค่อยๆถามทางมาจนถึง สองทุ่มนุ่นถึงงมทางมาได้ กุ้งและออยมองดูว่าใครมาค่ำมืดปาดนี้ กุ้งไม่สนใจนั่งแก้และเขียนแบบต่อในห้องของเขา ออยเดินเปิดประตูออกมาดู

“มาหาใครคะ” นุ่นบอกเบาๆเพราะเหนื่อย “พี่กุ้งค่ะ” พร้อมกับถือขนมขนมเนยมาเพียบ เพราะกุ้งบอกว่าทำงานดึก

“แล้วจะให้บอกว่าใครมาคะ พอดีพี่กุ้งยังติดงานอยู่ จะได้บอกได้ถูก” นุ่นไม่รู้ว่าออยเป็นใคร เลยบอกไปตรงๆกลัวไม่ให้เข้าพบ

“เมียค่ะ บอกพี่กุ้งว่า เมียมาหา มีขนมมามากมายเลย มาทานด้วยกันนะคะน้อง อาจจะหิว เห็นข้างนอกกำลังทำงานกันเยอะเลย”

     ออยไม่สนุกด้วยเมื่อได้ยินคำนี้ จึงบ่นในใจ “โผล่มาอีกคนแล้ว ไอ้คำว่าเมียเนี่ย อุตส่าห์เขี่ยนังดาวพ้นไปคนนึงแล้ว นี่โผล่มาจากไหนอีกเนี่ย” ออยมองนุ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า “นั่งรอสักครู่นะคะเดี๋ยวจะไปบอกพี่กุ้งให้” ออยรีบเดินกระแทกเท้าตับๆเข้าไปหากุ้งจนนุ่นต้องมองแบบงงๆ “เป็นอะไรของเค้าวะหนะ” ออยเปิดประตูและชะโงกหน้าไปบอก

“พี่กุ้ง เมียมาหา เขาบอกแบบนั้น” กุ้งพยักหน้า และก้มหน้าทำงานต่อ โดยไม่ได้สนใจอะไร ใครอยากจะมาก็มา

     แล้วออยก็ทำหน้ามุ่ยเดินกลับออกมานั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง และจ้องมองไปที่นุ่นแบบตาไม่กระพริบ ทำงานไปด้วย ตาก็มองไปด้วยเป็นระยะๆ สักพักกุ้งเดินออกมา “อ้าวนุ่น มาถูกได้ยังไง พี่แกล้งพูดเล่นๆไม่นึกว่าจะมาจริง”

“ถามยัยเอียดมา ลึกลับเหมือนกันนะ กว่าจะมาถึงก็เล่นเอาแย่เลย”

“ไป มาเหนื่อยๆ เข้าไปเอาแอร์เย็นๆข้างในแล้วกัน” กุ้งเดินไปจูงมือนุ่นเข้าไปในห้องทำงานของเขา

     ออยค่อยๆแอบตามไปส่องดูว่าเข้าไปทำอะไรกัน นุ่นวางขนมและจัดใส่จานให้กุ้ง มาวางไว้และเริ่มคุย บอกความต้องการที่มาในวันนี้ทันที ออยยืนแอบมองดูอยู่ข้างนอกพักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ยินว่า เขาคุยอะไรกัน จนเอ้ เดินเข้ามา

“รถใครหนะออย” ออยค่อยๆถอยหลังเดินมาหาเอ้ “เมียพี่กุ้ง” เอ้ ตกใจ งง

“นิดนะเหรอ ทำไมถึงมาได้วันนี้ ธรรมดาจะไม่มานี่”

“ไม่ใช่ แต่คนนี้ไม่รู้ซิ หนูไม่เคยเห็นหน้า เห็นพี่กุ้งเรียกชื่อว่า นุ่น พี่รู้จักไหม”

“ไม่ รู้จักแต่นิด อะไรวะ แกเป็นกิ๊กมัน แกไม่รู้อีกเหรอ แล้วฉันเป็นใคร แค่เพื่อน ไม่ได้สนิทแนบชิดแนบเนื้อแบบแกนี่”

“พี่เอ้” ออยเอามือตีไหล่ และชี้หน้า “อย่าล้ำเส้น แล้วหนูจะรู้ไหมว่าแฟนหนูแอบไปมีใครที่ไหนบ้าง ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับเค้านะ”

“งั้นแกก็ต้องทำใจแล้วหละ ถ้าเขากล้าพูดขนาดนั้น แสดงว่า ไอ้กุ้งไม่ได้มีแกคนเดียวแล้วแหละ คงมีอีกเพียบ ทำใจซะเถอะวะออย เชื่อพี่ ไปไป ไปทำงาน พี่อยากจะได้แปลนช่วงท้ายห้องครัว หาให้พี่หน่อย พี่ไม่แน่ใจว่าแบบถูกไหม ขี้เกียจมาแก้ทีหลังไป เร็ว พี่รีบต้องการด่วนเลยไม่งั้นไม่รีบเดินมาเอาหรอก นี่ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว เวลามีน้อย”

     ออยเลยต้องตัดใจมาทำงานก่อน ใจก็อยากรู้ว่าเขาคุยอะไรกัน แต่เอ้มาเร่งยิกๆอยู่ตรงนี้ ก็เลยต้องพลาดช่วงเวลาที่จะแอบฟัง

***** >>><<< *****

     วันนี้สร้อยก็ยังคงชะเง้อคอรอผัวอยู่อีกเหมือนเดิม จนแม่ต้องเดินเข้าปลอบใจ

“สร้อยเอ๊ย เชื่อแม่เถอะลูกอย่ารอเลยมันไม่มาแล้ว”

“แม่ ทำไมพี่สิงห์เขาทำแบบนี้กับหนูหละ เดือนนี้เขาหายไปเลยนะ เดือนที่แล้วว่าน้อยแล้ว เดือนนี้มาแค่ต้นเดือนวันเดียวเองนี่ก็ 10 วันเข้าไปแล้ว ขนาดโทรไปตามก็เงียบ ไม่โทรกลับเลย พอโทรติดก็อ้างว่าต้องทำงาน ไม่งั้นพ่อจะไม่จ่ายเงินเดือน ถ้าไม่ทำ จะเอาเงินไหนมาเลี้ยงพวกเรา แม่ดูผัวหนูมันพูดซิ มันทำเหมือนเป็นหน้าที่ ไม่ใช่เพราะรักหนูเลย หนูไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้มากมายขนาดนี้” สร้อยล้มตัวลงนอนหลังจากที่ระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมาจนหมด แพรไหมสงสารลูก แต่ไม่รู้จะทำยังไง

“นอนซะเถอะลูก ต้นเดือนหน้าก็จะคลอดแล้วไม่ใช่เหรอ ทนอีกหน่อยนะลูก อีกนิดเดียวเอง ทนมาได้ตั้งนาน อีกแค่เดือนเดียวเอง พอคลอดแล้ว คราวนี้ดูซิว่ามันจะเอาอะไรมาอ้างที่จะไม่รับผิดชอบอีก” สร้อยพยักหน้าและก็หันหลังให้แม่

     แพรไหมลุกออกไปจากห้องและปิดไฟให้ลูก สร้อยนอนร้องไห้อีกเช่นเคยตามเดิมเหมือนทุกวันที่ผ่านมา มันเหมือนตายทั้งเป็นสำหรับเธอที่ต้องอ้างว้าง เพราะขาดสามีมาดูแล ทั้งๆที่ตอนนี้สามีต้องมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ท้อง 8 เดือนขนาดนี้ อันตรายมาก

\\\\\ +++++ \\\\\

     เวลาผ่านไปประมาณ 2 ทุ่ม 45 โรสโทรหาออยเพื่อที่อยากจะรู้ว่ากุ้งอยู่ที่ไซด์ไหม จะเกเรไม่ฟังคำสั่งเธอหรือเปล่า ออยเลยรีบรายงานทันที เรื่องที่นุ่นมาหากุ้งที่นี่และบอกว่าเป็นเมีย “จริงนะแก มันบอกว่า มันเป็นเมีย พี่กุ้งจูงมือโอบไหล่มันเข้าไปนั่งจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันอยู่ในห้องทำงานสองต่อสองตั้งนานแล้ว นี่จนงานจะเลิกแล้ว ยังไม่ออกมาเลย” โรสเฉยๆกับสิ่งที่ออยรายงาน

“ช่างเขา ใครจะมาหาเขา ฉันไม่สน ขอแค่ให้เขาอยู่ตามคำสั่งฉันเป็นพอ”

“แกนี่เป็นเมียประสาอะไรวะ ผัวมีเมียน้อยมาหาถึงที่นี่แกยังจะใจเย็นไม่เอาเรื่องอีก อีตอนนังดาวก็ทีแล้วนะ ฉันก็นึกว่าหมดแล้ว นี่ไม่ทันไรมาอีกคนแล้ว ฉันทำเพื่อแกขนาดนี้ แกยังเฉยอีกเหรอ” ออยพยายามปั่นหัวโรส พอดีช่วงนี้โรสทำใจได้แล้ว จึงไม่รู้สึกอะไร

“ก็บอกแล้วไง ฉันไม่สน ขอแค่งานฉันเสร็จฉันก็พอใจแล้ว เขาอยากจะมีเมียน้อยอีกสัก 10 คน 100 คน ฉันก็ไม่สนใจ ขออย่างเดียว ถ้างานฉันพังเมื่อไหร่ ฉันเอาเรื่องเขาแน่ แค่นี้นะ ฉันจะนอน ง่วงแล้ว”

     แล้วโรสก็วางสาย กุ้งเปิดประตูเดินออกมาส่งนุ่นพอดี “ไม่ต้องไปส่งหรอกพี่ พี่ทำงานต่อเถอะ หนูกลับเองได้ พักผ่อนบ้างนะคนดี ช่วงนี้ดูผอมไปนะซูบไปเยอะเลย เอาไว้คราวหน้า ถ้ามีเวลาหนูจะทำซุปรสเด็ดมาให้ บายหนูไปหละนะ”

     กุ้งก้มลงมาจูบหน้าผากนุ่น นุ่นเลยหอมแก้มขวากลับไป “แล้วเรื่องนั้นไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวพี่ขอหาวิธีก่อน สบายใจได้” นุ่นได้ยินคำยืนยันแบบนั้นก็โล่งอกและสบายใจเสียที หันหลังเดินยิ้มออกมา ผ่านโต๊ะทำงานออย ก็หันไปยิ้มและโบกมือให้ แล้วเปิดประตูเดินออกไปเลย ไม่นานออยรีบวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อถามกุ้งทันทีกับคดีนี้ ออยเอามือมาวางบนแปลนกุ้ง และจ้องหน้า

“บอกมา อีนั่น มันเป็นใคร มันบอกว่าเป็นเมียพี่ จริงหรือเปล่า ที่หนูเงียบเมื่อตะกี้ ก็เพราะหนูให้เกียรติ์พี่นะ แต่ตอนนี้บอกหนูมาได้แล้ว ไม่งั้นคืนนี้พี่ไม่ได้กลับบ้านแน่ บอกมา ว่ามันมาทำอะไร ดึกดื่นปาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยมา หนูไม่ยอมนะ”

“พี่จะทำงานน่าออยนี่จะสามทุ่มแล้วอีก 5 นาที งานพี่ยังไม่เสร็จเลย” ออยเริ่มงอแงและหวงกุ้งมากขึ้น

“พี่ก็บอกหนูมาก่อนซิว่ามันเป็นใคร ทำไมหนูถึงไม่เคยรู้เรื่องของคนๆนี้เลย พี่ปิดเงียบมาก ซึ่งต่างจากอีดาว”

“เขาชื่อนุ่น เป็นเมียพี่อีกคนๆนี้เขาเป็นคนเงียบๆง่ายๆ หัวอ่อน พูดจารู้เรื่องไม่เรื่องมาก พอใจหรือยัง ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้หรอก ที่พูดจาอะไรแล้วไม่เคยเชื่อหรือทำตามสัญญาอะไรได้เลย ไปไป ถอยไป พี่จะทำงาน อ้อ แล้วขอบอกไว้ก่อนนะว่า กรุณาอย่าเอาเรื่องของนุ่นไปพูดให้นิดได้ยินหละ เพราะเขายังไม่รู้เรื่องนี้ ถ้านิดรู้เรื่องของนุ่นเมื่อไหร่ พี่จะขอคิดว่าเธอเป็นคนบอก เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ออกไปได้แล้ว พี่จะทำงานต่อ อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาวุ่นวายกับพี่ได้ไหม”

     ออยงอน โกรธมากที่โดนกุ้งด่าและว่าทางอ้อม “พี่กุ้ง ว่าหนูพูดจาไม่รู้เรื่องและผิดสัญญาอย่างนั้นเหรอ หนูไม่ยอมนะ”

“แล้วไม่จริงเหรอ อีกอย่างเราเคยตกลงกันแล้วใช่ไหมเรื่องความสัมพันธ์ของเราหนะ ว่าเป็นยังไง ขอบเขตแค่ไหน หนูเป็นคนพูดเองนะ ลืมไปแล้วเหรอ เพราะฉะนั้น พี่ขอร้องหละ อย่ามาคุยเรื่องนี้กับพี่ในตอนนี้ พี่จะทำงาน ถ้าออยคิดว่า ทำอย่างที่พูดไม่ได้ อยากจะไปจากพี่ก็ได้นะ พี่ไม่ว่า ตามใจ ถ้ากลับบ้านแล้ว กรุณาล็อกประตูให้พี่ด้วย พี่ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก เดี๋ยวงานไม่เสร็จ”

“อึ๊ย..พี่กุ้ง จำไว้เลยนะ” ออยชี้หน้ากุ้ง ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว ก็ดันไปพูดไปตกลงกับเขาเอง มาถึงขั้นนี้แล้วนี่ กุ้งไม่สนใจ นั่งทำงานต่อ

<<<<< ----- >>>>>

     กุ้งทำงานได้อีกสักพัก พอดูนาฬิกาก็ปาไป 4 ทุ่ม 15 จึง รีบเก็บของออกมาจากห้องและปิดไฟ รีบขับรถกลับ แต่ไม่ได้ไปบ้านตัวเองนะ ตรงไปหานิดถึงบ้าน นิดปิดไฟเข้านอนเรียบร้อย กุ้งมีกุญแจบ้านนิด เพราะเป็นผัวเมียกัน นิดเลยให้ไว้ชุดนึง กุ้งค่อยๆไขกุญแจแล้วเดินเข้าบ้านไปเงียบๆ และค่อยๆย่องไปบิดลูกบิดเพื่อเข้าห้องเมีย

     นิดนอนหลับไม่รู้เรื่อง เพราะไม่คิดว่ากุ้งจะมาง้อถึงบ้านในคืนนี้ กุ้งถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เปลือยเลยว่างั้น และค่อยๆย่องเดินอ้อมปลายเตียง และมาขึ้นเตียงทางซ้าย ค่อยๆเปิดผ้าห่มออกและเอามือขวาสอดไปใต้คอนิดอย่างเบาๆ นิดขยับตัวจากขวาหมุนมาทางซ้าย มือขวามาอยู่บนอกกุ้งพอดี ทีแรกก็ยังไม่ได้รู้สึกและเอะใจอะไร นึกว่าหมอนกอด เลยกอดซะเต็มแรง และขาขวาก็ก่ายขากุ้ง

     กุ้งจึงหอมแก้มขวานิดเบาๆ แต่นิดรู้สึกว่า ทำไมหมอนกอดวันนี้สูงจังและยังรู้สึกอีกว่าเหมือนที่หว่างขาเธอไม่ปกติ นิดค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นเป็นกุ้งและมือเธอกำลังกอดกุ้งอยู่ และที่สำคัญกุ้งกำลังทำรักให้กับเธออย่างเบาๆ มิน่าหละนิดถึงเหมือนจะมีอารมณ์เลยลืมตาขึ้นมา “กุ้ง” พอนิดรู้สึกตัว กุ้งจึงไม่เกรงใจแล้ว รีบเอาปากเขาประกบจูบปากเมียทันที แล้วพลิกตัวขึ้นมา เริ่มทำรักอย่างหนักหน่วง นิดกำลังมีอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก เพราะนานๆจะถูกลักหลับสักที จึงตอบสนองอารมณ์สามีทันที

“โอ๊ว ผัวขา โอ๊ว อีกคะ แรงอีก แรงอีก แรงอีก” กุ้งรีบจัดให้ตามคำสั่งเมีย ไม่นาน นิดก็ขอทำให้บ้าง

     จึงพลิกตัวขึ้นมา ขอเป็นโคบาลควบม้าหน่อยในคืนนี้ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนก็ถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน หมดแรงนอนกอดกันหลับสนิทจนเช้า พอรุ่งเช้าวันใหม่ ประมาณ 7.15 น. กุ้งก็ออดอ้อนเมียต่อ มาขอโทษให้นิดอภัยให้เขาเรื่องดาว ทีแรกนิดงอน เพราะโกรธมากที่ทำแบบนี้กับเธอ แต่กุ้งก็ไม่หมดความพยายาม จึงเล่นปูไต่ เอานิ้วซ้าย เล่นปูไต่ไปที่ถันของนิด และขยับตัวไปดื่มนมสดพันธ์อรทัยแต่เช้าเลย ทั้งสองข้าง จนนิดเริ่มจะมีอารมณ์อีก ทนไม่ไหวแล้ว จึงยอมยกโทษให้

“พอแล้วๆผัวขาพอแล้วนิดใจจะขาดอยู่แล้ว เครๆ นิดยกโทษให้คุณแล้ว ยังอีก เครคะ บอกให้พอ ดูซิ ทำเอานิดจะขาดใจตายอยู่แล้ว”

     นิดพยายามผลักหน้ากุ้งออกจากถันของเธอ พอกุ้งไม่ปล่อยปาก นิดเลยเอื้อมมือไปบีบไข่และน้องชายกุ้งทันที

“โอ๊ย เมียจ๋า เจ็บเจ็บ” กุ้งจึงปล่อยปากได้ “ไง แกล้งเขาดีนัก โดนซะบ้าง” นิดจึงเอาคืน รีบลุกขึ้นแล้วเอียงตัวไปจัดการน้องชายกุ้งที่กำลังตื่นตัวอยู่ทันที กุ้งโดนนิดจัดการจนไม่กล้าฮือกับเมียอีกเลย แต่ก็มีความสุข เพราะนิดอารมณ์ดีแล้ว

     หลังจากที่นิดได้ทานไอติมกะทิสดเป็นที่เรียบร้อยในตอนเช้าจนอิ่มหนำสำราญใจ ก็รีบลุกไปอาบน้ำเลยทันที กุ้งก็รีบวิ่งตามนิดเข้าไปในห้องอาบน้ำ เพื่อขออาบน้ำด้วย แล้วไปมีความสุขกันในห้องน้ำต่อ ไม่รู้ว่าอีกกี่รอบ

     หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งสองก็มีความสุขกันตามประสาผัวเมีย หวานหยดเหมือนพึ่งแต่งงานกันใหม่ๆ นิดทำอาหารเช้าให้กุ้งทานก่อนที่จะออกไปทำงาน ต่างคนก็ต่างป้อนซึ่งกันและกัน “กุ้ง” นิดมีความสุขมาก จึงเอ่ยปากบอกกุ้งก่อน

“นิดมีความสุขมากๆเลย ที่กุ้งดีกับนิดแบบนี้ เพื่อความสบายใจของนิด กุ้งทำอะไรอย่างหนึ่งให้นิดได้ไหม”

“ว่ามาเลยครับเมียจ๋า ผัวทำได้ทุกอย่าง ขอให้เมียบัญชามา” กุ้งนั่งลงกับพื้นห้อง เอนตัวไปกอดเอวนิด และเอาหัวหนุนไปที่ตัก

“ปากหวานจริงนะ ตั้งแต่ทำผิดกับเมียเนี่ย” กุ้งไม่พูดอะไร คงแต่เอาหัวหนุนไว้ที่ตัก

“เอาน่า ว่าไป จะให้ผัวทำอะไร ว่ามา หรือว่าจะเพิ่มรอบ เพิ่มวันก็ได้นะ ผัวจะหลีกเวลาให้”

“เซี้ยวน่า กุ้ง เรื่องนั้นนิดไม่ได้สนใจอะไรมากนักหรอก เพราะไม่ขอ เดี๋ยวนี้กุ้งก็ชอบต่อรอบเอง ดูอย่างเมื่อเช้าซิ ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน เบิ้ลซะนิดเดินแทบไม่ไหว ขาไม่มีแรงเลยบอกตามตรง ไปแอบทานยาโด๊บมารึไง ถึงได้ต่อรอบได้เร็วขนาดนั้นหนะ บ้า ของพังหมดกันพอดี ไม่เคยบันยะบันยังบ้างเวลาทำหนะ เจ็บนะจะบอกให้ รู้ไว้ด้วย” นิดเอามือตีไปที่ไหล่ขวากุ้ง ขณะที่กอดเธออยู่

“แล้วไม่ชอบเหรอ” นิดตอบเบาๆ “ชอบ” กุ้งแอบยิ้ม “นึกว่าไม่ชอบ คราวหน้าจะได้ไม่ทำ”

“ไม่ต้องเลย อยากทำอะไรก็ทำไป อย่ามาเฉไฉกลบเกลื่อนความผิดเลย นิดไม่เคยว่า นิดเต็มใจ ของทุกอย่างในตัวนิด ก็เป็นของคุณหมดแล้ว อยากทำอะไร ทำตรงไหนเมื่อไหร่ ทำได้เลยตามสบาย แต่นิดแค่อยากจะขอคุณแค่อย่างเดียวในตอนนี้”

“ก็อะไรหละครับ ผมรอฟังมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นว่านิดจะบอกสักที รอจนจะหลับแล้วเนี่ย”

“บ้า” นิดตีแขนกุ้งเบาๆ กุ้งขยับตัวลุกขึ้นมา และหอมแก้มนิดข้างขวา 1 ที “ครับ ว่าไป ไม่กวนแล้ว”

“ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ขอให้กุ้งย้ายมาอยู่กับนิดที่นี่นะ นิดไม่อยากกลับไปอยู่บ้านกุ้งอีกแล้ว ไม่อยากจำเหตุการณ์นั้น บอกตามตรง เห็นแล้วมันไม่สบายใจ ภาพที่กุ้งแอบเดินไปหาอีดาวในห้องนั้น นะ นิดขอแค่นี้ ทำเพื่อนิดได้ไหม ถ้ากุ้งรักนิดจริงๆ ทำเพื่อนิดสักครั้งได้ไหม” กุ้งยิ้มและรวบเอามือทั้งสองข้างมาถือไว้และยกขึ้นมาหอม

“ได้ซิ ทำไมจะไม่ได้ เรื่องแค่นี้เอง ทำไมผมจะทำให้นิดไม่ได้ สบายมาก โอเครครับ ตั้งแต่คืนนี้ ผมจะมาอยู่กับนิดที่นี่ตลอดไป”

“ขอบคุณมากค่ะกุ้ง นิดรักกุ้งม๊ากมากเลย ไปทำงานได้แล้ว นี่จะ 10 โมงแล้ว บ้านนิดไกลนะ ลาดกระบัง ไม่ได้อยู่บางบัวทอง ใกล้ไซด์งานเหมือนบ้านกุ้ง แล้วคืนนี้เจอกัน อย่าลืมไปรับเมียเหมือนเดิมด้วยหละ” แล้วนิดก็จูบปากลากุ้ง และหอมแก้มทั้งสองข้าง

     กุ้งเดินออกไปทำงานด้วยรอยยิ้ม หันมาโบกมือให้ไม่ได้ดูทาง เลยเดินชนข้างฝาบ้านโครมเบ้อเร้อ จนนิดต้องอดหัวเราะออกมาไม่ได้ กุ้งหน้าแตกต่อหน้าเมียเลยเช้านี้ แล้วรีบเดินออกไปและขับรถออกไปทันที นิดมีความสุขมากที่ได้ความสุขกลับคืนมา ไม่เหมือน หลายวันก่อนที่เหมือนตายทั้งเป็น เมื่อไม่มีกุ้งอยู่ข้างกาย แต่ตอนนี้ความหวานได้กลับมาอีกแล้ว จึงต้องรักษามันไว้ให้ดี

***** ///// *****

     วันนี้วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ช่วงบ่ายๆเมฆและเพื่อนๆนัดกันเข้ามาตรวจเช็คว่าอุปกรณ์ต่างๆ รูปภาพและสิ่งของที่จะเตรียมโชว์เรียบร้อยดีไหม เมฆ เดินดูรอบๆพร้อมกับเพื่อนๆ เมื่อทุกอย่างพร้อมและไม่มีลืมหรือขาดสิ่งใดอีกแล้วก็ปิดประตูห้องที่จัดแสดงและกลับออกไปเพื่อเตรียมตัวกับงานจริงในวันพรุ่งนี้ งานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ไปจนถึงประมาณ 15.00 น.

>>>>> ***** <<<<<

     ประมาณ 14.00 น. ชัชเดินเข้ามาหาลูกสาวในห้องทำงาน กลัวลูกสาวลืมว่า พรุ่งนี้ มีงานที่จะต้องไปกับพ่อ ถึงสองงานพร้อมกันในวันเดียวกัน แต่ต่างเวลาเท่านั้น งานแรกคือ งานแสดงภาพถ่ายของชมรมภาพถ่ายที่ บริษัทของชัชเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้และอีกหนึ่งงานก็คือ งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าของวิวัฒน์ ที่จัดขึ้นเพราะ ชัชก็ถือว่าเป็นลูกค้าคนหนึ่งของวิวัฒน์เหมือนกันในการใช้บริการ ประกันความเสียหายอันเกิดจากอัคคีภัย “โรส” โรสกำลังนั่งสรุปงานอยู่ หันหน้าไปหาพ่อ “ขา พ่อ”

“พรุ่งนี้อย่าลืมนะลูก ว่ามีนัดอะไรไว้กับพ่อ” โรส ทำงานจนลืมจริงๆ เลยส่ายหัว

“ไม่ หนูจำไม่ได้ หนูนึกไม่ออก รู้แค่ว่า พรุ่งนี้ เป็นวันที่ 14 กุมภา วันวาเลนไทน์” ชัชทำหน้าเหมือนผิดหวัง

“ว่าแล้ว” แล้วชัชก็ จับมือลูกสาวขึ้นมา “งานหนะ เพราๆบ้างก็ได้ พ่อไม่ได้รีบ มัวแต่ทำงาน จนจำอะไรไม่ได้แล้ว”

“แล้วตกลงพรุ่งนี้หนูมีนัดอะไรกับคุณพ่อเหรอคะ ช่วยเตือนสติ คนขี้ลืมอย่างหนูหน่อย”

     แล้วชัดก็หันไปดูที่ตระกร้าข้างๆ ที่มีพวกจดหมายและบิลต่างๆเอามือเขี่ยๆไปมา และดึงการ์ดขึ้นมาสองใบ

“นี่ไง” ชัชหยิบขึ้นมาโชว์ให้ลูกสาวดู “การ์ดเชิญ 2 ใบ นี่ลูกยังไม่ได้แกะออกอ่านเลยเหรอ พ่ออุตส่าห์ฝากเจ้าพิณมาให้”

     ชัชหันไปเล่นงานพิณ “ว่าไงแก ไม่ได้บอกลูกสาวฉันรึ ว่ามีงาน การ์ดตั้งสองใบ เอามาให้ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว”

“ท่านขา หนูบอกคุณหนูแล้วนะ แต่คุณหนูไม่ได้สนใจเอง พอส่งให้ คุณหนูก็โยนใส่ตะกร้าแล้วทำงานต่อ จะให้พิณทำยังไงหละคะ”

     พิณโดนหางเลขได้ไงก็ไม่รู้ ซวยเลยวันนี้ โรสเลยลุกขึ้นยืนแล้วเอียงตัวไปกอดแขนซ้ายพ่อ

“ไม่ต้องไปว่าพี่พิณหรอกค่ะคุณพ่อ เป็นความผิดหนูเอง ไหน ขอดูหน่อยซิ ว่างานอะไร ตั้งสองงานในวันเดียวกัน แล้วจะไปยังไงเนี่ยหละพ่อ แยกร่างไปรึ” ชัชเอามือเขกกบาลลูกสาวเบาๆ “นี่แหนะ” โรสเอามือกุมมือพ่อไว้

“เจ็บนะพ่อ เห็นหัวหนูเป็นอะไร ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์นะ” ชัชกางมือออกแล้วเขย่าหัวลูกสาว

“ก็อ่านดูซะก่อน งานมันคนละเวลากัน ใบนึงตอน 10 โมง อีกใบนึง 2 ทุ่ม พ่อไปหละ แล้วพรุ่งนี้ หาชุดสวยๆใส่ ทั้งสองงานด้วย”

“เจ้าค่ะ เสด็จพ่อ” ชัชชี้หน้าลูก และยิ้มให้ “พ่อไปหละ ขอไปดู ไซด์งานหน่อย ว่าเสร็จไปถึงไหนแล้ว”

“เดินทางปลอดภัยนะคะ แล้วเจอกันที่บ้านค่ะ” โรสนั่งลงแล้วดึงการ์ดเชิญทั้งสองใบมาอ่าน

“งานมหกรรมแสดงโชว์ภาพถ่ายประจำปี เวลา 10 โมง อันนี้เช้า น่าสน อันนี้ไป แล้วอีกใบหละ งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าของไทยวิวัฒน์กรุ๊ป งานนี้ถ้าไป ต้องเจอพี่กุ้งซิ ไม่ งานนี้เราไม่ไป” แล้วโรสก็โยนการ์ดทั้งสองใบ ลงตะกร้างานเหมือนเดิม

***** ----- *****

     และแล้วงานแสดงผลงานภาพของเมฆและเพื่อนๆก็มาถึง ทุกคนได้เห็นผลงานและความอลังการของพวกเขาและตะลึงว่า ปีนี้งานจัดและทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่ผ่านมา มีทั้งภาพเขียนและภาพถ่าย ได้จัดแบ่งโซนกันออกไป ได้อย่างเหมาะเจาะและลงตัวเลยทีเดียว บางภาพก็มีการเล่าเรื่องราวไว้ใต้ภาพด้วย ภาพเขียน ฝั่งหนึ่งภาพถ่ายฝั่งหนึ่ง และในแต่ละฝั่งนั้นก็จะมีหลากหลายอารมณ์ของศิลปินที่พวกเขาอยากจะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาลงในผลงานนั้นๆ มีทั้งรูปเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น ผู้หญิง ผู้ชาย คนชรา สัตว์ ธรรมชาติและภาพในจินตนาการ โรสและชัช ได้เดินชมภาพด้วยความตระการตา ทำให้โรสเหมือนตกเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการเลยทีเดียว โรสเดินชมภาพทุกซอกทุกมุมอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลย เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งที่สวยงาม

     โรสเดินเข้ามาชมฟากที่เป็นภาพเขียนก่อน โดยยังไม่ได้เข้าไปในโซนของภาพถ่ายและยังไม่เห็นภาพชื่อ จินตนาการ ของเมฆ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานนี้ และนอกเหนือจากนั้น งานนี้ยังจะมีช่วงของการประมูลภาพที่ต้องการด้วย รายได้ครึ่งหนึ่งจะเอาไปช่วยเหลือผู้พิการทางร่างกายและทุพลภาพทุกชนิด เท่าที่จะช่วยได้ ในแต่ละปีพวกเมฆจะแบ่งส่วนไปช่วยได้มากเลยทีเดียว ให้ได้เท่าที่จะทำได้ นอกจากนั้น บางปีก็ยังแบ่งในส่วนของเขาเองไปช่วยพวกเด็กกำพร้าและพวกกลุ่มเสี่ยงในทุกกรณี เท่าที่จะทำได้เช่นกัน

     เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับเมฆในวันนี้ หลังจากที่เมฆได้เห็นหน้าของโรสแต่ไม่ชัดในวันนั้น ก็ได้แต่เก็บเอาใบหน้านั้นมาฝันถึงตลอด จนได้มาเจอกับโรสอีกครั้งโดยบังเอิญอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้คุยสักที ได้แต่แอบตามและถ่ายรูปเก็บเอาไว้อย่างเดียว จนในวันนี้มีงานมหกรรมแสดงโชว์ภาพถ่ายประจำปีที่เขาได้จัดทำขึ้นกับเพื่อนๆ พ่อโรสได้ถูกเชิญมาด้วยในฐานะสปอนเซอร์หลัก เขาจึงได้เจอโรส ทำให้เมฆได้พูดคุย พร้อมกับทำความรู้จักโรสเสียที และในงานนี้นี่เอง จึงเป็นบ่อเกิดของการเริ่มบันทึกรักหน้าใหม่ของโรสโดยไม่ทันตั้งตัวตัว เพราะเมฆได้ทำการจู่โจม ขอคบและทำความรู้จักอย่างจริงจังในฐานะแฟนหรือคนรัก

     ขณะที่เมฆกำลังวุ่นๆอยู่กับการต้อนรับแขกอยู่ด้านใน บริเวณโถงใหญ่ซึ่งจะใช้ในการประมูล สายตาก็เหลือบไปเห็นโรสเข้า

“นั่น นางฟ้าของเรานี่ ชั่งโชคดีอะไรเช่นนี้ ไม่ได้การแล้ว ยังไงวันนี้ฉันต้องทำความรู้จักเธอคนนี้ให้ได้ ว่าแต่เอ จะทำยังไงดีหละเนี่ย” 

     โรสเดินเข้ามากับชัชผู้เป็นพ่อ จึงทำให้เมฆต้องรีบวิ่งตามไปดูทันที ก่อนที่จะพลาดกับโรสอีกเป็นครั้งที่ 3 เมฆค่อยๆเดินตามโรสไปอย่างห่างๆ โดยไม่ให้โรสรู้ตัว เมื่อรู้ว่าโรสเดินอยู่ในงานนี้ เมฆจึงตัดสินใจ เปลี่ยนแผนและขอโยกกำหนดการที่จะแสดงผลงานของเขาจากเวลา บ่าย 2 โมง ขึ้นมาเป็นช่วงเช้าตอน 11 นาฬิกาเลยทันที พร้อมกับเปิดการประมูลในรอบแรกไปพร้อมกันเลย

     เมฆจึงรีบเดินกลับไปที่ห้องโถงใหญ่และบอกเรื่องนี้กับเพื่อน เพื่อนไม่ได้ว่าอะไร เมฆจึงสบายใจที่เพื่อนเข้าใจ เมฆจึงตัดสินใจว่าวันนี้ต้องรู้จักและพูดคุยกับโรสให้ได้ จึงเอารูปทั้งหมดที่แอบถ่ายโรสไว้นั้นและได้ทำเป็นอัลบัมล์แอนติแมนชั่น แอบส่งให้กับโรส โดยฝากบ๋อยไปให้ โรสงง จึงเปิดดูว่าข้างในคืออะไร เธอต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นรูปเธอทั้งนั้นเกือบ 200 รูปซึ่งขณะที่โรสกำลังตกตะลึงอยู่นั้น พ่อก็ได้เดินตามหาและมาเรียกเพื่อเข้างาน พอเมฆเห็นว่าโรสเดินออกมาจึงร้องเพลงให้ฟังทันที

< เรื่องจริง - ป๊อด ธนชัย อุชชิน > https://www.youtube.com/watch?v=33espb8YK5w

     โดยที่ปิดไฟในฮอล์หมดมีเพียงแสงไฟสลัวๆไว้พอเห็นทาง เมฆนั่งเล่นเปียโน พร้อมทั้งเปิดสไลด์แอนติแมนชั่น ซึ่งเป็นรูปของโรสทั้งหมดซึ่งใหญ่มาก ฉายไปที่กำแพงฝาผนังขนาดใหญ่เท่าจอหนังกลางแปลงเลยทีเดียว ทุกคนเห็นภาพพวกนั้นมันสวยงามมากจริงๆ โดยไม่รู้ว่าเจ้าของภาพเป็นใคร โรสเห็นภาพของตัวเองที่ปรากฏบนฝาผนังอย่างชัดเจน จึงตกตะลึงอีกเป็นครั้งที่สอง

     ชัชก็เช่นกัน จึงหันไปดูว่าใครเป็นคนร้องเพลงและทำผลงานนี้ออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจขนาดนี้ โรสค่อยๆเดินเข้าไปหาเมฆอย่างช้าๆ เหมือนคนที่โดนมนต์สะกดยังไงยังงั้น โรสยืนจ้องมองเมฆ ซึ่งกำลังนั่งเล่นเปียนโนอยู่ เมฆหันไปยิ้มให้กับโรส ซึ่งต่างจากโรสที่กำลังงุนงง กับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ หลังจากที่เพลงจบ ไฟในฮอล์ก็สว่างขึ้นอีกครั้ง เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นทันที เพราะมันสวยงามจนประสบความสำเร็จมากจริงๆ และเมฆก็พูดออกไมค์ทันที ขณะที่โรสยังคงยืนนิ่ง กับเหตุการณ์นี้อยู่

“ขอขอบคุณนะครับที่ชื่นชมผลงานของผมและผมขอเสียงปรบมืออีกครั้งนะครับ ให้กับสตรีซึ่งสวยที่สุดในงานนี้ที่อยู่ในภาพนั้น”

     ทุกคนปรบมืออีกครั้ง จนโรสต้องรีบโค้งรับไปก่อนโดยไม่รู้ตัว “นี่หละครับ ตัวจริงเสียงจริง เจ้าของผลงานแรงบันดาลใจของผม ซึ่งทำให้เกิดผลงานดีๆในวันนี้ขึ้นมาได้ ขอเสียงปรบมืออีกครั้งนะครับ ให้สำหรับคุณโรสหรือคุณโชติรส สมบัติไพศาล ลูกสาวคนสวยคนเดียว ของสปอนเซอร์หลักคนสำคัญของเราในงานวันนี้ คุณชัชวาลย์ สมบัติไพศาล เจ้าของบริษัท ทรัพย์อนันต์ จำกัด”

     ทุกคนปรบมือให้อีก “เอาหละครับ ถึงเวลาสำคัญในช่วงเช้าของเราแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอย ผมขอเปิดการประมูลรูปภาพและภาพเขียนรอบแรก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอเชิญ พบกับคุณเสกสรรบนเวทีได้เลยครับ ณ.บัดนี้เลย”

     ทีแรกโรสก็ไม่เอะใจอะไร ตั้งแต่รูปของเธอฉายขึ้นเต็มห้องไปหมด เธอจึงรู้ว่าคนที่ให้รูปทั้งนี้กับเธอก็คือเมฆนี่เอง เมฆเดินเข้ามาหาโรส ขณะที่งานประมูลกำลังได้เริ่มขึ้น ชัชเดินเข้ามาหาเมฆ เมฆยกมือไหว้ชัช

“ได้เจอตัวจริงเสียทีนะพ่อหนุ่ม ได้ยินแต่ชื่อมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่เห็นตัวสักที ไม่น่าเชื่อว่าผลงานดีๆหลายชิ้นจะเป็นของเธอ”

“ครับท่าน ขอขอบคุณมากที่ชม ผมก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะเจอท่านในวันนี้ และต้องขอโทษด้วย ที่แอบเอาภาพของลูกสาวท่านมาใช้ในงานวันนี้ ผมไม่ทราบจริงๆว่าน้องเค้าเป็นลูกสาวของท่าน ถ้าทราบผมคงจะไม่กล้าอาจเอื้อม ยังไงแล้วหวังว่าคงจะให้อภัยในความไม่รู้ของผมนะครับ เพราะผมเองก็พึ่งจะรู้ว่าคนในภาพนั้นเป็นใครก็เมื่อไม่กี่วันก่อนที่จะจัดงานนี่หละครับ ต้องขอโทษจริงๆครับที่ไม่ได้ขออนุญาตตอนที่แอบถ่ายรูปพวกนั้นไป” ชัชเอามือขวาแตะไหล่เมฆและตีอย่างเบาๆ

“ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม ใช่ไหมลูก” ชัชหันไปมองหน้าลูกสาวที่พึ่งคลายความตกใจลงได้สักพัก

“ค่ะ ไม่ว่าค่ะ แต่แค่ตกใจเฉยๆ ปรับตัวและทำใจไม่ทันเพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่นึกว่าจะเห็นภาพตัวเองที่มีขนาดใหญ่โตได้ขนาดนั้นบนฝาผนัง” โรสพยายามอธิบายความในใจให้เมฆฟังอย่างช้าๆ

“เอาเป็นว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับลูกสาวผมอย่างเป็นทางการเลยก็แล้วกัน สำหรับเรื่องชื่อ คงไม่ต้องบอก คุณรู้อยู่แล้ว เอาเป็นว่า ขอให้คุณช่วยแนะนำตัวให้ผมกับลูกรู้จักอย่างเป็นทางการซะหน่อยจะได้ไหมครับ คุณ..”

“เมฆครับ เรียกผมว่าเมฆก็แล้วกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผม เมฆิน ศักดิ์มณีกุล อาชีพหลักผมเป็นสถาปนิก ทำงานอยู่บริษัทก่อสร้างเอกชน Live&Home คอนสตรัคชั่นครับในตำแหน่ง วิศวกรและหัวหน้าโฟร์แมน นี่ครับนามบัตรผม ส่วนงานถ่ายภาพนี้เป็นงานอดิเรกครับ ใช้เวลาว่างๆมาทำกับเพื่อนในชมรม 1 ปีจะจัดสักครั้งนึง และรายได้การประมูลครึ่งหนึ่งจะเอาไปช่วยพวกผู้พิการทางร่างกายและทุพลภาพทุกชนิด บางครั้งก็เอาไปช่วยพวกเด็กกำพร้าและพวกกลุ่มเสี่ยงในทุกกรณี เท่าที่จะทำได้ครับ”

“ดีนี่ ความคิดแบบนี้ผมชอบ เอาเป็นว่า ผมขอร่วมช่วยด้วย แสนนึง ไม่เกี่ยวกับการประมูลนะ ถ้าวันไหนว่าง เข้าไปเอาเช็คที่บริษัทผมได้เลย ทำดีโดยไม่หวังผลแบบนี้ผมชอบ ยังไงแล้วช่วยพ่อจำด้วยนะลูก บางทีพ่อก็ขี้ลืม”

“ค่า คุณพ่อ พ่อนักบุญ” แล้วทุกคนก็เริ่มหัวเราะและดูเหมือนจะเริ่มสนิทกันมากขึ้น

“ถ้างั้นขอเชิญคุณชัชกับคุณโรสร่วมรับประทานอาหารที่ห้องด้านโน้นด้วยเลยครับ วันนี้เราจัดแบบบุฟเฟ่เพราะง่ายต่อการเก็บกวาด เชิญเลยครับ” โรสและชัชยิ้มให้กับความมีมารยาทดีของเมฆ กับการทำความรู้จักในครั้งแรกวันนี้

“ขอบคุณค่ะ เชิญนำทางได้เลย เราสองคนจะเป็นผู้ตามที่ดี” เมฆดีใจมากที่โรสยกโทษให้และไม่รังเกียจเขา

     แล้วทั้งสองคนก็เดินตามเมฆไปที่ห้องทานอาหารทันที และจากนั้นทั้งสามคนก็ได้นั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน และนอกจากนั้น เมฆยังอาสาพาโรสและชัช เดินชมผลงานของเขาและเพื่อนๆ แล้วมอบรูปจำนวน 20 รูป ที่เมฆทำขึ้นมาจากโรส ในชุดจินตนาการนั้นให้กับโรส กลับไปยังบ้านหรือไว้ในที่ทำงานก็ได้ โดยให้โรสเลือกเอาเอง ส่วนที่เหลือนั้นเขาขอเอาไปทำการประมูล

\\\\\ ----- /////

     มอญในคราบของ BadBoy ส่งดอกไม้ช่องามมาให้เอียดผ่านทางไลน์ ในวันนี้ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ เอียดหน้าแดงมากเมื่อได้รับรูปภาพนี้แต่เช้า ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ตั้งแต่ได้รับภาพดอกไม้กุหลาบช่อโต จนตอนนี้บ่ายกว่าเข้าไปแล้ว เอียดยังหน้าแดงเขินอยู่เลย เลือดสาวสูบฉีดแรงขึ้นทุกวันๆ และคิดว่า BadBoy จีบเธอแน่นอนแล้วหละในตอนนี้ทางอ้อม โดยที่ตัวเองก็เผลอชอบเขาเข้าไปแล้วเหมือนกันตอนไหนก็ไม่รู้ เพียงแต่ต่างคนไม่พูดไม่บอกกันออกมาตรงๆเท่านั้น

     เดือนกว่าที่ได้คุยกันเกือบทุกวัน มีหรือที่ใจของเอียดจะไม่หวั่นไหว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เอียดก็ไม่เคยปรากฏอาการแบบนี้มาก่อน คนที่เข้ามาจีบก็มากมาย แต่ทำไม ถึงต้องมาจอดที่คนๆนี้ที่ชื่อ BadBoy เอียดก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม เธอเหมือนมีความรู้สึกว่าเธอรู้จัก BadBoy มานานแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่า BadBoy คือใครก็เท่านั้น ถามชื่อจริงไปตั้งหลายครั้งก็ไม่ยอมบอก ได้คำตอบกลับมาทุกครั้งว่า ยังไม่ถึงเวลา เอาไว้ให้เขาแน่ใจตัวเองก่อน และล่าสุดวันนี้เขาบอกเป็นนัยๆให้กับเอียดได้รับรู้แบบมีเลสนัย

“ถ้าวันนึงเราสองคนได้พบหน้ากัน เจอตัวจริง เอียดคงจะเกลียดและไม่มองหน้าหรือพูดจากับผมอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ ผมเลยขอมีความสุขแบบนี้ไปก่อนสักระยะนึงนะ ถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ ผมรับปากและให้สัญญาว่า จะหาเวลาออกมาพบคุณอย่างแน่นอน”

     ยิ่งทำให้เอียดเริ่มหวั่นไหวในคำพูดประโยคนี้ทันที เพราะมันสร้างคำถามและเกิดความสับสนในใจขึ้นมาอย่างมาก ปริศนานี้เอียดต้องตีโจทย์ให้แตกให้ได้ ไม่งั้นชีวิตนี้ไม่มีความสุขแน่ เพราะมิฉะนั้นแล้ว มันจะเหมือนตายทั้งเป็น หากวันนั้นมาถึงโดยไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจ BadBoy พูดมาก็ดีแล้ว จึงทำให้เอียดต้องระวังตัวและใจให้มากขึ้น

     เอียดเลยส่งรูปดอกไม้กลับไปให้เช่นกันแต่เป็นดอกกุหลาบสีขาว เพื่อสื่อให้รู้ว่า ฉันไม่ได้คิดอะไร มากไปกว่าการที่เราได้เป็นเพื่อนกันเท่านั้น ไม่ได้อยากเป็นอย่างอื่นตามที่ BadBoy เข้าใจ เอียดวัดใจกันไปกับปริศนาบทนี้ และก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า BadBoy จะตอบกลับมาเช่นไร หลังจากที่เอียดส่งดอกไม้ให้ไปในช่วงบ่ายนี้ BadBoy ก็เงียบหายไปเลย เอียดรออยู่พักใหญ่ เมื่อไม่มีคำตอบกลับมา เอียดจึงไม่รอ เดินกลับเข้าห้องตัวเอง เพื่อเลือกชุดและเสื้อผ้าที่ไปในงานค่ำคืนวันนี้ทันที โดยไม่รีรอ       

<<<<< ***** >>>>>

     โกร๋นกับมอญ กว่าจะมาถึงงานของเมฆก็เกือบจะเลิกแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าไม่มา เพราะโกร๋นต้องรอมอญไปรับ เนื่องจากมาเองไม่ได้ กลัวชุดยับ 5555+ หากขึ้นรถเมล์ นานๆจะได้มา ชมความอลังการงานสร้างของเพื่อนซะที พอทั้งสองคนมาถึง เมฆดีใจมาก จึงแนะนำให้โรสกับชัชรู้จักทันที โดยไม่รอช้า “ไอ้เวร กูนึกว่ามึงสองคนจะไม่มาซะแล้ว รอตั้งแต่เช้า”

“กูหนะอยากจะมาตั้งแต่ 6 โมงแล้ว แต่รอไอ้เหี้ยนี่ นี่แหละ แม่งมาช้า ไม่รู้ว่ามัวทำเอี๊ย อะไรอยู่ เมียก็ไม่มีแล้ว”

    เมฆหันไปมองมอญและกระทุ้งเอวถาม “ไงมึง มัวทำเอี๊ยอะไรอยูหละ พ่อเทพบุตรโกร๋นของกูเนี่ยถึงได้อารมณ์เสียแบบนี้ ห๊า”

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 27 .. “ ว่างเปล่า ”

 ตอนที่ 26 .. “ เหมือนตายทั้งเป็น ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า