Your Wishlist

จอมยุทธ์เจ้ายุทธจักร (เข็มร้อยพิษเงามฤตยู)

Author: หยกเหินลม

เมื่อยุทธภพแบ่งออกเป็นสอง มารยึดครองยุทธจักร คัมภีร์ยุทธ์ที่สาบสูญกลับคืนสู่บู๊ลิ้ม บุญคุณความแค้นรอการสะสาง หนี้เลือดต้องล้างด้วยเลือด เด็กน้อยผู้หนึ่งจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ายุทธจักรได้เช่นไร หนึ่งคัมภีร์สยบกระบวนท่า หนึ่งเคล็ดวิชาดรรชนี สุริยันจันทราปรากฏในปถพี สยบไปหมื่นลี้ร้อยมณฑล

จำนวนตอน :

เข็มร้อยพิษเงามฤตยู

  • 21/09/2565

ตอนที่ 179

เข็มร้อยพิษเงามฤตยู

เยี่ยนผิงจึงเริ่มบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นว่า

“เรื่องราวสืบเนื่องจากศิษย์สี่คนของสำนักเทพอสูรฟ้า หลังจากสิ้นผู้เป็นอาจารย์แล้ว ความโลภเผาผลาญจิตใจ ทำให้ศิษย์น้องสองคนคิดครอบครองคัมภีร์เทพอสูรสุดยอดวิชา ถึงกับคร่ากุมจับตัวของลูกน้อยสองคนของศิษย์พี่ทั้งสอง จุดประสงค์เพื่อใช้ข่มขู่เพื่อแลกเปลี่ยนกับคัมภีร์ยุทธ์ อีกทั้งป้องกันความผิดพลาดในภายหลัง ดังนั้นจึงลบรอยปานหลังกกหูซ้ายของเด็กทั้งสองด้วยลมปราณ

เมื่อศิษย์สี่คนต่างแยกย้ายก่อตั้งสำนักของตนเอง ศิษย์พี่ทั้งสองเส้าไท่แป๊ะหยินกับเส้าไท่ซาโกว ก่อตั้งสำนักสี่ปีศาจ ส่วนศิษย์น้องทั้งสองคนฝ่านอี้เฉินกับเนี๊ยะซิ้ว ก่อตั้งสำนักเช่นกันเป็นสำนักพิษอันดับหนึ่งในยุคนั้น สำนักอสรพิษดำ บ้างว่าความจริงแล้วไม่อาจเรียกว่าก่อตั้งสำนัก เนื่องจากสำนักอสรพิษดำมีอยู่เดิมก่อนแล้ว ก่อนนั้นผู้เป็นเจ้าสำนักนามเล่อผาง ดังนั้นควรเรียกว่าครอบครองสำนักอสรพิษดำจึงถูกต้อง ส่วนเงื่อนงำซับซ้อนคาดว่าน่าจะมีมากกว่าที่ชาวยุทธ์ทราบ

เมื่อทั้งสองได้ครองครองสำนักอสรพิษดำ มิเพียงแต่คิดเป็นเจ้าของคัมภีร์เทพอสูร สำนักตำหนักหมื่นเทพเขาหมื่นเซียนมีคัมภีร์ยุทธ์สุดยอดวิชา เรียกว่าคัมภีร์ยุทธ์สุริยันจันทรา หุบเขาวานรมีเคล็ดวิชาวานรอันลือลั่นเกรียงไกร เพื่อต้องการความเป็นใหญ่ควบคุมยุทธภพปกครองบู๊ลิ้ม จึงส่งเด็กน้อยผู้พี่ซึ่งเป็นชายให้เป็นศิษย์ของเซียนเมฆาล่องลอยลวี้ยู่เฉียน ซึ่งในเวลานั้นยังมิได้ก่อตั้งสำนักตำหนักหมื่นเทพเขาหมื่นเซียนด้วยซ้ำ ส่วนเด็กหญิงผู้น้องส่งไปเป็นศิษย์ของวานรขาวเส้าเหว่ยฉี

มิเพียงเท่านั้นหลังจากได้รับฉายาตาเฒ่าเข็มวิเศษกับยายเฒ่าหมื่นพิษ คนทั้งสองวางแผนการอันยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น โดยเข้าตีสนิทผูกสัมพันธ์กับสำนักต่าง ๆ ทั้งน้อยใหญ่ จุดประสงค์เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในภายภาคหน้า ความลับสุดยอดอีกเรื่องราวหนึ่ง เฒ่าพิษทั้งสองมีบุตรชายผู้หนึ่งซึ่งมิมีชาวยุทธ์ผู้ใดทราบ ต่อมาลอบส่งขึ้นไปเป็นศิษย์ของวัดเส้าหลิน บุตรชายของสองเฒ่าพิษก็คือหลวงจีนชั่วถู่ฝูนั่นเอง

สองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้า สูญเสียลูกน้อยไปถึงสองคนบวกกับความใจร้อนเร่งฝึกปรือวิชาในคัมภีร์ยุทธ์เทพอสูร กระทั่งเกิดความผิดพลาดใหญ่หลวง ใบหน้าร่างกายไม่อาจควบคุมได้ บางครั้งอ่อนวัยดั่งเด็กทารก บางคราวกลับแก่เฒ่าชราใบหน้าเหี่ยวย่นเส้นผมหงอกขาว อีกทั้งยังต้องทนทุกข์ทรมานจากธาตุมารครอบงำจิตใจ ได้แต่ลงมือเข่นฆ่าคนจึงจะสามารถลดความทรมานลงมาได้บ้าง

ดังนั้นสองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้าจึงเร้นกายหายไปจากยุทธภพ พร้อม ๆ กับราชสำนักปรากฏนักฆ่าหน้ากากเงินขึ้นมาสองคน ทั้งเร้นลับซ่อนปริศนาว่าภายใต้หน้ากากเป็นผู้ใด แต่ที่ทราบฝีมือโหดเหี้ยมอำมหิตรับงานสังหารใดมิเคยผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงงานสังหารขอทานพเนจรหวงเกาฉือที่เขาหมางซานสำนักมารสวรรค์ ซึ่งเกิดผิดพลาดเป็นครั้งแรกเนื่องด้วยปรากฏเฒ่าชราผมยาวขาวโพลนผู้หนึ่ง นั้นคือเซียนสุราฉายาเมามายแปดทิศเชียงชุนชิว สองนักฆ่าหน้ากากเงินจึงรามือล่าถอยไปไม่ทราบสาเหตุ”

เล่ามาถึงตรงนี้เยี่ยนผิงหันมาทางด้านสองเฒ่าพิษ พร้อมกับส่งเสียงกล่าวกับคนทั้งสองว่า

“ยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว ตาเฒ่าเข็มวิเศษฝ่านอี้เฉิน พวกท่านทั้งสองเก็บงำความลับเอาไว้มากมาย ลงทุนหว่านเมล็ดพันธุ์กล้าเอาไว้หวังเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นกอบเป็นกำ แม้นจะใช้เวลายาวนานปานใด? พวกท่านทั้งสองยินยอมอดทนรอคอยอย่างใจเย็น กระทั่งบัดนี้ใกล้สำเร็จเก็บเกี่ยวผล พวกท่านทั้งสองลงทุนไปมากมายหวังผลกำไร หากทว่าผิดพลาดขาดทุนเล่า? พวกท่านทั้งสองคิดกระทำเช่นไร?”

สองเฒ่าพิษทอประกายสายตาพิสดาร ก่อนที่ยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้วจะส่งเสียงกล่าวตอบโดยไร้เรื่องราวว่า

“โกวเนี้ยน้อยนางนี้ เจ้าออกจะทราบเรื่องราวของเรามากเกินไปแล้วกระมัง? เจ้าทราบหรือไม่? การที่เจ้ารู้เรื่องราวมากมายของผู้อื่นมากเกินไปมักจะอายุสั้นมิยืนยาว เรื่องนี้มิทราบเคยมีผู้ใดบอกกล่าวต่อเจ้าให้ทราบบ้างหรือไม่? แม่นางเยี่ยนผิงหากเจ้าอยากอยู่แบบมีลมหายใจไปเนิ่นนาน เราขอกล่าวเตือนต่อเจ้าอย่าได้คิดสอดรู้สอดเห็นมากเกินไปนัก”

สิ้นเสียงยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว มิมีผู้ใดคาดคิดประกายสีเงินพุ่งขวับออกจากปากของนางอย่างเร่งร้อน เป็นเข็มร้อยพิษเงามฤตยู หากผู้ใดสัมผัสแตะต้องในชั่วพริบตาอวัยวะต่างในร่างกายหยุดทำงาน โลหิตฉีดพุ่งออกจากทวารทั้งเก้าตายอย่างทรมาน

แต่ทว่าในวิชาเข็มซัดอาวุธลับ ในยุทธภพต้องยกให้เข็มโปรยบุปผาร่วง ของสำนักตำหนักหมื่นเทพเขาหมื่นเซียนเป็นอันดับหนึ่ง แม้เข็มร้อยพิษเงามฤตยูจะร้ายกาจน่ากลัว แต่เข็มโปรยบุปผาร่วงถูกปล่อยออกจากปลายนิ้วของไป่ชิงแล้ว เสียงติงสดใสดังคราหนึ่งเข็มโปรยบุปผาร่วงของไป่ชิง กระแทกเข็มร้อยพิษเงามฤตยูของยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้วแบนเบือนเปลี่ยนทิศทางปักฉึกเข้ากับงูพิษตัวเขื่องบนคบกิ่งไม้ งูพิษตัวนั้นเคราะห์ร้ายร่วงหล่นจากคบกิ่งไม้ เมื่อตกถึงพื้นดินบิดลำตัวเป็นเกลียวรอบหนึ่งจึงสงบนิ่งแข็งทื่อมิเคลื่อนไหว ลำตัวกลับกลายเป็นสีม่วงคล้ำ

ยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้วแสดงสีหน้าผิดหวังอย่างรุนแรง แล้วถลึงตาทั้งสองมองไปยังไป่ชิงอย่างเคียดแค้น แต่มิได้กล่าววาจาส่งเสียงใด วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยส่งเสียงกล่าวชื่นชมว่า

“วิชาเข็มซัดอันยอดเยี่ยม หากเราสายตามิผิดพลาด เป็นวิชาเข็มโปรยบุปผาร่วง วิชาเข็มซัดอันดับหนึ่งของสำนักตำหนักหมื่นเทพเขาหมื่นเซียน”

ไป่ชิงส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“ขอบคุณที่กรุณากล่าวชื่นชม แม้ข้าพเจ้าจะมิชอบหน้าท่านเท่าใดนัก แต่ฟังจากน้ำเสียงที่กล่าวของท่าน คล้ายกับท่านกล่าววาจาชมข้าพเจ้าด้วยจริงใจมิได้เสแสร้ง ถูกต้องเป็นเข็มโปรยบุปผาร่วงของสำนักตำหนักหมื่นเทพเขาหมื่นเซียน อาจารย์ผู้ล่วงลับของข้าพเจ้าถ่ายทอดให้กับข้าพเจ้าอีกทอดหนึ่ง”

เยี่ยนผิงเมื่อรอดพ้นจากเข็มร้อยพิษเงามฤตยูของยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว ค่อยระบายลมออกมาจากปากอย่างโล่งอก หันมากล่าวกับไป่ชิงว่า

“ขอบคุณแม่นางไป่ชิง หากมิได้เจ้าซัดเข็มโปรยบุปผาร่วงเข้าสกัดให้ เห็นทีข้าพเจ้าคงไม่ได้กล่าววาจาขอบคุณเจ้าแล้ว”

ไป่ชิงส่งยิ้มให้เยี่ยนผิง พร้อมกับส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“พี่เยี่ยนผิงมิต้องเกรงอกเกรงใจ ข้าพเจ้าช่วยเหลือท่านได้คราหนึ่ง หากดวงวิญญาณพี่จ่านจือรับทราบ คงรู้สึกภูมิใจในตัวข้าพเจ้าบ้างแล้ว เสียดายพี่ชายมิน่าอายุสั้นเกินไป”

เยี่ยนผิงหันมาทางด้านยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว ส่งเสียงกล่าวด่าไม่เกรงใจว่า

“ยายเฒ่าพิษโสโครกบัดซบ ท่านถึงกับจะฆ่าข้าพเจ้าปิดปากเชียวรึ? ข้าพเจ้ายังไม่อาจตายง่าย ๆ ดอก ข้าพเจ้าจะมีชีวิตคอยขัดขวางแผนการชั่วของพวกท่านทั้งสอง”

เอี้ยวเซียวร้อนรนต้องการทราบเรื่องราวของบิดาบุญธรรมเจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วง ดังนั้นส่งเสียงเร่งเร้ากล่าวถามว่า

“แม่นางเยี่ยนผิง ท่านยังบอกเล่าเรื่องราวยังไม่หมด ในโรงเตี๊ยมบนเส้นทางสายหลักค่ำคืนนั้น เกิดเหตุการณ์ใด? ท่านรีบบอกกล่าวออกมา”

เยี่ยนผิงส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“หลังจากข้าพเจ้าไล่ติดตามท่านกับท่านอาของท่านเอี้ยวเคี้ยกไปไม่ทัน จึงได้รีบกลับมาที่โรงเตี๊ยมดำเนินการซ้อนแผน โดยนำศพของหญิงชาวยุทธ์ผู้นั้นที่ท่านฆ่าตายมานอนแทนที่จ่านจือ ในตอนนั้นข้าพเจ้ากับบิดามารดาล้วนทราบแล้วว่า เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่แท้ก็คือเจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วง”

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยส่งเสียงกล่าวว่า

“เยี่ยนผิง เจ้าบอกเล่าเรื่องราวต่อไป”

เยี่ยนผิงบอกเล่าเรื่องราวต่อจากนั้น เล่าว่าเจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วงเสียชีวิตอย่างไร สองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้าตายได้อย่างไร โดยปกปิดมิได้กล่าวถึงเจ้าอารามอเทวตานางชีเทวราชชิ้วโส่ว โดยกล่าวสรุปเพียงว่าทั้งสามล้วนตายด้วยฝีมือพวกเดียวกัน ซึ่งความจริงก่อนที่เจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วงจะจู่โจมคุกคามเข้าใส่ สองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้าถูกตรึงเอาไว้ด้วยแส้เงินขนอ่อนของนางชีเทวราชชิ้วโส่วอยู่ก่อนแล้ว จะช้าเร็วหากนางถอนแส้คืนสองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้าก็ต้องตายอยู่ดี

เอี้ยวเซียวส่งเสียงกล่าวว่า

“เช่นนั้นยาสลายกระดูกขวดที่อยู่กับอาจารย์ จึงเป็นยาปลอมถูกต้องหรือไม่?”

เยี่ยนผิงกล่าวตอบว่า

“ถูกต้อง เอี้ยวเซียวท่านเข้าใจไม่ผิดพลาด เป็นยาปลอมที่ข้าพเจ้ากับบิดามารดาร่วมกันวางแผนตบตาพวกท่าน”

เอี้ยวเซียวหันมาถลึงตาใส่วานรเหินเส้าฮ่วยฮวย แล้วกล่าวว่า

“อาจารย์รอง สองปีศาจดำขาวพลิ้วบนยอดหญ้า มันสองคนเป็นบิดามารดาของท่าน พวกมันสองคนฆ่าบิดาบุญธรรมข้าพเจ้า อาจารย์กับอาจารย์รองจะชดใช้ข้าพเจ้าเช่นไร?”

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยถลึงตามองตอบเอี้ยวเซียว เค้นเสียงกล่าวตอบว่า

“เจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วงบิดาบุญธรรมของเจ้า ก็เป็นผู้ที่ฆ่าบิดามารดาของเราเช่นกัน ความแค้นนี้เจ้าจะให้เราคิดบัญชีทวงถามจากผู้ใด? หากมิใช่จากเจ้า”

แต่แล้ววานรเหินเส้าฮ่วยฮวยกับเอี้ยวเซียวส่งเสียงร้องเอ๊ะว่ามิถูกต้องพร้อมเพรียงกัน วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยส่งเสียงกล่าวขึ้นก่อนว่า

“เป็นไปมิได้ ด้วยระดับฝีมือของเจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วง ถึงกับลงมือฆ่าบิดามารดาของเราได้เชียวรึ? เราคิดว่ามิถูกต้องเรื่องราวนี้จึงต้องมีเงื่อนงำอำพราง ผู้ที่ฆ่าบิดามารดาเราจะต้องมิใช่บิดาบุญธรรมเจ้าอย่างแน่นอน”

เอี้ยวเซียวพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นส่งเสียงกล่าวว่า

“ข้าพเจ้าล้วนเห็นด้วยกับท่าน สองนักฆ่าหน้ากากเงินฝีมือสูงส่ง ในค่ำคืนนั้นต่อให้แม่นางเยี่ยนผิงกับสองสามีภรรยาแซ่เซียวร่วมมือกับบิดาบุญธรรมข้าพเจ้าอีกผู้หนึ่ง คิดว่ายังไม่อาจฆ่าสองนักฆ่าหน้ากากเงินได้ เรื่องราวล้วนมิถูกต้องดั่งท่านว่าจริง ๆ”

เอี้ยวเซียวหันมาทางด้านเยี่ยนผิง แล้วส่งเสียงกล่าวถามว่า

“แม่นางเยี่ยนผิง แม้พวกท่านจะทำลายหลักฐานไปกับโรงเตี๊ยมจนหมดสิ้น นอกจากท่านกับศิษย์พี่จ่านจือที่เสียชีวิต คืนนั้นยังมีบิดามารดาท่าน รวมทั้งเฉาลู่ฟางอีกผู้หนึ่ง ข้าพเจ้าจะต้องสืบสาวเรื่องราวนี้ให้กระจ่าง หรือว่านอกจากบุคคลที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ในค่ำคืนนั้นในโรงเตี๊ยมยังมีบุคคลอื่นอยู่อีก?”

เยี่ยนผิงส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“หากท่านมีความสามารถ ก็สืบสาวเรื่องราวเอาเองเถิด เพียงแต่สำหรับเจ้าป่าเก้าหยกเอี้ยวค้วง มันมิได้ถูกผู้ใดเข่นฆ่าที่มันตายอเนจอนาถเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวมันเอง บวกกับความระแวงไม่ไว้วางใจพวกเดียวกัน นอกจากว่าในค่ำคืนนั้นพวกมันกับท่านรับงานมาจากผู้อื่นอีก? นอกเหนือจากเจ้าโอสถสายรุ้งเส้าเยี๊ยะเทียน หากจะกล่าวตามเหตุผลสองเฒ่าพิษก็มีส่วนทำให้มันตาย เนื่องจากมันตายด้วยยาสลายกระดูกของสองเฒ่าพิษ”

สองเฒ่าพิษประสานสบสายตากันวูบหนึ่ง ในสายลมพัดโชยทุกคนคล้ายได้กลิ่นฉุนประหลาดพิกลชนิดหนึ่ง ขณะที่ทุกคนรู้สึกตัวว่าผิดท่าในสายลมผสมกลิ่นผิดปกติ เสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นรอบทิศทาง แม้แต่บนต้นไม้ในอากาศก็เช่นเดียวกัน จ่านจือส่งเสียงร้องเตือนว่า

“ทุกคนระวังตัวด้วย สองเฒ่าพิษใช้กลิ่นเรียกสัตว์พิษมารวมตัวกันแล้ว บนพื้นดินมีอสรพิษ ตะขาบ แมงป่อง คางคกพิษ มดพิษ บนต้นไม้มีงูพิษ หนอนพิษ แมงมุมพิษ ในอากาศมีผึ้ง ต่อ แตนรวมทั้งแมลงพิษ พี่ชายพี่สาวทั้งหลายรีบมารวมตัวกันไว้เร็วเข้า”

ทุกคนรีบวิ่งเข้ามารวมตัวกัน มิเพียงแต่เหล่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์เท่านั้น แม้แต่ผีเสื้อโลหิตรีบปกปิดใบหน้าศีรษะเช่นเดิม วานรเหินเส้าฮ่วยฮวย ทุกคนกระโดดมารวมตัวกันอย่างลืมตัว มีเพียงสองคนที่ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว ตาเฒ่าเข็มวิเศษฝ่านอี้เฉิน มันทั้งสองอันตรธานหายไปตั้งแต่เมื่อใดมิมีผู้ใดทราบ ได้ยินเพียงเสียงส่งผ่านลมปราณของยายเฒ่าหมื่นพิษเนี๊ยะซิ้ว ด้วยวิชาส่งเสียงพันลี้ดังว่า

“ขอให้พวกเจ้าทั้งหลายสนุกสนานกับสัตว์พิษของเรา พวกเจ้ามิมีทางฝ่าออกมาได้เด็ดขาด มีปัญญาก็ลองฝ่าออกมาดู เราสองเฒ่าพิษต้องขอตัวไม่อาจวิสาสะเนื่องด้วยมีธุระสำคัญต้องไปกระทำ”

ทุกคนหันหลังชนกัน สัตว์พิษเริ่มเลื้อยคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะ จำนวนที่มาของสัตว์พิษหลายชนิดมากมายจริง ๆ หากคิดจะฝ่าออกไปไม่ง่ายเลย ต่อให้มีวิชาตัวเบาอันยอดเยี่ยมก็ไร้ผล ในอากาศล้วนชุมนุมอยู่ด้วยแมลงพิษชนิดต่าง ๆ

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยสีหน้าแตกตื่น หากจะต่อยตีนางไม่เกรงกลัวหวาดหวั่น แต่สำหรับอสรพิษ สัตว์พิษ แมลงพิษแล้ว สร้างความหวาดกลัวจนกระทำเช่นไรมิถูก ทั้งนางและผีเสื้อโลหิตชักกระบี่เตรียมพร้อม คนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน

มีเพียงจ่านจือที่มิแตกตื่น ดังนั้นมีเรื่องราวหนึ่งที่เขาต้องการทราบจากปากของเอี้ยวเซียว เทวยุทธ์ผีเสื้อนางได้รับการถ่ายทอดจากผู้ใด  เป็นผู้อื่นไปมิได้จากขันทีเฒ่าเล่าอี หรือว่าที่ขันทีเฒ่าเล่าอีกล่าวถึงเด็กหญิงผู้หนึ่ง เด็กหญิงผู้นั้นก็คือเอี้ยวเซียว

ดังนั้นจ่านจือจึงส่งเสียงกล่าวกับผีเสื้อโลหิตว่า

“ผีเสื้อโลหิตท่าน ข้าพเจ้าต้องการทราบว่ากรงเล็บอเวจีในเทวยุทธ์ผีเสื้อ ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้ใด? หากท่านบอกเล่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าพเจ้ามีวิธีพาออกไปจากวงล้อมสัตว์พิษเหล่านี้”

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยเค้นเสียงกล่าวถามว่า

“ทารกน้อย เจ้ามีวิธีฝ่าออกไปจริงดั่งวาจาเช่นนั้นรึ? หากเจ้าพาเราออกไปได้จริง ๆ ค่ำคืนนี้เราจะเลิกราเพียงนี้ไม่ตามราวีพวกเจ้าระยะหนึ่ง และขอรับประกันความปลอดภัยมิให้เอี้ยวเซียวลงมือกับพวกเจ้าได้ในค่ำคืนนี้ ว่าเช่นไร? เจ้ามีวิธีฝ่าออกไปจริง ๆ”

จ่านจือส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“ข้าพเจ้าย่อมมีวิธี เพียงแต่ต้องทราบเรื่องราวเกี่ยวกับขันทีเฒ่าเล่าอี จากปากของผีเสื้อโลหิตผู้นี้ก่อน”

ผีเสื้อโลหิตส่งเสียงกล่าวกับจ่านจือว่า

“ทารกน้อยเยี่ยงเจ้า ถึงกับรู้จักขันทีเฒ่าเล่าอีด้วย ตกลงเราจะบอกเล่าเรื่องที่เจ้าต้องการทราบ เราได้รับการถ่ายทอดเทวยุทธ์ผีเสื้อจากขันทีเฒ่าเล่าอี เพียงแต่ไม่กี่วันที่ผ่านมามันได้ตายไปแล้ว ตายภายใต้กรงเล็บเวจีของตัวเอง นอกจากนั้นก่อนตายมันได้สังหารขอทานพเนจรหวงเกาฉือ”

จ่านจือได้ยินเช่นนั้นรู้สึกตระหนกตกใจ เมื่อไม่กี่วันเขายังเจอคนทั้งสอง อีกทั้งอาวุโสทั้งสองยังได้ถ่ายทอดวรยุทธ์ให้กับเขาด้วย เมื่อนึกถึงคำพูดของขอทานพเนจรหวงเกาฉือ ค่ำคืนนั้นท่านกระตุ้นให้เขาจากมาคล้ายกับเกิดเรื่องราวใดขึ้น หรือว่าหลังจากเขาจากมาแล้วเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้นกับพวกท่านทั้งสอง ต่อให้เกิดเรื่องราวขึ้นจริง ๆ ขันทีเฒ่าเล่าอีไม่มีทางจะเป็นผู้สังหารขอทานพเนจรหวงเกาฉือเด็ดขาด

ดังนั้นจ่านจือส่งเสียงกล่าวถามผีเสื้อโลหิตว่า

“ผีเสื้อโลหิตที่ท่านกล่าวมาเมื่อครู่เป็นความจริง ท่านมีพยานหลักฐานใด? ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าท่านอาวุโสทั้งสองจะเสียชีวิตแล้วจริง ๆ”

ผีเสื้อโลหิตส่งเสียงกล่าวตอบว่า

“เราจะกล่าววาจาโป้ปดต่อเจ้าไยกัน? ในเวลาอันตรายเช่นนี้เราเองมีกล้ากล่าวปด หากเจ้าต้องการพยานหลักฐาน อีกสองวันหลังจากนี้จะมีงานชมบุปผา จัดขึ้นทางตะวันตกถัดจากนี้เจ็ดสิบลี้ เราเองจะเดินทางไปร่วมงานนี้ ทราบว่าผู้ที่จัดงานนี้คือบรรดาขอทาน ในงานนี้คิดว่าจะมีการคัดเลือกผู้นำขอทานคนใหม่อีกด้วย”

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยส่งเสียงกล่าวถามว่า

“เอี้ยวเซียว มีเรื่องราวเช่นนี้จริง ๆ งานชมบุปผาหากบรรดาขอทานจัดขึ้นจริง ๆ คิดว่าข่าวนี้คงถูกส่งถึงบรรดาชาวยุทธ์ทั่วสารทิศแล้ว เช่นนั้นเราจะเดินทางไปร่วมงานนี้ด้วย หากเจ้ากล่าววาจาโป้ปดเราจะคิดบัญชีกับเจ้า”

เอี้ยวเซียวกล่าวตอบว่า

“ข้าพเจ้ามิกล้ากล่าวโป้ปด งานนี้ต้องการรวบรวมเหล่าชาวยุทธ์เพื่อเป็นสักขีพยาน ก่อนถึงกำหนดเดินทางไปเส้าหลิน บรรดาขอทานต้องมีผู้นำขอทานคนใหม่ ข้าพเจ้าทราบมาเช่นนี้”

วานรเหินเส้าฮ่วยฮวยเหลียวมองไปโดยรอบ ถึงกับหน้าขาวซีดส่งเสียงกล่าวเร่งเร้าจ่านจือว่า

“ทารกน้อยผู้นี้ เรื่องราวที่เจ้าต้องการทราบก็ได้ทราบแล้ว เราจะเป็นพยานให้กับเจ้า หากเอี้ยวเซียวนางกล่าวโป้ปด เราจะไม่ปล่อยนางเอาไว้แน่ ตอนนี้เจ้ารีบพาพวกเราฝ่าเหล่าอสรพิษพวกนี้ออกไปได้แล้วหรือไม่?”

จ่านจือล้วงมีดสั้นในอกเสื้อมา จากนั้นกรีดลงที่กลางฝ่ามือตนเอง โลหิตจากฝ่ามือไหลหยดตกพื้น เหล่าอสรพิษสัตว์พิษต่างตกใจถอยกรูด จ่านจือก้าวเดินชูฝ่ามือที่มีโลหิตไว้เบื้องหน้า บรรดาสัตว์พิษต่างหลบหนีไปคนละทิศละทาง ทุกคนก้าวเท้าตามติดรู้สึกแปลกประหลาดใจ ไฉนสัตว์พิษเหล่านั้นเมื่อได้กลิ่นโลหิตของทารกน้อย จึงพากันหลบหนีไปดั่งหวาดกลัวกระนั้น

มีเพียงจ่านจือที่ทราบ ตัวยาเก้าพิษกร่อนวิญญาณกับดีงูมรกตเก้าหัวในร่างเขา อีกสิบปีต่อจากนี้พิษใด ๆ ก็มิอาจทำอันตรายกับเขาได้ มีเพียงเขาผู้เดียวเท่านั้นที่ทราบ

หยกเหินลม/ชล ชโลทร

 

17 เมษายน 2564
กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป