ตอนที่ 135: บังคับกู้เซียวเซียวออกจากเมือง F
กู้หนิงยังไม่ทันได้ตอบโต้ ฉู่เพ่ยหานพูดสวนขึ้นมาก่อนว่า “กู้เซียวเซียว แกมันหน้าไม่อายจริงๆ! ที่หนิงหนิงไม่เป็นไรเพราะเธอไม่ใช่คนอ่อนแอ ถ้าเธอสู้พวกเศษสวะนั่นไม่ได้ เธอคงถูกพวกมันทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงไปแล้ว หุบปากเน่าๆของแกซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะต่อยแกให้หน้าหงาย”
ฉู่เพ่ยหานข่มขู่กู้เซียวเซียวต่อหน้าอาจารย์ แต่ไม่มีใครห้ามปรามเธอแต่อย่างใดเพราะฉู่เพ่ยหานพูดถูก ถ้ากู้หนิงสู้พวกนักเลงไม่ได้ เธอคงถูกพวกมันกระทำชำเราไปเรียบร้อยแล้ว
กู้เซียวเซียวต้องเป็นคนรับผิดชอบ
“กู้เซียวเซียว ฉันไม่โทรแจ้งตำรวจจับเธอเข้าคุกก็ดีแค่ไหนแล้ว เธอควรขอบคุณที่ตัวเองมาจากตระกูลกู้นะ ฉันช่วยเธอรักษาหน้าเพราะเห็นแก่แม่ของฉัน นอกจากนี้พฤติกรรมของเธอยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงโรงเรียนอย่างมาก เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยังเรียนที่นี่ต่อ” กู้หนิงกล่าว เธอคิดว่าการกระทำของเธอถือว่าเมตตาปราณีญาติของเธอแล้ว
“แก...” กู้เซียวเซียวไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ยังปฏิเสธที่จะยอมรับ
ด้านนอกอาจารย์หวังเฉิงฉีโทรหากู้ฉิงเซียง
กู้ฉิงเซียงเห็นว่าเป็นสายจากหวังเฉิงฉี เขาจึงรับโดยคิดว่ากู้เซียวเซียวอาจเกิดปัญหา
“สวัสดีครับอาจารย์หวัง” กู้ฉิงเซียงกดตอบรับโดยไว
“สวัสดีครับคุณกู้ ผมโทรมาเรื่องกู้เซียวเซียวมีปัญหากับเพื่อนนักเรียน เธอให้แก๊งฉิงช่วยทำร้ายเพื่อนนักเรียนหญิง แต่ถึงแม้นักเรียนคนนั้นจะรอดมาได้ พวกเราตัดสินใจว่าจะไล่กู้เซียวเซียวออก ได้โปรดคุณกู้มาที่โรงเรียนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ด้วยครับ”
“อะไรนะ!?”
กู้ฉิงเซียงตื่นตะลึง เขาไม่เชื่อ เขาเข้าใจว่ากู้เซียวเซียวเป็นเด็กซุกซนตั้งแต่ยังเด็กแต่ไม่คิดว่าเธอจะทำเรื่องผิดกฏหมายได้ ถึงกับหันไปหาแก๊งฉิง
กู้ฉิงเซียงบึ่งไปที่โรงเรียนทันทีโดยลืมถามว่าเด็กนักเรียนหญิงที่กู้เซียวเซียวมีเรื่องด้วยเป็นใคร
เสร็จธุระ จื่อเจียนจึงบอกให้ทุกคนกลับไปได้ยกเว้นหวังเฉิงฉีและกู้เซียวเซียว
“กู้หนิง ฉันคิดว่าแค่ไล่ออกกู้เซียวเซียวยังไม่สาสมกับสิ่งเธอทำ” ฉู่เพ่ยหานกล่าวด้วยความผิดหวัง เธอไม่สนใจอาจารย์เจียงหยวนและอาจารย์จางฉิวฮวาที่กำลังเดินนำหน้าพวกเธออยู่
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก ถ้าเธอยังทำตัวแบบนั้นอีก สักวันหนึ่งการกระทำของเธอจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง” กู้หนิงพูดเสียงเรียบ
เจียงหยวนและจางฉิวฮวาเพียงแต่หันมามอง ไม่ได้เปิดปากพูดอะไร ก็ถูกของพวกเธอ ครั้งนี้กู้หนิงตกเป็นเหยื่อที่ไม่ได้แม้แต่ค่าทำขวัญและคำขอโทษ เป็นที่เข้าใจได้ว่าฉู่เพ่ยหานรู้สึกโกรธแทนเพื่อนของเธอ
ถ้าหากเหยื่อคนนั้นเป็นฉู่เพ่ยหาน เรื่องราวคงไม่จบง่ายๆแบบนี้
คำพูดของกู้หนิงสมเหตุสมผล หากนิสัยกู้เซียวเซียวยังเหมือนเดิม ไม่ช้าก็เร็วเธอคงทำลายตัวเองในสักวันหนึ่ง
เมื่ออาจารย์ทั้งสองแยกตัวจากไป กู้หนิงก็ดึงโทรศัพท์ออกมา เธอเปิดกลุ่มวีแชทขึ้นมาพิมพ์ข้อความลงไป แล้วโชว์ให้ฉู่เพ่ยหานดู จากนั้นก็กดส่งในกลุ่ม
กู้หนิง “กระจายข่าวเรื่องที่กู้เซียวเซียวจ้างแก๊งอันธพาลช่วยข่มขืนนักเรียนหญิงให้ทุกโรงเรียนในเมือง F บังคับให้เธอต้องออกจากเมือง F ไปซะ! อ้อ แล้วอย่าบอกว่านักเรียนหญิงคนนั้นเป็นฉัน”
ฉู่เพ่ยหานกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันใด เรื่องกล้วยๆแค่กระจายข่าว
กู้หนิงกลับไปยังห้องเรียน เธอสังเกตเห็นจ้าวเฟยเฟยที่ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง กู้หนิงงุนงง เธอไม่ใช่คนที่มีปัญหาสักหน่อย ทำไมจ้าวเฟยเฟยถึงดูย่ามใจ?
อันที่จริงกู้หนิงไม่คิดว่าแก๊งฉิงจะตามแก้แค้นเธอ เพราะเธอมีฉู่เพ่ยหานปกป้องเธออยู่ แก๊งฉิงไม่มีทางแก้แค้นเธอได้
ไม่นานกู้ฉินเซียงก็มาถึงโรงเรียน เขาไม่ได้บอกหลินหลี่หยวน เขามาโรงเรียนเพียงลำพัง
กู้เซียวเซียวและหวังเฉิงฉีกำลังรอกู้ฉินเซียงที่ตึกฝ่ายปกครอง
กู้ฉินเซียงเดินมาอย่างเร่งรีบด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงปรี๊ด เขาโกรธกับการกระทำของกู้เซียวเซียวจนหน้าดำคล้ำ เมื่อเขามาถึงก็ตบลูกสาวโดยที่ไม่ถามเหตุผล
แก้มกู้เซียวเซียวที่บวมแดงอยู่แล้วเจ็บจี๊ดขึ้นอีกครั้ง เธอเจ็บจนพูดไม่ออก
เธอหันขวับมองค้อนพ่อด้วยสายตาเขียวปั๊ด แต่ไม่กล้าเถียงพ่อ เธอจึงได้ได้สบถด่ากู้หนิงในใจ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นความผิดของกู้หนิงคนเดียว
กู้หนิงไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมถึงให้อภัยเธอไม่ได้?
กู้เซียวเซียวเกินเยียวยา ความคิดที่บิดเบี้ยวของเธอฝังลึกลงกระดูก เรื่องนี้เป็นความผิดเธอแท้ๆ แต่กลับโทษกู้หนิงซะอย่างนั้น
“กู้เซียวเซียว ลูกกล้าดียังไงถึงได้ทำแบบนั้น!” กู้ฉินเซียงตะเบ็งเสียงดัง
เมื่อเทียบกับข้อเท็จจริงที่ว่ากู้เซียวเซียววางแผนที่จะทำลายนักเรียนหญิงคนหนึ่ง กู้ฉินเซียงยิ่งแทบจะระบิดที่ลูกสาวตัวเองคบค้าสมาคมกับแก๊งฉิง เขาค่อนข้างเป็นกังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อตระกูลกู้
กู้ฉินเซียงปรายตามองจื่อเจียน เขากล่าวคำขอโทษขอโพย “ผมต้องขอโทษกับการกระทำของลูกสาวผม เป็นความผิดผมเองที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนเธอให้ดี ผมจะพาเธอไปกลับไปเดี๋ยวนี้”
ทางโรงเรียนได้ตัดสินใจแล้ว กู้ฉินเซียงรู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะขอร้องจื่อเจียนให้ลูกสาวเขาอยู่ต่อ แต่เขายังสงสัยถึงสาเหตุที่ว่าทำไมกู้เซียวเซียวต้องการทำลายเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
ดังนั้นเขาจึงออกปากถามไปว่า “ขอผมทราบหน่อยได้ไหมครับว่าลูกสาวผมมีเรื่องขัดแย้งอะไรกับนักเรียนหญิงอีกคน?”
“กู้เซียวเซียวล้อเลียนนักเรียนหญิงที่ชื่อว่ากู้หนิงและแม่ของเธอ ดังนั้นกู้หนิงจึงตบกู้เซียวเซียวลูกสาวคุณ” จื่อเจียนกล่าว
“กู้หนิง?”
ได้ยินดังนั้นกู้ฉินเซียงก็สวมสีหน้าถมึงทึงเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายผสมปนเป ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจโทษกู้หนิงได้
เขาไม่ชอบหลานสาวคนนี้นัก เขาจึงปฏิบัติกับเธอเหมือนว่าเธอเป็นคนนอก เขาต้องการรักษาระยะห่างกับพวกเธอสองคนแม่ลูก แต่ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายพวกเธอ
กู้ฉินเซียงจากไปพร้อมกู้เซียวเซียว พวกเขาไม่แม้แต่จะกลับไปเก็บหนังสือที่ห้องเรียน ระหว่างทางกู้ฉินเซียงพึ่งสังเกตเห็นแก้มบวมเป่งของลูกสาว เขาพลันรู้สึกเสียใจขึ้นมา
ถึงแม้เขาจะตบกู้เซียวเซียวเพราะความโกรธ เขาก็ไม่อนุญาตให้ใครคนอื่นตบลูกสาวเขาได้
ตอนที่ 136: ความสัมพันธ์นั้นไม่ง่าย
“ใครทำร้ายลูก?” กู้ฉินเซียงถามเสียงต่ำ
“เพื่อนกู้หนิง” กู้เซียวเซียวตอบ
เมื่อนึกถึงฉู่เพ่ยหาน กู้เซียวเซียวก็โกรธจนเนื้อเต้น แต่เธอไม่สามารถทำอะไรเรื่องนี้ได้
เพื่อนกู้หนิงตบกู้เซียวเซียวเพื่อกู้หนิง แต่ทำไมถึงเป็นฉู่เพ่ยหาน?
กู้ฉินเซียงถามต่อว่า “ครอบครัวเธอเป็นยังไง?”
ดูเหมือนว่าเขาวางแผนจะเอาคืนแทนลูกสาว
“หนูก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าครอบครัวเธอมีอิทธิพลมาก เธอขาดเรียนบ่อยและมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ แต่อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์คนอื่นไม่กล้าไล่เธอออก” กู้เซียวเซียวตอบ นี่เป็นเหตุผลที่เธอกลัวฉู่เพ่ยหาน
กู้ฉินเซียงใบ้กิน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้น่ะสิ กู้ฉินเซียงเป็นคนประเภทที่ใช้อำนาจเอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่า ในเมื่อเกินกำลังอาจารย์ใหญ่ เขาเองก็คงต้องยอมแพ้
เด็กสาวที่มีครอบครัวทรงอิทธิพลหนุนหลัง ตระกูลฉู่
กู้ฉินเซียงคิดอยู่สักพัก แต่ก็คิดไม่ออกว่าครอบครัวที่มีอิทธิพลตระกูลฉู่ในเมือง F เป็นใคร อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ายังมีตระกูลที่เรืองอำนาจที่ไม่ปรากฏตามสื่อก็มีบ้างในเมืองนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะไม่รู้
แม้แต่อาจารย์ใหญ่ยังไม่รู้จะจัดการฉู่เพ่ยหานอย่างไร แสดงว่าเธอต้องเป็นคนที่มีความสำคัญมากระดับหนึ่ง
กู้ฉินเซียงจึงเปลี่ยนหัวข้อ “แล้วลูกไปรู้จักแก๊งฉิงได้ยังไง?”
“หนูไม่รู้จัก เป็นญาติฝั่งแม่ที่ชื่อหลินฉู่ฮ่าว หนูบอกเขาให้ช่วยสั่งสอนกู้หนิงก็เท่านั้น” กู้เซียวเซียวตอบกลับ เธอไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดตอนที่พูด
“หลินฉู่ฮ่าว? พ่อเคยเตือนลูกไม่ให้ติดต่อกับเขาไม่ใช่เหรอ? เขาจะย้อนกลับมาทำลายชีวิตลูกไม่ช้าก็เร็ว!” พูดถึงหลินฉู่ฮ่าว กู้ฉินเซียงก็พลันหงุดหงิด
หลินฉู่ฮ่าวก็เป็นแค่ไอ้กุ๊ยข้างถนนที่มัวแต่เสเพลไปวันๆ ถ้าครอบครัวของเขาไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย เขาคงไม่มีเงินใช้ถลุงเล่นตามใจชอบแบบนี้ แต่ในอนาคตสักวันหนึ่งคงมีวันที่เขาถลุงเงินครอบครัวตัวเองจนหมด
เป็นเพราะหลินฉู่ฮ่าว กู้ฉินเซียงจึงไม่อนุญาตให้หลินหลี่หยวนภรรยาของเขาติดต่อกับตระกูลหลินอีก เขาไม่อยากให้ครอบครัวตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาของหลินฉู่ฮ่าว
“เอาล่ะ ต่อไปนี้ลูกต้องเชื่อฟังพวกเรา ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นอีก พ่อจะไม่สนใจลูก พ่อจะส่งลูกไปเรียนที่โรงเรียนอันดับหนึ่งไม่ก็อันดับสองของเมือง F ทีหลัง” ไหนๆเรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว กู้ฉินเซียงไม่อยากดุด่ากู้เซียวเซียวอีก
“ก็ได้ค่ะ” กู้เซียวเซียวตอบ
หวังเฉิงฉีกลับไปที่ห้องเรียน และบอกนักเรียนห้องหนึ่งว่ากู้เซียวเซียวถูกไล่ออกแล้ว
ไม่มีใครแปลกใจที่ได้ยินข่าว เพราะสิ่งที่กู้เซียวเซียวทำเลวร้ายกว่าการทะเลาะเบาะแว้งเสียอีก ฉินเจิ้งรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกเสียใจกับกู้ซียวเซียวแต่ไม่ได้เศร้ากับการจากไปของเธอ
บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ชอบกู้เซียวเซียวมากขนาดนั้น เขาแค่สนใจพื้นฐานครอบครัวของเธอก็เท่านั้นเอง
ในขณะเดียวกันเขาพบว่าตัวเองมีความรู้สึกต่อกู้หนิงมากกว่า เป็นการดีสำหรับเขาที่กู้เซียวเซียวจากไป
เมื่อกู้ฉินเซียงพากู้เซียวเซียวกลับมาถึงบ้าน หลินหลี่หยวนและแม่ของเขาก็ตกใจไปตามๆกัน พวกเธอถามว่าเป็นเพราะกู้หนิงหรือเปล่า กู้เซียวเซียวยังไม่ทันได้เปิดปากพูด หลินหลี่หยวนก็สบถด่าทอกู้หนิงขึ้นมาทีนที ตามมาด้วยแม่ของเขา
พวกเธอเอาแต่หมกมุ่นเรื่องที่กู้หนิงตบหน้ากู้เซียวเซียวจนถึงตอนนี้
“พอได้แล้ว! หุบปากกันให้หมด!” กู้ฉินเซียงไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงด่าท่อจากพวกเธอ เขาหมดความอดทนและตะคอกว่า
“ไม่ใช่กู้หนิง ตอนนี้ปล่อยให้เซียวเซียวไปพักก่อนเถอะ!”
“อะไรนะ? ไม่ใช่กู้หนิง ถ้างั้นเป็นใครกัน?” หลินหลี่หยวนทำตาโตประหลาดใจเต็มที่
กู้ฉินเซียงจึงเล่าเรื่องทั้งหมดแก่ภรรยาและแม่ของเขา ทั้งสองต่างปิดปากเงียบหลังจากที่ได้ฟัง พวกเธอตกตะลึงกับพฤติกรรมของลูกสาวและหลานสาวตัวเอง
เงียบอยู่พักหนึ่ง หลินหลี่หยวนก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “กู้หนิงก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ทำไมเซียวเซียวยังต้องถูกไล่ออก? เธอเป็นนักเรียนม.6แล้วนะ คงไม่เหมาะที่จะย้ายโรงเรียนตอนนี้”
“หุบปากของเธอซะ! เซียวเซียวทำผิดกฎหมาย ถ้ากู้หนิงเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ เซียวเซียวต้องติดคุกเพราะเธออายุสิบแปดแล้ว” กู้ฉินเซียงตอกกลับด้วยความหงุดหงิด ภรรยาเขาช่างโง่งมเสียจริง
ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวเขาอายุสิบแปด กู้ฉินเซียงก็ยังพอหาทางประนีประนอมได้
หลินหลี่หยวนหุบปากฉับทันที
กู้ฉินเซียงไม่รั้งรออยู่ที่บ้านนาน เขากลับไปที่บริษัททันที
ตอนนี้เวลาสิบโมงเช้า หลินหลี่หยวนอยากให้สามีของเธอกินข้าวที่บ้านก่อนกลับไปที่ทำงาน แต่ถูกเขาบอกปัด
กู้ฉินเซียงมักออกจากบ้านแต่เช้าและกลับดึก หลินหลี่หยวนรู้สึกเสียใจภายในใจของเธอ นานๆทีถึงจะได้กินข้าวด้วยกันสักมื้อ แม้แต่เรื่องบนเตียงเธอยังต้องรอ
ตอนแรกหลินหลี่หยวนก็สงสัยว่ากู้ฉินเซียงมีเมียน้อยหรือเปล่า เขาจึงไม่กระตือรือร้นที่จะมีอะไรกับเธอ เธอสืบอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่พบอะไร จึงได้ล้มเลิกความคิดนี้ไปในท้ายที่สุด
เมื่อกู้ฉินเซียงกลับมาที่บริษัท เลขาสาวของเขาก็ถือถ้วยกาแฟเข้าเสิร์ฟ
เธอเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบห้าชื่อว่าหลิวหยูเว่ย ถึงแม้เธอจะสวมแว่นตาหนาเตอะ ก็ไม่อาจบดบังหน้าตาที่สวยงามของเธอได้ เธอสวมกระโปรงรัดรูปสีดำยิ่งเสริมเสน่ห์ให้รูปร่างของเธอ เป็นชุดยูนิฟอร์มที่เย้ายวนตา
“ประธานกู้ น้ำชาค่ะ” หลินหยูเว่ยยื่นน้ำชาให้กู้ฉินเซียงด้วยความนอบน้อม แต่สายตาของเธอกลับต่างออกไป ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่แค่เจ้านายลูกน้อง
กู้ฉินเซียงเองก็มองกลับหลินหยูเว่ยด้วยท่าทีพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อสายตาของเขาจับอยู่ที่หน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตมหึมาของเธอ เขากลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกของเขาขยับโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกตื่นตัวทางเพศขึ้นมาทันใด
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลับๆ หลิวหยูเว่ยเป็นเมียน้อยกู้ฉินเซียง และเธอไม่ใช่คนแรก
กู้ฉินเซียงเบื่อหน่ายหลินหลี่หยวนมานานแล้ว ถึงแม้เธอจะดูแลเอาใจใส่เขาดี แต่ก็เปรียบเทียบกับหญิงสาวแรกรุ่นไม่ได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะเบื่อเธอแค่ไหนหรือมีเมียน้อยมากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยที่จะหย่ากับเธอ
หนึ่งเพราะลูกๆของพวกเขา และสองเขาแก่เกินไปที่จะมีเรื่องอื้อฉาว นอกจากนี้การแอบกินกันลับๆทำให้เขาสามารถเปลี่ยนผู้หญิงได้ไม่ซ้ำหน้าตามแบบที่เขาชอบ
หลิวหยูเว่ยรู้ว่ากู้ฉินเซียงไม่มีทางหย่าเมียของเขา ซึ่งนั่นตรงกับความต้องการเธอพอดี เธอยังสาวและไม่ยินดีที่จะแต่งงานกับชายแก่เพื่อเงิน กู้ฉินเซียงอายุเกือบห้าสิบ เขาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศลงทุกวัน ถ้าเธอแต่งกับเขา ชีวิตบนเตียงของเธอคงเหี่ยวเฉาตาย แต่ถ้าหากเธอคบซ้อนกับชายหนุ่ม แล้วถูกจับได้เขาคงหยุดสนับสนุนทางการเงินของเธอ
ดังนั้นแผนของเธอคือกอบโกยเงินจากกู้ฉินเซียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในระหว่างที่เขายังหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ถ้าเธอเบื่อค่อยผละจากเขาไปหาผู้ชายคนอื่น
เมื่อกู้ฉินเซียงรับถ้วยน้ำชาจากหลิวหยูเว่ย เขาก็แตะมือเธอและพูดว่า “คุณหลิว คืนนี้มาทานข้าวกับผมนะ”
“ได้ค่ะ” หลิวหยูเว่ยตอบ เธอจับมือกู้ฉินเซียงอย่างแผ่วเบาและอ้อยอิ่งอยู่สักพัก ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไป